ตอนนี้พลังการดูดนักเตะระดับโลกของเชลซี เทียบเคียงแมนยูได้ยัง

ทั้งที่สถิติถ้วยระดับเมเจอร์ ค่อนเข้าเยอะ ได้ถ้วยucl รองแค่ลิเวอร์พูล พอๆกับแมนยู ได้แชมป์ลีค รองจากแมนยู แมนซิตี้ นับรวมทุกถ้วยแทบจะเยอะสุด แต่…ทำไมนักเตะถึงลังเล - ถ้านักเตะนอกลีคมองมา ก็คง

จากผลการตกรอบเมื่อคืน...คิดว่าจะมีผลกระทบต่อการทำทีมต่อไปหรือไม่ เพราะปีหน้าไม่ได้ไป UCL แล้ว 1. ผู้จัดการทีมจะเป็นใครยังไม่ชัด 2. นักเตะตัวทอปในทีมจะหาสังกัดใหม่เพื่อโอกาสเตะเกมระดับสูงหรือเปล่า อย่

คือ ตั้งแต่ เดวิด มอยส์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมแมนฯยูฯ รู้สึกว่า แนวทางการเล่นหรือระบบการทำทีมทุกอย่าง ดูจะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ถ้าเทียบกับฤดูกาลที่แล้วที่เป็นแชมป์พรีเมียร์ชิพ เหมือนหนังคนละม้วนเล

ผลงานแย่กว่าซีซั่นที่แล้วอีก ซีซั่นที่แล้วจบอันดับ2ในลีก และได้เข้าชิงเอฟเอคัพ  มาปีนี้หมดลุ้นแชมป์ทุกรายการแล้ว นักเตะตัวเก่งคงย้ายออกหลายคน ที่อยู่ต่อไปก็เป็นสมองลิ่ง โจนส์ ยัง ลินการ์ด แรดฟอร์

จากมอยส์ ทั้งที่งบมี แต่ดึงได้แค่ลูกน้องเก่าอย่างเฟลไลนี่ กับมาต้าที่โดนมูปล่อย จาก LVG ที่ดึงได้ทั้งสตาร์อย่างชไวนี่ หรือดาวรุ่งอนาคตไกลแบบมาร์กซิอัล กรณีสลาตัน หรือ มาร์คิตายาน เชื่อว่าถ้า ผจก ทีม

เป็นแฟนหงส์ที่เชียร์มาตั้งแต่ยุค 80s ยุคนั้นหงส์ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ยังแพ้แมนยู มายุคหลังไม่ต้องพูดถึงความยิ่งใหญ่ของแมนยู ในยุคของ "เฟอร์กี้" ถึงแม้หงส์ชนะแมนยู แต่สุดท้ายแมนยูเป็นแชมป์ 555 &q

หลายคนมีความเชื่อว่า ถ้าไม่ติด Top 4 ไม่ได้ไปเล่น UCL แล้วปีถัดไปจะดึงดูดนักเตะดังๆ ให้มาเล่นไม่ได้ แต่ความจริงแล้ว มีตัวอย่างแย้งหลายครั้ง ว่าความเชื่อนี้ไม่จริง ตัวอย่างที่ 1 แมนยู ฤดูกาล 2015/16 จ

ผมไม่เคยได้ยินข่าว แมนยูกดดันนักเตะเลยนะ ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร ทั้ง now or never กดราคา สงครามประสาท มีแต่โดนโขกราคาตลอด แต่ไม่เคยจะใช่ชื่อเสียง ในการข่มทีมที่ซื้อตลอด แมนมากๆ สังเกตทีมที่มีชื่อเสียง

ฤดูกาลหน้าแตกต่างจากทุกปี เพราะมีเลสเตอร์กับสเปอร์สอดแทรกเข้ามา ซึ่ง 2 ทีมนี้ ไม่ดึงดูดแข้งระดับโลกเท่าไหร่ (ระดับความน่าสนใจไม่ต่างจาก เชลซี แมนยู ที่ไม่ได้ไป UCL หรือลิเวอร์พูลที่กำลังลุ้นอยู่อีก 1