ผมอยู่อพาร์ทเม้นท์ในซอยรามคำแหง 65 แถวๆตรงข้ามปั๊มบางจาก อยู่มาได้ร่วมครึ่งปีแล้วไม่เคยมีปัญหาอะไร
แต่พอต้นเดือนเมษาที่ผ่านมามีเพื่อนข้างห้องย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ เป็นหญิง 2 ชาย 1 ท่าทางดูเหมือนเป็นเด็ก
ที่กำลังเรียนหรือไม่ก็เพิ่งเริ่มทำงาน แล้วก็แผลงฤทธิ์ตั้งแต่เข้ามาอยู่เลยครับ แต่ละคืนจะมีเพื่อนๆที่ไม่รู้ว่าแห่กัน
มาจากไหน? มาปาร์ตี้กันโหวกเหวกโวยวาย เดินเข้าๆออกๆห้องตลอดทั้งคืนคุยกันเสียงดังลั่นทางเดิน
กว่าจะเลิกกันได้ก็เกือบเช้า ผมกับแฟนเป็นมนุษย์เงินเดือนทำงานปกติมนุษย์ทั่วไป พอพักผ่อนไม่ได้
มันก็ส่งผลกระทบถึงเรื่องงาน...
ผมจึงไปติดต่อออฟฟิศของอพาร์ทเม้นท์ให้ช่วยจัดการ เบื้องต้นทราบว่าทางออฟฟิศได้ตักเตือนไปแล้วสองหน
แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมครับ ผมเลยไปแจ้งออฟฟิศอีกรอบ คราวนี้ทางออฟฟิศบอกว่าจะให้ห้องดังกล่าว
ลงมาทำสัญญาว่าจะไม่มีการทำเสียงดังรบกวนอีก และจะเข้าตึกได้เฉพาะผู้ที่มีชื่อในสัญญาเช่าเท่านั้น
ผมก็รู้สึกเบาใจไปได้เปราะนึง แถมคืนนั้นก็ไม่มีเสียงดังสร้างความรำคาญ ผมเลยคิดว่าคุยกันภาษาคนก็รู้เรื่อง...
ที่ไหนได้ คืนต่อมาก็มาปาร์ตี้กันอีก แต่ติดว่าผมและแฟนต้องกลับบ้านช่วงสงกรานต์ เลยคิดกันว่าค่อยมาว่ากันต่อ
หลังจากที่กลับมาจากบ้านแล้ว... หลังจากเทศกาลสงกรานต์ พวกเด็กข้างห้องก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมเฮฮาปาร์ตี้
กลางวันนอนตายอยู่ห้อง กลางคืนเฮฮาจนผมงงว่าทำมาหากินอะไรทำไมมีเงินมาเช่าอพาร์ทเม้นท์แพงๆอยู่?
ผมลงไปติดต่อออฟฟิศอีกครั้ง แต่กลับได้รับฟีดแบ็คที่ไม่ดี ราวกลับว่าผมกำลังสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
แก่ทางอพาร์ทเม้นท์ เหมือนว่าผมไม่รู้จักอดทน เป็นห้องๆเดียวที่เรื่องมาก แต่ก็รับปากอย่างเสียไม่ได้ว่าจะช่วยดูให้
แถมบอกว่าทางอพาร์มเม้นท์ก็ทำได้เท่านี้ อยู่ๆจะไปไล่คนออกไม่ได้...
ไม่กี่คืนก่อน ผมทนไม่ไหวลงมาบอก รปภ. ว่าช่วยไปเตือนพวกมันหน่อยเถอะ แกก็มาเตือนให้ แต่ทราบในภายหลัง
ว่าคืนนั้นแกโดนพวกมันคนนึงที่เมาได้ที่แล้วลงมาชี้หน้าด่า ท้าว่าให้ไปเรียกตำรวจมาจับมันเลย มันไม่กลัว
แล้วหลังจากคืนดังกล่าว พวกมันก็เปิดเพลงเสียงดังเหมือนประชดและรู้ว่าห้องผมเป็นห้องที่ลงไปแจ้งออฟฟิศ
กับ รปภ. อยู่บ่อยครั้ง บางคืนก็ได้ยินเสียงร้องท้าว่า ห้องไหนรำคาญ GU มาเลย...
ผมตัดสินใจจะย้ายออก แต่กลับได้รับคำตอบจากออฟฟิศว่า ผมจะไม่ได้รับค่าประกันห้องคืนเนื่องจากไม่แจ้งย้ายล่วงหน้า
เกินกว่า 30 วัน... คือนอกจากจะช่วยอะไรผมไม่ได้แล้ว ยังไม่มีความเห็นใจผมเลยแม้แต่นิดเดียว...
สถานการณ์ในตอนนี้ ผมจึงจำเป็นต้องตัดสินใจย้ายเข้าที่อพาร์ทเม้นท์ใหม่ตอนสิ้นเดือนเมษา และต้องยอมจ่ายค่าเช่า
อพาร์ทเม้นท์เดิมไปอีกหนึ่งเดือน เพื่อจะได้รับค่าประกันห้องคืน... ผมรู้ว่าผมเสียเปรียบทุกทางอย่างไม่น่าจะเสีย
แต่ความจริงคือ คุณไม่ควรเอาตัวไปแลกกับคนที่ไร้สำนึก ที่อาจจะทำอะไรโดยขาดสติยั้งคิดกับคุณได้ทุกเมื่อ
กฎหมายและความถูกต้องมันมีอยู่ แต่เราไม่อาจใช้บังคับกับมันได้ในทุกโซนและกับทุกคนในสังคม...
ฝากไว้เป็นข้อคิด สำหรับคนที่เจอเหตุการณ์คล้ายๆกันกับผม...
ข้างห้องเสียงดังทุกวันแต่ทางอพาร์ทเม้นท์กลับช่วยอะไรเราไม่ได้เลย...
แต่พอต้นเดือนเมษาที่ผ่านมามีเพื่อนข้างห้องย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ เป็นหญิง 2 ชาย 1 ท่าทางดูเหมือนเป็นเด็ก
ที่กำลังเรียนหรือไม่ก็เพิ่งเริ่มทำงาน แล้วก็แผลงฤทธิ์ตั้งแต่เข้ามาอยู่เลยครับ แต่ละคืนจะมีเพื่อนๆที่ไม่รู้ว่าแห่กัน
มาจากไหน? มาปาร์ตี้กันโหวกเหวกโวยวาย เดินเข้าๆออกๆห้องตลอดทั้งคืนคุยกันเสียงดังลั่นทางเดิน
กว่าจะเลิกกันได้ก็เกือบเช้า ผมกับแฟนเป็นมนุษย์เงินเดือนทำงานปกติมนุษย์ทั่วไป พอพักผ่อนไม่ได้
มันก็ส่งผลกระทบถึงเรื่องงาน...
ผมจึงไปติดต่อออฟฟิศของอพาร์ทเม้นท์ให้ช่วยจัดการ เบื้องต้นทราบว่าทางออฟฟิศได้ตักเตือนไปแล้วสองหน
แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมครับ ผมเลยไปแจ้งออฟฟิศอีกรอบ คราวนี้ทางออฟฟิศบอกว่าจะให้ห้องดังกล่าว
ลงมาทำสัญญาว่าจะไม่มีการทำเสียงดังรบกวนอีก และจะเข้าตึกได้เฉพาะผู้ที่มีชื่อในสัญญาเช่าเท่านั้น
ผมก็รู้สึกเบาใจไปได้เปราะนึง แถมคืนนั้นก็ไม่มีเสียงดังสร้างความรำคาญ ผมเลยคิดว่าคุยกันภาษาคนก็รู้เรื่อง...
ที่ไหนได้ คืนต่อมาก็มาปาร์ตี้กันอีก แต่ติดว่าผมและแฟนต้องกลับบ้านช่วงสงกรานต์ เลยคิดกันว่าค่อยมาว่ากันต่อ
หลังจากที่กลับมาจากบ้านแล้ว... หลังจากเทศกาลสงกรานต์ พวกเด็กข้างห้องก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมเฮฮาปาร์ตี้
กลางวันนอนตายอยู่ห้อง กลางคืนเฮฮาจนผมงงว่าทำมาหากินอะไรทำไมมีเงินมาเช่าอพาร์ทเม้นท์แพงๆอยู่?
ผมลงไปติดต่อออฟฟิศอีกครั้ง แต่กลับได้รับฟีดแบ็คที่ไม่ดี ราวกลับว่าผมกำลังสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
แก่ทางอพาร์ทเม้นท์ เหมือนว่าผมไม่รู้จักอดทน เป็นห้องๆเดียวที่เรื่องมาก แต่ก็รับปากอย่างเสียไม่ได้ว่าจะช่วยดูให้
แถมบอกว่าทางอพาร์มเม้นท์ก็ทำได้เท่านี้ อยู่ๆจะไปไล่คนออกไม่ได้...
ไม่กี่คืนก่อน ผมทนไม่ไหวลงมาบอก รปภ. ว่าช่วยไปเตือนพวกมันหน่อยเถอะ แกก็มาเตือนให้ แต่ทราบในภายหลัง
ว่าคืนนั้นแกโดนพวกมันคนนึงที่เมาได้ที่แล้วลงมาชี้หน้าด่า ท้าว่าให้ไปเรียกตำรวจมาจับมันเลย มันไม่กลัว
แล้วหลังจากคืนดังกล่าว พวกมันก็เปิดเพลงเสียงดังเหมือนประชดและรู้ว่าห้องผมเป็นห้องที่ลงไปแจ้งออฟฟิศ
กับ รปภ. อยู่บ่อยครั้ง บางคืนก็ได้ยินเสียงร้องท้าว่า ห้องไหนรำคาญ GU มาเลย...
ผมตัดสินใจจะย้ายออก แต่กลับได้รับคำตอบจากออฟฟิศว่า ผมจะไม่ได้รับค่าประกันห้องคืนเนื่องจากไม่แจ้งย้ายล่วงหน้า
เกินกว่า 30 วัน... คือนอกจากจะช่วยอะไรผมไม่ได้แล้ว ยังไม่มีความเห็นใจผมเลยแม้แต่นิดเดียว...
สถานการณ์ในตอนนี้ ผมจึงจำเป็นต้องตัดสินใจย้ายเข้าที่อพาร์ทเม้นท์ใหม่ตอนสิ้นเดือนเมษา และต้องยอมจ่ายค่าเช่า
อพาร์ทเม้นท์เดิมไปอีกหนึ่งเดือน เพื่อจะได้รับค่าประกันห้องคืน... ผมรู้ว่าผมเสียเปรียบทุกทางอย่างไม่น่าจะเสีย
แต่ความจริงคือ คุณไม่ควรเอาตัวไปแลกกับคนที่ไร้สำนึก ที่อาจจะทำอะไรโดยขาดสติยั้งคิดกับคุณได้ทุกเมื่อ
กฎหมายและความถูกต้องมันมีอยู่ แต่เราไม่อาจใช้บังคับกับมันได้ในทุกโซนและกับทุกคนในสังคม...
ฝากไว้เป็นข้อคิด สำหรับคนที่เจอเหตุการณ์คล้ายๆกันกับผม...