
ดาวโจนส์ ปรับขึ้นมา 20.42 จุด หรือ 0.11% มาอยู่ที่ 18,058.69 จุด
ดัชนีแนสแด็ก ปรับขึ้นมา 20.89 จุด หรือ 0.42% ปิดซื้อขายที่ 5,056.06 จุด
ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 เพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือ 0.24% ปิดการซื้อขายที่ 2,112.93 จุด
ดัชนีแนสแด็ก ของสหรัฐ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปีครั้งใหม่ ท่ามกลางการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มหุ้นไฮเทค
ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) ดัชนีแนสแด็ก ปรับขึ้นมา 20.89 จุด หรือ 0.42% ปิดซื้อขายที่ 5,056.06 จุด ทำสถิติสูงสุดรอบ 15 ปีครั้งใหม่ และถือเป็นการฟื้นตัวขึ้นมา เกือบอยู่ในระดับเดียวกับช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะเกิดภาวะฟองสบู่ดอท คอม แตก เมื่อปี 2543
หุ้นที่เป็นแกนนำในขาขึ้นของดัชนีแนสแด็ก รวมถึง แอ๊ปเปิ้ล ที่ปรับขึ้น 0.8% กูเกิล 1.4% และไบโอเจน 1.6%
ขณะที่การเทขายในชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาด ทำให้ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ไม่สามารถข้ามเส้นขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน โดยเพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือ 0.24% ปิดการซื้อขายที่ 2,112.93 จุด
ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับขึ้นมา 20.42 จุด หรือ 0.11% มาอยู่ที่ 18,058.69 จุด
ทางด้านตลาดหลักๆ ของยุโรป ปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาจากจีน ที่ดัชนีผู้จัดการจัดซื้อภาคการผลิต หรือพีเอ็มไอ ในเดือนเมษายน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือน ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้กับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และนักลงทุนรอดูสถานการณ์ในเรื่องกรีซ
ดัชนีแด็กซ์ 30 ของเยอรมนี ร่วงลง 1.21% มาอยู่ที่ 11,723.58 จุด ส่วนดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.62% มาอยู่ที่ 5,178.91 จุด หลังผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมธุรกิจในภาคเอกชนฝรั่งเศสชะลอตัวลงในเดือนเม.ย. ท่ามกลางสัญญาณว่า เศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มยูโร อาจตกอยู่ในภาวะชะงักงัน
อย่างไรก็ ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของลอนดอนปรับขึ้น 0.36% มาอยู่ที่ 7,053.67 จุด แรงหนุนจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลองกฤษ สามารถลดตัวเลขขาดดุลได้มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งในเดือนหน้า
น้ำมันขยับขึ้นรับข่าวซาอุฯ โจมตีเยเมนรอบใหม่ ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวสูงขึ้น หลังกลุ่มพันธมิตร ภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบีย เริ่มการโจมตีเยเมนรอบใหม่ ทำให้เกิดความกังวลถึงสถานการณ์การผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนมิถุนายน ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปรับขึ้น 1.58 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 57.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกัน ที่ตลาดลอนดอน อังกฤษ ทำยานขึ้นมา 2.12 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 64.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมืองที่เพิ่มขึ้น จากกรณีซาอุดีอาระเบีย และเยเมน เข้ามาชดเชยตัวเลขที่น่าผิดหวังของดัชนีพีเอ็มไอ ทั้งจากจีน และยุโรป
รวมข่าวหุ้น 24/4/58
ดาวโจนส์ ปรับขึ้นมา 20.42 จุด หรือ 0.11% มาอยู่ที่ 18,058.69 จุด
ดัชนีแนสแด็ก ปรับขึ้นมา 20.89 จุด หรือ 0.42% ปิดซื้อขายที่ 5,056.06 จุด
ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 เพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือ 0.24% ปิดการซื้อขายที่ 2,112.93 จุด
ดัชนีแนสแด็ก ของสหรัฐ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปีครั้งใหม่ ท่ามกลางการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มหุ้นไฮเทค
ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) ดัชนีแนสแด็ก ปรับขึ้นมา 20.89 จุด หรือ 0.42% ปิดซื้อขายที่ 5,056.06 จุด ทำสถิติสูงสุดรอบ 15 ปีครั้งใหม่ และถือเป็นการฟื้นตัวขึ้นมา เกือบอยู่ในระดับเดียวกับช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะเกิดภาวะฟองสบู่ดอท คอม แตก เมื่อปี 2543
หุ้นที่เป็นแกนนำในขาขึ้นของดัชนีแนสแด็ก รวมถึง แอ๊ปเปิ้ล ที่ปรับขึ้น 0.8% กูเกิล 1.4% และไบโอเจน 1.6%
ขณะที่การเทขายในชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาด ทำให้ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ไม่สามารถข้ามเส้นขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน โดยเพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือ 0.24% ปิดการซื้อขายที่ 2,112.93 จุด
ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับขึ้นมา 20.42 จุด หรือ 0.11% มาอยู่ที่ 18,058.69 จุด
ทางด้านตลาดหลักๆ ของยุโรป ปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาจากจีน ที่ดัชนีผู้จัดการจัดซื้อภาคการผลิต หรือพีเอ็มไอ ในเดือนเมษายน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือน ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้กับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และนักลงทุนรอดูสถานการณ์ในเรื่องกรีซ
ดัชนีแด็กซ์ 30 ของเยอรมนี ร่วงลง 1.21% มาอยู่ที่ 11,723.58 จุด ส่วนดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.62% มาอยู่ที่ 5,178.91 จุด หลังผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมธุรกิจในภาคเอกชนฝรั่งเศสชะลอตัวลงในเดือนเม.ย. ท่ามกลางสัญญาณว่า เศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มยูโร อาจตกอยู่ในภาวะชะงักงัน
อย่างไรก็ ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของลอนดอนปรับขึ้น 0.36% มาอยู่ที่ 7,053.67 จุด แรงหนุนจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลองกฤษ สามารถลดตัวเลขขาดดุลได้มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งในเดือนหน้า
น้ำมันขยับขึ้นรับข่าวซาอุฯ โจมตีเยเมนรอบใหม่ ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวสูงขึ้น หลังกลุ่มพันธมิตร ภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบีย เริ่มการโจมตีเยเมนรอบใหม่ ทำให้เกิดความกังวลถึงสถานการณ์การผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนมิถุนายน ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปรับขึ้น 1.58 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 57.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกัน ที่ตลาดลอนดอน อังกฤษ ทำยานขึ้นมา 2.12 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 64.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมืองที่เพิ่มขึ้น จากกรณีซาอุดีอาระเบีย และเยเมน เข้ามาชดเชยตัวเลขที่น่าผิดหวังของดัชนีพีเอ็มไอ ทั้งจากจีน และยุโรป