Backpack ปีนัง มาเลเซีย ....ทัวร์เดี่ยวหาประสบการณ์ 3วัน2คืน งบประหยัดโคตรรรรร



สวัสดีค่ะ .....คือไม่รู้จะเริ่มยังไงเพราะเป็นกระทู้แรก 555555 จะเขียนแทนตัวเองว่าเราละกันเพราะไม่รู้ว่าจะมีใครมาอ่านบ้าง .....ทริปนี้เที่ยวโดยการใช้แผนที่ที่หยิบได้จากโฮสเทลนะ อมยิ้ม02
***ทริปนี้ได้จีบกับฝรั่งด้วย ฟินนนนนนน

เออ ต้องเข้าใจด้วยว่าจขกท เป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ ออกแนวอินดี้หน่อย ทริปนี้อาจจะทุลักทุเลไปบ้างก็นะ จะรีวิวให้ละเอียดเท่าที่ละเอียดได้ละกัน

เริ่มเลยละกันนะ ..... ทริปนี้เป็นทริปที่ใช้งบน้อยมาก ใช้ไปไม่เกิน 2700 บาท กับ 2 วัน 3 คืน , ไปแบบไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับปีนังเลย เคยอ่านรีวิวแค่ผ่านๆกับรู้แค่ว่าต้องนั่งรถอะไรไป รู้แค่เนี้ยแล้วลุยเลย , ไปเพื่อหาประสบการณ์ ไปเพราะไม่มีอะไรจะทำด้วยแหละ , ลืมบอก คนมาเลใช้ภาษาอังกฤษได้เลยสบายสำหรับจขกท เพราะเรียนอินเตอร์ แต่สำหรับคนที่พูดไม่ค่อยได้ถ้ากลัวก็โหลดดิกชันนารีไว้ในโทสับก็ได้นะ มันก็อีกประสบการณ์นึง

ตอนแรกของวันที่ 13 คือไม่มีอะไรทำ นอนเล่นอยู่บ้านแล้วคือเบื่อมาก 9 โมงเช้าวันนั้นเลยคิดจะไปปีนัง ตอนเที่ยงเลยนั่งรถจากตรังมาหาดใหญ่ ตอนแรกกะจะไปไม่บอกแม่หรอก ขี้เกียจบอกถึงบอกไปแม่ก็ห้ามไม่ได้อยู่ดี (จขกท เป็นคนหัวดื้อมากกก5555) แต่ดันลืมพาสปอร์ตไว้ที่บ้าน จนสุดท้ายต้องโทรไปบอกแม่ให้เอาพาสปอร์ตมาให้ที่บขส. ก็เลยบอกแม่ไปเลยว่าจะไปแบ็คแพ็คคนเดียว แม่ก็ไม่ว่าไรนะเห็นเราโตแล้ว แม่บอกมาคำเดียวว่า "มีอะไรก็ตั้งสติไว้ก่อนนะลูก" ก็นั่งรถจากบขส.ตรัง มาลง หาดใหญ่ ค่ารถก็ 100 บาท



บ่ายสองก็ถึงมอแล้วก็ข้ามถนนไปซื้อกระเป๋าแบ็คแพ็คที่โลตัสวันนั้นเลยเพราะไม่มีกระเป๋า คือไม่มีความพร้อมไรจริงๆ -..-

เราก็ไปแลกเงินมาที่กรุงไทย 1500 บาท ก็เข้าไปที่ธนาคารแล้วบอกเค้าว่าแลกเงินมาเล ก็ได้มาประมาณ 165 ริงกิต (จขกท ไปแลกที่มาเลจะได้เงินเยอะกว่านะช่วงนี้) ก็แลกๆมาก่อนเผื่อฉุกเฉิน ไว้ไปแลกที่นู้นต่อ เพราะได้ยินมาว่ามีที่ให้แลกเยอะ



อ่อ ลืมบอก เรื่องที่พักเราจองจากในเว็บไซต์ เราจองเป็นโฮสเทลรวมไว้ ชื่อ couzi couji ตกคืนละประมาณ 100 กว่าบาท ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยนอนโฮสเทลมาก่อนเล้ยยยยยย -0- ....บอกไว้ก่อนว่าทริปมันทรหดยิ่งนัก เหมาะสำหรับสาวแกร่งอย่างแรง !



กลางคืนวันนั้นก็ออกไปเล่นสงกรานต์กะบเพื่อนอย่างสบายใจ แล้วไม่ได้เตรียมตัวไรเล้ยยยยยย ทำอย่างกับพรุ่งนี้ไม่มีทริปไร พอกลับมาถึงห้องก็จัดของจำเป็นลงกระเป๋า อ่านรีวิวพันทิปไปรอบนึง ทีนี้ก็นอนเลยค่าาาาาา

วันที่14 เราก็ตื่นประมาณ 6 โมงครึ่ง ประมาณเจ็ดโมงก็โทรไปจองที่นั่งรถที่คิวรถตู้ปีนังเพราะได้ยินมาว่ารถมีสามรอบต่อวัน มีรอบ 9.00 12.00 14.00 แล้วเพิ่งรู้ว่าเค้าวนรถมารับหน้ามอ ราคา ไป-กลับ อยู่ที่ 750 บาท ....แต่ได้ยินมาว่าบางคิวก็แพงอะ 800 ขึ้น แต่ไม่ได้แดรกเงินฉันหรอก 555555อมยิ้ม15

ก็บอกแล้วว่าทริปนี้ประหยัด เริ่มมื้อเช้าด้วยมาม่าเลยข่าาาาาาาา



อ้อนี่ เบอร์รถตู้ปีนัง 074354551



นั่งรถมาประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะเจอด่าน ไทย-มาเล ด้วยความที่ไม่เคยมาก็เดินตามๆเค้าไป เค้าทำไรเราทำด้วย 555555 ขำตัวเองตอนนั้นมาก จำแค่สีเสื้อคนในรถแล้วเดินตามหลังเค้าไป อมยิ้ม07(ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่ม 10 บาท) .....ที่ด่านคนเยอะเฟร่อ แล้วร้อนมากเพราะฝนกำลังจะตก คิดในใจ จะได้เที่ยวปะวะ ฝนจะตก ร่มก็ไม่พกมา ที่นู้นร่มแพงแน่เลย #ร้องไห้หนักมาก

คนขับรถจะให้ใบไรสักอย่างสีฟ้าๆมา รุสึกจะเป็นใบอนุญาตข้ามประเทศ ก็เขียนทุกอย่างเหมือนในพาสปอร์ตอ่ะแหละ ส่วนไอใบเหลืองๆก็คือตั๋วรถไปกลับปีนัง เค้าจะเขียนวันที่เวลาไว้ให้เรียบร้อยไม่ต้องกลัว คือเราจะนัดให้เค้าไปรับตรงไหนของปีนังก็ได้ เราเลยให้เค้าไปรับหน้าโฮสเทลที่จองไว้เลย













ประสบการณ์ทัวร์จีนก็มาค่ะ .....อิป้าจีนคนนึงแซงคิวไปปั๊มพาสปอร์ต ชีเลยโดนเจ้าหน้าที่คนไทยด่าเข้าตรงนั้นเลย ชีก็ไม่ฟังแล้วใช้ให้คนอื่นในทัวร์ของชีทำตามชี สุดท้ายค่ะชีโดนไปต่อคิวสุดท้ายเลยค่าาาาา คือสะใจมาก อีกอย่างไม่เข้าใจคนจีนด้วย ทำไมต้องพูดเสียงดังแล้วตะโกนคุยข้ามหัวคนอื่น อมยิ้ม11 ม่ายข้าวจายยยยย

นั่งรถมาได้สักประมาณ 2 ชั่วโมงก็เข้าเขตปีนังค่ะ .....ได้ยินมาว่าต้องข้ามสะพานยาวๆนี่ไป ก็ดันตื่นตอนถึงสะพานนี่พอดี เลยทันถ่ายรูปมา ตอนนั้นนี่ตื่นเต้นมาก ใจเต้นตึกตักๆ กลัวถึงที่พักแล้วทำตัวไม่ถูก 5555555 กำลังจะร้องไห้กลับบ้าน แต่ก็มาแล้ว เป็นไงเป็นกันว้ะกรูสสสสส์ สู้



ไม่ต้องไปเดินตามหาที่พักให้ลำบากเลยค่าาาาา รถตู้จะไปส่งให้ถึงที่เลย เราแค่บอกเค้าไปว่าจะลงที่ไหน

ที่นี่คือหน้าโฮสเทลที่เราไปพักค่ะ .....ทีนี้แหละประสบการณ์โฮสเทล อยากบอกว่ามันพีคตรงนี้จริงๆ อมยิ้ม35



ในใจตอนนั้นคิดเลยโฮสเทลคงจะเป็นคนปีนังดูแล คงมีป้าคนนึงเฝ้า แยกชาย-หญิง ห้องน้ำในห้อง มีคนไม่มาก เราน่าจะได้เมทเป็นผู้หญิง บลาาาาๆๆๆ อมยิ้ม16

ย่างก้าวมาในโฮสเทล ผมนี่อึ้งเลย จะวิ่งกลับไปหารถตู้ปีนังว่าฉันขอกลับไทยด้วย ......ในโฮสเทลมีแต่ผู้ชายล้วนนั่งอยู่หน้าเคาเตอร์ อีกอย่างเป็นฝรั่งล้วนไม่มีมาเลผสม แล้วเจือกหล่อโฮกกกกก (นี่คือสิ่งที่ฟินมากกกกๆๆๆๆ) สิ่งที่คิดว่าฉันจะปลอดภัย ในใจคือฉันต้องจัดการกับเสือพวกนี้ยังไง อมยิ้ม20 ภาวนาอย่างเดียวคือฉันต้องเอาชีวิตรอดกลับไทยให้ได้ คิดเลยฉันมาแบ็คแพ็ค ทริปนี้ชิคๆค่ะ ทำตัวเนียนๆกันไป ทำเหมือนกับไปแบ็คแพ็คมาแล้วหลายประเทศ เดี๋ยวเค้าจะรุกรานเราได้ 555555 แล้วเราก็จ่ายตังบลาๆๆๆ ตรงนี้มีค่ามัดจำด้วยนะ 50 ริงกิต เค้าจะให้เงินเราคืนตอนเช็คเอาท์ ค่าที่พักทั้งหมดก็ 90 ริงกิตค่าาาาา ถูกมั่กกกกๆๆ

อึ้งไปอีกขั้นนึงคือ ห้องนอนไม่แยก ช-ญ ห้องน้ำแยก .....คือช้านไม่เคยนอนโฮสเทลลลลลล (ตกใจไปพักนึง แต่อยู่ไปอยู่มาทำใจยอมรับมันได้ สุดท้ายฉันก็ได้เพื่อนเพิ่มเยอะแยะ)

เตียงจะเป็นเตียงสองชั้นค่ะ ทั้งหมดรวม 8 เตียง ในห้องนั้น ตอนเห็นเตียงนอนนี่ตกใจมากกกกก ก็เลยถามเชน (คนที่ทำงานในโฮสเทลไปรู้จักกันทีหลัง มาจากไอร์แลนด์) ว่าห้องนี้มีผู้หญิงนอนมั้ย ฮีตอบกลับมาว่า 2 guy and you คือ ช2 ญ1 ผู้หญิงคนนั้นคือฉันเอ้งงงงงง ตกใจมากเลย หน้าซีด หัวใจเต้นรัว จะกลับไทยให้ได้เลยตอนนั้น แต่ยอมอยู่ต่อเพราะค่ามัดจำ 50 ริงกิตนั่นแหละ อมยิ้ม16



หน้าโฮสเทลจะมีโปร์ชัวร์หลายแบบเลย ก็หยิบๆมาอ่านก่อนออกไปเที่ยวได้เลยค่ะ ให้คนในโฮสเทลอะแหละ ขีดไว้ว่าที่พักอยู่ถนนไหนก็ลุยข่าาาาา อมยิ้ม33

เท่ ปีนัง เป็นเมืองเล็กๆที่มีผู้คนหลายเชื้อชาติค่ะ มีทั้ง จีน อินเดีย มาเล เย้อะะะะ อาหารการกินก็ไม่ต้องห่วงค่ะ ของกินรอบเมือง อยู่ที่ว่าเราจะเลือกดินมั้ย ส่วนเราไม่ชอบกินเครื่องเทศค่ะ ก็เลยไม่กินอาหารอินเดีย

เท่ วันแรกเราก็เที่ยวด้วยการเดินค่ะ เดินไปรอบๆเมืองอ่ะแหละค่ะ เจอที่ไหนก็แวะ ถ่ายรูปเดินเล่นไปชิวๆ อยากรู้ว่าที่นี่มีอะไรก็ถามคนแถวนั้นเอา ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับปีนังก็เข้าไปดู จะมีชุดประจำชาติ อธิบายอะไรหลายๆอย่าง ทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมมากขึ้นค่ะ ......บอกแล้วทริปนี้ทุลักทุเลเพราะไม่ได้เตรียมตัว ไม่มีข้อมูล ก็ดุ่มๆไปค่ะ

เท่ ถ้าเกิดว่าหลงทาง หาทางกลับที่พักไม่เจอก็ถามึนแถวนั้นเอาค่ะ ไม่ต้องกลัวนะคะคนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเลยค่ะ คือวันที่เราไปอากาศอบอ้าวและก็ร้อนมากจะเป็นลมเลย เดินเที่ยวได้ประมาณ 3-4 ชม ก็ต้องกลับที่พักค่ะเพราะฝนมาาาาาา

รูปมันมืดหน่อยน้าาาาา เพราะฝนมันใกล้ตก ร้องไห้































































หัวเราะ เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอสตรีทอาร์ตเยอะแยะเลยค่ะ (เป็นการวาดภาพตามฝาผนังค่ะ) เดี่ยวรูปค่อยลงไว้วันที่สองนะคะ จะบอกว่าวันที่สองนี่ทรหดยิ่งนัก เป็นทริปปั่นจักรยานรอบเมือง ตามนั้นค่ะ555555

ฝนตกค่าาาาาา เป็นอันว่านอนที่โฮสเทก่อนแล้วเย็นๆค่อยออกไปหาของกิน

แล้วก็นอนกลิ้งมาบนเตียงคือตัวแข็งมากทำไรไม่ถูกทั้งโฮสเทลมีผู้หญิงอยู่คนเดียว เกร็งมากกกกก อยู่ไปอยู่มาเริ่มชินค่ะคือ ฝรั่งเค้าเป็นกันเองกับเรามาก ทักทาย ยิ้ม ปกติค่ะ แล้วเค้าก็ไม่ก้าวก่ายในส่วนของเราเลย คือเค้าให้เกียรติเรามาก หัวเราะ ถึงตอนนี้เราก็ได้รู้จักกับฝรั่ง 2 คนค่ะ คนนึงมาจากเบลเยียม อีกคนมาจากอิตาลีค่ะ ก็แล้วฉันก็ได้เพื่อน เค้าก็อธิบายว่าเค้าเป็นใครมายังไง แล้วเราก็เล่าไปเรื่อยว่าเรามาแบ็คแพ็
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่