***Fighting Nepal 25 April 2015 : สำหรับเพื่อนๆที่จะร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เนปาลสามารถร่วมบริจาคผ่านสภากาชาดไทยได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สำนักสีลม ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ" ประเภทบัญชี "กระแสรายวัน" เลขที่ 001-1-34567-0
+++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่แล้ว Wander to Wonder "Nepal" ตอนที่ 2 : บักตาปูร์เมืองแคปซูลกาลเวลา
http://pantip.com/topic/33549525
จากเด็กแขกคู่หูและงานลากรถเมืองโบราณคราวนี้ก็มาถึงตอนที่ 3 และวันที่ 3 ที่เนปาล (ได้เวลากลับมาเที่ยวพื้นที่รอบๆกาฐมาณฑุซะที!)
วันนี้จะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆกาฐมาณฑุตามเข็มนาฬิกา เริ่มต้นด้วย มหาเจดีย์โพธนาถ --> วัดปศุปฏินาถ --> นครแห่งความงามปาตัน --> และปิดท้ายที่วัดลิง สถานที่แต่ละแห่งจริงๆสามารถเดินทางได้ด้วยรถโดยสาร แต่ติดที่ว่าอ่านภาษาเนปาล (ตัวอักษรเดียวกับภาษาอินเดีย) ไม่ออกเลยต้องใช้บริการพี่แท็กซ์เป็นหลัก
เริ่มวันนี้ด้วยรูปประตูสีสันสดใสสไตล์เนปาล
โบกรถ taxi จากย่าน Thamel ไปมหาเจดีย์โพธนาถ ค่าเสียหายนี่ขึ้นอยู่กับฝีมือในการต่อรองเลย ถ้าเป็นไปได้พยายามให้คนขับกดมิเตอร์ซึ่งราคาจะประมาณ 300รูปี แต่วันนี้ออกแต่เช้าไม่ค่อยมีรถให้โบกเท่าไหร่เลยตกลงกับนายคนนี้ได้ 400 รูปี "Ok! Ok! You are my first customer, I'll give you a very good price (มาๆๆๆเด๋วพาไป)" ว่าแล้วระหว่างทางก็พยายามขาย package 1 วัน ประเภทอัลบั้มรวมฮิตกาฐมาณฑุ ไปทุกที่ที่มีทาง ขับไปเจรจากันไปเค้าขอประมาณ 2500รูปี ก็ประมาณ 800บาท ถ้าเทียบกับ taxi กรุงเทพก็ถือว่าโอเค แต่ไปเที่ยวรอบนี้อยากใช้เวลากับแต่ละสถานที่มากกว่าสุดท้ายเลยไม่เอา (ระหว่างทางพี่แกยังพยายามหาผู้โดยสารคนอื่นมานั่งเป็นเพื่อนเราอีกนิ)
ถึงแล้วววมหาเจดีย์โพธนาถ! (จาก Thamel ก็ไกลเหมือนกัน)
มหาเจดีย์โพธนาถเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของเนปาล (ใหญ่มากกก) เป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธจากทิเบต รอบๆจะเจอชาวทิเบตจำนวนมาก รวมถึงร้านขายของ ร้านกาแฟรอบๆเจดีย์
ความใหญ่โตของเจดีย์
ชาวพุทธจากทิเบตจำนวนมาก ถ้าไปจะได้ยินเสียงสวดมนต์ที่คนไทยจะคุ้นเคย (สำเนียงแปลกไปเล็กน้อยแต่สามารถสวดตามได้เลย)
ฐานของเจดีย์ ถ้าบ้านเราคงเป็นระฆังให้เคาะ แต่ที่เนปาลจะเป็นระฆังทรงกระบอกให้หมุนแทน
นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปบนเจดีย์ได้ แถบผ้าหลากสีที่ขึงอยู่ปลิวไปตามสายลม ถ้าสังเกตจะเห็นบทสวดบนผืนผ้าแต่ละใบด้วยนะ
ช่วงที่ไป Fast&Furious7 เข้าฉายพอดีเห็นแล้วนึกถึง Dominic Toretto เลย!
ร้านขายของที่ระลึกรอบๆเจดีย์ มีหมดทั้งลูกประคำ กำไร และเสื้อยืด
หลังจากใช้เวลารอบๆเจดีย์ราวๆ 2 ชม.ก็ได้เวลาไปวัดปศุปฏินาถ วัดที่เป็นที่เคารพมากที่สุดของชาวฮินดูในเนปาล
---------------------------------------------------
ระยะทางระหว่างวัดศุปฎินาถไปเจดีย์ยักษ์จริงๆไม่มากพอเดินได้แต่ว่าอากศร้อนมากเลยขอใช้บริการ taxi อีกตามเคย
จะบอกว่ารถ taxi เนปาลที่เห็นเยอะๆจะมีแบบเดียว สีขาวยี่ห้อมารุตี (Maruti Suzuki) ขนาดประมาณ Nissan March รถรุ่นนี้ไม่ว่าจะตกหลุมเบียดรถเมล์ไถฟุตบาทก็ไม่ใช่ปัญหา คือเป็นรถอื่นๆวิ่งบนถนนเนปาลคงหลุดเป็นชิ้นๆไปตั้งแต่สัปดาห์แรกละ แต่เหมือนเจ้ารถสัญชาติอินเดียรุ่นนี้มานจะทน อึด ถึกไม่ธรรมดา
ทางเข้าวัดมีดอกไม้และเครื่องรางขายจำนวนมาก
นักบวชบริเวณทางเข้าวัด
หนูน้อยคนนี้กำลังอ่านบทสวดอยู่กลางแดด
ส่วนของวัดด้านในจำกัดเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่มาวัดนี้คือชมพิธี "เผาศพ!"
ด้วยความที่วัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำบัคมาตีซึ่งจะไหลไปรวมกับแม่น้ำคงคาในอินเดีย ดังนั้นการทำพิธีที่นี่ก็เท่ากับว่าได้ทำพิธีริมแม่น้ำคงคานั่นเอง พิธีกรรมวัดนี้จะคล้ายกับที่ริมแม่น้ำคงคาเมืองพาราณสีของอินเดีย ถ้าใครยังไม่มีโอกาสได้ไป (จขกท.เองก็ยังไม่เคยไป ฟังคนเนปาลเล่ามา) ก็สามารถดูได้ที่เนปาลนะ
ฝั่งซ้ายจะเป็นที่ประกอบพิธีกรรม ฝั่งขวานี่นักท่องเที่ยวสามารถชมพิธีได้ แต่เค้าขอความร่วมมือว่าให้เกียรติผู้ตายกับญาติด้วย อย่าใช้เลนส์ Tele เป้งๆและให้สำรวมกิริยา คือเป็นใครก็คงไม่อยากให้คนอื่นถ่ายภาพศพญาติตัวเองหรือคนในครอบครัวหรอกจริงมั้ย?
นอกจากแบ่งสองฝั่งแล้ว ฝั่งซ้ายของแม่น้ำ (ฝั่งทำพิธีกรรม) ยังแบ่งเป็นสองโซนด้วย โซนชาวบ้านธรรมดากับโซน VIP ซึ่งพิธีกรรม ความอลังกาลก็ต่างกัน
จะบอกว่าวันที่ไปกลิ่นแรงมากๆ อาจจะเป็นเพราะแม่น้ำตื้นด้วยมั้ง พวกเถ้าตะกอนบางส่วนก็เลยส่งกลิ่นออกมา
ระหว่างกำลังปลงชีวิตกับพิธีกรรมเหลือบมองไปด้านหลังก็ได้พบกับเหล่า Holy man กลุ่มนี้
...แล้วเราจะรออะไร!!
จัดแจงถ่ายรูปแล้วปริ้นรูปให้เป็นที่ระลึก
ท่าทางท่านจะชอบมิน้อย ^^
กลับมาพูดถึงสถานที่รอบๆ : ฝั่งชาวบ้านธรรมดา จะมีแท่นเรียนกันสี่แท่น ด้านล่างเป็นฟืน เอาศพวางด้านบนแล้วก็เผาเลย ควันฟุ้งกระจายตลอดวัน ถามคนเนปาลบอกว่าวัดนี้สร้างมาเป็นพันปี แท่นเผาศพแทบจะไม่มีเว้นว่างเลย
ฝั่งตรงข้ามที่เผาศพก็มีกิจกรรมมากมาย ทั้งจับกลุ่มคุย หรือแม้แต่ปิกนิค ทานข้าว โอ้ว+ ความตายกับคนเป็นบางทีก็ใกล้ชิดกันมากนะสำหรับชาวเนปาล
ส่วนคนนี้ชื่อ Binaya Chapagain เป็นไกด์อยู่ในวัด เผอิญเห็นเราอ่านหนังสือท่องเที่ยวก็เลยเข้ามาคุยด้วย (ปกติถ้าเราเข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยวที่เนปาลจะมีไกด์มาเสนอตัวพาชมสถานที่พร้อมค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆ) ...แต่นายคนนี้แปลก คือมาคุยมาให้ความรู้เฉยๆไม่คิดค่าตอบแทนอะไร เคยมาเที่ยวเมืองไทยด้วย เค้าบอกว่าเคยเห็นทะเลครั้งแรกก็ที่เมืองไทยนี่แร่ะ ชอบเมืองไทย ยังมีเพื่อนที่เมืองไทยอยู่เลย เค้าบอกว่าทุกวันนี้นักท่องเที่ยวหลักมาเนปาลก็คือทางฝั่งยุโรป อเมริกา คนจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีเป็นตลาดรอง ส่วนคนไทย มาเลย์ เค้ามองว่าน่าจะมีโอกาสเพราะวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน (ฝากบอกคนไทยด้วยว่าให้มาเที่ยวกันเยอะๆ)
<-- [Update วันที่ 29 เม.ย. หลังแผ่นดินไหว นายคนนี้ยังปลอดภัยดีและบอกขอบคุณคนไทยด้วยสำหรับความช่วยเหลือที่ส่งมาที่เนปาลครับ http://pantip.com/topic/33586314]
ระว่างทางกลับเจอร้านขายของ เห็นกุญแจโบราณน่าสนใจเลยถามราคา ปรากฏว่าราคา 35$ ก็เลยไม่เอา คนขายก็พยายามลดให้จาก 35$ -> 30$ -> 20$ คือเราเห็นไกลๆละว่าเดินตาม แรกๆก็หยุดคุยบอกว่าสวยดีแต่ยังไม่เอา ดูมานใช้งานไม่ค่อยดีด้วยแร่ะ ไขออกบ้างไม่ออกบ้าง คนขายก็ตื้อๆๆ "Look Look 15$ Ok?" สุดท้ายพอเค้าเผลอ เราตัดสินใจโกย ทางนั้นพอรู้ว่าเราไปแล้วก็วิ่งตาม!! เอ้าเฮ้ย! ตรูบอกว่าไม่เอาาาาาา!
เจอการตลาดเชิงรุกขนาดต้องวิ่งหนี วิ่งจนไปถึงถนนเจอ taxi ผ่านมาพอดีเลยโบกขึ้นเลย "Patan Patan Go Gooo!" (คำสุดท้ายที่ได้ยินจากคนขายคือ OK OK OK +++ 10$ ! !!)
พูดถึงหนุ่มหน้ามนคนขับแท็กซี่รายนี้ ก็แบบคุยนู่นนี่เล่าประวัติเมืองด้วย บอกว่าเคยไปทำงานที่มาเลย์ ตะวันออกกลาง แต่สุดท้ายก็กลับมาทำงานที่เนปาล
Taxi : "ที่อื่นเงินดีกว่าที่เนปาลหมดแร่ะ แต่อยู่ไหนก็ไม่สบายเท่าเนปาล"
Taxi : "แล้วเอ็งมาจากไหน อายุเท่าไหร่ แต่งงานรึยัง"
จขกท. : "มาจาก Thailand แดน Smile อายุ 3x ยังไม่แต่ง ติสแตกอ่ะเลยมาคนเดียว ทำไมที่เนปาลนี่ใครๆก็ถามจังเรื่องอายุ ถามว่าแต่งงานรึยัง? ชาวบ้านหรือแม้แต่แม่ค้าร้านขายของชำยังถามเล้ยย"
Taxi : "โหเอ็ง จะไม่ถามได้ไง เห็นผมหงอกก็นึกว่าแก่ มาคนเดียวด้วย ใครๆมาเนปาลก็มากันเป็นแก๊งค์ แสดงว่าลูกเมียไม่มี คนเนปาลอายุไม่เท่าไหร่ก็แต่งงานกันแล้ว ไอ 32 ลูกหนึ่งแล้ว แฮปปี้ฝุดๆ"
Taxi : "คนแก่ อยู่คนเดียว ชีวิตคงน่าสงสาร ไม่แปลกหรอกที่ใครๆจะถาม" ..."เอ็งน่าจะดีใจนะที่ใครๆก็เป็นห่วงเอ็ง"
จขกท. : "ตรูนี่ซึ้งเลย"
---------------------------------------------------
Wander to Wonder "Nepal" ตอนที่ 3 : กาฐมาณฑุวัลเลย์และเจดีย์ยักษ์
+++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่แล้ว Wander to Wonder "Nepal" ตอนที่ 2 : บักตาปูร์เมืองแคปซูลกาลเวลา
http://pantip.com/topic/33549525
จากเด็กแขกคู่หูและงานลากรถเมืองโบราณคราวนี้ก็มาถึงตอนที่ 3 และวันที่ 3 ที่เนปาล (ได้เวลากลับมาเที่ยวพื้นที่รอบๆกาฐมาณฑุซะที!)
วันนี้จะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆกาฐมาณฑุตามเข็มนาฬิกา เริ่มต้นด้วย มหาเจดีย์โพธนาถ --> วัดปศุปฏินาถ --> นครแห่งความงามปาตัน --> และปิดท้ายที่วัดลิง สถานที่แต่ละแห่งจริงๆสามารถเดินทางได้ด้วยรถโดยสาร แต่ติดที่ว่าอ่านภาษาเนปาล (ตัวอักษรเดียวกับภาษาอินเดีย) ไม่ออกเลยต้องใช้บริการพี่แท็กซ์เป็นหลัก
เริ่มวันนี้ด้วยรูปประตูสีสันสดใสสไตล์เนปาล
โบกรถ taxi จากย่าน Thamel ไปมหาเจดีย์โพธนาถ ค่าเสียหายนี่ขึ้นอยู่กับฝีมือในการต่อรองเลย ถ้าเป็นไปได้พยายามให้คนขับกดมิเตอร์ซึ่งราคาจะประมาณ 300รูปี แต่วันนี้ออกแต่เช้าไม่ค่อยมีรถให้โบกเท่าไหร่เลยตกลงกับนายคนนี้ได้ 400 รูปี "Ok! Ok! You are my first customer, I'll give you a very good price (มาๆๆๆเด๋วพาไป)" ว่าแล้วระหว่างทางก็พยายามขาย package 1 วัน ประเภทอัลบั้มรวมฮิตกาฐมาณฑุ ไปทุกที่ที่มีทาง ขับไปเจรจากันไปเค้าขอประมาณ 2500รูปี ก็ประมาณ 800บาท ถ้าเทียบกับ taxi กรุงเทพก็ถือว่าโอเค แต่ไปเที่ยวรอบนี้อยากใช้เวลากับแต่ละสถานที่มากกว่าสุดท้ายเลยไม่เอา (ระหว่างทางพี่แกยังพยายามหาผู้โดยสารคนอื่นมานั่งเป็นเพื่อนเราอีกนิ)
ถึงแล้วววมหาเจดีย์โพธนาถ! (จาก Thamel ก็ไกลเหมือนกัน)
มหาเจดีย์โพธนาถเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของเนปาล (ใหญ่มากกก) เป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธจากทิเบต รอบๆจะเจอชาวทิเบตจำนวนมาก รวมถึงร้านขายของ ร้านกาแฟรอบๆเจดีย์
ความใหญ่โตของเจดีย์
ชาวพุทธจากทิเบตจำนวนมาก ถ้าไปจะได้ยินเสียงสวดมนต์ที่คนไทยจะคุ้นเคย (สำเนียงแปลกไปเล็กน้อยแต่สามารถสวดตามได้เลย)
ฐานของเจดีย์ ถ้าบ้านเราคงเป็นระฆังให้เคาะ แต่ที่เนปาลจะเป็นระฆังทรงกระบอกให้หมุนแทน
นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปบนเจดีย์ได้ แถบผ้าหลากสีที่ขึงอยู่ปลิวไปตามสายลม ถ้าสังเกตจะเห็นบทสวดบนผืนผ้าแต่ละใบด้วยนะ
ช่วงที่ไป Fast&Furious7 เข้าฉายพอดีเห็นแล้วนึกถึง Dominic Toretto เลย!
ร้านขายของที่ระลึกรอบๆเจดีย์ มีหมดทั้งลูกประคำ กำไร และเสื้อยืด
หลังจากใช้เวลารอบๆเจดีย์ราวๆ 2 ชม.ก็ได้เวลาไปวัดปศุปฏินาถ วัดที่เป็นที่เคารพมากที่สุดของชาวฮินดูในเนปาล
---------------------------------------------------
ระยะทางระหว่างวัดศุปฎินาถไปเจดีย์ยักษ์จริงๆไม่มากพอเดินได้แต่ว่าอากศร้อนมากเลยขอใช้บริการ taxi อีกตามเคย
จะบอกว่ารถ taxi เนปาลที่เห็นเยอะๆจะมีแบบเดียว สีขาวยี่ห้อมารุตี (Maruti Suzuki) ขนาดประมาณ Nissan March รถรุ่นนี้ไม่ว่าจะตกหลุมเบียดรถเมล์ไถฟุตบาทก็ไม่ใช่ปัญหา คือเป็นรถอื่นๆวิ่งบนถนนเนปาลคงหลุดเป็นชิ้นๆไปตั้งแต่สัปดาห์แรกละ แต่เหมือนเจ้ารถสัญชาติอินเดียรุ่นนี้มานจะทน อึด ถึกไม่ธรรมดา
ทางเข้าวัดมีดอกไม้และเครื่องรางขายจำนวนมาก
นักบวชบริเวณทางเข้าวัด
หนูน้อยคนนี้กำลังอ่านบทสวดอยู่กลางแดด
ส่วนของวัดด้านในจำกัดเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่มาวัดนี้คือชมพิธี "เผาศพ!"
ด้วยความที่วัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำบัคมาตีซึ่งจะไหลไปรวมกับแม่น้ำคงคาในอินเดีย ดังนั้นการทำพิธีที่นี่ก็เท่ากับว่าได้ทำพิธีริมแม่น้ำคงคานั่นเอง พิธีกรรมวัดนี้จะคล้ายกับที่ริมแม่น้ำคงคาเมืองพาราณสีของอินเดีย ถ้าใครยังไม่มีโอกาสได้ไป (จขกท.เองก็ยังไม่เคยไป ฟังคนเนปาลเล่ามา) ก็สามารถดูได้ที่เนปาลนะ
ฝั่งซ้ายจะเป็นที่ประกอบพิธีกรรม ฝั่งขวานี่นักท่องเที่ยวสามารถชมพิธีได้ แต่เค้าขอความร่วมมือว่าให้เกียรติผู้ตายกับญาติด้วย อย่าใช้เลนส์ Tele เป้งๆและให้สำรวมกิริยา คือเป็นใครก็คงไม่อยากให้คนอื่นถ่ายภาพศพญาติตัวเองหรือคนในครอบครัวหรอกจริงมั้ย?
นอกจากแบ่งสองฝั่งแล้ว ฝั่งซ้ายของแม่น้ำ (ฝั่งทำพิธีกรรม) ยังแบ่งเป็นสองโซนด้วย โซนชาวบ้านธรรมดากับโซน VIP ซึ่งพิธีกรรม ความอลังกาลก็ต่างกัน
จะบอกว่าวันที่ไปกลิ่นแรงมากๆ อาจจะเป็นเพราะแม่น้ำตื้นด้วยมั้ง พวกเถ้าตะกอนบางส่วนก็เลยส่งกลิ่นออกมา
ระหว่างกำลังปลงชีวิตกับพิธีกรรมเหลือบมองไปด้านหลังก็ได้พบกับเหล่า Holy man กลุ่มนี้
...แล้วเราจะรออะไร!!
ท่าทางท่านจะชอบมิน้อย ^^
กลับมาพูดถึงสถานที่รอบๆ : ฝั่งชาวบ้านธรรมดา จะมีแท่นเรียนกันสี่แท่น ด้านล่างเป็นฟืน เอาศพวางด้านบนแล้วก็เผาเลย ควันฟุ้งกระจายตลอดวัน ถามคนเนปาลบอกว่าวัดนี้สร้างมาเป็นพันปี แท่นเผาศพแทบจะไม่มีเว้นว่างเลย
ฝั่งตรงข้ามที่เผาศพก็มีกิจกรรมมากมาย ทั้งจับกลุ่มคุย หรือแม้แต่ปิกนิค ทานข้าว โอ้ว+ ความตายกับคนเป็นบางทีก็ใกล้ชิดกันมากนะสำหรับชาวเนปาล
ส่วนคนนี้ชื่อ Binaya Chapagain เป็นไกด์อยู่ในวัด เผอิญเห็นเราอ่านหนังสือท่องเที่ยวก็เลยเข้ามาคุยด้วย (ปกติถ้าเราเข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยวที่เนปาลจะมีไกด์มาเสนอตัวพาชมสถานที่พร้อมค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆ) ...แต่นายคนนี้แปลก คือมาคุยมาให้ความรู้เฉยๆไม่คิดค่าตอบแทนอะไร เคยมาเที่ยวเมืองไทยด้วย เค้าบอกว่าเคยเห็นทะเลครั้งแรกก็ที่เมืองไทยนี่แร่ะ ชอบเมืองไทย ยังมีเพื่อนที่เมืองไทยอยู่เลย เค้าบอกว่าทุกวันนี้นักท่องเที่ยวหลักมาเนปาลก็คือทางฝั่งยุโรป อเมริกา คนจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีเป็นตลาดรอง ส่วนคนไทย มาเลย์ เค้ามองว่าน่าจะมีโอกาสเพราะวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน (ฝากบอกคนไทยด้วยว่าให้มาเที่ยวกันเยอะๆ) <-- [Update วันที่ 29 เม.ย. หลังแผ่นดินไหว นายคนนี้ยังปลอดภัยดีและบอกขอบคุณคนไทยด้วยสำหรับความช่วยเหลือที่ส่งมาที่เนปาลครับ http://pantip.com/topic/33586314]
ระว่างทางกลับเจอร้านขายของ เห็นกุญแจโบราณน่าสนใจเลยถามราคา ปรากฏว่าราคา 35$ ก็เลยไม่เอา คนขายก็พยายามลดให้จาก 35$ -> 30$ -> 20$ คือเราเห็นไกลๆละว่าเดินตาม แรกๆก็หยุดคุยบอกว่าสวยดีแต่ยังไม่เอา ดูมานใช้งานไม่ค่อยดีด้วยแร่ะ ไขออกบ้างไม่ออกบ้าง คนขายก็ตื้อๆๆ "Look Look 15$ Ok?" สุดท้ายพอเค้าเผลอ เราตัดสินใจโกย ทางนั้นพอรู้ว่าเราไปแล้วก็วิ่งตาม!! เอ้าเฮ้ย! ตรูบอกว่าไม่เอาาาาาา!
เจอการตลาดเชิงรุกขนาดต้องวิ่งหนี วิ่งจนไปถึงถนนเจอ taxi ผ่านมาพอดีเลยโบกขึ้นเลย "Patan Patan Go Gooo!" (คำสุดท้ายที่ได้ยินจากคนขายคือ OK OK OK +++ 10$ ! !!)
พูดถึงหนุ่มหน้ามนคนขับแท็กซี่รายนี้ ก็แบบคุยนู่นนี่เล่าประวัติเมืองด้วย บอกว่าเคยไปทำงานที่มาเลย์ ตะวันออกกลาง แต่สุดท้ายก็กลับมาทำงานที่เนปาล
Taxi : "ที่อื่นเงินดีกว่าที่เนปาลหมดแร่ะ แต่อยู่ไหนก็ไม่สบายเท่าเนปาล"
Taxi : "แล้วเอ็งมาจากไหน อายุเท่าไหร่ แต่งงานรึยัง"
จขกท. : "มาจาก Thailand แดน Smile อายุ 3x ยังไม่แต่ง ติสแตกอ่ะเลยมาคนเดียว ทำไมที่เนปาลนี่ใครๆก็ถามจังเรื่องอายุ ถามว่าแต่งงานรึยัง? ชาวบ้านหรือแม้แต่แม่ค้าร้านขายของชำยังถามเล้ยย"
Taxi : "โหเอ็ง จะไม่ถามได้ไง เห็นผมหงอกก็นึกว่าแก่ มาคนเดียวด้วย ใครๆมาเนปาลก็มากันเป็นแก๊งค์ แสดงว่าลูกเมียไม่มี คนเนปาลอายุไม่เท่าไหร่ก็แต่งงานกันแล้ว ไอ 32 ลูกหนึ่งแล้ว แฮปปี้ฝุดๆ"
Taxi : "คนแก่ อยู่คนเดียว ชีวิตคงน่าสงสาร ไม่แปลกหรอกที่ใครๆจะถาม" ..."เอ็งน่าจะดีใจนะที่ใครๆก็เป็นห่วงเอ็ง"
จขกท. : "ตรูนี่ซึ้งเลย"
---------------------------------------------------