******ขออนุญาติปิดกระทู้แล้วนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ (จากที่ห่างไปนานประมาณ 2 เดือน! เนื่องจาก จขกท.ติดเรียนและสอบไฟนอลค่ะ ไม่มีเวลามาอัพเลย กะจะอัพตั้งหลายครั้งแล้ว ก็ไม่ได้อัพซะที หาโอกาสยากมากที่จะมาเปิดคอมอัพแบบสบายๆค่ะ เพราะเล่นในมือถือก็อัพยากซะเหลือเกิน เฮ้ออ******
*****เก็บกระทู้นี้ไว้ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆเข้ามาอ่านกันนะคะ ถึงแม้เรื่องมันจะจบไปแล้วในปัจจุบัน ณ ขณะนี้ แต่ความทรงจำดีๆที่อยากแชร์ยังเหลืออยู่ค่ะ มีหลายคนตามเข้ามาคุยกันในเฟส ก็ขอบคุณมากๆคะ หลายคนที่ทักมาหลังไมค์ที่ไม่ได้ตอบก็ขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามตอบให้หมดเพราะหาเวลามาตอบได้แล้ว ข้อความหลังไมค์มาเยอะมากจริงๆ*****
-เกริ่นก่อนเล่า-
สวัสดีค่ะ ทู้นี้เป็นทู้แรกตั้งแต่สมัครเป็นยูเซอร์ในพันธิปมา ปกติมีอะไรในชีวิตประจำวันก็จะอัพสเตตัสยาวๆในเฟสบุ๊ค รัวๆถี่ๆ จนเพื่อนในเฟรนด์ลิสต์มีทั้งคนชอบ ติดตามกดไลค์ หรือบางทีก็อันเฟรนด์อันฟอล ตั้งตัสเหน็บแนมกลับมาก็มี จขกท.เลยตัดสินใจมาโพสเรื่องราวในพันธิป เป็นประสบการณ์ดีๆของจขกท.ที่เพิ่งเคยพบเคยเจอมาเมื่อไม่นานมานี้เอง ปกติเวลาเราคิดถึงใครมากๆ มันมักจะว่างจะฟุ้งซ่าน อัพตัสลงเฟสบุ๊คประจำ ทำให้มีพอมีความสุขไปบ้างถ้าได้ระบายลงไปแล้ว จขกท.ตั้งใจจะเขียนเก็บไว้อ่านเองด้วย และถือว่ามาเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นๆฟัง (ไม่รู้จะมีคนอ่านไหม ตั้งขำๆไปงั้น 5555555) ซึ่งจขกท.ขอเกริ่นก่อนว่า เรื่องราวที่เล่านั้นเป็นเรื่องจริงที่จขกท.พบเจอมากับตัวเอง 100% ไม่ได้มโน ไม่ได้แต่งเรื่อง เหตุการณ์นี้เกิดแบบไม่ทันตั้งตัวจริงๆ และเจ้าของกระทู้จะขอเล่าเรื่องราวในแบบคำพูดในบทสนทนาละกันนะคะ เพื่อให้อ่านง่าย บางความคิดของจขกท.จะแปลกๆหยาบๆไปหน่อยอาจทำให้ใครบางคนไม่พอใจ ต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอโทษล่วงหน้าเลย
ขอเล่าความเป็นมาคร่าวๆของตัวจขกท.เองก่อนนะคะ จขกท.เพิ่งมาทำงานที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในจังหวัดนึง ย่านนั้นเป็นย่านชุมชนฝรั่ง ที่พักฝรั่ง แหล่งเที่ยวของฝรั่งในใจกลางเมือง ซึ่งลูกค้า 90%ของร้าน จะมีแต่ชาวต่างชาติ และการสื่อสารในร้านต้องพูดภาษาอังกฤษได้ดีในระดับนึง จขกท.ได้มาช่วยงานที่ร้านชั่วคราวเพราะพี่ๆที่ประจำอยู่ที่ร้าน สื่อสารภาษาไม่ค่อยได้ และบางวันจขกท.ก็ต้องเป็นคนคุมร้านเองเพราะเจ้าของร้านไม่มีเวลามาดูร้านสักเท่าไหร่ (เจ้านายมีอาชีพประจำอยู่แล้วค่ะ เปิดร้านเป็นงานอดิเรกเฉยๆ แว๊บเข้ามามั่ง ไม่เข้ามามั่ง เลยต้องมีพนง.ประจำร้าน)
จขกท.ปกติจะเป็นติ่งฝรั่ง เป็นทาสตะวันตกที่สุด และแอนตี้เกาหลีมาแต่ไหนแต่ไร เวลาเพื่อนเปิดเพลงเกาหลี จะทนฟังไม่ได้และบอกให้ปิด แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งเกลียดมากเท่าไหร่ จขกท.ยิ่งพบยิ่งเจอเกาหลีมากขึ้นเท่านั้น ถึงขนาดได้ไปเหยียบแดนกิมจิ (โดยไม่ได้เต็มใจเนื่องจากต้องไปเป็นเพื่อนแม่)เมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ กลับมาชนิดว่า รสกิมจินั้นติดปาก กลืนน้ำลายกลับมาไทยได้2วันรสก็ยังไม่หายจากลิ้นเลย 5555 (เว่อร์) ซึ่งจขกท.ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกลียดขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อน สมัยที่จขกท.บ้าฝรั่งมากๆ (ชนิดอยากมีสามีเป็นฝรั่งสุดๆ โอ้ยชีวิตนี้ชั้นต้องได้ไปอยู่เมืองนอก มีลูกน่ารักๆผมสีบลอนด์สิ ตาสีน้ำข้าวสิ อย่างงู้นอย่างงี้ และอย่าให้ได้ยินอะไรเกาหลีฌแียดหูนะ โหยยย เอามันไปไกล๊ๆๆๆๆจากชีวิตช้าน !!!) นี่คือจะเล่นเว็บบอร์ดของเว็บนึง จะมีการไซโคกันระหว่างแฟนคลับศิลปินตะวันตก และศิลปินฝั่งเกาหลี ศิลปินฝั่งตะวันตกก็จะบอกว่า เห้ยยย ไอ่พวกเกาหลีขี้ก็อป!! ประมาณนี้ ซึ่งไร้สาระมากๆ 555555555 จขกท.เลยฝังใจไปเลย แต่เมื่อต่อมาสมัยมัธยมปลาย จขกท.มีเพื่อนที่ฟังเกาหลีเยอะขึ้น เพื่อนเปิดเพลงเกาหลีกรอกหูทุกวัน จากที่รับไม่ได้ ยี้สุดๆ และจขกท.ก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีจริงๆที่ประเทศเกาหลี ทำให้ฉุกคิดได้ว่าเออ น่า เปิดใจกว้างๆ ประเทศเค้าก็น่าอยู่ดีนะ แถมตอนนั่งรถอยู่ในโซล จขกท.แอบมีเดจาวูแบบแรงๆว่า หืมมม ในอนาคตนะ ชั้นอาจจะได้มาอยู่ที่นี่ก็เป็นไปได้ เมืองสวย อากาศดีขนาดนี้ บางทีชั้นอาจจะเลือกมาทำงานประเทศนี้เป็นประเทศแรกเลยก็เป็นได้ .....
ชะแวร๊บๆๆๆๆๆ เดี๋ยวมาต่อนะค้าาาาาา
[แชร์ประสบการณ์] เมื่อฉันเกลียดเกาหลีเข้าไส้ แต่ดันได้หนุ่มเกาหลีเป็นแฟน
*****เก็บกระทู้นี้ไว้ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆเข้ามาอ่านกันนะคะ ถึงแม้เรื่องมันจะจบไปแล้วในปัจจุบัน ณ ขณะนี้ แต่ความทรงจำดีๆที่อยากแชร์ยังเหลืออยู่ค่ะ มีหลายคนตามเข้ามาคุยกันในเฟส ก็ขอบคุณมากๆคะ หลายคนที่ทักมาหลังไมค์ที่ไม่ได้ตอบก็ขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามตอบให้หมดเพราะหาเวลามาตอบได้แล้ว ข้อความหลังไมค์มาเยอะมากจริงๆ*****
-เกริ่นก่อนเล่า-
สวัสดีค่ะ ทู้นี้เป็นทู้แรกตั้งแต่สมัครเป็นยูเซอร์ในพันธิปมา ปกติมีอะไรในชีวิตประจำวันก็จะอัพสเตตัสยาวๆในเฟสบุ๊ค รัวๆถี่ๆ จนเพื่อนในเฟรนด์ลิสต์มีทั้งคนชอบ ติดตามกดไลค์ หรือบางทีก็อันเฟรนด์อันฟอล ตั้งตัสเหน็บแนมกลับมาก็มี จขกท.เลยตัดสินใจมาโพสเรื่องราวในพันธิป เป็นประสบการณ์ดีๆของจขกท.ที่เพิ่งเคยพบเคยเจอมาเมื่อไม่นานมานี้เอง ปกติเวลาเราคิดถึงใครมากๆ มันมักจะว่างจะฟุ้งซ่าน อัพตัสลงเฟสบุ๊คประจำ ทำให้มีพอมีความสุขไปบ้างถ้าได้ระบายลงไปแล้ว จขกท.ตั้งใจจะเขียนเก็บไว้อ่านเองด้วย และถือว่ามาเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นๆฟัง (ไม่รู้จะมีคนอ่านไหม ตั้งขำๆไปงั้น 5555555) ซึ่งจขกท.ขอเกริ่นก่อนว่า เรื่องราวที่เล่านั้นเป็นเรื่องจริงที่จขกท.พบเจอมากับตัวเอง 100% ไม่ได้มโน ไม่ได้แต่งเรื่อง เหตุการณ์นี้เกิดแบบไม่ทันตั้งตัวจริงๆ และเจ้าของกระทู้จะขอเล่าเรื่องราวในแบบคำพูดในบทสนทนาละกันนะคะ เพื่อให้อ่านง่าย บางความคิดของจขกท.จะแปลกๆหยาบๆไปหน่อยอาจทำให้ใครบางคนไม่พอใจ ต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอโทษล่วงหน้าเลย
ขอเล่าความเป็นมาคร่าวๆของตัวจขกท.เองก่อนนะคะ จขกท.เพิ่งมาทำงานที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในจังหวัดนึง ย่านนั้นเป็นย่านชุมชนฝรั่ง ที่พักฝรั่ง แหล่งเที่ยวของฝรั่งในใจกลางเมือง ซึ่งลูกค้า 90%ของร้าน จะมีแต่ชาวต่างชาติ และการสื่อสารในร้านต้องพูดภาษาอังกฤษได้ดีในระดับนึง จขกท.ได้มาช่วยงานที่ร้านชั่วคราวเพราะพี่ๆที่ประจำอยู่ที่ร้าน สื่อสารภาษาไม่ค่อยได้ และบางวันจขกท.ก็ต้องเป็นคนคุมร้านเองเพราะเจ้าของร้านไม่มีเวลามาดูร้านสักเท่าไหร่ (เจ้านายมีอาชีพประจำอยู่แล้วค่ะ เปิดร้านเป็นงานอดิเรกเฉยๆ แว๊บเข้ามามั่ง ไม่เข้ามามั่ง เลยต้องมีพนง.ประจำร้าน)
จขกท.ปกติจะเป็นติ่งฝรั่ง เป็นทาสตะวันตกที่สุด และแอนตี้เกาหลีมาแต่ไหนแต่ไร เวลาเพื่อนเปิดเพลงเกาหลี จะทนฟังไม่ได้และบอกให้ปิด แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งเกลียดมากเท่าไหร่ จขกท.ยิ่งพบยิ่งเจอเกาหลีมากขึ้นเท่านั้น ถึงขนาดได้ไปเหยียบแดนกิมจิ (โดยไม่ได้เต็มใจเนื่องจากต้องไปเป็นเพื่อนแม่)เมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ กลับมาชนิดว่า รสกิมจินั้นติดปาก กลืนน้ำลายกลับมาไทยได้2วันรสก็ยังไม่หายจากลิ้นเลย 5555 (เว่อร์) ซึ่งจขกท.ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกลียดขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อน สมัยที่จขกท.บ้าฝรั่งมากๆ (ชนิดอยากมีสามีเป็นฝรั่งสุดๆ โอ้ยชีวิตนี้ชั้นต้องได้ไปอยู่เมืองนอก มีลูกน่ารักๆผมสีบลอนด์สิ ตาสีน้ำข้าวสิ อย่างงู้นอย่างงี้ และอย่าให้ได้ยินอะไรเกาหลีฌแียดหูนะ โหยยย เอามันไปไกล๊ๆๆๆๆจากชีวิตช้าน !!!) นี่คือจะเล่นเว็บบอร์ดของเว็บนึง จะมีการไซโคกันระหว่างแฟนคลับศิลปินตะวันตก และศิลปินฝั่งเกาหลี ศิลปินฝั่งตะวันตกก็จะบอกว่า เห้ยยย ไอ่พวกเกาหลีขี้ก็อป!! ประมาณนี้ ซึ่งไร้สาระมากๆ 555555555 จขกท.เลยฝังใจไปเลย แต่เมื่อต่อมาสมัยมัธยมปลาย จขกท.มีเพื่อนที่ฟังเกาหลีเยอะขึ้น เพื่อนเปิดเพลงเกาหลีกรอกหูทุกวัน จากที่รับไม่ได้ ยี้สุดๆ และจขกท.ก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีจริงๆที่ประเทศเกาหลี ทำให้ฉุกคิดได้ว่าเออ น่า เปิดใจกว้างๆ ประเทศเค้าก็น่าอยู่ดีนะ แถมตอนนั่งรถอยู่ในโซล จขกท.แอบมีเดจาวูแบบแรงๆว่า หืมมม ในอนาคตนะ ชั้นอาจจะได้มาอยู่ที่นี่ก็เป็นไปได้ เมืองสวย อากาศดีขนาดนี้ บางทีชั้นอาจจะเลือกมาทำงานประเทศนี้เป็นประเทศแรกเลยก็เป็นได้ .....
ชะแวร๊บๆๆๆๆๆ เดี๋ยวมาต่อนะค้าาาาาา