วันนี้เมื่อปีที่แล้วทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยยังไม่สามารถซ้อมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะนักกีฬาบางส่วนต้องแข่งขันสโมสรเอเชีย จึงทำให้ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นกับทีมชาติคือมีเวลาเตรียมทีมไม่พอ
เมื่อมีเวลาเตรียมทีมน้อยก็ส่งผลกระทบโดยตรง คือนักกีฬาไม่สามารถดึงศักยภาพตัวเองออกมาได้เต็มที่ ซึ่งทีมงานสต๊าฟโค้ชรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากตลอดปีที่ผ่านมา
"ทำไมต้องกังวลละ เก็บตัว มิถุนายน แข่งเวิลด์กรังด์ปรีซ์ก็สิงหาคม 2 เดือนก็พอมั้ง"
ผมเชื่อเหลือเกินว่าคำถามแบบนี้ต้องเกิดขึ้น ดังนั้นผมขออนุญาตแชร์ความรู้ให้ได้อ่านกัน ขณะที่ผมติดตามทีมมักจะได้เห็น และ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ซึ่งเรื่องที่ได้รู้จากการสอนของ "โค้ชอ๊อต" คือเรื่องสมรรถภาพร่างกายของนักกีฬา ณ ตรงนี้ใครที่ดูเอามัน แนะนำให้ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลยฮ่ะ เพราะจะเสียเวลาป่าว
ถ้าพร้อมตามมาเลยฮ่ะ...
รู้ไหมครับว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อปรับสภาพให้เหมาะสม?
อย่างน้อยๆต้องมี 1-2 เดือน....ใครที่ตามข่าวมักจะเห็นว่า โค้ชอ๊อต จะมีการวางแผนฟื้นฟูสภาพร่างกายของนักกีฬาอยู่ตลอด แต่ปีที่แล้วไม่สามารถทำได้ เพราะการแข่งขันอาชีพ+สโมสรเอเชีย กว่าจะจบก็ปาไปเกือบปลายเดือนพฤษภาคมเลยทีเดียว
แล้วทำไมต้องปรับสภาพ ในเมื่อนักกีฬาก็เล่นลีกอยู่?
ใช่ครับ...นักกีฬาเล่นลีกอยู่ แต่จะมีเพียงไม่กี่คนที่รักษาสภาพตัวเองได้ เช่น นุศรา,อรอุมา,ปลื้มจิตร์,วิลาวัณย์ และ วรรณา เป็นต้น เพราะพวกนี้รู้วิธีดูแลตัวเอง และ ซ้อมกับทีมที่มีการซ้อมที่เข้มงวด ส่วนนักกีฬาที่ไทยมีการแข่งขันตลอดอยู่จริง แต่ถ้าเราลงรายละเอียดลึกๆ มีทีมไหนบ้างที่มีการฝึกซ้อม เช้า-เย็น และ จัดเต็มแบบทีมชาติ บางทีมนี่สนามซ้อมยังไม่มีเลย บางทีมก็ซ้อมไม่เป็นเวลา ตรงจุดนี้ทำให้ศักยภาพของนักกีฬามันอยู่ในสภาพที่เหมาะสม ...ถามว่าถ้าเราเป็นโค้ชเราจะรู้สึกอย่างไร
อีกเรื่อง...ทีมไทยเป็นทีมที่มีรูปร่างเป็นรองหากเทียบกับชาติอื่นๆ ถ้าสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมจริงๆ ก็จะยิ่งเป็นรองเข้าไปใหญ่ นอกจากนี้จะส่งผลต่อการเล่นที่ไม่เป็นไปตามระบบที่วางไว้ ( อันนี้เป็นแนวคำพูดของโค้ชอ๊อตเมื่อปีที่แล้ว )
คราวนี้มาดูเรื่องของลำดับสภาพร่างกายของทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เรื่องนี้ "โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ผู้ช่วยของโค้ชอ๊อต เคยบอกผมไว้ที่ฮ่องกงว่า หากเราทำการฝึกซ้อมตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง ช่วงเวลาที่นักกีฬาไทยเราจะฟอร์มพีคมากที่สุดคือช่วงเดือน สิงหาคม-กันยายน
ที่เขียนมานี่ ต้องการจะสื่ออะไร?
สิ่งที่อยากจะสื่อออกมา คืออยากให้ได้เห็นอีกมุมในการเตรียมทีมว่า "เวลา" มีความสำคัญต่อทีมที่มีร่างกายเป็นรองชาติอื่นมากแค่ไหน แต่เดี๋ยว....ทุกอย่างมันต้องมีองค์ประกอบหนุนกัน เพราะว่าเวลามันจะไม่มีค่าเลยหากนักกีฬาไม่มีความเข้าใจกับสิ่งที่ โค้ช กำลังทำอยู่
วันนี้...ผมถามโค้ชอ๊อตว่า "ดูโค้ชพอใจกับร่างกายของนักกีฬามากนะครับ "
" ( โค้ชยิ้มมุมปาก ) เรื่องร่างกายนักกีฬาแต่ละคนมีอาการเจ็บกันทุกคน หลายคนเจ็บเรื้อรัง ส่วนที่เจ็บจนต้องผ่าตัดก็มี อันนี้เราเข้าใจ แต่ตอนนี้เรามีเวลามากขึ้นจากปีที่ผ่านมา นักกีฬาได้รวมตัวกันพอสมควร ตามแผนที่ร่วมวางกันไว้กับทีมงาน และ ตอนนี้หลายคนก็มีร่างกายที่น่าพอใจมาก อีกอย่างที่สำคัญคือ นักกีฬารุ่นกลางหลายคน โตขึ้นมาเยอะ และ เข้าใจในการปฎิบัติต่อตัวเอง ว่าควรดูแลตัวเองอย่างไร ทำอย่างไรให้รักษาร่างกายได้ดี ส่วนรุ่นพี่ก็แสดงการดูแลตัวเองให้รุ่นน้องได้เห็นอยู่ตลอด จุดนี้ละคืออีกสิ่งที่ทำให้ปีนี้แต่ละคนมีร่างกายที่อยู่ในภาวะที่ดี "
พอพูดจบมี 2 อย่างที่ผมคิดได้ทันทีคือ
1.การซ้อมของหลายคนฟิตมากๆ จังหวะหายใจดี หน้าตาดูสดชื่นแม้ว่าจะมีอาการเหนื่อย
2.คำพูดของโค้ชอ๊อตที่บอกผมไว้ว่า " เป็นโค้ช ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องสร้างความสำเร็จผ่านคนอื่น " ....เอ่อ ยากจริงๆแฮ่ะ
เอก ประวิตร
ที่มา..........
http://www.smmsport.com/reader.php?article=4733
2014 มีเวลาเตรียมทีมน้อย แล้วปีนี้ละ?
วันนี้เมื่อปีที่แล้วทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยยังไม่สามารถซ้อมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะนักกีฬาบางส่วนต้องแข่งขันสโมสรเอเชีย จึงทำให้ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นกับทีมชาติคือมีเวลาเตรียมทีมไม่พอ
เมื่อมีเวลาเตรียมทีมน้อยก็ส่งผลกระทบโดยตรง คือนักกีฬาไม่สามารถดึงศักยภาพตัวเองออกมาได้เต็มที่ ซึ่งทีมงานสต๊าฟโค้ชรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากตลอดปีที่ผ่านมา
"ทำไมต้องกังวลละ เก็บตัว มิถุนายน แข่งเวิลด์กรังด์ปรีซ์ก็สิงหาคม 2 เดือนก็พอมั้ง"
ผมเชื่อเหลือเกินว่าคำถามแบบนี้ต้องเกิดขึ้น ดังนั้นผมขออนุญาตแชร์ความรู้ให้ได้อ่านกัน ขณะที่ผมติดตามทีมมักจะได้เห็น และ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ซึ่งเรื่องที่ได้รู้จากการสอนของ "โค้ชอ๊อต" คือเรื่องสมรรถภาพร่างกายของนักกีฬา ณ ตรงนี้ใครที่ดูเอามัน แนะนำให้ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลยฮ่ะ เพราะจะเสียเวลาป่าว
ถ้าพร้อมตามมาเลยฮ่ะ...
รู้ไหมครับว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อปรับสภาพให้เหมาะสม?
อย่างน้อยๆต้องมี 1-2 เดือน....ใครที่ตามข่าวมักจะเห็นว่า โค้ชอ๊อต จะมีการวางแผนฟื้นฟูสภาพร่างกายของนักกีฬาอยู่ตลอด แต่ปีที่แล้วไม่สามารถทำได้ เพราะการแข่งขันอาชีพ+สโมสรเอเชีย กว่าจะจบก็ปาไปเกือบปลายเดือนพฤษภาคมเลยทีเดียว
แล้วทำไมต้องปรับสภาพ ในเมื่อนักกีฬาก็เล่นลีกอยู่?
ใช่ครับ...นักกีฬาเล่นลีกอยู่ แต่จะมีเพียงไม่กี่คนที่รักษาสภาพตัวเองได้ เช่น นุศรา,อรอุมา,ปลื้มจิตร์,วิลาวัณย์ และ วรรณา เป็นต้น เพราะพวกนี้รู้วิธีดูแลตัวเอง และ ซ้อมกับทีมที่มีการซ้อมที่เข้มงวด ส่วนนักกีฬาที่ไทยมีการแข่งขันตลอดอยู่จริง แต่ถ้าเราลงรายละเอียดลึกๆ มีทีมไหนบ้างที่มีการฝึกซ้อม เช้า-เย็น และ จัดเต็มแบบทีมชาติ บางทีมนี่สนามซ้อมยังไม่มีเลย บางทีมก็ซ้อมไม่เป็นเวลา ตรงจุดนี้ทำให้ศักยภาพของนักกีฬามันอยู่ในสภาพที่เหมาะสม ...ถามว่าถ้าเราเป็นโค้ชเราจะรู้สึกอย่างไร
อีกเรื่อง...ทีมไทยเป็นทีมที่มีรูปร่างเป็นรองหากเทียบกับชาติอื่นๆ ถ้าสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมจริงๆ ก็จะยิ่งเป็นรองเข้าไปใหญ่ นอกจากนี้จะส่งผลต่อการเล่นที่ไม่เป็นไปตามระบบที่วางไว้ ( อันนี้เป็นแนวคำพูดของโค้ชอ๊อตเมื่อปีที่แล้ว )
คราวนี้มาดูเรื่องของลำดับสภาพร่างกายของทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เรื่องนี้ "โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ผู้ช่วยของโค้ชอ๊อต เคยบอกผมไว้ที่ฮ่องกงว่า หากเราทำการฝึกซ้อมตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง ช่วงเวลาที่นักกีฬาไทยเราจะฟอร์มพีคมากที่สุดคือช่วงเดือน สิงหาคม-กันยายน
ที่เขียนมานี่ ต้องการจะสื่ออะไร?
สิ่งที่อยากจะสื่อออกมา คืออยากให้ได้เห็นอีกมุมในการเตรียมทีมว่า "เวลา" มีความสำคัญต่อทีมที่มีร่างกายเป็นรองชาติอื่นมากแค่ไหน แต่เดี๋ยว....ทุกอย่างมันต้องมีองค์ประกอบหนุนกัน เพราะว่าเวลามันจะไม่มีค่าเลยหากนักกีฬาไม่มีความเข้าใจกับสิ่งที่ โค้ช กำลังทำอยู่
วันนี้...ผมถามโค้ชอ๊อตว่า "ดูโค้ชพอใจกับร่างกายของนักกีฬามากนะครับ "
" ( โค้ชยิ้มมุมปาก ) เรื่องร่างกายนักกีฬาแต่ละคนมีอาการเจ็บกันทุกคน หลายคนเจ็บเรื้อรัง ส่วนที่เจ็บจนต้องผ่าตัดก็มี อันนี้เราเข้าใจ แต่ตอนนี้เรามีเวลามากขึ้นจากปีที่ผ่านมา นักกีฬาได้รวมตัวกันพอสมควร ตามแผนที่ร่วมวางกันไว้กับทีมงาน และ ตอนนี้หลายคนก็มีร่างกายที่น่าพอใจมาก อีกอย่างที่สำคัญคือ นักกีฬารุ่นกลางหลายคน โตขึ้นมาเยอะ และ เข้าใจในการปฎิบัติต่อตัวเอง ว่าควรดูแลตัวเองอย่างไร ทำอย่างไรให้รักษาร่างกายได้ดี ส่วนรุ่นพี่ก็แสดงการดูแลตัวเองให้รุ่นน้องได้เห็นอยู่ตลอด จุดนี้ละคืออีกสิ่งที่ทำให้ปีนี้แต่ละคนมีร่างกายที่อยู่ในภาวะที่ดี "
พอพูดจบมี 2 อย่างที่ผมคิดได้ทันทีคือ
1.การซ้อมของหลายคนฟิตมากๆ จังหวะหายใจดี หน้าตาดูสดชื่นแม้ว่าจะมีอาการเหนื่อย
2.คำพูดของโค้ชอ๊อตที่บอกผมไว้ว่า " เป็นโค้ช ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องสร้างความสำเร็จผ่านคนอื่น " ....เอ่อ ยากจริงๆแฮ่ะ
เอก ประวิตร
ที่มา..........http://www.smmsport.com/reader.php?article=4733