เห็นหลายๆท่านกังวลเกี่ยวกับการผ่าคลอดว่าจะเจ็บเวลาผ่า หรือบล็อคหลัง ฯลฯ วันนี้พิมเลยมาแชร์ประสบการณ์การผ่าคลอดให้ฟังตั้งแต่ตอนเตรียมตัวเลยค่ะ
ประมาณบ่ายโมงวันนี้เป็นวันก่อนผ่าคลอด 1 วันค่ะ พิมต้องไปนอนสแตนบายที่รพ.ก่อน เมื่อไปถึงคุณหมอเวรที่นั่นก็ทำการซักถามประวัติคร่าวๆ ติดเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก และตรวจภายใน ซึ่ง...เจ็บมากก - - หมอบอก 2. 80 แล้วเดินจากไปเพื่อไปบันทึกแล้วเดินกลับมาคุยกับเราต่อ “ตอนนี้ปากมดลูกเปิด 2 ซม.แล้วนะคะ ความนุ่มของปากมดลูกอยู่ที่ 80% ตอนนี้โทรฯแจ้งคุณหมอ(ที่เราฝากพิเศษด้วย) แล้ว ตอนนี้ก็ให้คนไข้นอนรอไปก่อน ถ้ามีอาการเจ็บมากขึ้น น้ำเดิน หรือมีมูกเลือดให้แจ้งพยาบาล ถ้าหากว่ามีการคลอดวันนี้ทางคุณหมอ(ที่ฝากครรภ์)ก็จะให้ทำการคลอดธรรมชาติ ถ้าหากพรุ่งนี้ยังไม่คลอดก็จะผ่าแทน แล้วก็ได้คิวผ่าคลอดของวันพรุ่งนี้แล้วนะคะ คิวสุดท้าย” จากนั้นพยยาบาลก็ทำการโกนขนให้และปล่อยให้พิมนอน(เล่น)ไป
ซักพักพิมลุกไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่ามีเลือดไหลออกมาปนกับปัสสาวะ เลยกดเรียกพยาบาล ซึ่งเค้าบอกว่า เป็นเพราะตรวจภายในมาเลยมีเลือดออกในช่องคลอด พิมเลยถามว่าอ้าว งั้นก็ไม่ใช่มูกเลือดใช่ไหม๊ เค้าตอบว่าใช่ และมันดูเหมือนจะไหลปนมากับปัสสาวะนานขึ้น บ่าย3ก็ยังไม่หาย ทั้งที่ถ้าเลือดออกมันควรจะหายแล้ว(รึเปล่า?) ก็เลยเรียกพยาบาลอีกที คราวนี้พยาบาลเลยเอาผ้าอนามัยแบบห่วงมาสวมให้เพื่อดูว่าเลือดไหลปริมาณแค่ไหนแล้ว
พอซักพัก หมอวิสัญญี ก็เข้ามาคุยกับพิมเรื่องการบล็อคหลังว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง โดยการบล็อคหลังจะให้คุณแม่-งอตัวให้อยู่ในท่าเหมือนกุ้งสุก จากนั้นจะทำการฉีดยาชา และต่อด้วยยาบล็อคหลัง คุณแม่จะไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ลิ้นปี่ลงไปจนถึงเท้า และจะรู้สึกว่าขยับเท้าไม่ได้ ซึ่งไม่ต้องพยายาม เวลามีคนจับหรือมีการผ่าเราจะรู้สึก แต่จะรู้สึกเหมือนของไม่มีคมมาถูที่ท้องมากกว่า ให้คุณแม่ทำใจไว้ก่อนเลย และผลจากการบล็อคหลังอาจจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ให้เรียกพยาบาลได้ ส่วนคิวผ่าคิดว่าน่าจะได้ตอนเที่ยงๆบ่ายๆ เพราะห้องผ่าตัดเปิดตอน 9 โมง มีทั้งหมด 5 คิวเราเป็นคิวที่ 6 จากนั้นพิมก็ถามเรื่องการใส่สายปัสสาวะ ว่ามันเจ็บไหม๊ ซึ่งหมอวิสัญญีบอกว่า เจ็บนะเท่าที่เคยฟังๆมา พิมเลยถามว่าถ้างั้นขอใส่สายหลังจากบล็อคหลังได้ไหม๊ หมอบอกว่าได้ แต่อาจจะเสียเวลาหน่อย แต่โอเคเดี๋ยวหมอทำให้ และหมอจะให้ยาลดกรดไปทานระหว่างนั้นด้วย เป็นอันว่าเข้าใจ จากนั้นหมอวิสัญญีก็ไป ส่วนพิมก็นอนต่อ
พอถึงเวลาอาหารเย็น พยาบาลเข้ามาแจ้งว่า หลังจากเที่ยงคืนแล้ว ห้ามกินอะไรใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือขนม เพราะเราจะทำการผ่าตัดพรุ่งนี้ พิมเลยกินข้าวรพ.จนหมด กินขนมจนเกลี้ยง xD กลัวจะไม่ได้กินและหิวตอนดึกๆ จากนั้นก็นอนหลับเตรียมตัวสำหรับการขึ้นเขียงวันพรุ่งนี้
เช้าวันที่ 9 ประมาณตี 5 พยาบาลปลุกพิมขึ้นมาพร้อมกับถือขวดคล้ายๆน้ำยาย้อมผมที่เราใช้ผสมครีมแล้วเขย่าๆเอามาบีบใส่ผมเพื่อเปลี่ยนสี พิมแอบงงนิดๆว่าเค้าจะเอามาใส่อะไรหว่า แต่งงได้ไม่นาน พยาบาลบอกให้นอนตะแคงข้าง จากนั้นก็พยาบาลก็ใช้เจ้านี่แหละ สวนก้น! ความรู้สึกจุกและแปลกๆนิดๆ พยาบาลบอกว่าถ้ารู้สึกปวดก็ให้ไปเข้าห้องน้ำได้เลยและทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีชมพู (ชุดเดิมใส่สีเขียวแก่)
เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อย พิมก็กลับมานอนเอาแรงซักหน่อย ประมาณซัก 10 โมง พยาบาลเข้ามาและแจ้งว่าจะทำการใส่สายสวนปัสสาวะ พิมก็เลยตอบว่า ไม่ๆเดี๋ยวพิมไปทำที่ห้องผ่า พิมคุยกับหมอดมยาแล้ว พยาบาลก็งงๆแต่ก็โอเค และพิมก็ถามพยาบาลต่อว่าพิมจะได้ผ่ากี่โมงเหรอ? พยาบาลบอกว่าวันนี้เหลือคิวผ่า 3 คิว พิมเป็นคิวที่ 4 จากนั้นก็ทำการเก็บตัวอย่างเลือดและใส่สายน้ำเกลือ
ซักประมาณ 11 โมงกว่า คนไข้เริ่มเยอะ จึงมีการขนย้ายคนไข้ที่สบายดีแบบพิมไปยังห้องรวมที่คล้ายๆห้องรอคิวสำหรับคนไข้ที่กำลังรอห้องว่าง (ห้องรอคลอดแบบพิเศษจะเป็นห้องเดี่ยว) เพราะพิมเหลือแค่ขั้นตอนรอให้ทางแผนกผ่าตัดมารับตัวไป ระหว่างนั้นก็มีพยาบาลคอยเข้ามาถามเรื่องจะสวนสายปัสสาวะเรื่อยๆ ซึ่งพิมปฏิเสธทุกครั้ง แต่พยาบาลคนนึงมาแจ้งว่ามันเป็นกฏของรพ. ต้องใส่สายตั้งแต่ตรงนี้เลย ก่อนเข้าห้องผ่าเพื่อความรวดเร็ว พิมก็เลยบอกว่าโอเค งั้นไม่เป็นไร การสวนสายปัสสาวะจะรู้สึกเจ็บแบบจี๊ดขึ้นมาและจะรู้สึกระคายเคือง รู้สึกเหมือนปวดปัสสาวะตลอดเวลา พยาบาลบอกว่าไม่ต้องพยายามเบ่งแค่ปล่อยไว้เฉยๆ
พอเที่ยง ทางแผนกห้องผ่าตัดก็มารับตัวไป โดยให้เราไปเปลี่ยนเตียงที่หน้าห้องคลอด(คือห้องที่เราแอดมิทอยู่เมื่อคืน) โดยการกระดึ้บๆสไลด์ตัวไปอีกเตียงนึง จากนั้นก็ทำการเข็นลงลิฟต์ไปยังห้องผ่าตัด ซึ่งพิมจำไม่ได้แล้วว่าชั้นไหน - -
พอถึงห้องผ่าตัดก็มีการซักถามชื่อเพื่อความชัวร์ มีการโชว์ป้ายให้ดูเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของชื่อ โดยป้ายนี้จะมี 2 แบบ แบบแรกจะเอาไว้ผูกบริเวณข้อเท้าของน้อง จะเป็นผ้าสีขาวๆเขียนชื่อด้วยลายมือสีน้ำเงิน แบบที่ 2 จะเป็นแบบป้ายติด โดยสีฟ้าสำหรับเด็กผู้ชาย สีชมพูสำหรับเด็กผู้หญิง เมื่อเรียบร้อยก็ทำการนอนรอหน้าห้องผ่า ระหว่างนั้นพิมรู้สึกพะอืดพะอม คลื่นไส้เหมือนหิวข้าวมากๆ พยาบาลเลยเอายาดมมาให้ แบบพิมเสนน้ำ ป้ายที่นิ้วแล้วดมเอา อีกรอบนึงพยาบาลก็เอาคล้ายๆสมุนไพรดมๆในขวดมาให้ดมกลิ่นหอมๆเย็นๆสดชื่นดี การผ่าของพิมต้องรอนานหน่อยเพราะมีผ่าฉุกเฉินเข้ามากระทันหัน พิมก็เลยต้องขอยาดมเป็นระยะๆ พยาบาลวอร์ดนี้น่ารักมาก กลัวว่าพิมจะรอนาน จะเบื่อ ก็พยายามชวนคุย เข้ามาสนใจเป็นพักๆ และยิ้มแย้มแจ่มใสดี ดูสดชื่นขึ้น ทำให้พิมลดความกังวลในการขึ้นเขียงลงได้นิดนึง >_<
จากนั้นพยาบาลแจ้งว่าเราได้คิวแล้ว พร้อมสำหรับการขึ้นเขียง! ตอนเข้าไปยังห้องผ่าตัด พิมได้ยินเสียงวิทยุดังบอกว่า ขณะนี้เวลา 13 นาฬิกา 59 นาที 50 วินาที พอดี มองดูรอบๆห้องผ่าตัด ไฟสว่างแบบ 7-11 มีหมอและนางพยาบาลเยอะมากๆ น่าจะเกิน 10 คน พิมแจ้งว่ามีอาการคลื่นไส้แบบเหมือนจะหิว หมอเลยเอายาดมมาให้ ไม่แน่ใจว่าเป็นยาอะไรแต่คล้ายๆพวกแอกอฮอล์คือถ้าดมใกล้ไปก็จะแสบจมูก แต่ถ้าดมในระยะพอดีจะหอมๆเย็นๆคล้ายๆกลิ่นส้มแบบก็ไม่เชิง
หมอให้พิมนอนงอตัวให้มากที่สุดเพื่อจะได้เห็นกระดูกสันหลังชัดๆ พิมบอกว่าให้หมอช่วยจับไว้ด้วยนะ เผื่อโดนเข็มแล้วพิมสะดุ้ง เพราะพิมไม่แน่ใจว่ามันเจ็บแค่ไหน หมอหัวเราะและบอกว่าได้ๆ จากนั้นหมอก็ทำการฉีดยาชาเข้ามายังไขสันหลัง ซึ่งรู้สึกเจ็บจี๊ด เจ็บเหมือนเวลาเราบีบสิว คือเจ็บไม่มาก พอทนไหว ถ้าเทียบกับการเจาะเลือดหรือเก็บตัวอย่างเลือดแล้วเบากว่ากันมากๆ พิมก็แจ้งหมอไปว่าตอนนี้พิมยังรู้สึกตัวอยู่นะ อย่าเพิ่งลงมีดน้าาา T-T หมอขำและบอกว่าก็แหง เค้าเพิ่งจะลงยาชายังไม่ทันบล็อคหลัง - -* แล้วก็คุยกันว่าคนไข้ไม่ชาอะ มันไม่เข้า ไขสันหลังเล็กไป ให้พิมพยายามงอตัวให้มากขึ้น ซึ่งพิมก็งอจนสุดแล้ว แอบกลัวเฟรย่าจะหายใจไม่ออกด้วยซ้ำเพราะงอตัวนานมาก หมอก็พยายามฉีดใหม่เรื่อยๆแต่ก็ไม่เข้า นับเล่นๆก็ประมาณ 7 เข็มได้ แอบกลัวนิดๆว่าถ้ายาชาไม่เข้า บล็อคหลังไม่ได้ทำไงดีวะเนี่ย จนอาจารย์หมอเข้ามาดูและเข้ามาช่วยพอดี ทำให้การฉีดยาชาและบล็อคหลังผ่านไปได้ด้วยดี..เฮ้อ..จากนั้นพิมก็ลองยกขาดู ซึ่งไม่ได้(ดีแล้ว) เข้าใจความรู้สึกแบบเป็นอมพาตอะไรแบบนี้เลย พิมแอบคิดนิดๆว่าเอ๊ะ นี่พิมสั่งให้ตัวเองยกขาแล้วรึยังวะ หรือแค่คิดในใจเฉยๆ - - เอ๊ะ แต่ช่างเหอะ
จากนั้นหมอจะเอาผ้ามาปิดตาเพื่อการฉากสีเขียวๆกลมๆใหญ่ๆคล้ายๆที่บังแดดในรถตรงกระจกด้านหน้า เพื่อไม่ให้เราเห็น และพิมก็ไม่ได้อยากเห็นด้วย 555 ระหว่างผ่าหมอก็คุยโน่นคุยนี่กับพยาบาลไป ส่วนพิมรู้สึกหิวๆคลื่นไส้ เลยเผลองีบ ตื่นขึ้นมาก็หันไปถามพยาบาลว่า ผ่ารึยัง? เพราะพิมไม่เห็นรู้สึกเลย พยาบาลขำแล้วบอกว่าผ่าแล้วค่ะ พูดยังไม่ทันไรได้ยินเสียงเด็กร้องเบา แง้ แง้ แล้วก็เงียบไปสักพัก พยาบาลบอกว่าได้น้องมาแล้วกำลังทำความสะอาดอยู่เดี๋ยวเอามาให้คุณแม่ดูแป้บนึงนะคะ หลังจากนั้นก็เอาตัวเล็กมาให้ เป็นผู้หญิงจริงๆด้วย 555 ตัวแดงเชียว แต่พยาบาลทำความสะอาดดีมาก พิมเคยอ่านในหนังสือมาเค้าบอกว่าบางทีจะมีไขติดตามตัวแล้วต้องใช้ออยทาถึงจะหาย มันจะติดแบบเป็นสะเก็ดๆแต่นี่ไม่มีเลย คราบเลือดก็ไม่มี ใสสะอาดปิ๊ง พยาบาลเอามาให้ผลัดกันจุ๊บ จากนั้นก็เอาตัวเล็กไปเก็บ ส่วนพิมนอนรอทำแผลไป
พยาบาลบอกว่าเกิดเวลาดีมากเลยค่ะ 14.xx น.(ขอเซ็นเซอร์เวลานิดนึงนะคะ) นี่แอบเตี๊ยมกับหมอรึเปล่าคะเนี่ย พิมเลยบอกป่าวค่ะ 555 พิมแค่อยากได้วันนี้เฉยๆ หมอผ่าเลยแซวบอก ใช่ คุณแม่รัดคอหมอมากเลย โทรฯมาจะบอกผ่าวันที่ 4 แหน่ะ แล้วพิมก็บอกว่า พิมกลัวเวลาเย็บเราจะรู้สึกฉึกๆเหมือนแบบ..เย็บผ้า พิมเลยกะจะขอยาสลบ ให้หลับไปเลยได้ไหม๊เพราะเดี๋ยวต้องไปห้องพักฟื้น มันน่าเบื่อ นอนเฉยๆ แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันจะขอเลย หมอเย็บไปจนจะเสร็จละ จากนั้นหมอดมยาก็เอายามาฉีดใส่ไซริงให้ พวกยาแก้อาการปวด แก้อาการอักเสบ ซึ่งพอเข้าเส้นเลือดละแสบมากก -..- พอเย็บเสร็จเรียบร้อย หมอแอบแซว เป็นไงหละ มีอาการฉึกๆไหม๊? พิมเลยบอก 555 ไม่มีๆ หมอเลยบอกว่า เห็นมะ หมอบอกแล้ววว นี่เย็บเสร็จแล้วนะ ลองจับดูมะ แล้วเอามือพิมไปใกล้ๆแผล พิมเกร็งแล้วบอกไม่เอาาาา อย่าแกล้งหนู..... จากนั้นก็ทำการย้ายไปยังห้องพักฟื้นโดยไม่มีการให้ยาสลบเพราะทุกคนลืมกันหมด 5555
ในห้องพักฟื้น จำไม่ได้ว่ากี่โมง แต่ตอนเข็นเข้ามามีพิมนอนอยู่เตียงกลาง เตียงข้างซ้ายกับขวากำลังห่มผ้าห่มไฟฟ้ากันอยู่ ส่วนเตียงฝั่งตรงข้ามเพิ่งเข็นออกไป ระหว่างอยู่ในห้องพักฟื้นมีรู้สึกร้อน ร้อนแบบเหงื่อจะแตกแต่ก็ยังไม่แตก แค่ร้อนแบบไม่อยากจะห่มผ้า ส่วนขาก็เริ่มขยับได้ข้างซ้ายอย่างเดียว และขยับได้แค่เท้าเท่านั้น แบบกระดิกๆยกไม่ได้ แล้วก็มีอาการคันทั่วทั้งหน้า เห็นพยาบาลบอกว่าพิมเกาจนหน้าแดงหมดเลย พยาบาลเลยให้ยาแก้คันผ่านทางไซริง และรอจนถึง 16.30 น. เพื่อดูอาการ แต่พิมขอต่อรองว่า 16.00 น.ได้ไหม๊ เบื่อแล้ว -..- พยาบาลบอก 16.15 น. ....โอเค เดล
พอ 16.15 น. พิมก็ได้ออกจากห้องพักฟื้นและออกจากห้องผ่าตัดเพื่อย้ายไปยังห้องพัก พอประตูห้องผ่าตัดเปิดออกพยาบาลก็เรียกญาติให้มาพบ สามีเดินมาหาพิมแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพักด้วยกัน(พร้อมเจ้าหน้าที่นะ ไม่ใช่ 2ต่อ2 555)
พอถึงห้องพักก็ทำการย้ายเตียงกันอีกรอบ รอบนี้เนื่องจากเราขยับตัวไม่ได้ พยาบาลและบุรุษพยาบาลจึงมาช่วยขนย้ายเราแทน จากนั้นก็ทำการงดอาหารพิมต่อจนถึงวันพรุ่งนี้ ส่วนเฟรย่าเค้าจะเลี้ยงให้เราก่อน เพราะพิมยังไม่แข็งแรง กลัวว่าจะกวน แต่โชคร้ายอย่างนึงคือที่พิมนอนเป็นห้องพิเศษ 2 เตียง และห้องข้างๆเค้ามีเด็ก(ทารก) และร้องทั้งคืน พิมก็เลยไม่ได้นอน =__=
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวคลอดลูกนะคะ ^^
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://diaryformyfreya.blogspot.com/p/blog-page_8.html
แชร์ประสบการณ์ผ่าคลอดน้องเฟรย่า :)
ประมาณบ่ายโมงวันนี้เป็นวันก่อนผ่าคลอด 1 วันค่ะ พิมต้องไปนอนสแตนบายที่รพ.ก่อน เมื่อไปถึงคุณหมอเวรที่นั่นก็ทำการซักถามประวัติคร่าวๆ ติดเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก และตรวจภายใน ซึ่ง...เจ็บมากก - - หมอบอก 2. 80 แล้วเดินจากไปเพื่อไปบันทึกแล้วเดินกลับมาคุยกับเราต่อ “ตอนนี้ปากมดลูกเปิด 2 ซม.แล้วนะคะ ความนุ่มของปากมดลูกอยู่ที่ 80% ตอนนี้โทรฯแจ้งคุณหมอ(ที่เราฝากพิเศษด้วย) แล้ว ตอนนี้ก็ให้คนไข้นอนรอไปก่อน ถ้ามีอาการเจ็บมากขึ้น น้ำเดิน หรือมีมูกเลือดให้แจ้งพยาบาล ถ้าหากว่ามีการคลอดวันนี้ทางคุณหมอ(ที่ฝากครรภ์)ก็จะให้ทำการคลอดธรรมชาติ ถ้าหากพรุ่งนี้ยังไม่คลอดก็จะผ่าแทน แล้วก็ได้คิวผ่าคลอดของวันพรุ่งนี้แล้วนะคะ คิวสุดท้าย” จากนั้นพยยาบาลก็ทำการโกนขนให้และปล่อยให้พิมนอน(เล่น)ไป
ซักพักพิมลุกไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่ามีเลือดไหลออกมาปนกับปัสสาวะ เลยกดเรียกพยาบาล ซึ่งเค้าบอกว่า เป็นเพราะตรวจภายในมาเลยมีเลือดออกในช่องคลอด พิมเลยถามว่าอ้าว งั้นก็ไม่ใช่มูกเลือดใช่ไหม๊ เค้าตอบว่าใช่ และมันดูเหมือนจะไหลปนมากับปัสสาวะนานขึ้น บ่าย3ก็ยังไม่หาย ทั้งที่ถ้าเลือดออกมันควรจะหายแล้ว(รึเปล่า?) ก็เลยเรียกพยาบาลอีกที คราวนี้พยาบาลเลยเอาผ้าอนามัยแบบห่วงมาสวมให้เพื่อดูว่าเลือดไหลปริมาณแค่ไหนแล้ว
พอซักพัก หมอวิสัญญี ก็เข้ามาคุยกับพิมเรื่องการบล็อคหลังว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง โดยการบล็อคหลังจะให้คุณแม่-งอตัวให้อยู่ในท่าเหมือนกุ้งสุก จากนั้นจะทำการฉีดยาชา และต่อด้วยยาบล็อคหลัง คุณแม่จะไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ลิ้นปี่ลงไปจนถึงเท้า และจะรู้สึกว่าขยับเท้าไม่ได้ ซึ่งไม่ต้องพยายาม เวลามีคนจับหรือมีการผ่าเราจะรู้สึก แต่จะรู้สึกเหมือนของไม่มีคมมาถูที่ท้องมากกว่า ให้คุณแม่ทำใจไว้ก่อนเลย และผลจากการบล็อคหลังอาจจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ให้เรียกพยาบาลได้ ส่วนคิวผ่าคิดว่าน่าจะได้ตอนเที่ยงๆบ่ายๆ เพราะห้องผ่าตัดเปิดตอน 9 โมง มีทั้งหมด 5 คิวเราเป็นคิวที่ 6 จากนั้นพิมก็ถามเรื่องการใส่สายปัสสาวะ ว่ามันเจ็บไหม๊ ซึ่งหมอวิสัญญีบอกว่า เจ็บนะเท่าที่เคยฟังๆมา พิมเลยถามว่าถ้างั้นขอใส่สายหลังจากบล็อคหลังได้ไหม๊ หมอบอกว่าได้ แต่อาจจะเสียเวลาหน่อย แต่โอเคเดี๋ยวหมอทำให้ และหมอจะให้ยาลดกรดไปทานระหว่างนั้นด้วย เป็นอันว่าเข้าใจ จากนั้นหมอวิสัญญีก็ไป ส่วนพิมก็นอนต่อ
พอถึงเวลาอาหารเย็น พยาบาลเข้ามาแจ้งว่า หลังจากเที่ยงคืนแล้ว ห้ามกินอะไรใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือขนม เพราะเราจะทำการผ่าตัดพรุ่งนี้ พิมเลยกินข้าวรพ.จนหมด กินขนมจนเกลี้ยง xD กลัวจะไม่ได้กินและหิวตอนดึกๆ จากนั้นก็นอนหลับเตรียมตัวสำหรับการขึ้นเขียงวันพรุ่งนี้
เช้าวันที่ 9 ประมาณตี 5 พยาบาลปลุกพิมขึ้นมาพร้อมกับถือขวดคล้ายๆน้ำยาย้อมผมที่เราใช้ผสมครีมแล้วเขย่าๆเอามาบีบใส่ผมเพื่อเปลี่ยนสี พิมแอบงงนิดๆว่าเค้าจะเอามาใส่อะไรหว่า แต่งงได้ไม่นาน พยาบาลบอกให้นอนตะแคงข้าง จากนั้นก็พยาบาลก็ใช้เจ้านี่แหละ สวนก้น! ความรู้สึกจุกและแปลกๆนิดๆ พยาบาลบอกว่าถ้ารู้สึกปวดก็ให้ไปเข้าห้องน้ำได้เลยและทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีชมพู (ชุดเดิมใส่สีเขียวแก่)
เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อย พิมก็กลับมานอนเอาแรงซักหน่อย ประมาณซัก 10 โมง พยาบาลเข้ามาและแจ้งว่าจะทำการใส่สายสวนปัสสาวะ พิมก็เลยตอบว่า ไม่ๆเดี๋ยวพิมไปทำที่ห้องผ่า พิมคุยกับหมอดมยาแล้ว พยาบาลก็งงๆแต่ก็โอเค และพิมก็ถามพยาบาลต่อว่าพิมจะได้ผ่ากี่โมงเหรอ? พยาบาลบอกว่าวันนี้เหลือคิวผ่า 3 คิว พิมเป็นคิวที่ 4 จากนั้นก็ทำการเก็บตัวอย่างเลือดและใส่สายน้ำเกลือ
ซักประมาณ 11 โมงกว่า คนไข้เริ่มเยอะ จึงมีการขนย้ายคนไข้ที่สบายดีแบบพิมไปยังห้องรวมที่คล้ายๆห้องรอคิวสำหรับคนไข้ที่กำลังรอห้องว่าง (ห้องรอคลอดแบบพิเศษจะเป็นห้องเดี่ยว) เพราะพิมเหลือแค่ขั้นตอนรอให้ทางแผนกผ่าตัดมารับตัวไป ระหว่างนั้นก็มีพยาบาลคอยเข้ามาถามเรื่องจะสวนสายปัสสาวะเรื่อยๆ ซึ่งพิมปฏิเสธทุกครั้ง แต่พยาบาลคนนึงมาแจ้งว่ามันเป็นกฏของรพ. ต้องใส่สายตั้งแต่ตรงนี้เลย ก่อนเข้าห้องผ่าเพื่อความรวดเร็ว พิมก็เลยบอกว่าโอเค งั้นไม่เป็นไร การสวนสายปัสสาวะจะรู้สึกเจ็บแบบจี๊ดขึ้นมาและจะรู้สึกระคายเคือง รู้สึกเหมือนปวดปัสสาวะตลอดเวลา พยาบาลบอกว่าไม่ต้องพยายามเบ่งแค่ปล่อยไว้เฉยๆ
พอเที่ยง ทางแผนกห้องผ่าตัดก็มารับตัวไป โดยให้เราไปเปลี่ยนเตียงที่หน้าห้องคลอด(คือห้องที่เราแอดมิทอยู่เมื่อคืน) โดยการกระดึ้บๆสไลด์ตัวไปอีกเตียงนึง จากนั้นก็ทำการเข็นลงลิฟต์ไปยังห้องผ่าตัด ซึ่งพิมจำไม่ได้แล้วว่าชั้นไหน - -
พอถึงห้องผ่าตัดก็มีการซักถามชื่อเพื่อความชัวร์ มีการโชว์ป้ายให้ดูเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของชื่อ โดยป้ายนี้จะมี 2 แบบ แบบแรกจะเอาไว้ผูกบริเวณข้อเท้าของน้อง จะเป็นผ้าสีขาวๆเขียนชื่อด้วยลายมือสีน้ำเงิน แบบที่ 2 จะเป็นแบบป้ายติด โดยสีฟ้าสำหรับเด็กผู้ชาย สีชมพูสำหรับเด็กผู้หญิง เมื่อเรียบร้อยก็ทำการนอนรอหน้าห้องผ่า ระหว่างนั้นพิมรู้สึกพะอืดพะอม คลื่นไส้เหมือนหิวข้าวมากๆ พยาบาลเลยเอายาดมมาให้ แบบพิมเสนน้ำ ป้ายที่นิ้วแล้วดมเอา อีกรอบนึงพยาบาลก็เอาคล้ายๆสมุนไพรดมๆในขวดมาให้ดมกลิ่นหอมๆเย็นๆสดชื่นดี การผ่าของพิมต้องรอนานหน่อยเพราะมีผ่าฉุกเฉินเข้ามากระทันหัน พิมก็เลยต้องขอยาดมเป็นระยะๆ พยาบาลวอร์ดนี้น่ารักมาก กลัวว่าพิมจะรอนาน จะเบื่อ ก็พยายามชวนคุย เข้ามาสนใจเป็นพักๆ และยิ้มแย้มแจ่มใสดี ดูสดชื่นขึ้น ทำให้พิมลดความกังวลในการขึ้นเขียงลงได้นิดนึง >_<
จากนั้นพยาบาลแจ้งว่าเราได้คิวแล้ว พร้อมสำหรับการขึ้นเขียง! ตอนเข้าไปยังห้องผ่าตัด พิมได้ยินเสียงวิทยุดังบอกว่า ขณะนี้เวลา 13 นาฬิกา 59 นาที 50 วินาที พอดี มองดูรอบๆห้องผ่าตัด ไฟสว่างแบบ 7-11 มีหมอและนางพยาบาลเยอะมากๆ น่าจะเกิน 10 คน พิมแจ้งว่ามีอาการคลื่นไส้แบบเหมือนจะหิว หมอเลยเอายาดมมาให้ ไม่แน่ใจว่าเป็นยาอะไรแต่คล้ายๆพวกแอกอฮอล์คือถ้าดมใกล้ไปก็จะแสบจมูก แต่ถ้าดมในระยะพอดีจะหอมๆเย็นๆคล้ายๆกลิ่นส้มแบบก็ไม่เชิง
หมอให้พิมนอนงอตัวให้มากที่สุดเพื่อจะได้เห็นกระดูกสันหลังชัดๆ พิมบอกว่าให้หมอช่วยจับไว้ด้วยนะ เผื่อโดนเข็มแล้วพิมสะดุ้ง เพราะพิมไม่แน่ใจว่ามันเจ็บแค่ไหน หมอหัวเราะและบอกว่าได้ๆ จากนั้นหมอก็ทำการฉีดยาชาเข้ามายังไขสันหลัง ซึ่งรู้สึกเจ็บจี๊ด เจ็บเหมือนเวลาเราบีบสิว คือเจ็บไม่มาก พอทนไหว ถ้าเทียบกับการเจาะเลือดหรือเก็บตัวอย่างเลือดแล้วเบากว่ากันมากๆ พิมก็แจ้งหมอไปว่าตอนนี้พิมยังรู้สึกตัวอยู่นะ อย่าเพิ่งลงมีดน้าาา T-T หมอขำและบอกว่าก็แหง เค้าเพิ่งจะลงยาชายังไม่ทันบล็อคหลัง - -* แล้วก็คุยกันว่าคนไข้ไม่ชาอะ มันไม่เข้า ไขสันหลังเล็กไป ให้พิมพยายามงอตัวให้มากขึ้น ซึ่งพิมก็งอจนสุดแล้ว แอบกลัวเฟรย่าจะหายใจไม่ออกด้วยซ้ำเพราะงอตัวนานมาก หมอก็พยายามฉีดใหม่เรื่อยๆแต่ก็ไม่เข้า นับเล่นๆก็ประมาณ 7 เข็มได้ แอบกลัวนิดๆว่าถ้ายาชาไม่เข้า บล็อคหลังไม่ได้ทำไงดีวะเนี่ย จนอาจารย์หมอเข้ามาดูและเข้ามาช่วยพอดี ทำให้การฉีดยาชาและบล็อคหลังผ่านไปได้ด้วยดี..เฮ้อ..จากนั้นพิมก็ลองยกขาดู ซึ่งไม่ได้(ดีแล้ว) เข้าใจความรู้สึกแบบเป็นอมพาตอะไรแบบนี้เลย พิมแอบคิดนิดๆว่าเอ๊ะ นี่พิมสั่งให้ตัวเองยกขาแล้วรึยังวะ หรือแค่คิดในใจเฉยๆ - - เอ๊ะ แต่ช่างเหอะ
จากนั้นหมอจะเอาผ้ามาปิดตาเพื่อการฉากสีเขียวๆกลมๆใหญ่ๆคล้ายๆที่บังแดดในรถตรงกระจกด้านหน้า เพื่อไม่ให้เราเห็น และพิมก็ไม่ได้อยากเห็นด้วย 555 ระหว่างผ่าหมอก็คุยโน่นคุยนี่กับพยาบาลไป ส่วนพิมรู้สึกหิวๆคลื่นไส้ เลยเผลองีบ ตื่นขึ้นมาก็หันไปถามพยาบาลว่า ผ่ารึยัง? เพราะพิมไม่เห็นรู้สึกเลย พยาบาลขำแล้วบอกว่าผ่าแล้วค่ะ พูดยังไม่ทันไรได้ยินเสียงเด็กร้องเบา แง้ แง้ แล้วก็เงียบไปสักพัก พยาบาลบอกว่าได้น้องมาแล้วกำลังทำความสะอาดอยู่เดี๋ยวเอามาให้คุณแม่ดูแป้บนึงนะคะ หลังจากนั้นก็เอาตัวเล็กมาให้ เป็นผู้หญิงจริงๆด้วย 555 ตัวแดงเชียว แต่พยาบาลทำความสะอาดดีมาก พิมเคยอ่านในหนังสือมาเค้าบอกว่าบางทีจะมีไขติดตามตัวแล้วต้องใช้ออยทาถึงจะหาย มันจะติดแบบเป็นสะเก็ดๆแต่นี่ไม่มีเลย คราบเลือดก็ไม่มี ใสสะอาดปิ๊ง พยาบาลเอามาให้ผลัดกันจุ๊บ จากนั้นก็เอาตัวเล็กไปเก็บ ส่วนพิมนอนรอทำแผลไป
พยาบาลบอกว่าเกิดเวลาดีมากเลยค่ะ 14.xx น.(ขอเซ็นเซอร์เวลานิดนึงนะคะ) นี่แอบเตี๊ยมกับหมอรึเปล่าคะเนี่ย พิมเลยบอกป่าวค่ะ 555 พิมแค่อยากได้วันนี้เฉยๆ หมอผ่าเลยแซวบอก ใช่ คุณแม่รัดคอหมอมากเลย โทรฯมาจะบอกผ่าวันที่ 4 แหน่ะ แล้วพิมก็บอกว่า พิมกลัวเวลาเย็บเราจะรู้สึกฉึกๆเหมือนแบบ..เย็บผ้า พิมเลยกะจะขอยาสลบ ให้หลับไปเลยได้ไหม๊เพราะเดี๋ยวต้องไปห้องพักฟื้น มันน่าเบื่อ นอนเฉยๆ แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันจะขอเลย หมอเย็บไปจนจะเสร็จละ จากนั้นหมอดมยาก็เอายามาฉีดใส่ไซริงให้ พวกยาแก้อาการปวด แก้อาการอักเสบ ซึ่งพอเข้าเส้นเลือดละแสบมากก -..- พอเย็บเสร็จเรียบร้อย หมอแอบแซว เป็นไงหละ มีอาการฉึกๆไหม๊? พิมเลยบอก 555 ไม่มีๆ หมอเลยบอกว่า เห็นมะ หมอบอกแล้ววว นี่เย็บเสร็จแล้วนะ ลองจับดูมะ แล้วเอามือพิมไปใกล้ๆแผล พิมเกร็งแล้วบอกไม่เอาาาา อย่าแกล้งหนู..... จากนั้นก็ทำการย้ายไปยังห้องพักฟื้นโดยไม่มีการให้ยาสลบเพราะทุกคนลืมกันหมด 5555
ในห้องพักฟื้น จำไม่ได้ว่ากี่โมง แต่ตอนเข็นเข้ามามีพิมนอนอยู่เตียงกลาง เตียงข้างซ้ายกับขวากำลังห่มผ้าห่มไฟฟ้ากันอยู่ ส่วนเตียงฝั่งตรงข้ามเพิ่งเข็นออกไป ระหว่างอยู่ในห้องพักฟื้นมีรู้สึกร้อน ร้อนแบบเหงื่อจะแตกแต่ก็ยังไม่แตก แค่ร้อนแบบไม่อยากจะห่มผ้า ส่วนขาก็เริ่มขยับได้ข้างซ้ายอย่างเดียว และขยับได้แค่เท้าเท่านั้น แบบกระดิกๆยกไม่ได้ แล้วก็มีอาการคันทั่วทั้งหน้า เห็นพยาบาลบอกว่าพิมเกาจนหน้าแดงหมดเลย พยาบาลเลยให้ยาแก้คันผ่านทางไซริง และรอจนถึง 16.30 น. เพื่อดูอาการ แต่พิมขอต่อรองว่า 16.00 น.ได้ไหม๊ เบื่อแล้ว -..- พยาบาลบอก 16.15 น. ....โอเค เดล
พอ 16.15 น. พิมก็ได้ออกจากห้องพักฟื้นและออกจากห้องผ่าตัดเพื่อย้ายไปยังห้องพัก พอประตูห้องผ่าตัดเปิดออกพยาบาลก็เรียกญาติให้มาพบ สามีเดินมาหาพิมแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพักด้วยกัน(พร้อมเจ้าหน้าที่นะ ไม่ใช่ 2ต่อ2 555)
พอถึงห้องพักก็ทำการย้ายเตียงกันอีกรอบ รอบนี้เนื่องจากเราขยับตัวไม่ได้ พยาบาลและบุรุษพยาบาลจึงมาช่วยขนย้ายเราแทน จากนั้นก็ทำการงดอาหารพิมต่อจนถึงวันพรุ่งนี้ ส่วนเฟรย่าเค้าจะเลี้ยงให้เราก่อน เพราะพิมยังไม่แข็งแรง กลัวว่าจะกวน แต่โชคร้ายอย่างนึงคือที่พิมนอนเป็นห้องพิเศษ 2 เตียง และห้องข้างๆเค้ามีเด็ก(ทารก) และร้องทั้งคืน พิมก็เลยไม่ได้นอน =__=
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวคลอดลูกนะคะ ^^
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้