คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
บุคคลหาได้ยากในโลกนี้ มี 2 แบบ
๑.บุพการีเป็นผู้มีอุปการะคุณ
๒.เป็นผู้รู้จักกตัญญู ตอบแทนบุญคุณ
บุญอุทิศให้ผู้ตายทำได้หลายวิธี
๑.เจริญสติทำสมาธิ แล้วแผ่เมตตา โดยอุทิศผลบุญที่เกิดจากสมาธิ (จิตเป็นหนึ่งเสวยอารมณ์กุศลธรรม) ให้น้อมใจอธิษฐานผลบุญนี้ ให้...((เอ่ยชื่อ นามสกุล พร้อมกับนึกให้เห็นหน้า รูปร่างของผู้ตาย) ที่ล่วงลับดับขันธ์ไปแล้วนั้น ถ้าหากว่า...(ชื่อผู้ตาย)....ยังไม่ทราบข่าวสารนี้ ข้าพเจ้า ขอมอบข่าวสารนี้แด่เทพเจ้าทั้งหลาย มีรุกขเทวดา ภุมมะเทวดา และอากาศเทวดา เป็นต้น จงนำข่าวสารนี้ไปแจ้งแก่ ( ชื่อผู้ตาย) จนกว่าจะได้รับทราบ เมื่อทราบแล้ว ขอได้โปรดมาอนุโมทนา เมื่ออนุโมทนาแล้ว หากตกทุกข์ได้ยาก ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ เมื่อมีความสุขแล้วก็ขอให้มีความสุขยิ่งๆขึ้นไปเทอญ
หมายเหตุ บุญจากสมาธินี้ เป็นบุญสูงสุดในพุทธศาสนา และวิธีแผ่เมตตานี้ เทพเจ้าเทวดา เปรียบเสมือนบุรุษไปรษณีย์ จะรู้ว่าจิตผู้ตายอยู่ที่ไหน
ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย ผ่าน พระสงฆ์ที่มีศีลสมบูรณ์ เช่น
๒.ทำบุญถวายพระพุทธรูป พร้อมด้วยสังฆทานอื่นๆ พระ ๔ รูปครบองค์สงฆ์
๓.ทำบุญใส่บาตร เวลาเช้า
๔.ทำบุญถวายอาหารพระ โดยไปที่วัด หรือ นิมนต์มาที่บ้าน
ทั้งสังฆทานและ/หรือ อาหารที่จะถวายให้พระฉัน พระภิกษุต้องศีลสมบูรณ์ อาหารต้องบริสุทธิ์ คือ
๑.เงินที่ไปซื้อของต้องบริสุทธิ์ ไม่ใช่เงินที่ไปคดโกงมา
๒.สิ่งของบริสุทธิ์ ไม่ไปจี้ปล้นมา
๓.ถ้าเป็นอาหารคาว เช่น เนื้อ ปลา ต้องไม่ฆ่าเองหรือสั่งให้ฆ่า ให้ซื้อสำเร็จรูปที่ทำเสร็จแล้ว
๔.เวลากล่าวคำถวายทาน (ก่อนให้พระฉัน) ต้องเอ่ยชื่อ นามสกุล ให้ถูกต้อง แล้วกล่าวคำอธิษฐานเหมือนในข้อ ๑. บรรทัดบนสุด
แค่นี้ อานิสงส์บุญ ที่ท่าน จขกท. ทำจะไม่ตกหล่นไปไหน ผู้ตายได้รับแน่นอน
ถามว่า ทำได้บ่อยแค่ไหน
ตอบ การทำบุญอะไรก็แล้วแต่ ต้องเจตนาถึงพร้อม ๓ ประการ คือ ๑.ก่อนทำมีจิตแน่วแน่ ๒.ขณะทำ (ระหว่างพิธีถวายอาหารจนถึงพระกล่าวสัมโนยกถา) ๓.หลังทำ นึกถึงทีไร ก็ยังอิ่มใจทุกครั้ง ไม่นึกเสียดาย ถ้าเสียดายอานิสงส์หล่นฮวบทันที
ขอให้ทุกท่าน มีความสุขกับการทำบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ หรือ ไม่ล่วงลับ
หมายเหตุ การทำบุญ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ตายอย่างเดียว คนเป็นก็ได้รับ ผมอธิษฐานบุญให้พ่อแม่ ญาติ ที่มีชีวิตอยู่ทุกครั้งที่มีโอกาส
๑.บุพการีเป็นผู้มีอุปการะคุณ
๒.เป็นผู้รู้จักกตัญญู ตอบแทนบุญคุณ
บุญอุทิศให้ผู้ตายทำได้หลายวิธี
๑.เจริญสติทำสมาธิ แล้วแผ่เมตตา โดยอุทิศผลบุญที่เกิดจากสมาธิ (จิตเป็นหนึ่งเสวยอารมณ์กุศลธรรม) ให้น้อมใจอธิษฐานผลบุญนี้ ให้...((เอ่ยชื่อ นามสกุล พร้อมกับนึกให้เห็นหน้า รูปร่างของผู้ตาย) ที่ล่วงลับดับขันธ์ไปแล้วนั้น ถ้าหากว่า...(ชื่อผู้ตาย)....ยังไม่ทราบข่าวสารนี้ ข้าพเจ้า ขอมอบข่าวสารนี้แด่เทพเจ้าทั้งหลาย มีรุกขเทวดา ภุมมะเทวดา และอากาศเทวดา เป็นต้น จงนำข่าวสารนี้ไปแจ้งแก่ ( ชื่อผู้ตาย) จนกว่าจะได้รับทราบ เมื่อทราบแล้ว ขอได้โปรดมาอนุโมทนา เมื่ออนุโมทนาแล้ว หากตกทุกข์ได้ยาก ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ เมื่อมีความสุขแล้วก็ขอให้มีความสุขยิ่งๆขึ้นไปเทอญ
หมายเหตุ บุญจากสมาธินี้ เป็นบุญสูงสุดในพุทธศาสนา และวิธีแผ่เมตตานี้ เทพเจ้าเทวดา เปรียบเสมือนบุรุษไปรษณีย์ จะรู้ว่าจิตผู้ตายอยู่ที่ไหน
ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย ผ่าน พระสงฆ์ที่มีศีลสมบูรณ์ เช่น
๒.ทำบุญถวายพระพุทธรูป พร้อมด้วยสังฆทานอื่นๆ พระ ๔ รูปครบองค์สงฆ์
๓.ทำบุญใส่บาตร เวลาเช้า
๔.ทำบุญถวายอาหารพระ โดยไปที่วัด หรือ นิมนต์มาที่บ้าน
ทั้งสังฆทานและ/หรือ อาหารที่จะถวายให้พระฉัน พระภิกษุต้องศีลสมบูรณ์ อาหารต้องบริสุทธิ์ คือ
๑.เงินที่ไปซื้อของต้องบริสุทธิ์ ไม่ใช่เงินที่ไปคดโกงมา
๒.สิ่งของบริสุทธิ์ ไม่ไปจี้ปล้นมา
๓.ถ้าเป็นอาหารคาว เช่น เนื้อ ปลา ต้องไม่ฆ่าเองหรือสั่งให้ฆ่า ให้ซื้อสำเร็จรูปที่ทำเสร็จแล้ว
๔.เวลากล่าวคำถวายทาน (ก่อนให้พระฉัน) ต้องเอ่ยชื่อ นามสกุล ให้ถูกต้อง แล้วกล่าวคำอธิษฐานเหมือนในข้อ ๑. บรรทัดบนสุด
แค่นี้ อานิสงส์บุญ ที่ท่าน จขกท. ทำจะไม่ตกหล่นไปไหน ผู้ตายได้รับแน่นอน
ถามว่า ทำได้บ่อยแค่ไหน
ตอบ การทำบุญอะไรก็แล้วแต่ ต้องเจตนาถึงพร้อม ๓ ประการ คือ ๑.ก่อนทำมีจิตแน่วแน่ ๒.ขณะทำ (ระหว่างพิธีถวายอาหารจนถึงพระกล่าวสัมโนยกถา) ๓.หลังทำ นึกถึงทีไร ก็ยังอิ่มใจทุกครั้ง ไม่นึกเสียดาย ถ้าเสียดายอานิสงส์หล่นฮวบทันที
ขอให้ทุกท่าน มีความสุขกับการทำบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ หรือ ไม่ล่วงลับ
หมายเหตุ การทำบุญ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ตายอย่างเดียว คนเป็นก็ได้รับ ผมอธิษฐานบุญให้พ่อแม่ ญาติ ที่มีชีวิตอยู่ทุกครั้งที่มีโอกาส
แสดงความคิดเห็น
ทำบุญให้คนตายก่อนอายุขัย