ละครพาไป:ตอนหนังตะลุง
ทั่วโลกานารีมีเพียงหนึ่ง
ผู้ที่ตรึงในรักไม่ผลักไส
แผ่แผ่นอกกกกอดตลอดไป
น้ำใจที่ทัดเที่ยงไม่เกี่ยงงอน
โลกนิยมสมญานามเรียกกันว่าแม่
ผู้รักแท้บริสุทธิ์อนุสรณ์
คำแตกต่างปากการเรียกมารดร
แต่สุนทรถ้อยเกี่ยวอันเดียวกัน
จากตะลุงภาคใต้สอนใจลูก
ให้พันผูกกตัญญูรู้คุณท่าน
มาร้อยเรียงเป็นเยี่ยงอย่างมิต่างกัน
สร้างภาพฝันมีชืวิตมีจิตใจ
สำหรับคอละครจักรๆ วงศ์ๆ ผมเชื่อแน่นอนว่าต้องคุ้นเคยหรือได้ยินกลอนบทนี้แน่ๆ
กลอนบทนี้เป็นบทกลอนจากไตเติ้ลเรื่อง น้ำใจแม่
น้ำใจแม่เป็นละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ออกอากาศเมื่อ ปี 2540
โดยนำเค้าโครงเรื่องมาจากหนังตะลุงในภาคใต้ ซึ่งแต่งโดยหนังตะลุงพร้อมน้อย
นำแสดงโดย ปฏิพันธ์ ขัดขจร, สาวิกา กาญจนมาศ, ศิริวัฒนา เบญจมาธิกุล
สำหรับผม เรื่องนี้เป็นละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ชอบที่สุดตั้งแต่จำความได้
แก่นของเรื่องคือความกตัญญู และมีการสอนหลักธรรมอื่นๆสอดแทรกเข้าไปอีกหลายๆอย่าง เช่นความซื่อสัตย์ สัจจะ
อย่างที่รู้ๆกันว่าละครจักรๆ วงศ์ๆ จะเป็นละครที่สอนให้คนทำความดีเป็นแก่นหลักอยู่แล้ว ใครที่ทำความดี เทวดา/พระอินทร์/ฤาษี จะเห็น
จะคอยตามช่วย มอบของวิเศษให้ ซึ่งถือว่าเป็นละครที่สอนเด็กได้ดีเลยทีเดียว
แต่เรื่องนี้เนื่องจากนำเค้าโครงเรื่องมาจากหนังตะลุง ทำให้บรรกาศของละครอาจจะต่างออกไป
มีความสมจริงอยู่ค่อนข้างเยอะ เลยทำให้ผู้ใหญ่หลายๆคนก็อินและชอบไปกับละครเรื่องนี้ด้วย
เป็นการเกริ่นที่ถือได้ว่ายาวมากเลยนะครับ สำหรับกระทู้นี้(ก็คนมันชอบนี่เนอะ)
กระทู้นี้ก็เกิดขึ้นจากไปดูละครเรื่องน้ำใจแม่ย้อนหลังนั่นแหละครับ ดูไปก็นึกถึงหนังตลุงที่เคยฟังและดูในวัยเด็กได้
ถูกแล้วครับ "ฟัง" นั่นแหละครับ เพราะสมัยผมเด็กๆนี่ก็หาหนังตลุงดูยากแล้ว พ่อกับแม่ผมเลยซื้อเทปมาเป็นชุดๆนี่แหละมาฟัง
แม่จะชอบซื้อของอาจารณรงค์ ตลุงบัณฑิต เพราะแม่บอกว่าไม่ค่อยมีคำหยาบ เนื้อเรื่องมีคำสอนเยอะ
อีกสิ่งนึงที่นึกถึงก็คือเพลง หนังตลุง ของฌามา
ฌามาคือศิลปินชาวใต้ เพลงดังๆก็สาวเทคนิคนั่นแหละครับ ชอบก็ให้แม่มาขอ
อย่ารอให้ถึงปีหน้าของอื่นนั้นขึ้นราคาแต่ค่าตัวน้องรับรองเหมือนเดิม(ไม่ช่ายแล้วววว)
เอาใหม่ๆ ชอบก็ให้แม่มาขอ อย่ารอให้มันนานแรง น้องเป็นสาวแก้มแดงพี่อย่าแกล้งให้น้องคอยนาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพลงหนังตลุงเป็นเพลงที่แต่งเนื้อหาได้ครอบคลุมมากๆ เรียกว่าอธิบายเกี่ยวกับหนังตลุงได้เกือบ 100%
เพลงนี้เคยได้รับรางวัลเกี่ยวกับการส่งเสริมวัฒนธรรมด้วย
เพลงหนังตลุง (คลิปนี้มีการตัดหนังตลุงจริงๆใส่หัวคลิปมาด้วยนิดนึง)
เนื้อร้อง เพลงหนังตะลุง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังตลุง หนังตลุงเมืองปักษ์ใต้
เอาหนังควายมาระบายด้วยพู่กัน
ใช้วาทะศิลป์กับศิลปะรวมกัน
เชิดชูสร้างสรรค์วัฒนธรรมสดใส
เสียงฆ้องกลองดังคล้องจองกับเสียงซอ
เสียงคนออรอหน้าโรงหนังใหญ่
ว่าออนายหนังชักช้าอยู่ทำไม
ผู้คนสนใจในยุคสมัยก่อนมา
**ว่าออ ออ ออเอ้ย ออเอ้ย ออ ออ
มาสร้างสรรค์กันหนอ
ที่หน้าจอ หนังตลุง
ฉันเป็นคนกำเนิดเกิดในปักษ์ใต้
ฉันชอบมากมายเลยหนอหนังตลุง
ถึงตอนนี่ฉันจะมาอยู่กรุง
ยังชอบหนังตลุงเป็นชีวิตจิตใจ
หนังตลุงนี้มีเอกลักษณ์
ต้องมีคนชัก มือปากจึงพูดไป
จะเศร้าโศกศัลย์ หรือตลกกินใจ
คนที่สั่งไปคือนายหนังตลุง
ซ้ำ **
พอถึงเวลาไม่เงียบเหงา
พี่น้องบ้านเราชาวปักษ์ใต้
จูงมือกันมาทั้งหญิงชาย
ค่ำคืนเดือนหงายมาแลหนังลุง
ค่ำคืนเดือนหงายมาแลหนังตลุง
หนังตะลุงเคยเรืองรุ่งในปักษ์ใต้
ผู้คนมากมาย เขาให้ความสนใจ
แต่วันนี้หนังตลุงหายไป
เพราะมีหนังใหญ่เข้ามาแทนหนังเงา
มาเถิดมา มาร่วมกันสร้างสรรค์
อย่าให้มันสูญสลายหายไป
กลับคืนเมืองใต้ดูหนังตลุงต่อไป
สร้างความหวังใหม่ให้กับนายหนังตลุง
ซ้ำ**
หนุ่ม ๆ ๆ ๆ สาว ๆ
เร็วเข้าเร็วเข้ามาสร้างสรรค์กันใหม่
มาเชิดชูศิลปของไทย
วัฒนธรรมปักษ์ใต้หนังตลุงของเรา
หนังตะลุงเป็นการละเล่นพื้นเมืองที่สำคัญของภาคใต้ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว ยังได้สอดแทรกการศึกษา คติธรรม จริยธรรม จากเหตุการณ์ข่าวสาร การเมือง ยังมีการแต่งเรื่อง ผูกคำกลอน คิดบทสนทนาสดๆ อยู่ตลอดเวลา โดยนายหนังจะแสดงความสามารถที่ถือเป็นอัจฉริยะส่วนตัวของนายหนังบวกกับการฝึกฝนจนมีความชำนาญ จึงสามารถแสดงหนังตะลุงให้ประทับใจผู้ชมได้
ความเป็นมาของหนังตะลุงเป็นสิ่งที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน จากหลักฐานที่มีการบันทึก หนังตะลุงเป็นการละเล่นที่เพิ่งมีการประดิษฐ์ขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชาวบ้านที่บ้านควนพร้าว จังหวัดพัทลุง ได้เลียนแบบมาจากหนังของชวาเปลี่ยนเป็นการแสดงเรื่องไทยๆ และมีการแสดงถวายหน้าพระที่นั่งเป็นครั้งแรกในสมัยรัชการที่ 5 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็เป็นที่รู้จักกันในนามของหนังพัทลุงหรือหนังตะลุง
การแสดงหนังตะลุงจะแสดงโดยการเชิด “ตัวหนัง” และ “พากย์หนัง” โดยที่นายหนังจะวางตัวหนังที่มีลักษณะแบนราบทาบกับจอผ้า มีแสงไฟส่องมาจากด้านหลังตัวหนัง ทำให้ปรากฏอีกด้านหนึ่งของจอที่มีคนนั่งอยู่ ส่วนบทที่ใช้ในการแสดงขึ้นอยู่กับคณะที่จัดแสดงหนังตะลุง และให้นายหนังเป็นผู้เชิดและพากย์บทพูดของแต่ละตัวละคร นายหนังจะใช้บทพูดสนทนาสดๆ สอดแทรกมุขตลก ความรู้ และคติ จากเนื้อเรื่องที่กำกับมา และเรื่องที่ใช้ในการแสดงนั้น จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ข่าวสารบ้านเมือง เหตุการณ์ในท้องถิ่น การล้อเลียนทางการเมือง ฯลฯ ความสามารถและไหวพริบในการเชิดและการพากย์ของนายหนังจะทำให้หนังตะลุงน่าดูและสนุกยิ่งขึ้น
ละครพาไป:ตอนหนังตะลุง ศิลปะที่เคยเรืองรุ่งในภาคใต้
ละครพาไป:ตอนหนังตะลุง
ทั่วโลกานารีมีเพียงหนึ่ง
ผู้ที่ตรึงในรักไม่ผลักไส
แผ่แผ่นอกกกกอดตลอดไป
น้ำใจที่ทัดเที่ยงไม่เกี่ยงงอน
โลกนิยมสมญานามเรียกกันว่าแม่
ผู้รักแท้บริสุทธิ์อนุสรณ์
คำแตกต่างปากการเรียกมารดร
แต่สุนทรถ้อยเกี่ยวอันเดียวกัน
จากตะลุงภาคใต้สอนใจลูก
ให้พันผูกกตัญญูรู้คุณท่าน
มาร้อยเรียงเป็นเยี่ยงอย่างมิต่างกัน
สร้างภาพฝันมีชืวิตมีจิตใจ
สำหรับคอละครจักรๆ วงศ์ๆ ผมเชื่อแน่นอนว่าต้องคุ้นเคยหรือได้ยินกลอนบทนี้แน่ๆ
กลอนบทนี้เป็นบทกลอนจากไตเติ้ลเรื่อง น้ำใจแม่
น้ำใจแม่เป็นละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ออกอากาศเมื่อ ปี 2540
โดยนำเค้าโครงเรื่องมาจากหนังตะลุงในภาคใต้ ซึ่งแต่งโดยหนังตะลุงพร้อมน้อย
นำแสดงโดย ปฏิพันธ์ ขัดขจร, สาวิกา กาญจนมาศ, ศิริวัฒนา เบญจมาธิกุล
สำหรับผม เรื่องนี้เป็นละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ชอบที่สุดตั้งแต่จำความได้
แก่นของเรื่องคือความกตัญญู และมีการสอนหลักธรรมอื่นๆสอดแทรกเข้าไปอีกหลายๆอย่าง เช่นความซื่อสัตย์ สัจจะ
อย่างที่รู้ๆกันว่าละครจักรๆ วงศ์ๆ จะเป็นละครที่สอนให้คนทำความดีเป็นแก่นหลักอยู่แล้ว ใครที่ทำความดี เทวดา/พระอินทร์/ฤาษี จะเห็น
จะคอยตามช่วย มอบของวิเศษให้ ซึ่งถือว่าเป็นละครที่สอนเด็กได้ดีเลยทีเดียว
แต่เรื่องนี้เนื่องจากนำเค้าโครงเรื่องมาจากหนังตะลุง ทำให้บรรกาศของละครอาจจะต่างออกไป
มีความสมจริงอยู่ค่อนข้างเยอะ เลยทำให้ผู้ใหญ่หลายๆคนก็อินและชอบไปกับละครเรื่องนี้ด้วย
เป็นการเกริ่นที่ถือได้ว่ายาวมากเลยนะครับ สำหรับกระทู้นี้(ก็คนมันชอบนี่เนอะ)
กระทู้นี้ก็เกิดขึ้นจากไปดูละครเรื่องน้ำใจแม่ย้อนหลังนั่นแหละครับ ดูไปก็นึกถึงหนังตลุงที่เคยฟังและดูในวัยเด็กได้
ถูกแล้วครับ "ฟัง" นั่นแหละครับ เพราะสมัยผมเด็กๆนี่ก็หาหนังตลุงดูยากแล้ว พ่อกับแม่ผมเลยซื้อเทปมาเป็นชุดๆนี่แหละมาฟัง
แม่จะชอบซื้อของอาจารณรงค์ ตลุงบัณฑิต เพราะแม่บอกว่าไม่ค่อยมีคำหยาบ เนื้อเรื่องมีคำสอนเยอะ
อีกสิ่งนึงที่นึกถึงก็คือเพลง หนังตลุง ของฌามา
ฌามาคือศิลปินชาวใต้ เพลงดังๆก็สาวเทคนิคนั่นแหละครับ ชอบก็ให้แม่มาขอ
อย่ารอให้ถึงปีหน้าของอื่นนั้นขึ้นราคาแต่ค่าตัวน้องรับรองเหมือนเดิม(ไม่ช่ายแล้วววว)
เอาใหม่ๆ ชอบก็ให้แม่มาขอ อย่ารอให้มันนานแรง น้องเป็นสาวแก้มแดงพี่อย่าแกล้งให้น้องคอยนาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพลงหนังตลุงเป็นเพลงที่แต่งเนื้อหาได้ครอบคลุมมากๆ เรียกว่าอธิบายเกี่ยวกับหนังตลุงได้เกือบ 100%
เพลงนี้เคยได้รับรางวัลเกี่ยวกับการส่งเสริมวัฒนธรรมด้วย
เพลงหนังตลุง (คลิปนี้มีการตัดหนังตลุงจริงๆใส่หัวคลิปมาด้วยนิดนึง)
เนื้อร้อง เพลงหนังตะลุง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หนังตะลุงเป็นการละเล่นพื้นเมืองที่สำคัญของภาคใต้ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว ยังได้สอดแทรกการศึกษา คติธรรม จริยธรรม จากเหตุการณ์ข่าวสาร การเมือง ยังมีการแต่งเรื่อง ผูกคำกลอน คิดบทสนทนาสดๆ อยู่ตลอดเวลา โดยนายหนังจะแสดงความสามารถที่ถือเป็นอัจฉริยะส่วนตัวของนายหนังบวกกับการฝึกฝนจนมีความชำนาญ จึงสามารถแสดงหนังตะลุงให้ประทับใจผู้ชมได้
ความเป็นมาของหนังตะลุงเป็นสิ่งที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน จากหลักฐานที่มีการบันทึก หนังตะลุงเป็นการละเล่นที่เพิ่งมีการประดิษฐ์ขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชาวบ้านที่บ้านควนพร้าว จังหวัดพัทลุง ได้เลียนแบบมาจากหนังของชวาเปลี่ยนเป็นการแสดงเรื่องไทยๆ และมีการแสดงถวายหน้าพระที่นั่งเป็นครั้งแรกในสมัยรัชการที่ 5 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็เป็นที่รู้จักกันในนามของหนังพัทลุงหรือหนังตะลุง
การแสดงหนังตะลุงจะแสดงโดยการเชิด “ตัวหนัง” และ “พากย์หนัง” โดยที่นายหนังจะวางตัวหนังที่มีลักษณะแบนราบทาบกับจอผ้า มีแสงไฟส่องมาจากด้านหลังตัวหนัง ทำให้ปรากฏอีกด้านหนึ่งของจอที่มีคนนั่งอยู่ ส่วนบทที่ใช้ในการแสดงขึ้นอยู่กับคณะที่จัดแสดงหนังตะลุง และให้นายหนังเป็นผู้เชิดและพากย์บทพูดของแต่ละตัวละคร นายหนังจะใช้บทพูดสนทนาสดๆ สอดแทรกมุขตลก ความรู้ และคติ จากเนื้อเรื่องที่กำกับมา และเรื่องที่ใช้ในการแสดงนั้น จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ข่าวสารบ้านเมือง เหตุการณ์ในท้องถิ่น การล้อเลียนทางการเมือง ฯลฯ ความสามารถและไหวพริบในการเชิดและการพากย์ของนายหนังจะทำให้หนังตะลุงน่าดูและสนุกยิ่งขึ้น