กระทู้เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ค่อยๆอ่าน อ่านให้สนุกนะ : )
เรามาแบกกระเป๋าไปด้วยกันเถอะ go gooooooooo
------------------
"ประเทศใกล้ๆ ใครๆก็ไปได้"
"อายุ 18 เที่ยวกันเยอะแยะไป"
"เหย กระทู้แบบนี้เยอะแล้ว"
ฮันน่อวววว อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น
ลองอ่านดูก่อนนะ กระทู้นี้มีหลากรสจริงๆ
• จะมีสักกี่คนที่ทำบันไดเลื่อนห้างหยุดได้
• แว่นหายไม่พอใจ
• ทำกระเป๋าหายด้วยเลย 4000 ชิคๆ
• #ฝรั่งหล่อบอกต่อด้วย
(ความเฟี้ยวฟ้าวและตื่นเต้นของทริปจะอยู่ในพาร์ทประเทศหรรษาเลเซียซะส่วนใหญ่ค่ะ
แต่อ่านทั้งหมดเลยก็ได้น้า ไม่ว่ากัน )
นี่แค่น้ำจิ้ม รายละเอียดปีกย่อย(ยับ) ยังมีอีกเย้ออออออออ
เริ่มกันเลยดีกว่า...
ปล.ไม่แน่ทุกคนอาจจะหลงรักทริปนี้ก็ได้
อ า จ จ ะ ห ล ง รั ก กกกกกกกกก ก็ ด้ า า า า ยยยยยยยยยยยย
(ทำเสียงยืดๆยาวๆ)
"ปิดเทอมแล้ว "
ไปไหนกันดี...
"ลงใต้กันมั้ย"
"ไปบ้านแกดีกว่า"
ลงใต้
ลงใต้
ลงใต้
คำนี้วนเวียนอยู่ในหัวสักพัก
ก็มีคำอื่นมาแทรกแทน...
ลงใต้ ใต้ ใต้ ปีนัง...มาเลเซีย...สิงคโปร์
"ไปแบ็กแพ็คกัน สิงคโปร์ มาเล ปีนัง
ไปแบบงกๆไงแก นอนโฮสเทล แบบดอร์มอ้ะ"
"เดี๋ยวเราวางแผนเอง"
นี่คือส่วนหนึ่งของบทสนทนาของเรา เมื่อชวนเพื่อนคนใต้มานอนบ้าน
ความคิดของการทำทริปครั้งนี้จึงเริ่มขึ้น
เราในฐานะแม่งาน เลยจัดการเตรียมการจองที่พักรวมถึงแผนการเดินทางทั้งหมด
โดยทริปนี้มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 3 คนค่ะ คือเราและเพื่อนอีก 2 คน( ช 1 ญ 1)
ขอบอกเลยว่า เป็นการวางแผนเที่ยวใหญ่เองครั้งแรก
จองทีพัก ติดต่อทุกอย่างเองทั้งหมด
บอกได้คำเดียว "เหนื่อยมาก" ไม่คิดว่าการไปเที่ยวเองจะลำบากขนาดนี้
ทริปของเราดูเหมือนจะมีปัญหาตั้งแต่แรก
ทั้งเรื่องเวลาของแต่ละคนที่ไม่ตรงกัน วิธีการจ่ายเงิน(ทุกคนไม่มีบัตรเครดิต)
จำนวนคนไป เลื่อนวันกลับ เล่นเอาเราปวดหัวเลย 555
เกือบถอดใจละตอนนั้น แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ (แบบเหงื่อตก)
พวกเราแอบคุยกันไว้ในไลน์ถึงเรื่องการเที่ยวทั้งหมด แต่ก็ขอพ่อแม่กันไว้(แบบลางๆ) แล้ว
พอถึงวันใกล้เดินทางจริงๆ ก็โดนพ่อแม่บ่นกันหูชาเลย 555
แต่ไม่ว่าอะไรก็รั้งเราไว้ไม่ได้แล้วล่ะ
จะเอาช้างมาฉุด เงินมาล่อ เราก็จะไป
(ยอมรับว่าอันหลังน่าสนนะ )
ทริปนี้ เราอยู่ เราเดินทาง แบบงกจริงๆค่ะ
แต่เรื่องกินเราไม่อั้น(มั้ง) รวมถึงเรื่องช็อก เอ้ย เรื่องช็อปด้วย
ซึ่งแผนการเที่ยวของพวกเรา คือ
นั่งเครื่องไปลงสิงคโปร์ - ต่อรถไปมาเล - ต่อรถอีกรอบไปปีนัง -และก็ต่อรถกลับไทย
สนุกละมั้ง!!??
หลังๆแบกของเป็นอีเพิ้งกันเลยค่ะ แต่ละคน 555
เพราะพวกเราช็อปกันเยอะมาก
โอเค ตัดมาที่วันเดินทางกันเลยดีกว่า
เนื่องจากพวกเราลงใต้มาเที่ยวกันก่อน 2 วัน
เลยได้มาขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ตกัน
เราเลือกบินตอนกลางคืนกันค่ะ เพราะราคาตั๋วถูกกว่า ไปอาศัยนอนสนามบินเอา เพราะช่วงที่เราจองหาตั่วโปรไม่ได้เลย
เลยมาดุ่มๆสุ่มๆ ได้ของสายการบินนี้ ในราคาที่คบได้เลย ไฟล์ทบินของพวกเราเป็นตอน 22.00 น.
โดยสายการบิน Jetstar ค่าตั๋วเฉลี่ยคนละ 2,182 บาท พวกเราโหลดกระเป๋าด้วยกัน 25 kgค่ะ
จะประหยัดกว่าแยกกันโหลด เพราขาไปของก็ยังไม่เยอะอยู่แล้ว
พอมาถึงสนามบินก็ทำการแลกเงิน ซึ่งหาแลกยากมาก ลุ้นเอาเลย เพราะเงินสิงคโปร์เข้ามาน้อยมากตอนนั้น
และแล้วก็ได้เวลาบิน จะบอกว่าบนเครื่อง(แทบ)หาคนไทยไม่ได้เลย
เจอแต่อาตี๋ อาหมวย หนุ่มสาวฝรั่งดั้งโด่ง และมีเด็กน้อยที่ร้องไห้เกือบตลอด 2 ชั่วโมง
แต่น้องทำอะไรเราไม่ได้หรอก เพราะเราหลับ หลับเอาตายเลย
เห็นแม่น้องหนูพยายามโอ๋ใหญ่ เงียบเถอะลูก แม่ขอ อารมณ์ประมาณนั้น
ส่วนเราก็หลับต่อไปค่ะ...
ตื่นมาอีกที 00.50 น. โดยประมาณ(เวลาที่สิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชม.ค่ะ) เราก็มาอยู่ที่สิงคโปร์กันแล้ว

Singapore Changi Airport สนามบินที่ได้รับการจัดอันดับเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2014
เรามาถึงที่นี่กันแล้ว ในใจอย่างแรกนึกถึง Free Wi-Fi เลย
พวกเราไปเอากระเป๋า เตรียมหาไวไฟฟรี และที่นอน แต่เหมือนพระเจ้าจะไม่เป็นใจ
เรา connect กับไวไฟไม่ได้เลย ซึ่งตอนแรกทุกคนพยายามหาจุดที่มีเครื่องสำหรับขอรหัสอะไรสักอย่าง
หลังๆเริ่มหนักกระเป๋า และหลงทางในสนามบิน 5555 ความคิดเรื่องการใช้เน็ตจึงหมดไป พร้อมกับความหิวเข้ามาแทนที่
แล้วมื้อแรกที่สิงคโปร์ก็เริ่มตอนตีสองค่ะ ชีวิตดีตอนตีสอง
มุ่งหน้าเข้า McDonald's และจัดชุดใหญ่กันเลย ค่าอาหารมื้อแรกเราจำไม่ได้ค่ะ
แต่น่าจะ 400-500 บาท แค่มื้อแรกก็เห็นแววจนแล้วบอกเลย 555
อันนี้ไม่ได้ง่วงนะ เพลียค่าอาหาร เพลียจริงๆ

แบบว่า จะไม่ทนกับมื้อนี้ 555
พวกเราอาศัยค่าอาหารมื้อแรกนอนที่ร้าน Mc ซะเลย เอาให้คุ้มๆ
ตื่นมาอีกทีก็ตีห้ากว่าๆค่ะ เลยไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวออกจากสนามบินกัน

ที่สิงคโปร์น้ำแพงค่ะ ที่สนามบินมีที่กดน้ำฟรีให้ด้วยนะ ดื่มได้ สะอ๊าด สะอาด

(ชางงีเป็นสนามบินมุ้งมิ้ง ชอบไอเดียถังขยะเค้ามากเลย เห็นง่าย เข้าใจง่าย ทิ้งง่าย)
เราเดินทางออกจากชางงีโดยรถไฟฟ้า ซึ่งพวกเราได้ทำบัตร EZ link สำหรับการโดยสารสารพัดรถในสิงคโปร์ค่ะ
การทำก็ง่ายนิดเดียว เดินไปที่พนักงานขายตั๋ว บอกว่าจะทำ EZ link card ค่ะ จากนั้นก็จ่ายเงินใบละ 12SGD
ในราคาบัตร 12 SGD จะถูกหักเป็นค่าบัตรไป 5 SGD เราจะมีเหลือใช้อีก 7 SGD ค่ะ

รูปร่างหน้าตาบัตรก็เป็นแบบนี้ค่า
ทุกอย่างพร้อม ก็ได้เวลาไปเผชิญโลกภายนอกแล้ว
Let's goooooooooooooooooo!!!!
ที่แรกที่เราจะไปคือ Chinatown ค่ะ คือคิดว่าตอนเช้าจะไปหาอะไรกินที่นั่น
สรุปคือไปเช้าเกิน ไม่มีร้านอาหารเปิดเลย เราก็เลยได้แต่เดินเที่ยวชมเมือง
ซึ่งแถวๆนั้นก็จะมีวัดศรีมาริอัมมันต์ วัดพระเขี้ยวแก้วที่เปิดให้เข้าชมแต่เช้า
พวกเราก็เลยไม่พลาดที่จะเข้าไปเก็บภาพมาสักหน่อย
จะบอกว่าไปเช้าก็ดีม้ากมาก คนน้อย ส่วนตัวสุดๆ ถ่ายรูปง่าย
คืนก่อนเราไปฝนตกค่ะ บรรยากาศตอนเช้าเลยเย็นๆนิดๆ
เดินได้แปปเดียวเท่านั้น พวกเราเลยตัดสินใจไปที่พักกันก่อน
เผื่อจะเช็คอินก่อนเวลาได้ จะได้ไม่ต้องเดินแบกกระเป๋า
ที่พักของพวกเราชื่อว่า Rucksack Inn @ Lavender Street ค่ะ
เราจองผ่าน booking.com ค่ะ สามารถไปจ่ายเงินสดได้ที่ที่พักเลย
โมเมนต์แรกที่เข้าไป คือน่าพักมาก เข้าไปเจอพี่พนักงานสาวคุยเก่งซึ่งต้อนรับพวกเราดีสุดๆ
เค้าก็ถามว่าเรามาจากไหนกัน มากันกี่โมง พอรู้ว่าเรานอนสนามบินมาเมื่อคืน
เค้าก็ให้เราเช็คอินเข้าพักผ่อนกันก่อนเลย (หรือสภาพพวกเราดูไม่น่าจะออกไปไหนต่อได้กันแน่ 555)
พี่เค้าแนะนำการใช้นั่นนู่นนี่ มีขนมปัง ชา กาแฟ น้ำดื่มฟรี 24 ชม.นะ ซึ่งใครจะไปรู้ ขนมปังพวกนี้แหละ ช่วยชีวิตพวกเรา 5555
มีล็อกเกอร์ให้เก็บกระเป๋าด้วย แต่เสียค่ามัดจำนะ ถ้าไม่ทำกุญแจหายก็ได้คืนแน่ๆ
ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเลย ไวไฟ iMac เตารีด เครื่องซักผ้า สบู่ ไดร์เป่าผม ใครมาตัวเปล่ายังได้ 555
อ้อ...ถ้าใครอยากเล่นเน็ตเวลาออกไปเที่ยวข้างนอกที่นี่ก็มี Pocket Wi-Fi ให้เช่าได้นะ
วันละ 12 SGD มัดจำ 180 SGD จ้า คือสะดวกดีมาก พวกเราเลือกใช้เจ้าตัวนี้แทนเพราะเราหาซื้อซิมที่เซเว่นไม่ได้
ไปที่ไหนๆก็ No sim No sim XXXXX
ไหนๆก็ได้ที่นอนแล้ว พวกเราเลยเก็บกระเป๋า จัดของและนอนพักผ่อนกันก่อน
นอนพักกันไปสัก 2 ชม.ก็ออกไปลั้ลลากันต่อแล้วค่ะ รู้สึกได้ชาร์จพลังแล้ว
| ต่อในคอมเมนต์นะคะ

|
[CR] 9 วันในต่างแดน ของเด็กอายุ 18 กับการแบ็คแพ็คครั้งแรก สิงคโปร์-กัวลาลัมเปอร์-ปีนัง โหด มันส์ ฮา บ้า และอยากร้องไห้
เรามาแบกกระเป๋าไปด้วยกันเถอะ go gooooooooo
------------------
"ประเทศใกล้ๆ ใครๆก็ไปได้"
"อายุ 18 เที่ยวกันเยอะแยะไป"
"เหย กระทู้แบบนี้เยอะแล้ว"
ฮันน่อวววว อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น
ลองอ่านดูก่อนนะ กระทู้นี้มีหลากรสจริงๆ
• จะมีสักกี่คนที่ทำบันไดเลื่อนห้างหยุดได้
• แว่นหายไม่พอใจ
• ทำกระเป๋าหายด้วยเลย 4000 ชิคๆ
• #ฝรั่งหล่อบอกต่อด้วย
(ความเฟี้ยวฟ้าวและตื่นเต้นของทริปจะอยู่ในพาร์ทประเทศหรรษาเลเซียซะส่วนใหญ่ค่ะ
แต่อ่านทั้งหมดเลยก็ได้น้า ไม่ว่ากัน )
นี่แค่น้ำจิ้ม รายละเอียดปีกย่อย(ยับ) ยังมีอีกเย้ออออออออ
เริ่มกันเลยดีกว่า...
ปล.ไม่แน่ทุกคนอาจจะหลงรักทริปนี้ก็ได้
อ า จ จ ะ ห ล ง รั ก กกกกกกกกก ก็ ด้ า า า า ยยยยยยยยยยยย
(ทำเสียงยืดๆยาวๆ)
"ปิดเทอมแล้ว "
ไปไหนกันดี...
"ลงใต้กันมั้ย"
"ไปบ้านแกดีกว่า"
ลงใต้
ลงใต้
ลงใต้
คำนี้วนเวียนอยู่ในหัวสักพัก
ก็มีคำอื่นมาแทรกแทน...
ลงใต้ ใต้ ใต้ ปีนัง...มาเลเซีย...สิงคโปร์
"ไปแบ็กแพ็คกัน สิงคโปร์ มาเล ปีนัง
ไปแบบงกๆไงแก นอนโฮสเทล แบบดอร์มอ้ะ"
"เดี๋ยวเราวางแผนเอง"
นี่คือส่วนหนึ่งของบทสนทนาของเรา เมื่อชวนเพื่อนคนใต้มานอนบ้าน
ความคิดของการทำทริปครั้งนี้จึงเริ่มขึ้น
เราในฐานะแม่งาน เลยจัดการเตรียมการจองที่พักรวมถึงแผนการเดินทางทั้งหมด
โดยทริปนี้มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 3 คนค่ะ คือเราและเพื่อนอีก 2 คน( ช 1 ญ 1)
ขอบอกเลยว่า เป็นการวางแผนเที่ยวใหญ่เองครั้งแรก
จองทีพัก ติดต่อทุกอย่างเองทั้งหมด
บอกได้คำเดียว "เหนื่อยมาก" ไม่คิดว่าการไปเที่ยวเองจะลำบากขนาดนี้
ทริปของเราดูเหมือนจะมีปัญหาตั้งแต่แรก
ทั้งเรื่องเวลาของแต่ละคนที่ไม่ตรงกัน วิธีการจ่ายเงิน(ทุกคนไม่มีบัตรเครดิต)
จำนวนคนไป เลื่อนวันกลับ เล่นเอาเราปวดหัวเลย 555
เกือบถอดใจละตอนนั้น แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ (แบบเหงื่อตก)
พวกเราแอบคุยกันไว้ในไลน์ถึงเรื่องการเที่ยวทั้งหมด แต่ก็ขอพ่อแม่กันไว้(แบบลางๆ) แล้ว
พอถึงวันใกล้เดินทางจริงๆ ก็โดนพ่อแม่บ่นกันหูชาเลย 555
แต่ไม่ว่าอะไรก็รั้งเราไว้ไม่ได้แล้วล่ะ
จะเอาช้างมาฉุด เงินมาล่อ เราก็จะไป
(ยอมรับว่าอันหลังน่าสนนะ )
ทริปนี้ เราอยู่ เราเดินทาง แบบงกจริงๆค่ะ
แต่เรื่องกินเราไม่อั้น(มั้ง) รวมถึงเรื่องช็อก เอ้ย เรื่องช็อปด้วย
ซึ่งแผนการเที่ยวของพวกเรา คือ
นั่งเครื่องไปลงสิงคโปร์ - ต่อรถไปมาเล - ต่อรถอีกรอบไปปีนัง -และก็ต่อรถกลับไทย
สนุกละมั้ง!!??
หลังๆแบกของเป็นอีเพิ้งกันเลยค่ะ แต่ละคน 555
เพราะพวกเราช็อปกันเยอะมาก
โอเค ตัดมาที่วันเดินทางกันเลยดีกว่า
เนื่องจากพวกเราลงใต้มาเที่ยวกันก่อน 2 วัน
เลยได้มาขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ตกัน
เราเลือกบินตอนกลางคืนกันค่ะ เพราะราคาตั๋วถูกกว่า ไปอาศัยนอนสนามบินเอา เพราะช่วงที่เราจองหาตั่วโปรไม่ได้เลย
เลยมาดุ่มๆสุ่มๆ ได้ของสายการบินนี้ ในราคาที่คบได้เลย ไฟล์ทบินของพวกเราเป็นตอน 22.00 น.
โดยสายการบิน Jetstar ค่าตั๋วเฉลี่ยคนละ 2,182 บาท พวกเราโหลดกระเป๋าด้วยกัน 25 kgค่ะ
จะประหยัดกว่าแยกกันโหลด เพราขาไปของก็ยังไม่เยอะอยู่แล้ว
พอมาถึงสนามบินก็ทำการแลกเงิน ซึ่งหาแลกยากมาก ลุ้นเอาเลย เพราะเงินสิงคโปร์เข้ามาน้อยมากตอนนั้น
และแล้วก็ได้เวลาบิน จะบอกว่าบนเครื่อง(แทบ)หาคนไทยไม่ได้เลย
เจอแต่อาตี๋ อาหมวย หนุ่มสาวฝรั่งดั้งโด่ง และมีเด็กน้อยที่ร้องไห้เกือบตลอด 2 ชั่วโมง
แต่น้องทำอะไรเราไม่ได้หรอก เพราะเราหลับ หลับเอาตายเลย
เห็นแม่น้องหนูพยายามโอ๋ใหญ่ เงียบเถอะลูก แม่ขอ อารมณ์ประมาณนั้น
ส่วนเราก็หลับต่อไปค่ะ...
ตื่นมาอีกที 00.50 น. โดยประมาณ(เวลาที่สิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชม.ค่ะ) เราก็มาอยู่ที่สิงคโปร์กันแล้ว
Singapore Changi Airport สนามบินที่ได้รับการจัดอันดับเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2014
เรามาถึงที่นี่กันแล้ว ในใจอย่างแรกนึกถึง Free Wi-Fi เลย
พวกเราไปเอากระเป๋า เตรียมหาไวไฟฟรี และที่นอน แต่เหมือนพระเจ้าจะไม่เป็นใจ
เรา connect กับไวไฟไม่ได้เลย ซึ่งตอนแรกทุกคนพยายามหาจุดที่มีเครื่องสำหรับขอรหัสอะไรสักอย่าง
หลังๆเริ่มหนักกระเป๋า และหลงทางในสนามบิน 5555 ความคิดเรื่องการใช้เน็ตจึงหมดไป พร้อมกับความหิวเข้ามาแทนที่
แล้วมื้อแรกที่สิงคโปร์ก็เริ่มตอนตีสองค่ะ ชีวิตดีตอนตีสอง
มุ่งหน้าเข้า McDonald's และจัดชุดใหญ่กันเลย ค่าอาหารมื้อแรกเราจำไม่ได้ค่ะ
แต่น่าจะ 400-500 บาท แค่มื้อแรกก็เห็นแววจนแล้วบอกเลย 555
อันนี้ไม่ได้ง่วงนะ เพลียค่าอาหาร เพลียจริงๆ
พวกเราอาศัยค่าอาหารมื้อแรกนอนที่ร้าน Mc ซะเลย เอาให้คุ้มๆ
ตื่นมาอีกทีก็ตีห้ากว่าๆค่ะ เลยไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวออกจากสนามบินกัน
ที่สิงคโปร์น้ำแพงค่ะ ที่สนามบินมีที่กดน้ำฟรีให้ด้วยนะ ดื่มได้ สะอ๊าด สะอาด
(ชางงีเป็นสนามบินมุ้งมิ้ง ชอบไอเดียถังขยะเค้ามากเลย เห็นง่าย เข้าใจง่าย ทิ้งง่าย)
เราเดินทางออกจากชางงีโดยรถไฟฟ้า ซึ่งพวกเราได้ทำบัตร EZ link สำหรับการโดยสารสารพัดรถในสิงคโปร์ค่ะ
การทำก็ง่ายนิดเดียว เดินไปที่พนักงานขายตั๋ว บอกว่าจะทำ EZ link card ค่ะ จากนั้นก็จ่ายเงินใบละ 12SGD
ในราคาบัตร 12 SGD จะถูกหักเป็นค่าบัตรไป 5 SGD เราจะมีเหลือใช้อีก 7 SGD ค่ะ
รูปร่างหน้าตาบัตรก็เป็นแบบนี้ค่า
ทุกอย่างพร้อม ก็ได้เวลาไปเผชิญโลกภายนอกแล้ว
Let's goooooooooooooooooo!!!!
ที่แรกที่เราจะไปคือ Chinatown ค่ะ คือคิดว่าตอนเช้าจะไปหาอะไรกินที่นั่น
สรุปคือไปเช้าเกิน ไม่มีร้านอาหารเปิดเลย เราก็เลยได้แต่เดินเที่ยวชมเมือง
ซึ่งแถวๆนั้นก็จะมีวัดศรีมาริอัมมันต์ วัดพระเขี้ยวแก้วที่เปิดให้เข้าชมแต่เช้า
พวกเราก็เลยไม่พลาดที่จะเข้าไปเก็บภาพมาสักหน่อย
จะบอกว่าไปเช้าก็ดีม้ากมาก คนน้อย ส่วนตัวสุดๆ ถ่ายรูปง่าย
คืนก่อนเราไปฝนตกค่ะ บรรยากาศตอนเช้าเลยเย็นๆนิดๆ
เดินได้แปปเดียวเท่านั้น พวกเราเลยตัดสินใจไปที่พักกันก่อน
เผื่อจะเช็คอินก่อนเวลาได้ จะได้ไม่ต้องเดินแบกกระเป๋า
ที่พักของพวกเราชื่อว่า Rucksack Inn @ Lavender Street ค่ะ
เราจองผ่าน booking.com ค่ะ สามารถไปจ่ายเงินสดได้ที่ที่พักเลย
โมเมนต์แรกที่เข้าไป คือน่าพักมาก เข้าไปเจอพี่พนักงานสาวคุยเก่งซึ่งต้อนรับพวกเราดีสุดๆ
เค้าก็ถามว่าเรามาจากไหนกัน มากันกี่โมง พอรู้ว่าเรานอนสนามบินมาเมื่อคืน
เค้าก็ให้เราเช็คอินเข้าพักผ่อนกันก่อนเลย (หรือสภาพพวกเราดูไม่น่าจะออกไปไหนต่อได้กันแน่ 555)
พี่เค้าแนะนำการใช้นั่นนู่นนี่ มีขนมปัง ชา กาแฟ น้ำดื่มฟรี 24 ชม.นะ ซึ่งใครจะไปรู้ ขนมปังพวกนี้แหละ ช่วยชีวิตพวกเรา 5555
มีล็อกเกอร์ให้เก็บกระเป๋าด้วย แต่เสียค่ามัดจำนะ ถ้าไม่ทำกุญแจหายก็ได้คืนแน่ๆ
ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเลย ไวไฟ iMac เตารีด เครื่องซักผ้า สบู่ ไดร์เป่าผม ใครมาตัวเปล่ายังได้ 555
อ้อ...ถ้าใครอยากเล่นเน็ตเวลาออกไปเที่ยวข้างนอกที่นี่ก็มี Pocket Wi-Fi ให้เช่าได้นะ
วันละ 12 SGD มัดจำ 180 SGD จ้า คือสะดวกดีมาก พวกเราเลือกใช้เจ้าตัวนี้แทนเพราะเราหาซื้อซิมที่เซเว่นไม่ได้
ไปที่ไหนๆก็ No sim No sim XXXXX
ไหนๆก็ได้ที่นอนแล้ว พวกเราเลยเก็บกระเป๋า จัดของและนอนพักผ่อนกันก่อน
นอนพักกันไปสัก 2 ชม.ก็ออกไปลั้ลลากันต่อแล้วค่ะ รู้สึกได้ชาร์จพลังแล้ว
| ต่อในคอมเมนต์นะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น