คือ เมื่อวานราว ๆ 15.30 (19-Apr) ค่ะ ช่วงที่สุวรรณภูมิมีลงเยอะ ๆ แหล่ะค่ะ
แฟนเราก็เข็นกระเป๋าใบใหญ่ ที่มีของช็อปปิ้ง ฝากซื้อ ซื้อฝากเยอะ ๆ ค่ะ
เดินปนมากับกลุ่มคนอื่นที่ขนลังต่าง ๆ กระเป๋าต่าง ๆ กลับจากญี่ปุ่น
ส่วนเราเข้นรถเข็นที่เป็นเสื้อผ้าใช้แล้วค่ะ ก็ตามกันมา
แฟนโดนศุลกากรสะกิด ๆ เรียก และพูดเป็นภาษาอังกฤษกับแฟน
แฟนเราก็ยิ้มบอกว่า เป็นคนไทย
ในใจเราก็คิดละ โดนแน่เลย ซื้อมาเยอะอยู่
แต่ก็แค่เต็มกระเป๋า 30" ใบเดียวนะคะ
ช่วยไม่ได้โดนก็คงต้องยอม เพราะเค้าก็ทำตามหน้าที่ของเค้าไป
เราเองก็รีบกลับ เค้าก็เอากระเป๋าใบใหญ่นั้นเข้าเครื่องสแกน
(ต้องบอกก่อนเลย ว่าตอนแรกก็กลัว ๆ นะ เรื่องซื้อของมาเยอะ
และอาจจะโดนปรับ หรืออาจจะไม่โดนนะคะ ไม่ค่อยมีคนแชร์ข้อมูลเท่าไหร่
ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร กลัวประหม่าไปหมด)
แฟนเราก็นิ่ง ๆ ค่ะ พอเค้าสแกนกระเป๋าเสร็จ กรมศุลเค้าก็บอกว่า
อืม ไม่มีเสื้อผ้าเลยนะเนี่ย
แฟนเราบอกเค้าว่า ครับ ของฝาก และของฝากซื้อครับ ขนมด้วย
กรมศุลเค้าก็บอกว่า เพลาๆ หน่อยนะ ขนมญี่ปุ่นนี่ภาษีแพงนะ
แล้วเค้าก็ส่งกระเป๋าคืน รีบไปทำงานต่อ ปล่อยแฟนเราออกไปตามทางเดินปกติ
เรากับแฟนคงไม่ทู่ซี้ไปถามเค้าหรอกนะคะว่า "ทำไมไม่โดนปรับ" (ต่างคนต่างรีบนะคะ)
สรุปคือไม่มีอะไร ของที่เราซื้อมีในนั้นก็พวกเครื่องสำอาง รองเท้า ขนม ๆๆ ตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา
ถุงเท้าไร้สาระแหล่ะค่ะ พวกแบรนด์ LV , Chanel , Baobao นี่เราไม่มีนะคะ ต้องบอกก่อน
เพราะ!!!..ถ้าหากใครโดนเคสเดียวกับเรา แล้วโดนปรับ อาจจะไม่ได้มีเงื่อนไขเดียวเช่นกันนี้...
ซึ่งเราไม่อาจจะรู้ได้ว่า เงื่อนไขอะไรที่ถูกวางเอาไว้บ้างนะคะ
เราไม่ได้อยากจะโพสในเฟสตัวเองแล้วจบ รู้อยู่คนเดียวกับเพื่อนอีกไม่กี่คน
เพียงแค่อยากจะแชร์ให้รู้ว่า อย่างน้อยหากเราไม่ได้พกของผิดกฏหมายอะไร
เค้าก็มีเมตตาให้เราอยู่บ้าง เข้าใจเราบ้างอะแหล่ะ เราไม่ต้องประหม่าตกใจ โวยวายอะไรหรอกนะคะ อย่าสติหลุด
ให้ทำตัวปกติ ปล่อยให้เค้าทำตามหน้าที่ เค้าเพียงแค่สุ่มเช็คน่ะค่ะ
น่าจะเจอจนชินเลยล่ะค่ะ เราเข้าใจในงานที่เค้าทำค่ะ
เราแค่แชร์เป็นประสบการณ์ที่ไม่คิดฝันว่าจะโดนนะคะ
ไม่ได้อยากจะเพียงแค่บอกว่า
"เย่!!! ดีใจจัง ซื้อมาตั้งเยอะ ไม่โดนตรวจ รอดตัว สบายใจ" ค่ะ
แชร์ความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ได้นะคะ ไม่ต้องการดราม่าให้มีใครด่าใคร
หรือว่าใครทั้งนั้นค่ะ ข้อความใดหากเราพิมพ์ผิดตกหล่นไป บอกได้นะคะ
แชร์ประสบการณ์กรมศุลกากรนะคะ เมื่อวานนี้กลับจากญี่ปุ่นค่ะ ผ่านสแกนด้วยค่ะ กรมศุลเค้าทำตามหน้าที่เท่านั้นค่ะ
แฟนเราก็เข็นกระเป๋าใบใหญ่ ที่มีของช็อปปิ้ง ฝากซื้อ ซื้อฝากเยอะ ๆ ค่ะ
เดินปนมากับกลุ่มคนอื่นที่ขนลังต่าง ๆ กระเป๋าต่าง ๆ กลับจากญี่ปุ่น
ส่วนเราเข้นรถเข็นที่เป็นเสื้อผ้าใช้แล้วค่ะ ก็ตามกันมา
แฟนโดนศุลกากรสะกิด ๆ เรียก และพูดเป็นภาษาอังกฤษกับแฟน
แฟนเราก็ยิ้มบอกว่า เป็นคนไทย
ในใจเราก็คิดละ โดนแน่เลย ซื้อมาเยอะอยู่
แต่ก็แค่เต็มกระเป๋า 30" ใบเดียวนะคะ
ช่วยไม่ได้โดนก็คงต้องยอม เพราะเค้าก็ทำตามหน้าที่ของเค้าไป
เราเองก็รีบกลับ เค้าก็เอากระเป๋าใบใหญ่นั้นเข้าเครื่องสแกน
(ต้องบอกก่อนเลย ว่าตอนแรกก็กลัว ๆ นะ เรื่องซื้อของมาเยอะ
และอาจจะโดนปรับ หรืออาจจะไม่โดนนะคะ ไม่ค่อยมีคนแชร์ข้อมูลเท่าไหร่
ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร กลัวประหม่าไปหมด)
แฟนเราก็นิ่ง ๆ ค่ะ พอเค้าสแกนกระเป๋าเสร็จ กรมศุลเค้าก็บอกว่า
อืม ไม่มีเสื้อผ้าเลยนะเนี่ย
แฟนเราบอกเค้าว่า ครับ ของฝาก และของฝากซื้อครับ ขนมด้วย
กรมศุลเค้าก็บอกว่า เพลาๆ หน่อยนะ ขนมญี่ปุ่นนี่ภาษีแพงนะ
แล้วเค้าก็ส่งกระเป๋าคืน รีบไปทำงานต่อ ปล่อยแฟนเราออกไปตามทางเดินปกติ
เรากับแฟนคงไม่ทู่ซี้ไปถามเค้าหรอกนะคะว่า "ทำไมไม่โดนปรับ" (ต่างคนต่างรีบนะคะ)
สรุปคือไม่มีอะไร ของที่เราซื้อมีในนั้นก็พวกเครื่องสำอาง รองเท้า ขนม ๆๆ ตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา
ถุงเท้าไร้สาระแหล่ะค่ะ พวกแบรนด์ LV , Chanel , Baobao นี่เราไม่มีนะคะ ต้องบอกก่อน
เพราะ!!!..ถ้าหากใครโดนเคสเดียวกับเรา แล้วโดนปรับ อาจจะไม่ได้มีเงื่อนไขเดียวเช่นกันนี้...
ซึ่งเราไม่อาจจะรู้ได้ว่า เงื่อนไขอะไรที่ถูกวางเอาไว้บ้างนะคะ
เราไม่ได้อยากจะโพสในเฟสตัวเองแล้วจบ รู้อยู่คนเดียวกับเพื่อนอีกไม่กี่คน
เพียงแค่อยากจะแชร์ให้รู้ว่า อย่างน้อยหากเราไม่ได้พกของผิดกฏหมายอะไร
เค้าก็มีเมตตาให้เราอยู่บ้าง เข้าใจเราบ้างอะแหล่ะ เราไม่ต้องประหม่าตกใจ โวยวายอะไรหรอกนะคะ อย่าสติหลุด
ให้ทำตัวปกติ ปล่อยให้เค้าทำตามหน้าที่ เค้าเพียงแค่สุ่มเช็คน่ะค่ะ
น่าจะเจอจนชินเลยล่ะค่ะ เราเข้าใจในงานที่เค้าทำค่ะ
เราแค่แชร์เป็นประสบการณ์ที่ไม่คิดฝันว่าจะโดนนะคะ
ไม่ได้อยากจะเพียงแค่บอกว่า
"เย่!!! ดีใจจัง ซื้อมาตั้งเยอะ ไม่โดนตรวจ รอดตัว สบายใจ" ค่ะ
แชร์ความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ได้นะคะ ไม่ต้องการดราม่าให้มีใครด่าใคร
หรือว่าใครทั้งนั้นค่ะ ข้อความใดหากเราพิมพ์ผิดตกหล่นไป บอกได้นะคะ