หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ครั้งหนึ่งในชีวิต ณ ประเทศเกาหลีใต้
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
หลายๆท่านคงเคยอ่านหรือผ่านๆตากับกระทู้แนวท่องเที่ยวมาไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ เนื่องด้วยปัจจุบันนั้น การเดินทางไปเกาหลีถูกแสนถูก กระทู้นี้ผมจึงขอนำเสนอเรื่องราวครั้งหนึ่งของผมที่ได้มีโอกาสได้เดินทางไปพบกับประสบการณ์แปลกใหม่ ณ ประเทศเกาหลีใต้ครับ
ก่อนอื่นที่ผมจะได้เดินทางไป ผมขอเกริ่นนำซักนิดถึงความเป็นมาของการเดินทางในครั้งนี้ครับ เมื่อประมาณกลางปีพ.ศ. 2557 ซึ่งขณะนั้น ผมกำลังศึกษาต่อปริญญาโททางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ชึ่งต้องมีนำเสนอผลงานวิจัย ตามเกณฑ์หนึ่งของมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่จะสามารถจบหลักสูตรได้ จะต้องมีการนำเสนอผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ อย่างน้อย 1 ครั้ง ผมได้ปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งท่านอาจารย์ก็ได้แนะนำมหาวิทยาลัย Kangwon ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคม ทางมหาวิทยาลัยนั้นจัดการประชุมวิชาการนานาชาติซึ่งตรงกับหัวข้อวิจัยของผม และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้ครับ
มหาวิทยาลัย Kangwon หรือ Kangwon National University (KNU) ตั้งอยู่ในเมือง Chuncheon จังหวัด Gangwon-do ทางตอนเหนือของประเทศเกาหลีใต้ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงโซลด้วยรถไฟความเร็วสูง หรือ ITX ประมาณ ชั่วโมงนิดๆครับ เรื่องที่พัก ผมได้ติดต่อกับทาง KNU ซึ่งเขาแนะนำให้ผมเข้าพักที่โรงแรม Sejong ในเมือง Chuncheon ซึ่งในตอนแรกผมคิดว่า โรงแรมน่าจะอยู่ไม่ไกลจาก KNU มากนัก สามารถเดินไปได้ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นสิครับ เดี๋ยวผมจะพูดถึงเรื่องที่พักในหัวข้อถัดไปครับ
หลังจากที่ผมติดต่อเรื่องหนังสือเดินทางตั๋วเครื่องบินและที่พักเรียบร้อยแล้วนั้น ผมก็ได้ตั้งกระทู้หาเพื่อนเที่ยวเกาหลี และได้รู้จักกับเพื่อนๆที่เคยไปเกาหลีมาแล้ว ซึ่งเขาใจดีมากๆครับ เอาหนังสือแนะนำการเที่ยวเกาหลีใต้มาให้ และคอยส่งข่าวจาก การท่องเที่ยวเกาหลี ซึ่งช่วงนั้นเขามีแจก Cash Bee card ซึ่งเป็นบัตรเงินสดสำหรับคมนาคมต่างๆ คล้ายๆกับ T-money รวมถึงสามารถใช้ได้กับร้านค้าเช่น เซเว่นในเกาหลี ได้ครับ รวมถึงแผนที่ท่องเที่ยว เคสพาสปอท และคูปองส่วนลดต่างๆ ครับผม
ออกเดินทางจากดอนเมืองประมาณ 8 โมงเช้า ถึงอินชอนประมาณบ่ายสาม ในเวลาบ้านเราครับ
มีหลายวิธีในการเดินทางออกจากสนามบินอินชอน แต่ในครั้งนี้ผมเลือกใช้บริการ AREX ซึ่งเป็นรถไฟวิ่งออกจากสนามบินอินชอนเข้าสู่กรุงโซลคล้ายๆกับ Airport link บ้านเราครับผม สังเกตผู้คนจะนั่งกันเงียบกริบครับผม
บรรยากาศข้างทางครับผม
เด็กที่นี่น่ารักดีนะครับ
ถึงแล้วครับกรุงโซล ก้าวแรกที่ออกจากสถานี อากาศเย็นสบายมากๆครับ ช่วงตุลาคม อากาศกำลังดีครับผม
จากนั้นต้องนั่งรถไฟต่อไปยังสถานี Yongsan ซึ่งเป็นต้นสายของ ITX ซึ่งจะจอดบางสถานีเท่านั้น รถไฟจึงทำความเร็วประมาณ 180 กม/ชม ครับ
และเรื่องราวการผจญภัยครั้งแรกก็เกิดขึ้นครับเนื่องจากเป็นการเดินทางครั้งแรก บวกกับความเคยชินจากประเทศไทยครับ ตามกำหนดการตั๋วโดยสาร ITX เขียนไว้ว่า 17.00 เมื่อผมลงจากบันไดเลื่อน ก็พบกับขบวนรถไฟนี้จอดอยุ่ครับ ผมก็คิดว่า สงสัยจะเป็นขบวนนี้แน่เลย แต่ก็ยังเอะใจว่า ปกติเขาน่าจะตรงเวลานะ
แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ครับ มันไม่ใช่ขบวนนี้!! ผมยืนมองแผนที่บนรถไฟ พยายามหาชื่อเมือง Chuncheon แต่มันไม่มีครับ ผมเอะใจจึงเดินออกมาจากขบวนรถ เท่านั้นละครับ ประตูรถไฟปิด พี่ๆที่มาด้วยกันและกระเป๋าเสื้อผ้าผมก็......ผมมองด้วยความตกใจ ในใจนึก ชิหายแล้วตู โทรศัพท์ก็ไม่ได้เปิดโรมมิ่งจะติดต่อกันยังไงละเนี้ย เลยทำสัญสักษณ์มือบอกไปเจอกันข้างหน้าๆ ผมยืนงงอยู่ตรงนั้นซักพัก ความคิดในหัวแรกเลยคือ สถานทูต!!! หรือจะรอตรงนี้เผื่อเขาวกกลับมา หรือจะตามเขาไปกับขบวนหน้า หรือไปรอปลายทาง หรือ หรือ หรือ..... ยืนอยู่ซักครู่ รถไฟขบวนใหม่ก็เข้าชานชลาครับ และเมื่อนั้นเอง ผมจึงถึงบางอ้อ มันคือ ITX ตรงตามเวลาบนตั๋วเป๊ะๆเลยครับ ก็ตัดสินใจนาทีสุดท้าย เอาว่ะ ภาษาอังกฤษเราก็พอได้อยู่นะ ไปรอที่ปลายทางแล้วก็ เพราะเมือง Chuncheon คือปลายทางของรถไฟสายนี้พอดีครับ และโชคดีอีกอย่างคือ ก่อนมาเกาหลีใต้ ผมหาข้อมูลเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟ มาพอสมควร จนได้เจอกับ แอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Subway ของเกาหลีใต้ครับ ใช้ดีมากๆและเข้าใจง่ายครับผม สุดท้ายผมก็ตัดสินใจไปรอที่ปลายทางด้วยตัวคนเดียว เป็นการผจญภัยนอกประเทศครั้งแรกของผมเลยครับ โชคดีที่ผมมีกระเป๋าสะพายอีกใบ มีเสื้อกันหนาวพกมาด้วย และที่ขาดไมไ่ด้เลยคือ เงินครับ โชคดีที่ไม่ได้เก็บของเหล่านี้ไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า ไม่งั้นคง....ร้องไห้หนักมากกกก TT
และนี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้า ITX ครับผม ถ่ายตอนวันรุ่งขึ้นหลังจากจัดการธุระทุกอย่างเสร็จ และเตรียมตัวไปยังเกาะนามิครับ
ด้วยความหิวโหยจาการเดินทาง สวรรค์ก็เมตตาร้านขายขนมเคลื่อนที่!!! ครับ เหมือนบนเครื่องบินเลยครับ คุณป้าท่านน่ารักมากๆครับ ผมก็ยืนดูนั่นนี่ด้วยความหิว และตื่นตาตื่นใจกับขนมที่นี่ครับผม
สุดท้ายก็ได้อย่างที่เห็นครับ
ถึงแล้วครับ Chuncheon Station อันดับแรกเลย มองหา Free Wifi ครับ ก็ไปลงเอยที่ร้านกาแฟในสถานี ได้ชาทแบตไปด้วยในตัว เน็ตไม่แรงเท่าไหร่ แต่ก็มากพอสำหรับการโทรไลน์กลับไปหาครอบครัวที่ประเทศไทยครับ น้ำตาจิไหล ดีใจมากๆเมื่อได้ยินเสียงแม่ แม่จะรู้ไหมว่า ลูกเกือบหลงจนจะไม่ได้กลับเมืองไทยจนต้องหาภรรยาที่นี่ลงหลักปักฐานซะแล้ว อิอิ ก็พยายามติดต่อไปยังพี่ๆที่มาด้วยกันเผื่อเขาก็อาจจะกำลังหาทางติดต่อเราอยู่ แต่เงียบกริบครับ ผมจึงตีดสินใจว่า ถ้า 4 ทุ่มแล้ว ยังไม่มากัน ผมจะไปรอที่โรงแรมซึ่งผมมีอีเมลที่ติดต่อกับทางโรงแรมไว้ จึงค่อนข้างอุ่นใจครับ
และว่ากันด้วยเรื่องห้องน้ำครับ อาจจถเคยชินกับห้องน้ำที่ไทย ส้วมซึมบ้าง โถส้วมบ้าง แต่ที่นี่ อืมม ไม่รู้จะบรรยายยังไง ก็นะครับ แปลกตาดีครับ ภาพมโนก่อนมาคิดว่าคงเหมือนห้องน้ำที่แฟชั่นไอซ์แลนด์ เป็นโถส้วมแบบญี่ปุ่น คงดูไฮเทคๆ ครับ ก็อย่างที่เห็น ก็ดีครับ.....
และในที่สุด ผมก็เจอพี่ๆตามที่คาดไว้ครับ โล่งใจไปได้เยอะเลยครับ พี่ๆนั่งรถไฟธรรมดามา คือ จอดทุกสถานี ช้ากว่าผมพอสมควรครับ แต่ก็ ได้เจอกันแล้ว เดิทางเข้าที่พักด้วยแท๊กซี่หน้าสถานีครับ ที้นี่จอดกันเป็นระเบียบ ณ จุดจอดที่ทางสถานีกำหนดไว้ครับผม แท๊กซี่ค่อนข้างใหม่ครับ ไฮเทคมากๆ ซึ่งคันที่ผมนั่งนั้น รับบัตร cash bee ด้วย และที่สำคัญ ติดแก็สเหมือนบ้านเราเลยครับ
เดี๋ยวผมมาต่อนะครับ ได้เวลากลับบ้านแล้วครับผม ฝ่าฝูงรถในกรุงเทพกันต่อไปครับ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ทำไมพวกฝรั่งถึงชอบนั่งรถไฟสายใต้ไปลงแค่ สุราษฎร์ธานี
นับเฉพาะพวกรถไฟสายใต้ที่เดินทางไกลๆอย่างขบวน 171 ที่ไปถึงสุไหงโกลกรวมถึงขบวน 169 ที่ไปยะลาก็มักจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะพวกฝรั่งหัวทองโดยสารไปกับขบวนเหล่านี้กันในทุกๆวัน แต่ส่วนมากก็มักจะไปลง
สมาชิกหมายเลข 8880583
ทำไมเส้นทางรถไฟชานเมืองสายแม่กลอง ช่วงบ้านแหลม - แม่กลอง ถึงมีสถานีรถไฟแค่ 2 แห่ง
เปรียบเทียบกับเส้นทางวงเวียนใหญ่ - มหาชัย ยังมีสถานีรถไฟถึง 5 แห่งคือ วงเวียนใหญ่ ตลาดพลู วัดสิงห์ รางโพธิ์ มหาชัย แต่สำหรับเส้นทางบ้านแหลมไปแม่กลองกลับมีสถานีรถไฟเพียงแค่ 2 แห่งคือสถานีต้นทางและปลาย
สมาชิกหมายเลข 8880583
นั่งรถไฟไปฉะเชิงเทรา เที่ยวตลาดบ้านใหม่100ปี ไหว้พระวัดโสธร
คืนวันศุกร์ ครอบครัวใหญ่มานั่งร่วมกินอาหารเย็นกัน แล้วก็ใครเอ่ยขึ้นมา ว่าพรุ่งนี้วันเสาร์ พวกเราไปเที่ยวกันดีไหม ปล่อยเด็กๆไว้บ้าน ให้พ่อๆได้ดูแลบ้างไม่มีเสียงไหนปฎิเสธ แถมมีคำถามต่อว่า จะไปไหน ไปยังไ
Babycham
กรุงเทพฯ~อุบลฯ~โขงเจียม (10-12 ก.ค. 2568)
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยขบวนรถไฟด่วนพิเศษ CNR กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี 3 ทุ่ม5 นาทีของวันที่ 10 ก.ค. ถึงเช้าวันที่ 11 ก.ค. ตอน 6 โมง 49 นาที สถานีรถไฟอุบลฯ ทริปนี้ เดินทางด้วยกัน 3 สาว พี่สาวคนดี
สมาชิกหมายเลข 1402547
“ผมแค่จะส่งเขา…แต่กลับถูกส่งออกจากหัวใจของระบบ”
วันนั้น...ผมไม่ได้ตั้งใจจะเดินทางไปไหน ผมแค่ตั้งใจจะ "ส่งใครบางคน" ไปให้ไกลเท่าที่ใจจะยอมให้ห่าง ผมกับแฟนซื้อตั๋วรถไฟสองใบ ไม่ใช่เพื่อเดินทางด้วยกัน แต่เพราะผมอยาก “ขึ้นไปส่งเขาให้ถึง
สมาชิกหมายเลข 5150938
ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 909/910 กรุงเทพ – น้ำตก – กรุงเทพ ขึ้นกลางทาง ( ถ้ำประแซ ) ได้ไหมครับจะพาลูกไปเที่ยว
วันหยุดอยากพาลูกไปดักขึ้นที่สวนไทรโยค แล้วนั่งกลับจากสถานีน้ำตกครับ ขอบคุณครับ
แค่นี้ยังน้อยไป
บรรยากาศสถานีรถไฟศาลายา
บรรยากาศรถชานเมือง 356 หนองปลาดุก - กรุงเทพ จอดศาลายา ภาพเหล่านี้คงจะเปลี่ยนแปลง หรือหายไปเมื่อโครงการรถไฟฟ้า สายสีแดงส่วนต่อขยาย ศิริราช - ศาลายา มาถึง
สมาชิกหมายเลข 978739
[แชร์ประสบการณ์] ไปญี่ปุ่นแล้วงงกับรถไฟ JR? ชวนมาทำความเข้าใจ Local, Rapid, Limited Express
เพื่อน ๆ หลายคนที่เคยมาญี่ปุ่นน่าจะสงสัยเรื่องระบบรถไฟญี่ปุ่น "ทำไมบางขบวนไม่จอดบางสถานี?" "แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าขบวนนี้จอดไหม?" "ต้องขึ้นสายไหน?" "Rapid กับ Express
หนูแนนอินเจแปน
จะไปเพชรบุรี ต้องนั่งรถสายไหนคะ
คือเราอยู่โพธารามค่ะ จะไปเพชรบุรีในตัวเมือง อยากสอบถามได้ค่ะว่าเราต้องขึ้นรถตู้สายไหนเวลากี่โมง ราคากี่บาท ตอนลงเขาจะบอกเราไหมว่าถึงไหนแล้ว เราเคยขึ้นรถไฟแล้วเราต้องคอยดูสถานีที่จอดเอง เราไม่ชอบที่ต้
สมาชิกหมายเลข 8007549
สถานีรถไฟโคราช มีที่ฝากรถจักยานยนต์ไหมคะ จะจอดไว้ประมาณ3วัน เเต่กลัวรถหายค่ะ
สมาชิกหมายเลข 8923469
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 13
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ครั้งหนึ่งในชีวิต ณ ประเทศเกาหลีใต้
ก่อนอื่นที่ผมจะได้เดินทางไป ผมขอเกริ่นนำซักนิดถึงความเป็นมาของการเดินทางในครั้งนี้ครับ เมื่อประมาณกลางปีพ.ศ. 2557 ซึ่งขณะนั้น ผมกำลังศึกษาต่อปริญญาโททางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ชึ่งต้องมีนำเสนอผลงานวิจัย ตามเกณฑ์หนึ่งของมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่จะสามารถจบหลักสูตรได้ จะต้องมีการนำเสนอผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ อย่างน้อย 1 ครั้ง ผมได้ปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งท่านอาจารย์ก็ได้แนะนำมหาวิทยาลัย Kangwon ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคม ทางมหาวิทยาลัยนั้นจัดการประชุมวิชาการนานาชาติซึ่งตรงกับหัวข้อวิจัยของผม และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้ครับ
มหาวิทยาลัย Kangwon หรือ Kangwon National University (KNU) ตั้งอยู่ในเมือง Chuncheon จังหวัด Gangwon-do ทางตอนเหนือของประเทศเกาหลีใต้ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงโซลด้วยรถไฟความเร็วสูง หรือ ITX ประมาณ ชั่วโมงนิดๆครับ เรื่องที่พัก ผมได้ติดต่อกับทาง KNU ซึ่งเขาแนะนำให้ผมเข้าพักที่โรงแรม Sejong ในเมือง Chuncheon ซึ่งในตอนแรกผมคิดว่า โรงแรมน่าจะอยู่ไม่ไกลจาก KNU มากนัก สามารถเดินไปได้ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นสิครับ เดี๋ยวผมจะพูดถึงเรื่องที่พักในหัวข้อถัดไปครับ
หลังจากที่ผมติดต่อเรื่องหนังสือเดินทางตั๋วเครื่องบินและที่พักเรียบร้อยแล้วนั้น ผมก็ได้ตั้งกระทู้หาเพื่อนเที่ยวเกาหลี และได้รู้จักกับเพื่อนๆที่เคยไปเกาหลีมาแล้ว ซึ่งเขาใจดีมากๆครับ เอาหนังสือแนะนำการเที่ยวเกาหลีใต้มาให้ และคอยส่งข่าวจาก การท่องเที่ยวเกาหลี ซึ่งช่วงนั้นเขามีแจก Cash Bee card ซึ่งเป็นบัตรเงินสดสำหรับคมนาคมต่างๆ คล้ายๆกับ T-money รวมถึงสามารถใช้ได้กับร้านค้าเช่น เซเว่นในเกาหลี ได้ครับ รวมถึงแผนที่ท่องเที่ยว เคสพาสปอท และคูปองส่วนลดต่างๆ ครับผม
ออกเดินทางจากดอนเมืองประมาณ 8 โมงเช้า ถึงอินชอนประมาณบ่ายสาม ในเวลาบ้านเราครับ
มีหลายวิธีในการเดินทางออกจากสนามบินอินชอน แต่ในครั้งนี้ผมเลือกใช้บริการ AREX ซึ่งเป็นรถไฟวิ่งออกจากสนามบินอินชอนเข้าสู่กรุงโซลคล้ายๆกับ Airport link บ้านเราครับผม สังเกตผู้คนจะนั่งกันเงียบกริบครับผม
บรรยากาศข้างทางครับผม
เด็กที่นี่น่ารักดีนะครับ
ถึงแล้วครับกรุงโซล ก้าวแรกที่ออกจากสถานี อากาศเย็นสบายมากๆครับ ช่วงตุลาคม อากาศกำลังดีครับผม
จากนั้นต้องนั่งรถไฟต่อไปยังสถานี Yongsan ซึ่งเป็นต้นสายของ ITX ซึ่งจะจอดบางสถานีเท่านั้น รถไฟจึงทำความเร็วประมาณ 180 กม/ชม ครับ
และเรื่องราวการผจญภัยครั้งแรกก็เกิดขึ้นครับเนื่องจากเป็นการเดินทางครั้งแรก บวกกับความเคยชินจากประเทศไทยครับ ตามกำหนดการตั๋วโดยสาร ITX เขียนไว้ว่า 17.00 เมื่อผมลงจากบันไดเลื่อน ก็พบกับขบวนรถไฟนี้จอดอยุ่ครับ ผมก็คิดว่า สงสัยจะเป็นขบวนนี้แน่เลย แต่ก็ยังเอะใจว่า ปกติเขาน่าจะตรงเวลานะ
แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ครับ มันไม่ใช่ขบวนนี้!! ผมยืนมองแผนที่บนรถไฟ พยายามหาชื่อเมือง Chuncheon แต่มันไม่มีครับ ผมเอะใจจึงเดินออกมาจากขบวนรถ เท่านั้นละครับ ประตูรถไฟปิด พี่ๆที่มาด้วยกันและกระเป๋าเสื้อผ้าผมก็......ผมมองด้วยความตกใจ ในใจนึก ชิหายแล้วตู โทรศัพท์ก็ไม่ได้เปิดโรมมิ่งจะติดต่อกันยังไงละเนี้ย เลยทำสัญสักษณ์มือบอกไปเจอกันข้างหน้าๆ ผมยืนงงอยู่ตรงนั้นซักพัก ความคิดในหัวแรกเลยคือ สถานทูต!!! หรือจะรอตรงนี้เผื่อเขาวกกลับมา หรือจะตามเขาไปกับขบวนหน้า หรือไปรอปลายทาง หรือ หรือ หรือ..... ยืนอยู่ซักครู่ รถไฟขบวนใหม่ก็เข้าชานชลาครับ และเมื่อนั้นเอง ผมจึงถึงบางอ้อ มันคือ ITX ตรงตามเวลาบนตั๋วเป๊ะๆเลยครับ ก็ตัดสินใจนาทีสุดท้าย เอาว่ะ ภาษาอังกฤษเราก็พอได้อยู่นะ ไปรอที่ปลายทางแล้วก็ เพราะเมือง Chuncheon คือปลายทางของรถไฟสายนี้พอดีครับ และโชคดีอีกอย่างคือ ก่อนมาเกาหลีใต้ ผมหาข้อมูลเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟ มาพอสมควร จนได้เจอกับ แอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Subway ของเกาหลีใต้ครับ ใช้ดีมากๆและเข้าใจง่ายครับผม สุดท้ายผมก็ตัดสินใจไปรอที่ปลายทางด้วยตัวคนเดียว เป็นการผจญภัยนอกประเทศครั้งแรกของผมเลยครับ โชคดีที่ผมมีกระเป๋าสะพายอีกใบ มีเสื้อกันหนาวพกมาด้วย และที่ขาดไมไ่ด้เลยคือ เงินครับ โชคดีที่ไม่ได้เก็บของเหล่านี้ไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า ไม่งั้นคง....ร้องไห้หนักมากกกก TT
และนี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้า ITX ครับผม ถ่ายตอนวันรุ่งขึ้นหลังจากจัดการธุระทุกอย่างเสร็จ และเตรียมตัวไปยังเกาะนามิครับ
ด้วยความหิวโหยจาการเดินทาง สวรรค์ก็เมตตาร้านขายขนมเคลื่อนที่!!! ครับ เหมือนบนเครื่องบินเลยครับ คุณป้าท่านน่ารักมากๆครับ ผมก็ยืนดูนั่นนี่ด้วยความหิว และตื่นตาตื่นใจกับขนมที่นี่ครับผม
สุดท้ายก็ได้อย่างที่เห็นครับ
ถึงแล้วครับ Chuncheon Station อันดับแรกเลย มองหา Free Wifi ครับ ก็ไปลงเอยที่ร้านกาแฟในสถานี ได้ชาทแบตไปด้วยในตัว เน็ตไม่แรงเท่าไหร่ แต่ก็มากพอสำหรับการโทรไลน์กลับไปหาครอบครัวที่ประเทศไทยครับ น้ำตาจิไหล ดีใจมากๆเมื่อได้ยินเสียงแม่ แม่จะรู้ไหมว่า ลูกเกือบหลงจนจะไม่ได้กลับเมืองไทยจนต้องหาภรรยาที่นี่ลงหลักปักฐานซะแล้ว อิอิ ก็พยายามติดต่อไปยังพี่ๆที่มาด้วยกันเผื่อเขาก็อาจจะกำลังหาทางติดต่อเราอยู่ แต่เงียบกริบครับ ผมจึงตีดสินใจว่า ถ้า 4 ทุ่มแล้ว ยังไม่มากัน ผมจะไปรอที่โรงแรมซึ่งผมมีอีเมลที่ติดต่อกับทางโรงแรมไว้ จึงค่อนข้างอุ่นใจครับ
และว่ากันด้วยเรื่องห้องน้ำครับ อาจจถเคยชินกับห้องน้ำที่ไทย ส้วมซึมบ้าง โถส้วมบ้าง แต่ที่นี่ อืมม ไม่รู้จะบรรยายยังไง ก็นะครับ แปลกตาดีครับ ภาพมโนก่อนมาคิดว่าคงเหมือนห้องน้ำที่แฟชั่นไอซ์แลนด์ เป็นโถส้วมแบบญี่ปุ่น คงดูไฮเทคๆ ครับ ก็อย่างที่เห็น ก็ดีครับ.....
และในที่สุด ผมก็เจอพี่ๆตามที่คาดไว้ครับ โล่งใจไปได้เยอะเลยครับ พี่ๆนั่งรถไฟธรรมดามา คือ จอดทุกสถานี ช้ากว่าผมพอสมควรครับ แต่ก็ ได้เจอกันแล้ว เดิทางเข้าที่พักด้วยแท๊กซี่หน้าสถานีครับ ที้นี่จอดกันเป็นระเบียบ ณ จุดจอดที่ทางสถานีกำหนดไว้ครับผม แท๊กซี่ค่อนข้างใหม่ครับ ไฮเทคมากๆ ซึ่งคันที่ผมนั่งนั้น รับบัตร cash bee ด้วย และที่สำคัญ ติดแก็สเหมือนบ้านเราเลยครับ
เดี๋ยวผมมาต่อนะครับ ได้เวลากลับบ้านแล้วครับผม ฝ่าฝูงรถในกรุงเทพกันต่อไปครับ