
Magpie : นกกางเขนแห่งซองนัม
(credit : wikipedia)
ผมว่าจะเขียน Mini Review นี้ ตั้งแต่วันเสาร์แล้วละครับ เพียงแต่ติดภารกิจยุบยับไปหมด เลยขออณุญาติทำ Mini Review ไว้เผื่อท่านใดสนใจเอาไปประกอบข้อมูลดูฟุตบอล ACL คู่ระหว่าง ซองนัม เอฟซี vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ละกันนะครับ
เมืองซองนัม ตั้งอยู่ในจังหวัด คยอง-กี ตอนกลางของประเทศ (อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล) เป็นที่ตั้งของสโมสรซองนัม อิลฮวา ชุนมา ก่อนที่จะถูกเทคโอเวอร์ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) จากรัฐบาลเมืองซองนัมกับกลุ่มอิลฮวา และเปลี่ยนชื่อมาเป็น "ซองนัม เอฟซี" จนถึงปัจจุบัน

เมืองซองนัม
ส่วนรังเหย้าของพวกเขาที่จะเอาไว้วาดลวดลายฟาดแข้งกับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ สนามแทชอน สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีความจุราว ๆ 16,000 คนได้ และใช้เป็นสนามเอนกประสงค์ต่าง ๆ อีกด้วย

สนามแทชอน สปอร์ต คอมเพล็กซ์
(credit : soccerway)
มาดูประวัติของพวกเขากันหน่อยครับ (โดยผมจะเรียกว่า สโมสรซองนัม เอฟซี ไปเลย ก็ให้ถือว่าหมายรวมถึงก่อนเปลี่ยนชื่อจาก ซองนัม อิลฮวา ชุนมา ด้วยเลยนะครับ) โดยสโมสรซองนัม เอฟซี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ในชื่อของ "อิลฮวา ชุนมา ฟุตบอลคลับ" โดยที่อีก 3 ปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) พวกเขาได้คว้าถ้วย Korean League Cup มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่ในปี ค.ศ. 1993-1995 จะคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน
ในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ในรายการของ Asian Club Championship (AFC Champion League ในปัจจุบัน) พวกเขาก็คว้าอันดับ 4 มาประดับสโมสร และประกาศศักดาเป็นสโมสรเจ้าเอเซีย โดยการคว้าแชมป์ Asian Club Championship มาครองได้สำเร็จเมื่อปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ด้วยการเอาชนะ อัล-นาเซอร์ จากซาอุดิอาระเบีย ไปในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0
ต่อมา Asian Club Championship ปี ค.ศ. 1996-1997 (พ.ศ. 2539-2540) พวกเขาก็ไปได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่พ่ายกับ โปฮัง สตีลเลอร์ ยอดทีมจากเกาหลีใต้เช่นเดียวกัน ในช่วงต่อเวลา พ่ายไปด้วยสกอร์ 2-1 และเข้าชิงชนะเลิศอีกครั้งใน AFC Champions League ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) กับ อัล- อิติฮัด จาก ซาอุดิอาระเบีย (ในระบบเหย้า-เยือน) โดยที่บุกไปเอาชนะ อัล-อิติฮัดก่อนถึง 1-3 ก่อนที่จะมาพ่ายแพ้แบบยับเยินในบ้านตัวเองถึง 0-5 สกอร์รวม 6-3 ทำให้เขาพลาดคว้าแชมป์สโมสรเอเซียอีกสมัย
และความฝันก็เป็นจริง เมื่อปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) พวกเขาประกาศศักดา คว้าโทรฟี่ AFC Champions League ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยเอาชนะ ทีม ซอบ-อาฮาน จากประเทศอิหร่านไปด้วยสกอร์ 3-1 เถลิงบัลลังก์เจ้าเอเซียอีก 1 สมัย และเป็นทีม ๆ เดียวจากเกาหลีใต้ที่ได้เข้าชิงชนะเลิศในถ้วยใหญ่ของเอเซียมากที่สุด ถึง 4 ครั้งด้วยกัน

ซองนัม กับการคว้าแชมป์ AFC Champions League 2010
(credit : fifa.com)
ส่วนความสำเร็จในประเทศ พวกเขาเป็นแชมป์ลีกรวมทั้งสิ้น 7 สมัย, แชมป์ FA Cup 3 สมัย และ แชมป์ League Cup อีก 3 สมัย จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทีมซองนัม เอฟซี คือยอดทีมแถวหน้าของวงการฟุตบอลเกาหลีใต้อย่างแท้จริง
ต่อไปเรามาดู ฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนทีมซองนัม เอฟซี ก่อนดีกว่าครับ

ฮวาง อุย โจ
(credit : facebook.com/BuriramUTD)
ฮวาง อุย โจ : ศูนย์หน้าดาวรุ่งของทีมซองนัม เอฟซี มีทักษะที่ดี และสัญชาติญาณกองหน้าอย่างเต็มเปี่ยม มีความสามารถในการเข้าทำที่หลากหลาย แม้ในฤดูกาลนี้ผ่านไป 7 นัดในลีก จะทำได้แค่ 2 ประตู อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นผู้เล่นที่อันตรายตัวนึงของทีมซองนัม เอฟซี

คิม โด ฮอน
(credit : zimbio.com)
คิม โด ฮอน : จอมทัพดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ เป็นกลไกสำคัญในแดนกลางของซองนัม เอฟซี อีกทั้งกองกลางจอมเก๋าคนนี้ เคยเล่นให้กับ สโมสร เวสต์บอมวิช อัลเบี้ยน ในปี ค.ศ. 2008-2009 (พ.ศ. 2551-2552) ดังนั้นเรื่องประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึง อีกทั้งการเดินเกมส์ต่าง ๆ น่าจะอยู่ที่เขาคนนี้เป็นตัวบัญชาการเกมส์ในแดนกลาง

ลูคัส เดอ ซูซ่า
(credit : globoesporte.globo.com)
ลูคัส เดอ ซูซ่า : มิดฟิลด์เชิงสูงที่ถูกยืมตัวมาจาก สโมสรโครินเธียนส์, บราซิล เป็นผู้เล่นอีกหนึ่งคนที่เฮดโค้ชของซองนัมไว้ใจให้ทำเกมส์เคียงคู่กับ คิม โด ฮอน โดยมิดฟิลด์รายนี้มีการทำเกมส์ที่หวือหวา ลากเลื้อยกระชากสไตล์แซมบ้า อีกหนึ่งตัวอันตรายของทางซองนัม เอฟซี

ยุน ยอง ซัน
(credit : footballzz.com)
ยุน ยอง ซัน : หัวใจแนวรับรายนี้ เป็นมันสมองของแนวรับเลยก็ว่าได้ ทั้งความแข็งแกร่ง และการอ่านเกมส์ที่เฉียบขาด ทำให้แผงแนวรับค่อนข้างอุ่นใจเมื่อมีเขาอยู่ในสนาม ดังนั้นการที่จะฝ่าเขาไปทำประตูก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว

คิม ฮัค บัม
(credit : thailandsusu)
คิม ฮัค บัม : เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ที่ต้องการจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับทีมซองนัม เอฟซี เคยพานกกางเขนแห่งซองนัม เถลิงบัลลังก์แชมป์ K-League เมื่อปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และย้ายไปคุมทีม เหอหนาน เจียนยี่ ในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ถูกปลดกลางฤดูกาล ก่อนที่ ทีมซองนัม เอฟซี จะประกาศแต่งตั้งเขาเป็นเฮดโค้ชอีกครั้งเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) หรือช่วงปีที่ผ่านมานี้เอง ดังนั้นกุนซือมากประสบการณ์ผู้นี้ ต้องพานกกางเขนแห่งซองนัม โบยบินอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ว่า "เขาคือเฮดโค้ชระดับแนวหน้าของเอเซีย" อย่างแท้จริง
และนี่คืออีกหนึ่งกำแพงในระดับเอเซียของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ต้องก้าวฝ่าไปให้ได้ แม้ว่ามันจะสูงเสียดฟ้าอย่างไรก็ตาม โดยวันพุธที่ 22 เมษายน นี้ จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของทางบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ว่าจะสามารถร่วมแรง ร่วมใจ หักด่าน "นกกางเขน" ทีมนี้ไปได้หรือไม่
ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้ทีมปราสาทสายฟ้า บุกไปคว้าชัยในรังของ "นกกางเขนแห่งซองนัม" ครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
ผ่าทีมศึก AFC Champion League 2015 : ซองนัม เอฟซี
Magpie : นกกางเขนแห่งซองนัม
(credit : wikipedia)
ผมว่าจะเขียน Mini Review นี้ ตั้งแต่วันเสาร์แล้วละครับ เพียงแต่ติดภารกิจยุบยับไปหมด เลยขออณุญาติทำ Mini Review ไว้เผื่อท่านใดสนใจเอาไปประกอบข้อมูลดูฟุตบอล ACL คู่ระหว่าง ซองนัม เอฟซี vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ละกันนะครับ
เมืองซองนัม ตั้งอยู่ในจังหวัด คยอง-กี ตอนกลางของประเทศ (อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล) เป็นที่ตั้งของสโมสรซองนัม อิลฮวา ชุนมา ก่อนที่จะถูกเทคโอเวอร์ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) จากรัฐบาลเมืองซองนัมกับกลุ่มอิลฮวา และเปลี่ยนชื่อมาเป็น "ซองนัม เอฟซี" จนถึงปัจจุบัน
เมืองซองนัม
ส่วนรังเหย้าของพวกเขาที่จะเอาไว้วาดลวดลายฟาดแข้งกับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ สนามแทชอน สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีความจุราว ๆ 16,000 คนได้ และใช้เป็นสนามเอนกประสงค์ต่าง ๆ อีกด้วย
สนามแทชอน สปอร์ต คอมเพล็กซ์
(credit : soccerway)
มาดูประวัติของพวกเขากันหน่อยครับ (โดยผมจะเรียกว่า สโมสรซองนัม เอฟซี ไปเลย ก็ให้ถือว่าหมายรวมถึงก่อนเปลี่ยนชื่อจาก ซองนัม อิลฮวา ชุนมา ด้วยเลยนะครับ) โดยสโมสรซองนัม เอฟซี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ในชื่อของ "อิลฮวา ชุนมา ฟุตบอลคลับ" โดยที่อีก 3 ปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) พวกเขาได้คว้าถ้วย Korean League Cup มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่ในปี ค.ศ. 1993-1995 จะคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน
ในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) ในรายการของ Asian Club Championship (AFC Champion League ในปัจจุบัน) พวกเขาก็คว้าอันดับ 4 มาประดับสโมสร และประกาศศักดาเป็นสโมสรเจ้าเอเซีย โดยการคว้าแชมป์ Asian Club Championship มาครองได้สำเร็จเมื่อปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) ด้วยการเอาชนะ อัล-นาเซอร์ จากซาอุดิอาระเบีย ไปในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0
ต่อมา Asian Club Championship ปี ค.ศ. 1996-1997 (พ.ศ. 2539-2540) พวกเขาก็ไปได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่พ่ายกับ โปฮัง สตีลเลอร์ ยอดทีมจากเกาหลีใต้เช่นเดียวกัน ในช่วงต่อเวลา พ่ายไปด้วยสกอร์ 2-1 และเข้าชิงชนะเลิศอีกครั้งใน AFC Champions League ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) กับ อัล- อิติฮัด จาก ซาอุดิอาระเบีย (ในระบบเหย้า-เยือน) โดยที่บุกไปเอาชนะ อัล-อิติฮัดก่อนถึง 1-3 ก่อนที่จะมาพ่ายแพ้แบบยับเยินในบ้านตัวเองถึง 0-5 สกอร์รวม 6-3 ทำให้เขาพลาดคว้าแชมป์สโมสรเอเซียอีกสมัย
และความฝันก็เป็นจริง เมื่อปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) พวกเขาประกาศศักดา คว้าโทรฟี่ AFC Champions League ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยเอาชนะ ทีม ซอบ-อาฮาน จากประเทศอิหร่านไปด้วยสกอร์ 3-1 เถลิงบัลลังก์เจ้าเอเซียอีก 1 สมัย และเป็นทีม ๆ เดียวจากเกาหลีใต้ที่ได้เข้าชิงชนะเลิศในถ้วยใหญ่ของเอเซียมากที่สุด ถึง 4 ครั้งด้วยกัน
ซองนัม กับการคว้าแชมป์ AFC Champions League 2010
(credit : fifa.com)
ส่วนความสำเร็จในประเทศ พวกเขาเป็นแชมป์ลีกรวมทั้งสิ้น 7 สมัย, แชมป์ FA Cup 3 สมัย และ แชมป์ League Cup อีก 3 สมัย จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทีมซองนัม เอฟซี คือยอดทีมแถวหน้าของวงการฟุตบอลเกาหลีใต้อย่างแท้จริง
ต่อไปเรามาดู ฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนทีมซองนัม เอฟซี ก่อนดีกว่าครับ
ฮวาง อุย โจ
(credit : facebook.com/BuriramUTD)
ฮวาง อุย โจ : ศูนย์หน้าดาวรุ่งของทีมซองนัม เอฟซี มีทักษะที่ดี และสัญชาติญาณกองหน้าอย่างเต็มเปี่ยม มีความสามารถในการเข้าทำที่หลากหลาย แม้ในฤดูกาลนี้ผ่านไป 7 นัดในลีก จะทำได้แค่ 2 ประตู อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นผู้เล่นที่อันตรายตัวนึงของทีมซองนัม เอฟซี
คิม โด ฮอน
(credit : zimbio.com)
คิม โด ฮอน : จอมทัพดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ เป็นกลไกสำคัญในแดนกลางของซองนัม เอฟซี อีกทั้งกองกลางจอมเก๋าคนนี้ เคยเล่นให้กับ สโมสร เวสต์บอมวิช อัลเบี้ยน ในปี ค.ศ. 2008-2009 (พ.ศ. 2551-2552) ดังนั้นเรื่องประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึง อีกทั้งการเดินเกมส์ต่าง ๆ น่าจะอยู่ที่เขาคนนี้เป็นตัวบัญชาการเกมส์ในแดนกลาง
ลูคัส เดอ ซูซ่า
(credit : globoesporte.globo.com)
ลูคัส เดอ ซูซ่า : มิดฟิลด์เชิงสูงที่ถูกยืมตัวมาจาก สโมสรโครินเธียนส์, บราซิล เป็นผู้เล่นอีกหนึ่งคนที่เฮดโค้ชของซองนัมไว้ใจให้ทำเกมส์เคียงคู่กับ คิม โด ฮอน โดยมิดฟิลด์รายนี้มีการทำเกมส์ที่หวือหวา ลากเลื้อยกระชากสไตล์แซมบ้า อีกหนึ่งตัวอันตรายของทางซองนัม เอฟซี
ยุน ยอง ซัน
(credit : footballzz.com)
ยุน ยอง ซัน : หัวใจแนวรับรายนี้ เป็นมันสมองของแนวรับเลยก็ว่าได้ ทั้งความแข็งแกร่ง และการอ่านเกมส์ที่เฉียบขาด ทำให้แผงแนวรับค่อนข้างอุ่นใจเมื่อมีเขาอยู่ในสนาม ดังนั้นการที่จะฝ่าเขาไปทำประตูก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว
คิม ฮัค บัม
(credit : thailandsusu)
คิม ฮัค บัม : เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ที่ต้องการจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับทีมซองนัม เอฟซี เคยพานกกางเขนแห่งซองนัม เถลิงบัลลังก์แชมป์ K-League เมื่อปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) และย้ายไปคุมทีม เหอหนาน เจียนยี่ ในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ถูกปลดกลางฤดูกาล ก่อนที่ ทีมซองนัม เอฟซี จะประกาศแต่งตั้งเขาเป็นเฮดโค้ชอีกครั้งเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) หรือช่วงปีที่ผ่านมานี้เอง ดังนั้นกุนซือมากประสบการณ์ผู้นี้ ต้องพานกกางเขนแห่งซองนัม โบยบินอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ว่า "เขาคือเฮดโค้ชระดับแนวหน้าของเอเซีย" อย่างแท้จริง
และนี่คืออีกหนึ่งกำแพงในระดับเอเซียของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ต้องก้าวฝ่าไปให้ได้ แม้ว่ามันจะสูงเสียดฟ้าอย่างไรก็ตาม โดยวันพุธที่ 22 เมษายน นี้ จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของทางบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ว่าจะสามารถร่วมแรง ร่วมใจ หักด่าน "นกกางเขน" ทีมนี้ไปได้หรือไม่
ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้ทีมปราสาทสายฟ้า บุกไปคว้าชัยในรังของ "นกกางเขนแห่งซองนัม" ครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ