วิจารณ์ร่าง รธน.ใหม่ (ภาค 2)
-----
ถ้าคุณคิดว่าเรื่องที่มาของ สว. ที่ผมเขียนไปเมื่อวานมันตำบอนมากพอแล้วละก็ ผมบอกได้เลยว่า "คุณคิดผิด" เพราะคนร่าง รธน. ฉบับนี้ มันร้ายกาจกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ!!
.
ส่วนที่ร้ายกาจที่สุดของรัฐธรรมนูญนี้ มันอยู่ในส่วนขององค์กรใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น ที่มีชื่อว่า "สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ" และ "คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ" ซึ่งฟังเผินๆ เออ ชื่อ

เพราะดีว่ะ ฟังดูแล้วแลดูเหมือนเราจะมีหวังกับการปฏิรูปประเทศ
.
แต่ ช้าก่อน โน้วๆๆๆๆๆๆๆ อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น
.
ไอ้"สภาขับถ่าย" เอ้ย "สภาขับเคลื่อนฯ" กับ "คณะกรรมการยุทธศาสตร์"นี่ละ คือตัวสืบทอดอำนาจเผด็จการอย่างแท้จริง เพราะที่มาของ 2 องค์กรนี้ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเลยแม้แต่น้อย ไม่มีเลยสักกะคน ไม่มีหมาสักตัวที่ประชาชนเลือกมา ไม่มีเลยจริงๆ
.
โดยไอ้ "สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป" มีสมาชิกทั้งหมด 120 คน ซึ่งมาจาก
.
ก. สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ปัจจุบัน ซึ่งทหารแต่งตั้งมา 60 คน
.
ข. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ปัจจุบัน ซึ่งทหารแต่งตั้งมาอีกเช่นกัน 30 คน
.
และ ค.ผู้ทรงคุณวุฒิเชี่ยวชาญด้านการปฏิรูปต่างๆ ซึ่งก็คือใครไม่รู้ ลอยมาจากไหนก็ไม่ทราบ อีก 30 คน
.
และไอ้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปนี้แหละ ก็จะเป็นตัวเลือก "คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปแห่งชาติ" ขึ้นมาอีก 15 คน สรุปคือ เอาคนที่ไม่ได้มาจากประชาชน มาเลือกคนที่ไม่ได้มาจากประชาชนอีกชุดหนึ่ง

เอ้ยยย ประชาธิปไตยประเทศนี้ช่างเฟื่องฟูเหมือนมดซะจริงๆ เฟื่องฟูมาก ฟูซะจนมองหารู(ทางออก)แทบไม่เห็น
.
แต่ๆๆๆ ช้าก่อนๆ ที่เด็ดดวงสุดคือ "อำนาจ" ของไอ้ 2 องค์กรนี้ต่างหาก ที่เรียกได้ว่าชั่วร้ายสุดๆ นั่นคือให้อำนาจ 2 องค์กรนี้ในการผลักดันกฎหมายเป็น พระราชบัญญัติได้ด้วยนะเฟ้ย
.
โดยปกติแล้วการออกกฎหมาย(พระราชบัญญัติ) จะต้องทำโดยรัฐสภา นั่นคือเมื่อมีกฎหมายเข้ามา สส. จะทำหน้าที่พิจารณา 3 วาระ (รับหลักการ/แปรญัตติ/ลงมติ) แล้วส่งต่อมาให้ สว. พิจารณาอีก 3 วาระเช่นกัน ถ้า สว.เห็นชอบทั้งสามวาระ ก็เป็นกฎหมายได้เลย แต่ถ้าการพิจารณาเกิดถูกปัดตกในชั้น สส. นั่นคือ สส.ไม่รับหลักการ หรือลงมติไม่รับร่าง ร่างกฎหมายนั้นก็ตกไป ไม่ต้องมาที่ สว.ให้เสียเวลา
.
แต่อำนาจในการผลักดันพระราชบัญญัติของไอ้ "สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป" และ "คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ"ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันไม่ธรรมดานะสิครับ เพราะมันให้ส่งพระราชบัญญัติไปที่ สว.(ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง)ก่อน แล้วถ้า สว.เห็นชอบ ก็ให้ส่งมาที่ สส. (คือกลับตารปัดจากกระบวนการปกติเลยนะ กลับหัวกลับหางมากๆ) ถ้า สส.เห็นชอบ ก็ส่งไปให้ สว.ลงมติ(ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง) เพื่อปรับแก้อีกครั้ง (คือคุมทั้งหัวทั้งหาง เป็นทั้งต้นทางและปลายน้ำในเวลาเดียวกัน)
.
แต่ๆๆๆๆ ถ้า สส.ไม่เห็นชอบละ???
คิดว่กฎหมายนี้จะตกไปไหม???
คิดงั้นรึเปล่า?
.
ความอุบาทว์มันอยู่ตรงนี้แหละครับ นั่นคือ ถ้า สส.ไม่เห็นชอบ กฎหมายนี้ไม่ตกไปนะเว้ย แต่มันจะเด้งกลับมาที่ สว.(ลากตั้ง)อีกรอบ ถ้า สว.(ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง)เห็นชอบ ก็ให้ถือว่า รัฐสภา(ทั้ง สส. และ สว.)เห็นชอบให้ใช้เป็นกฎหมายได้เลย
.
เถอะพี่ พูดได้เลยว่ามาตรานี้ หน้าหมีมากๆ
นี่ปล้นอำนาจประชาชนชัดๆ
.
สว. ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไอ้สภาขับเคลื่อนและคณะกรรมการนี่ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ๆๆๆๆ มีงทั้ง 3 องค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สามารถฮั้วกันออกกฎหมายได้เอง โดยไม่ต้องแคร์ สส.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทีนี้ละครับ ประชาชนเลือก สส.เข้าไปก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น เพราะในเมื่อ สว.ลากตั้ง+สภาขับเคลื่อน+คณะกรรมการยุทธศาสตร์ 3 องค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สามารถฮั้วกันออกกฎหมายเองได้ ไอ้ สส.ที่เราเลือกเข้าไป ก็ได้แต่นั่งหน้าหมากันทั้งสภา เพราะทำห่าไรไม่ได้เลย คัดค้านอะไรก็ไม่ได้ทั้งสิ้น
.
นี่มันคือการปล้นอำนาจประชาชนชัดๆ
ปล้นโดยกฎหมาย ปล้นโดยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
แล้วๆๆๆ ช้าก่อนๆ อย่าคิดว่ามันปล้นกันแค่นี้
.
เพราะในกรณีที่กฎหมายที่ไอ้สภาขับเคลื่อนกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์อยากผลักดันนั้น เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน เช่น กฎหมายเกี่ยวกับภาษี/งบประมาณแผ่นดิน/การกู้เงิน/เกี่ยวกับเงินตราต่างๆ ซึ่งปกติคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้มีอำนาจเสนอ ตรงนี้เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร โดยนายกฯจะต้องลงนามรับรอง(เพราะเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร) แต่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ จะให้อำนาจไอ้สภาขับเคลื่อนและคณะกรรมการยุทธศาสตร์(ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง)เสนอได้ด้วยเว้ย โดยต้องส่งร่างให้นายกรัฐมนตรีรับรอง แล้วถ้านายกรัฐมนตรีไม่ลงนามใน 30 วัน ก็ให้ถือว่านายกรัฐมนตรีให้การรับรอง????
.
คุณอ่านไม่ผิดครับ
"ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ลงนามใน 30 วัน ก็ให้ถือว่านายกรัฐมนตรีให้การรับรอง"
!!!???!!!
.
เถอะครับ นี่มัดมือชกคนเป็นนายกรัฐมนตรี ให้ต้องยอมรับกฎหมายการเงินที่จะเขียนกันเองเนี่ยนะ??? ถ้าเค้าไม่ลงนาม ก็ให้ถือว่าเค้าลงนามรับรอง จากนั้นก็ไปฮั้วกับ สว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง พลักดันกันให้เป็นกฎหมาย???
.
ไอ้คนร่างรัฐธรรมนูญครับ บ้ากันรึเปล่า? นี่ปล้นกลางวันแสกๆเลยนะ
.
ปล้นทั้งอำนาจนิติบัญญัติในการออกกฎหมายของ สส. ในฐานะตัวแทนประชาชนยังไม่พอ นี่ยังมาปล้นอำนาจดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารอีก รวมๆแล้วคือกำลังปล้นอำนาจประชาชนอยู่นะเว้ย มันมากไปรึเปล่าวะ?
.
อ่านมาถึงตรงนี้ บอกเลยว่าผมปี๊ดมาก โกรธจริงๆ อยากจะกี๊ดดดใส่หน้า

อีคณะกรรมการยกร่างให้หมดทุกตัว เอาให้

หูแตกระเบิดกันทุกคนเลย โกรธมากๆ
.
เพราะในฐานะประชาชนคนนึง ผมรู้สึกว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังปล้นอำนาจผม พวกคุณกำลังทำให้ "ตัวแทนของราษฎร" ไม่เหลืออำนาจใดๆทั้งสิ้น ตัวแทนของปวงชนจะไม่เหลือคุณค่า ไม่มีความหมายอะไรอีกเลย พวกคุณกำลังสร้างระบอบเผด็จการที่สืบทอดอำนาจโดยชอบธรรมไว้ในรัฐธรรมนูญ คุณกำลังกดขี่ข่มเหงและเอาเปรียบประชาชนมากขึ้นทุกวันๆ
.
ผมทำนายได้เลยว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะทำให้ช่องว่างทางชนชั้น และช่องว่างทางอำนาจระหว่างคนในสังคมขยายเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้จะไม่ใช่ทางออกของประเทศ แต่จะเป็นทางตันที่นำเราไปสู่ความขัดแย้งแตกหักที่หนักขึ้นเรื่อยๆ และได้โปรดอย่าเรียกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่าเป็น "รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป" เพราะนี่มันคือ "รัฐธรรมนูญฉบับปฏิกูล" ชัดๆ
.
ปล้นอำนาจประชาชนกลางวันแสกๆ
.
ปล้นทั้งอำนาจนิติบัญญัติ ปล้นทั้งอำนาจบริหาร
.
ปล้นจนประชาชนในประเทศนี้ แทบจะไม่เหลืออำนาจใดๆเลย...
Source:
https://www.facebook.com/sasdha/posts/626828964084449
ความ.....ล้าหลัง.....ถอยหลัง.....ลงคลอง......และอัปยศ ของ รัฐธรรมนูญฉบับปฏิกูล (ไม่ใช่ปฏิรูป)
-----
ถ้าคุณคิดว่าเรื่องที่มาของ สว. ที่ผมเขียนไปเมื่อวานมันตำบอนมากพอแล้วละก็ ผมบอกได้เลยว่า "คุณคิดผิด" เพราะคนร่าง รธน. ฉบับนี้ มันร้ายกาจกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ!!
.
ส่วนที่ร้ายกาจที่สุดของรัฐธรรมนูญนี้ มันอยู่ในส่วนขององค์กรใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น ที่มีชื่อว่า "สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ" และ "คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ" ซึ่งฟังเผินๆ เออ ชื่อ
.
แต่ ช้าก่อน โน้วๆๆๆๆๆๆๆ อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น
.
ไอ้"สภาขับถ่าย" เอ้ย "สภาขับเคลื่อนฯ" กับ "คณะกรรมการยุทธศาสตร์"นี่ละ คือตัวสืบทอดอำนาจเผด็จการอย่างแท้จริง เพราะที่มาของ 2 องค์กรนี้ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเลยแม้แต่น้อย ไม่มีเลยสักกะคน ไม่มีหมาสักตัวที่ประชาชนเลือกมา ไม่มีเลยจริงๆ
.
โดยไอ้ "สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป" มีสมาชิกทั้งหมด 120 คน ซึ่งมาจาก
.
ก. สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ปัจจุบัน ซึ่งทหารแต่งตั้งมา 60 คน
.
ข. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ปัจจุบัน ซึ่งทหารแต่งตั้งมาอีกเช่นกัน 30 คน
.
และ ค.ผู้ทรงคุณวุฒิเชี่ยวชาญด้านการปฏิรูปต่างๆ ซึ่งก็คือใครไม่รู้ ลอยมาจากไหนก็ไม่ทราบ อีก 30 คน
.
และไอ้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปนี้แหละ ก็จะเป็นตัวเลือก "คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปแห่งชาติ" ขึ้นมาอีก 15 คน สรุปคือ เอาคนที่ไม่ได้มาจากประชาชน มาเลือกคนที่ไม่ได้มาจากประชาชนอีกชุดหนึ่ง
.
แต่ๆๆๆ ช้าก่อนๆ ที่เด็ดดวงสุดคือ "อำนาจ" ของไอ้ 2 องค์กรนี้ต่างหาก ที่เรียกได้ว่าชั่วร้ายสุดๆ นั่นคือให้อำนาจ 2 องค์กรนี้ในการผลักดันกฎหมายเป็น พระราชบัญญัติได้ด้วยนะเฟ้ย
.
โดยปกติแล้วการออกกฎหมาย(พระราชบัญญัติ) จะต้องทำโดยรัฐสภา นั่นคือเมื่อมีกฎหมายเข้ามา สส. จะทำหน้าที่พิจารณา 3 วาระ (รับหลักการ/แปรญัตติ/ลงมติ) แล้วส่งต่อมาให้ สว. พิจารณาอีก 3 วาระเช่นกัน ถ้า สว.เห็นชอบทั้งสามวาระ ก็เป็นกฎหมายได้เลย แต่ถ้าการพิจารณาเกิดถูกปัดตกในชั้น สส. นั่นคือ สส.ไม่รับหลักการ หรือลงมติไม่รับร่าง ร่างกฎหมายนั้นก็ตกไป ไม่ต้องมาที่ สว.ให้เสียเวลา
.
แต่อำนาจในการผลักดันพระราชบัญญัติของไอ้ "สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป" และ "คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ"ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันไม่ธรรมดานะสิครับ เพราะมันให้ส่งพระราชบัญญัติไปที่ สว.(ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง)ก่อน แล้วถ้า สว.เห็นชอบ ก็ให้ส่งมาที่ สส. (คือกลับตารปัดจากกระบวนการปกติเลยนะ กลับหัวกลับหางมากๆ) ถ้า สส.เห็นชอบ ก็ส่งไปให้ สว.ลงมติ(ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง) เพื่อปรับแก้อีกครั้ง (คือคุมทั้งหัวทั้งหาง เป็นทั้งต้นทางและปลายน้ำในเวลาเดียวกัน)
.
แต่ๆๆๆๆ ถ้า สส.ไม่เห็นชอบละ???
คิดว่กฎหมายนี้จะตกไปไหม???
คิดงั้นรึเปล่า?
.
ความอุบาทว์มันอยู่ตรงนี้แหละครับ นั่นคือ ถ้า สส.ไม่เห็นชอบ กฎหมายนี้ไม่ตกไปนะเว้ย แต่มันจะเด้งกลับมาที่ สว.(ลากตั้ง)อีกรอบ ถ้า สว.(ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง)เห็นชอบ ก็ให้ถือว่า รัฐสภา(ทั้ง สส. และ สว.)เห็นชอบให้ใช้เป็นกฎหมายได้เลย
.
เถอะพี่ พูดได้เลยว่ามาตรานี้ หน้าหมีมากๆ
นี่ปล้นอำนาจประชาชนชัดๆ
.
สว. ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไอ้สภาขับเคลื่อนและคณะกรรมการนี่ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ๆๆๆๆ มีงทั้ง 3 องค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สามารถฮั้วกันออกกฎหมายได้เอง โดยไม่ต้องแคร์ สส.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทีนี้ละครับ ประชาชนเลือก สส.เข้าไปก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น เพราะในเมื่อ สว.ลากตั้ง+สภาขับเคลื่อน+คณะกรรมการยุทธศาสตร์ 3 องค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สามารถฮั้วกันออกกฎหมายเองได้ ไอ้ สส.ที่เราเลือกเข้าไป ก็ได้แต่นั่งหน้าหมากันทั้งสภา เพราะทำห่าไรไม่ได้เลย คัดค้านอะไรก็ไม่ได้ทั้งสิ้น
.
นี่มันคือการปล้นอำนาจประชาชนชัดๆ
ปล้นโดยกฎหมาย ปล้นโดยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
แล้วๆๆๆ ช้าก่อนๆ อย่าคิดว่ามันปล้นกันแค่นี้
.
เพราะในกรณีที่กฎหมายที่ไอ้สภาขับเคลื่อนกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์อยากผลักดันนั้น เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน เช่น กฎหมายเกี่ยวกับภาษี/งบประมาณแผ่นดิน/การกู้เงิน/เกี่ยวกับเงินตราต่างๆ ซึ่งปกติคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้มีอำนาจเสนอ ตรงนี้เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร โดยนายกฯจะต้องลงนามรับรอง(เพราะเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร) แต่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ จะให้อำนาจไอ้สภาขับเคลื่อนและคณะกรรมการยุทธศาสตร์(ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง)เสนอได้ด้วยเว้ย โดยต้องส่งร่างให้นายกรัฐมนตรีรับรอง แล้วถ้านายกรัฐมนตรีไม่ลงนามใน 30 วัน ก็ให้ถือว่านายกรัฐมนตรีให้การรับรอง????
.
คุณอ่านไม่ผิดครับ
"ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ลงนามใน 30 วัน ก็ให้ถือว่านายกรัฐมนตรีให้การรับรอง"
!!!???!!!
.
เถอะครับ นี่มัดมือชกคนเป็นนายกรัฐมนตรี ให้ต้องยอมรับกฎหมายการเงินที่จะเขียนกันเองเนี่ยนะ??? ถ้าเค้าไม่ลงนาม ก็ให้ถือว่าเค้าลงนามรับรอง จากนั้นก็ไปฮั้วกับ สว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง พลักดันกันให้เป็นกฎหมาย???
.
ไอ้คนร่างรัฐธรรมนูญครับ บ้ากันรึเปล่า? นี่ปล้นกลางวันแสกๆเลยนะ
.
ปล้นทั้งอำนาจนิติบัญญัติในการออกกฎหมายของ สส. ในฐานะตัวแทนประชาชนยังไม่พอ นี่ยังมาปล้นอำนาจดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารอีก รวมๆแล้วคือกำลังปล้นอำนาจประชาชนอยู่นะเว้ย มันมากไปรึเปล่าวะ?
.
อ่านมาถึงตรงนี้ บอกเลยว่าผมปี๊ดมาก โกรธจริงๆ อยากจะกี๊ดดดใส่หน้า
.
เพราะในฐานะประชาชนคนนึง ผมรู้สึกว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังปล้นอำนาจผม พวกคุณกำลังทำให้ "ตัวแทนของราษฎร" ไม่เหลืออำนาจใดๆทั้งสิ้น ตัวแทนของปวงชนจะไม่เหลือคุณค่า ไม่มีความหมายอะไรอีกเลย พวกคุณกำลังสร้างระบอบเผด็จการที่สืบทอดอำนาจโดยชอบธรรมไว้ในรัฐธรรมนูญ คุณกำลังกดขี่ข่มเหงและเอาเปรียบประชาชนมากขึ้นทุกวันๆ
.
ผมทำนายได้เลยว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะทำให้ช่องว่างทางชนชั้น และช่องว่างทางอำนาจระหว่างคนในสังคมขยายเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้จะไม่ใช่ทางออกของประเทศ แต่จะเป็นทางตันที่นำเราไปสู่ความขัดแย้งแตกหักที่หนักขึ้นเรื่อยๆ และได้โปรดอย่าเรียกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่าเป็น "รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป" เพราะนี่มันคือ "รัฐธรรมนูญฉบับปฏิกูล" ชัดๆ
.
ปล้นอำนาจประชาชนกลางวันแสกๆ
.
ปล้นทั้งอำนาจนิติบัญญัติ ปล้นทั้งอำนาจบริหาร
.
ปล้นจนประชาชนในประเทศนี้ แทบจะไม่เหลืออำนาจใดๆเลย...
Source: https://www.facebook.com/sasdha/posts/626828964084449