คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
พระอาจารย์ของดิฉันเคยพูดว่า มีภูมิรู้ก่อน ภูมิธรรม ถึงจะเกิด เข้าใจเอาเองตามสติปัญญาในวันที่ได้ฟังคือ เราต้องรู้และเชื่อก่อนว่า บุญมีจริง บาปมีจริง ผลของกรรมมีจริง สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนเป็นความจริง และต้องเชื่อด้วยใจ เชื่อด้วยการพิสูจน์ เชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย เมื่อนั้นภูมิธรรมจะเกิดตามกำลังของสติปัญญา การรู้ธรรมกับการมีธรรมแตกต่างกันอย่างไร การรู้ธรรมเราเรียนศึกษาและปฎิบัติ ย่อมรู้กันได้ทุกคน แต่ การมีธรรมบางคนไม่ต้องเรียนต้องศึกษาก็มีเองได้เพราะเขามีติดตัวของเขามาแล้ว วิธีจำแนกบุคคลที่รู้ธรรมกับมีธรรมเป็นอย่างไร ต้องใช้เวลาในการดูบุคคลทั้งสองประเภทเวลาจะเป็นตัวตัดสินและตัวเราเองก็ต้องเป็นผู้รู้ธรรมตามกำลังของธรรมนั้นด้วยถึงจะมองกันออก (คนแบบเดียวกันย่อมมองคนแบบเดียวกันออก) ควรฝึกเป็นผู้รู้ธรรมหรือมีธรรม ต้องฝึกทั้งสองแบบ (ผู้รู้ธรรมต้องใช้ใจเรียนรู้ด้วย มิใช่รู้แต่หนังสือเพียงอย่างเดียว ) ส่วนตัวขนขวายทั้งสองอย่างตามสเต็ป ภูมิรู้มาก่อน (รู้จากการปฎิบัติและอ่าน) ภูมิธรรมบังเกิดขึ้นตามมา (มาจากการปฎิบัติ และ จิตยอมรับสิ่งที่รู้นั้น ตามกำลังสติปัญญา) ผู้รู้ธรรมกับผู้มีธรรมต่างกันอย่างไร คหสต ไม่ต่างกัน ผู้รู้ธรรมต้องรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ โดยเฉพาะปฎิบัติถ้าไม่รู้ ก็ยังไม่นับรวมว่าเป็นผู้รู้ธรรม เมื่อเป็นผู้รู้ธรรมแล้วความเป็นผู้มีธรรมก็จะเกิดขึ้น คหสตนะคะ
แสดงความคิดเห็น
ผู้รู้ธรรม กับ ผู้มีธรรม ต่างกันอย่างไร?
เห็นว่ามีผู้ให้ความสนใจในเรื่องศาสนาพอสมควร จึงมีคำถามใคร่ถามผู้รู้ทั้งหลายว่า ..
ท่านมองความแตกต่างระหว่าง การรู้ธรรม กับ การมีธรรม อย่างไร
ท่านมีวิธีจำแนกบุคคลที่ รู้ธรรม กับ มีธรรม อย่างไร
บุคคลควรฝึกตนไปสู่ความเป็น ผู้รู้ธรรม หรือ ผู้มีธรรม
ท่านคิดว่ากำลังขวนขวายตนไปเพื่อรู้ธรรมหรือมีธรรม