กลายเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ไปแล้ว สำหรับนางเอกสาว "แพนเค้ก"เขมนิจ จามิกรณ์ กับพระเอกหนุ่ม "ธันวา สุริยจักร" ที่โคจรมาเจอกันในละคร "แหวนสวาท" ทางช่อง 7
กระแสละครฮอตฮิต ไปไหนมีแต่คนเรียก "แม่พิศ" กับ "คุณเด๋อ" ตัวละครในเรื่อง
โดยเฉพาะนางเอกสาว "แพนเค้ก" ที่ในเรื่องต้องรับบทแฝด ท้าทายฝีมือ
ใน "แหวนสวาท" รับบทแฝดเป็นอย่างไรบ้าง?
แพนเค้ก - "ก็โหดเหมือนกันค่ะ ใช้พลังเยอะมาก เป็นครั้งแรกที่เล่นเป็นฝาแฝด ที่ติดต่อมาตอนแรก โดยตัวเรื่องน่าสนใจ และได้กลับมาทำงานกับพี่อ๊อด-ธีระศักดิ์ ด้วย เลยโอเค ไม่รู้หรอกว่าบทจะขนาดไหน แต่รู้สึกน่าสนุกและน่าสนใจ มันดูหลากหลายจากที่เคยเล่นมา มีพาร์ตที่เป็นอดีต เราเป็นพี่น้องกันสองคน น้องอิจฉาพี่เลยฆ่าพี่ตาย แล้ว กลับชาติมาเกิด ตัวน้องมาชดใช้กรรมในปัจจุบัน ส่วนพี่ยังไม่ไปเกิด รอช่วยน้องก่อน ก็มาเป็นนางฟ้า เลยตามกันจากอดีตมาถึงปัจจุบัน และในปัจจุบันตัวที่เป็นนางฟ้าจะมีแปลงร่างเพื่อให้เข้ายุคปัจจุบัน ด้วยการใส่วิกผมสั้น เลยดูเหมือนหลายคาแร็กเตอร์"
เล่นเป็นผีกับคนสลับไปมา ยากไหม?
แพนเค้ก - "ยากเพราะมีทั้งพาร์ตที่เป็นพีเรียด ดราม่า คอมเมดี้ และเป็นแฟนตาซีด้วย ต้องใช้ซีจี ซึ่งเราไม่ค่อยได้ถ่ายละครที่มีซีจีเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ค่อนข้างมีเยอะ มีการหายตัวแทบทุกซีนก็ต้องมีการปรับเทคนิคกันไปเรื่อยว่าแบบไหนดูเนียนลง ตัวที่สุด"
เล่นเป็นแฝด ทำยังไงให้คนดูเชื่อว่าต่างกัน?
แพนเค้ก - "เชื่อว่าต่างกันนะ คือแม่พิศจะมีความสดใสร่าเริงในตัวเขา กุ๊กกิ๊ก แต่แพรวจะนิ่งๆ มั่นใจในตัวเอง เรียบๆ ซึ่งแยกกันชัดเจนด้วยคาแร็กเตอร์ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย"
เรื่องนี้ได้เล่นคู่กับธันวาเป็นอย่างไรบ้าง?
แพนเค้ก - "สนุกดีค่ะ เขาตั้งใจเล่น พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เล่นเป็นธรรมชาติมากๆ รู้สึกว่าพลิ้วมากในการเล่นบทกุ๊กกิ๊กแบบนี้ เขาทำได้ดี แรกๆ อาจจะมีการรับคำแนะนำจาก ผู้ กำกับฯ บ้าง เรื่องให้ดูเจ้าชู้ ขี้เล่นหน่อย เขาก็ค่อยๆ แรกๆ ก็มีบอก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องบอกแล้ว พลิ้วแล้ว เราเห็นฟีดแบ็กสำหรับเขาก็ดีนะ ทุกคนชอบเขาในคาแร็กเตอร์แบบนี้ ถามว่าเรามีช่วยอะไรไหม คือไม่ค่อยได้ช่วย ส่วนมากจะช่วยกันเวลาเล่นมากกว่า รับส่งกันแบบเป็นธรรมชาติ แต่ธันเขาจะเป็นคนชัดเจน ถ้าซีนไหนเล่นได้ไม่เต็มที่ไม่โอเค เขาจะขอใหม่ หรือจุดไหนไม่เข้าใจก็มีถามบ้าง เราว่าเขาเป็นวัยรุ่นที่ทำได้ดีและตั้งใจ ทำแล้วเราเชื่อในคาแร็กเตอร์ที่เขาเป็น"
ระหว่างถ่ายทำมีเจออุปสรรคอะไรไหม?
แพนเค้ก - "สัตว์ เด็ก เอฟเฟกต์ สะลิงค่ะ มาครบ (หัวเราะ) จริงๆ เด็กไม่มีปัญหา น้องที่มาเข้าฉากด้วยเก่งมาก ส่วนเอฟเฟกต์อาจมีบ้างที่ใช้ซีจีหลายรอบหลายมุม"
พิศกับแพรว ชอบคาแร็กเตอร์ไหนกว่ากัน?
แพนเค้ก - "ชอบพิศนะ เพราะเราว่าเขามีอะไรให้เราเล่นเยอะ หรือเพราะมีวิกผมสั้นเข้ามา มันก็เพิ่มความน่าสนใจขึ้น"
สัญญาช่อง 7 เหลืออีกเท่าไหร่?
แพนเค้ก - "เหลือประมาณนึง ถามว่าคิดอยากจะเป็นนักแสดงอิสระไหม จริงๆ ยังไม่เคยแพลนอะไรไว้ แต่เราว่าถ้าถึงจุดนั้น เราคงต้องขยับขยายหรือมองอะไรอีกมุม หรือมีการตัดสินใจอะไรอีกมุมเพิ่มเติม เดี๋ยวค่อยๆ ดูกันไป คือโลกมันเปลี่ยนไป เดินหน้าไปเรื่อยๆ เราคงหยุดนิ่งไม่ได้ ทุกอย่างที่ทำคงต้องมีการเคลื่อนไหว ที่สำคัญต้องให้เร็ว คิดแล้วควรทำ เพราะทุกวินาทีมีคุณค่า มีผลต่อการตัดสินใจ ถามว่าเริ่มมีช่องอื่นมาจีบไหม ไม่มีค่ะ ส่วนมากอาจจะเป็นการคุยกันเล่น แต่ไม่มีอะไร เพราะทุกคนรู้ว่าเราทำงานอยู่ตรงนี้"
นอกจาก "แหวนสวาท" แล้ว ตอนนี้มีผลงานแสดงอะไรอีก?
แพนเค้ก - "มีละคร "รักเร่" ที่กำลังถ่ายทำ และหนัง "ป้าแฮปปี้ she ท่าเยอะ" ของ M๓๙ ที่จะเข้าฉาย พ.ค.นี้ เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิต ออกแนวคอมเมดี้ คาแร็กเตอร์เป็นผู้หญิงคิดบวก มีความเชื่อเยอะมากที่จะทำให้ตัวเองดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีความสุข ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแนวเปลี่ยนลุกส์ แพนอยู่วงการมา 10 ปี คนคงอยากเห็นแพนเปลี่ยนแปลงไปทางไหนได้อีก ครั้งนี้ก็มาในลุกส์นี้ ซึ่งแพนแฮปปี้มาก เพราะมันแตกต่างจากที่เคยทำงานมา เป็นลุกส์ที่คนไม่เคยเห็นมาก่อน หัวฟูๆ ดูรั่วๆ หน้าไม่ต้องแต่ง เต้นเยอะมากแทบทุกที่ แรกๆ เขินแต่อีกใจก็คิดว่าเป็นสิ่งดีที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ และได้ร่วมงานกับพี่เบน(ชลาทิศ) นักร้องที่แพนชื่นชอบอยู่แล้วด้วย เป็นหนังเรื่องแรกก็ทำเต็มที่"
คิดว่าตอนนี้ประสบความสำเร็จหรือยัง?
แพนเค้ก - "เราประเมินกันเป็นชิ้นงานมากกว่า เวลาทำอะไรกับคุณแม่ เราจะมานั่งดูกันว่าโอเคไหม การเตรียมตัว เตรียมพร้อม งานนี้ทำดีก็มาติชมให้กำลังใจกัน คุยกันเป็นงานๆ ไม่ได้คิดว่าประสบความสำเร็จไหม แต่คิดว่าได้ทำเต็มที่ไหมในงานชิ้นนั้น แค่นั้นก็แฮปปี้แล้วในหนึ่งวันที่เรามีโอกาสได้ทำงาน"
มองอนาคตในวงการไว้ยังไงบ้าง?
แพนเค้ก - "หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ทั้งการทำงาน คนทำงาน มีช่องต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่วนตัวคงต้องพัฒนาการทำงานของเราเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสได้ทำอะไรที่แปลกใหม่หรือหลากหลายมากขึ้น เล่นละครแล้ว เดินแบบแล้ว เล่นหนังแล้ว ล่าสุดเป็นพิธีกรรายการ โสภาพลาซ่า ก็เป็นงานชิ้นใหม่ที่ได้รับโอกาสจากทางช่อง เป็นไลน์ใหม่ๆ ให้เราลองขยับขยายดู จริงๆ มันท้าทายทุกบทบาท ถือว่า 10 ปีที่ทำงานมา มันหลากหลายมากขึ้น คาแร็กเตอร์ชัดเจนมากขึ้น"
เป้าหมายสูงสุดในวงการที่ตั้งไว้?
แพนเค้ก - "เป็นการทำงานอย่างยั่งยืนมากกว่า ให้เราได้มีความสุขในการทำอาชีพของเราจริงๆ เพราะไม่ได้มาแค่เก็บเกี่ยว แต่มาทำอาชีพที่เรารักที่จะทำ อาชีพนี้หลากหลาย เรียนรู้ตลอดเวลา และยังมีธุรกิจที่ทำควบคู่ เราคงพยายามทำทั้งสองให้ดีที่สุดค่ะ"
เจ้าแม่"ธุรกิจ-งานบุญ"
เป็นนางเอกแสนขยัน นอกจากงานและการเรียนปริญญาเอกในตอนนี้แล้ว สาว "แพนเค้ก-เขมนิจ" ยังโหมจับธุรกิจจนได้รับฉายา "เจ้าแม่ธุรกิจ" โดยเจ้าตัวว่า
"มีโอกาสดีๆ ก็จะไม่รั้งรอ อย่างเท็ดดี้เฮ้าส์, เบบี้โรส บาย แพนเค้ก ตอนนี้ธุรกิจสองตัวนี้ยังคงต้องเดินเร็วอยู่เรื่อยๆ เพราะโลกแฟชั่นมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ต้องคิดอะไรที่แตกต่าง ตื่นตัว ส่วนยาสตรีแพนเค้กค่อนข้างอยู่ตัวในแบบเขา คือมันอาจต้องใช้เวลาในการให้คนได้เข้าถึง"
เห็นล่าสุดเปิด ร้านขนมด้วย
"ใช่ค่ะ ร้านขนมสมหมาย จริงๆ น้องมิกิชอบทำขนมก็คิดว่ามิกิได้มาลองทำดูแลรับผิดชอบอะไรของเขาน่าจะเป็น สิ่งที่ดี ส่วนอีกหนึ่งเหตุผล ชื่อร้านขนมสมหมาย สมหมายคือชื่อคุณยาย แต่ท่านเสียไปแล้วก็เลยใช้ชื่อนี้เพราะเรายังคิดถึงกันเสมอ แล้วคุณตาก็จะได้มีที่มานั่งทานกาแฟ ทานขนมปัง เหมือนได้มาจอยกับหลานๆ ส่วนชื่อขนมจะเป็นชื่อ คุณตา คือคุณตาเป็นเจ้าของร้านและให้มิกิเป็นผู้จัดการร้าน เราทำกันเองในครอบครัว ไม่มีหุ้นส่วน"
แบบนี้จะมีโอกาสได้ทำธุรกิจกับพี่หมีไหม
"คงไม่น่ามี เพราะถ้ามีอะไรส่วนใหญ่พี่หมีจะคอยช่วยคอยซัพพอร์ตกันมากกว่า"
หรือกลัวจะมีปัญหาหรือเปล่า ทำธุรกิจกับแฟน
"เราไม่ได้มองมุมนั้น แต่เรียกว่าช่วยกัน ร่วมกันดีกว่า เป็นแบบครอบครัว"
ไม่ใช่แค่เจ้าแม่ธุรกิจ แต่ยังเป็น "เจ้าแม่งานบุญ" ด้วย
แพนเค้กกล่าวว่า "เรียกว่ามีโอกาสดีๆ ได้ทำกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากงาน ทั่วๆ ไปแล้ว เมื่อมีโอกาสเราก็หาไปทำกันเองด้วย"
"ส่วนที่ได้รับฉายานี้ ก็ขอบคุณค่ะ คือมันเป็นสิ่งที่เราทำกันอยู่แล้ว แต่อาจจะเห็นกันจากการทำกิจกรรมต่างๆ เดี๋ยวนี้ทุกคนให้ความสำคัญกับซีเอสอาร์มากขึ้น ทำคืนกลับให้สังคมมาก อย่างศิลปินนักแสดงก็เป็นสื่อกลางให้พี่ๆ สื่อมวลชนในการบอกต่อเรื่องราวดีๆ เลยอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา ยิ่งงานแบบนี้ ถ้าไปได้ทำได้ก็อยากไปช่วยไปร่วม อย่างน้อยก็ร่วมบอกต่อ คือเรามีความสุข เหมือนเราทำด้วยใจเต็มที่"
นอกจากรูปสวยแล้ว ใจยังสวยอีกต่างหาก
เปรียบ"ความรัก"เหมือน"ขนม"มี"หวาน-มัน-เข้มข้น"
เป็นคู่รักที่ลงตัว สำหรับนางเอกสาว "แพนเค้ก-เขมนิจ" กับแฟนหนุ่ม "สารวัตรหมี"พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ ที่คบกันมาหลายปี ต่างก็ดูแลซึ่งกันและกัน โดยนางเอกสาวเล่าว่า
"กับเรื่องความรักตอนนี้ที่ดูโตขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ มันคงเป็นไปตามช่วงเวลา หลายๆ อย่างต้องเรียนรู้และปรับตัวกันไป ล่าสุดพี่หมีป่วย แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว ถามว่าเราช่วยพยาบาลไหม ก็ทั้งพยาบาล ทั้งว่าเลย (หัวเราะ) แบบช่วยดูแลกันมากกว่า มีเตือนบ้าง เพราะพี่หมีเป็นคนชอบออกกำลังกาย บางทีก็จะเผลอ ไม่ระวังตัว เราก็เตือนว่าสุขภาพสำคัญ คือมีบ่นบ้าง"
คนป่วยส่วนใหญ่มักมีมุมอ้อน พี่หมีมีไหม "ก็มีค่ะ เป็นมุมที่อยากให้คนมาช่วยกันดูแลมากกว่า คือเป็นช่วงเวลาที่แพน น้องๆ หรือคุณแม่เอง เราก็ได้ช่วยกันหยิบจับอะไร คือปกติเขาจะเป็นคนช่วยดูแลสาวๆ อยู่ เราก็เลยได้เป็นคนคอยช่วยดู คอยให้กำลังใจกัน"
มีโมเมนต์ แพนจ๊ะ แพนจ๋าไหม นางเอกสาวหัวเราะ "ก็มีบ้างประปราย แต่เรียกว่าดูแลกันดีกว่า"
แต่ช่วงนี้สังเกตเราไม่ค่อยลงรูปคู่ในไอจี มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า "ปกติค่ะ อาจจะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันมากกว่า พี่หมีทำงานด้วย เราก็มีเจอกัน ทานข้าวกัน แต่อาจจะไม่ได้ถ่ายรูปเท่านั้นเอง แต่เราไม่ได้ทะเลาะกัน ปกติค่ะ อาจจะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ลงรูปมากกว่า"
จริงๆ คู่เราสวีตกันมากน้อยแค่ไหน "เป็นในแบบของคู่เรา คือเข้าใจซึ่งกันและกัน มีมุมที่เราคุยกันเล่นกัน ในแบบฉบับของเรา"
ที่บ้านทั้งสองฝ่ายมีเร่งๆ ไหม "ไม่นะคะ ปกติ เราได้เรียนรู้กัน"
เครียดไหมเวลาถูกคนถามเรื่องแต่งบ่อยๆ "ไม่นะคะ จริงๆ เราก็พยายามจะตอบเท่าที่เราสามารถตอบได้อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้กันทั้งสองคน ถามว่าเวลามีคนถามเรื่องพวกนี้ ไปคุยกับพี่หมีไหม คือส่วนมากถ้าได้ตอบคือ พี่ๆ เขาจะถามพี่หมีเองมากกว่า"
วางอนาคตคู่เราไว้ยังไงบ้าง "จริงๆ ไม่ใช่แค่ในวันข้างหน้า แต่ในทุกๆ วัน เราก็อยากทำให้มันดีที่สุด ถามว่าทุกวันนี้สุกงอมแค่ไหน คือไม่มีอะไรเต็มที่ค่ะ มันยังต้องดูแลและเติมกันสม่ำเสมอ ส่วนที่ดูแม่ไว้ใจพี่หมี คือเป็นการเรียนรู้กันทุกฝ่ายมากกว่า ปรับตัวซึ่งกันและกัน แต่ที่ไม่เคยมีข่าวเสียหาย คือพี่หมีเขาก็ดูแลตัวเอง และรู้ว่าเราทำงานตรงนี้ แบบนี้ ก็ไม่อยากทำอะไรให้มีผลกระทบกับเรา ซึ่งนึกถึง ให้เกียรติ และใส่ใจเสมอ"
อีกกี่ปีจะมีข่าวดีให้แฟนๆ "ไม่ได้ กะเกณฑ์อะไรเลย ส่วนรอเรียนจบปริญญาเอกก่อนไหม อันนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน"
ถ้าให้เปรียบความรักตอนนี้เหมือนอะไรดี "เหมือนร้านขนมสมหมาย มีความหวาน มัน เข้มข้นมาก (หัวเราะ) เราก็อยากทำในแบบที่เราชอบ เรียกว่าต้องดูแลในทุกส่วน ทำร้านขนมสมหมายก็เหมือนเราต้องดูแลอะไรสักอย่างที่ต้องใช้ใจอย่างเต็มที่ เพราะมันมีรายละเอียยดเยอะมากค่ะ"
แพนเค้ก เผย อนาคตตั้งเป้าเป็นนักแสดงอย่างยืนยง
กระแสละครฮอตฮิต ไปไหนมีแต่คนเรียก "แม่พิศ" กับ "คุณเด๋อ" ตัวละครในเรื่อง
โดยเฉพาะนางเอกสาว "แพนเค้ก" ที่ในเรื่องต้องรับบทแฝด ท้าทายฝีมือ
ใน "แหวนสวาท" รับบทแฝดเป็นอย่างไรบ้าง?
แพนเค้ก - "ก็โหดเหมือนกันค่ะ ใช้พลังเยอะมาก เป็นครั้งแรกที่เล่นเป็นฝาแฝด ที่ติดต่อมาตอนแรก โดยตัวเรื่องน่าสนใจ และได้กลับมาทำงานกับพี่อ๊อด-ธีระศักดิ์ ด้วย เลยโอเค ไม่รู้หรอกว่าบทจะขนาดไหน แต่รู้สึกน่าสนุกและน่าสนใจ มันดูหลากหลายจากที่เคยเล่นมา มีพาร์ตที่เป็นอดีต เราเป็นพี่น้องกันสองคน น้องอิจฉาพี่เลยฆ่าพี่ตาย แล้ว กลับชาติมาเกิด ตัวน้องมาชดใช้กรรมในปัจจุบัน ส่วนพี่ยังไม่ไปเกิด รอช่วยน้องก่อน ก็มาเป็นนางฟ้า เลยตามกันจากอดีตมาถึงปัจจุบัน และในปัจจุบันตัวที่เป็นนางฟ้าจะมีแปลงร่างเพื่อให้เข้ายุคปัจจุบัน ด้วยการใส่วิกผมสั้น เลยดูเหมือนหลายคาแร็กเตอร์"
เล่นเป็นผีกับคนสลับไปมา ยากไหม?
แพนเค้ก - "ยากเพราะมีทั้งพาร์ตที่เป็นพีเรียด ดราม่า คอมเมดี้ และเป็นแฟนตาซีด้วย ต้องใช้ซีจี ซึ่งเราไม่ค่อยได้ถ่ายละครที่มีซีจีเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ค่อนข้างมีเยอะ มีการหายตัวแทบทุกซีนก็ต้องมีการปรับเทคนิคกันไปเรื่อยว่าแบบไหนดูเนียนลง ตัวที่สุด"
เล่นเป็นแฝด ทำยังไงให้คนดูเชื่อว่าต่างกัน?
แพนเค้ก - "เชื่อว่าต่างกันนะ คือแม่พิศจะมีความสดใสร่าเริงในตัวเขา กุ๊กกิ๊ก แต่แพรวจะนิ่งๆ มั่นใจในตัวเอง เรียบๆ ซึ่งแยกกันชัดเจนด้วยคาแร็กเตอร์ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย"
เรื่องนี้ได้เล่นคู่กับธันวาเป็นอย่างไรบ้าง?
แพนเค้ก - "สนุกดีค่ะ เขาตั้งใจเล่น พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เล่นเป็นธรรมชาติมากๆ รู้สึกว่าพลิ้วมากในการเล่นบทกุ๊กกิ๊กแบบนี้ เขาทำได้ดี แรกๆ อาจจะมีการรับคำแนะนำจาก ผู้ กำกับฯ บ้าง เรื่องให้ดูเจ้าชู้ ขี้เล่นหน่อย เขาก็ค่อยๆ แรกๆ ก็มีบอก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องบอกแล้ว พลิ้วแล้ว เราเห็นฟีดแบ็กสำหรับเขาก็ดีนะ ทุกคนชอบเขาในคาแร็กเตอร์แบบนี้ ถามว่าเรามีช่วยอะไรไหม คือไม่ค่อยได้ช่วย ส่วนมากจะช่วยกันเวลาเล่นมากกว่า รับส่งกันแบบเป็นธรรมชาติ แต่ธันเขาจะเป็นคนชัดเจน ถ้าซีนไหนเล่นได้ไม่เต็มที่ไม่โอเค เขาจะขอใหม่ หรือจุดไหนไม่เข้าใจก็มีถามบ้าง เราว่าเขาเป็นวัยรุ่นที่ทำได้ดีและตั้งใจ ทำแล้วเราเชื่อในคาแร็กเตอร์ที่เขาเป็น"
ระหว่างถ่ายทำมีเจออุปสรรคอะไรไหม?
แพนเค้ก - "สัตว์ เด็ก เอฟเฟกต์ สะลิงค่ะ มาครบ (หัวเราะ) จริงๆ เด็กไม่มีปัญหา น้องที่มาเข้าฉากด้วยเก่งมาก ส่วนเอฟเฟกต์อาจมีบ้างที่ใช้ซีจีหลายรอบหลายมุม"
พิศกับแพรว ชอบคาแร็กเตอร์ไหนกว่ากัน?
แพนเค้ก - "ชอบพิศนะ เพราะเราว่าเขามีอะไรให้เราเล่นเยอะ หรือเพราะมีวิกผมสั้นเข้ามา มันก็เพิ่มความน่าสนใจขึ้น"
สัญญาช่อง 7 เหลืออีกเท่าไหร่?
แพนเค้ก - "เหลือประมาณนึง ถามว่าคิดอยากจะเป็นนักแสดงอิสระไหม จริงๆ ยังไม่เคยแพลนอะไรไว้ แต่เราว่าถ้าถึงจุดนั้น เราคงต้องขยับขยายหรือมองอะไรอีกมุม หรือมีการตัดสินใจอะไรอีกมุมเพิ่มเติม เดี๋ยวค่อยๆ ดูกันไป คือโลกมันเปลี่ยนไป เดินหน้าไปเรื่อยๆ เราคงหยุดนิ่งไม่ได้ ทุกอย่างที่ทำคงต้องมีการเคลื่อนไหว ที่สำคัญต้องให้เร็ว คิดแล้วควรทำ เพราะทุกวินาทีมีคุณค่า มีผลต่อการตัดสินใจ ถามว่าเริ่มมีช่องอื่นมาจีบไหม ไม่มีค่ะ ส่วนมากอาจจะเป็นการคุยกันเล่น แต่ไม่มีอะไร เพราะทุกคนรู้ว่าเราทำงานอยู่ตรงนี้"
นอกจาก "แหวนสวาท" แล้ว ตอนนี้มีผลงานแสดงอะไรอีก?
แพนเค้ก - "มีละคร "รักเร่" ที่กำลังถ่ายทำ และหนัง "ป้าแฮปปี้ she ท่าเยอะ" ของ M๓๙ ที่จะเข้าฉาย พ.ค.นี้ เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิต ออกแนวคอมเมดี้ คาแร็กเตอร์เป็นผู้หญิงคิดบวก มีความเชื่อเยอะมากที่จะทำให้ตัวเองดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีความสุข ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแนวเปลี่ยนลุกส์ แพนอยู่วงการมา 10 ปี คนคงอยากเห็นแพนเปลี่ยนแปลงไปทางไหนได้อีก ครั้งนี้ก็มาในลุกส์นี้ ซึ่งแพนแฮปปี้มาก เพราะมันแตกต่างจากที่เคยทำงานมา เป็นลุกส์ที่คนไม่เคยเห็นมาก่อน หัวฟูๆ ดูรั่วๆ หน้าไม่ต้องแต่ง เต้นเยอะมากแทบทุกที่ แรกๆ เขินแต่อีกใจก็คิดว่าเป็นสิ่งดีที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ และได้ร่วมงานกับพี่เบน(ชลาทิศ) นักร้องที่แพนชื่นชอบอยู่แล้วด้วย เป็นหนังเรื่องแรกก็ทำเต็มที่"
คิดว่าตอนนี้ประสบความสำเร็จหรือยัง?
แพนเค้ก - "เราประเมินกันเป็นชิ้นงานมากกว่า เวลาทำอะไรกับคุณแม่ เราจะมานั่งดูกันว่าโอเคไหม การเตรียมตัว เตรียมพร้อม งานนี้ทำดีก็มาติชมให้กำลังใจกัน คุยกันเป็นงานๆ ไม่ได้คิดว่าประสบความสำเร็จไหม แต่คิดว่าได้ทำเต็มที่ไหมในงานชิ้นนั้น แค่นั้นก็แฮปปี้แล้วในหนึ่งวันที่เรามีโอกาสได้ทำงาน"
มองอนาคตในวงการไว้ยังไงบ้าง?
แพนเค้ก - "หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ทั้งการทำงาน คนทำงาน มีช่องต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่วนตัวคงต้องพัฒนาการทำงานของเราเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสได้ทำอะไรที่แปลกใหม่หรือหลากหลายมากขึ้น เล่นละครแล้ว เดินแบบแล้ว เล่นหนังแล้ว ล่าสุดเป็นพิธีกรรายการ โสภาพลาซ่า ก็เป็นงานชิ้นใหม่ที่ได้รับโอกาสจากทางช่อง เป็นไลน์ใหม่ๆ ให้เราลองขยับขยายดู จริงๆ มันท้าทายทุกบทบาท ถือว่า 10 ปีที่ทำงานมา มันหลากหลายมากขึ้น คาแร็กเตอร์ชัดเจนมากขึ้น"
เป้าหมายสูงสุดในวงการที่ตั้งไว้?
แพนเค้ก - "เป็นการทำงานอย่างยั่งยืนมากกว่า ให้เราได้มีความสุขในการทำอาชีพของเราจริงๆ เพราะไม่ได้มาแค่เก็บเกี่ยว แต่มาทำอาชีพที่เรารักที่จะทำ อาชีพนี้หลากหลาย เรียนรู้ตลอดเวลา และยังมีธุรกิจที่ทำควบคู่ เราคงพยายามทำทั้งสองให้ดีที่สุดค่ะ"
เจ้าแม่"ธุรกิจ-งานบุญ"
เป็นนางเอกแสนขยัน นอกจากงานและการเรียนปริญญาเอกในตอนนี้แล้ว สาว "แพนเค้ก-เขมนิจ" ยังโหมจับธุรกิจจนได้รับฉายา "เจ้าแม่ธุรกิจ" โดยเจ้าตัวว่า
"มีโอกาสดีๆ ก็จะไม่รั้งรอ อย่างเท็ดดี้เฮ้าส์, เบบี้โรส บาย แพนเค้ก ตอนนี้ธุรกิจสองตัวนี้ยังคงต้องเดินเร็วอยู่เรื่อยๆ เพราะโลกแฟชั่นมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ต้องคิดอะไรที่แตกต่าง ตื่นตัว ส่วนยาสตรีแพนเค้กค่อนข้างอยู่ตัวในแบบเขา คือมันอาจต้องใช้เวลาในการให้คนได้เข้าถึง"
เห็นล่าสุดเปิด ร้านขนมด้วย
"ใช่ค่ะ ร้านขนมสมหมาย จริงๆ น้องมิกิชอบทำขนมก็คิดว่ามิกิได้มาลองทำดูแลรับผิดชอบอะไรของเขาน่าจะเป็น สิ่งที่ดี ส่วนอีกหนึ่งเหตุผล ชื่อร้านขนมสมหมาย สมหมายคือชื่อคุณยาย แต่ท่านเสียไปแล้วก็เลยใช้ชื่อนี้เพราะเรายังคิดถึงกันเสมอ แล้วคุณตาก็จะได้มีที่มานั่งทานกาแฟ ทานขนมปัง เหมือนได้มาจอยกับหลานๆ ส่วนชื่อขนมจะเป็นชื่อ คุณตา คือคุณตาเป็นเจ้าของร้านและให้มิกิเป็นผู้จัดการร้าน เราทำกันเองในครอบครัว ไม่มีหุ้นส่วน"
แบบนี้จะมีโอกาสได้ทำธุรกิจกับพี่หมีไหม
"คงไม่น่ามี เพราะถ้ามีอะไรส่วนใหญ่พี่หมีจะคอยช่วยคอยซัพพอร์ตกันมากกว่า"
หรือกลัวจะมีปัญหาหรือเปล่า ทำธุรกิจกับแฟน
"เราไม่ได้มองมุมนั้น แต่เรียกว่าช่วยกัน ร่วมกันดีกว่า เป็นแบบครอบครัว"
ไม่ใช่แค่เจ้าแม่ธุรกิจ แต่ยังเป็น "เจ้าแม่งานบุญ" ด้วย
แพนเค้กกล่าวว่า "เรียกว่ามีโอกาสดีๆ ได้ทำกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากงาน ทั่วๆ ไปแล้ว เมื่อมีโอกาสเราก็หาไปทำกันเองด้วย"
"ส่วนที่ได้รับฉายานี้ ก็ขอบคุณค่ะ คือมันเป็นสิ่งที่เราทำกันอยู่แล้ว แต่อาจจะเห็นกันจากการทำกิจกรรมต่างๆ เดี๋ยวนี้ทุกคนให้ความสำคัญกับซีเอสอาร์มากขึ้น ทำคืนกลับให้สังคมมาก อย่างศิลปินนักแสดงก็เป็นสื่อกลางให้พี่ๆ สื่อมวลชนในการบอกต่อเรื่องราวดีๆ เลยอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา ยิ่งงานแบบนี้ ถ้าไปได้ทำได้ก็อยากไปช่วยไปร่วม อย่างน้อยก็ร่วมบอกต่อ คือเรามีความสุข เหมือนเราทำด้วยใจเต็มที่"
นอกจากรูปสวยแล้ว ใจยังสวยอีกต่างหาก
เปรียบ"ความรัก"เหมือน"ขนม"มี"หวาน-มัน-เข้มข้น"
เป็นคู่รักที่ลงตัว สำหรับนางเอกสาว "แพนเค้ก-เขมนิจ" กับแฟนหนุ่ม "สารวัตรหมี"พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ ที่คบกันมาหลายปี ต่างก็ดูแลซึ่งกันและกัน โดยนางเอกสาวเล่าว่า
"กับเรื่องความรักตอนนี้ที่ดูโตขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ มันคงเป็นไปตามช่วงเวลา หลายๆ อย่างต้องเรียนรู้และปรับตัวกันไป ล่าสุดพี่หมีป่วย แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว ถามว่าเราช่วยพยาบาลไหม ก็ทั้งพยาบาล ทั้งว่าเลย (หัวเราะ) แบบช่วยดูแลกันมากกว่า มีเตือนบ้าง เพราะพี่หมีเป็นคนชอบออกกำลังกาย บางทีก็จะเผลอ ไม่ระวังตัว เราก็เตือนว่าสุขภาพสำคัญ คือมีบ่นบ้าง"
คนป่วยส่วนใหญ่มักมีมุมอ้อน พี่หมีมีไหม "ก็มีค่ะ เป็นมุมที่อยากให้คนมาช่วยกันดูแลมากกว่า คือเป็นช่วงเวลาที่แพน น้องๆ หรือคุณแม่เอง เราก็ได้ช่วยกันหยิบจับอะไร คือปกติเขาจะเป็นคนช่วยดูแลสาวๆ อยู่ เราก็เลยได้เป็นคนคอยช่วยดู คอยให้กำลังใจกัน"
มีโมเมนต์ แพนจ๊ะ แพนจ๋าไหม นางเอกสาวหัวเราะ "ก็มีบ้างประปราย แต่เรียกว่าดูแลกันดีกว่า"
แต่ช่วงนี้สังเกตเราไม่ค่อยลงรูปคู่ในไอจี มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า "ปกติค่ะ อาจจะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันมากกว่า พี่หมีทำงานด้วย เราก็มีเจอกัน ทานข้าวกัน แต่อาจจะไม่ได้ถ่ายรูปเท่านั้นเอง แต่เราไม่ได้ทะเลาะกัน ปกติค่ะ อาจจะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ลงรูปมากกว่า"
จริงๆ คู่เราสวีตกันมากน้อยแค่ไหน "เป็นในแบบของคู่เรา คือเข้าใจซึ่งกันและกัน มีมุมที่เราคุยกันเล่นกัน ในแบบฉบับของเรา"
ที่บ้านทั้งสองฝ่ายมีเร่งๆ ไหม "ไม่นะคะ ปกติ เราได้เรียนรู้กัน"
เครียดไหมเวลาถูกคนถามเรื่องแต่งบ่อยๆ "ไม่นะคะ จริงๆ เราก็พยายามจะตอบเท่าที่เราสามารถตอบได้อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้กันทั้งสองคน ถามว่าเวลามีคนถามเรื่องพวกนี้ ไปคุยกับพี่หมีไหม คือส่วนมากถ้าได้ตอบคือ พี่ๆ เขาจะถามพี่หมีเองมากกว่า"
วางอนาคตคู่เราไว้ยังไงบ้าง "จริงๆ ไม่ใช่แค่ในวันข้างหน้า แต่ในทุกๆ วัน เราก็อยากทำให้มันดีที่สุด ถามว่าทุกวันนี้สุกงอมแค่ไหน คือไม่มีอะไรเต็มที่ค่ะ มันยังต้องดูแลและเติมกันสม่ำเสมอ ส่วนที่ดูแม่ไว้ใจพี่หมี คือเป็นการเรียนรู้กันทุกฝ่ายมากกว่า ปรับตัวซึ่งกันและกัน แต่ที่ไม่เคยมีข่าวเสียหาย คือพี่หมีเขาก็ดูแลตัวเอง และรู้ว่าเราทำงานตรงนี้ แบบนี้ ก็ไม่อยากทำอะไรให้มีผลกระทบกับเรา ซึ่งนึกถึง ให้เกียรติ และใส่ใจเสมอ"
อีกกี่ปีจะมีข่าวดีให้แฟนๆ "ไม่ได้ กะเกณฑ์อะไรเลย ส่วนรอเรียนจบปริญญาเอกก่อนไหม อันนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน"
ถ้าให้เปรียบความรักตอนนี้เหมือนอะไรดี "เหมือนร้านขนมสมหมาย มีความหวาน มัน เข้มข้นมาก (หัวเราะ) เราก็อยากทำในแบบที่เราชอบ เรียกว่าต้องดูแลในทุกส่วน ทำร้านขนมสมหมายก็เหมือนเราต้องดูแลอะไรสักอย่างที่ต้องใช้ใจอย่างเต็มที่ เพราะมันมีรายละเอียยดเยอะมากค่ะ"