สวัสดีค่ะ พี่น้องชาว pantip ทุกคน ครั้งแรกสำหรับการตั้งกระทู้รีวิวที่พัก แต่ครั้งนี้อดใจไม่ไหวจริงๆ ได้พบห้องพักดีๆ ราคาไม่แพง และที่สำคัญเรายังไม่เห็นคนไทยมาเขียนรีวิวเลยก็อยากมานำเสนอไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนไปเที่ยวโอซาก้ากันนะคะ (เอาภาพซากุระตอนเที่ยวมาฝาก รูปและรายละเอียดอาจเยอะหน่อยน้า)
ก่อนอื่นขอเกริ่นเล็กน้อย ว่าเราไปโอซาก้าช่วง 31 มี.ค.-8 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้จองตั๋วโปรของสายการบินหางแดงข้ามปีมาตั้งแต่เดือนก.ย. เลยได้ลองหาที่พักไว้แต่เนิ่นๆ เพราะช่วงที่ไปเป็นช่วงที่ซากุระบานพอดี ที่พักส่วนใหญ่คนก็ได้จองกันล่วงหน้าแบบนานมากกกก ตอนแรกตั้งใจจะแบ่งพักที่เกียวโตสัก 2 คืน แต่ที่เล็งๆไว้ก็เต็มแล้ว (ขนาดเริ่มดูตั้งแต่เดือนต.ค.นะเนี่ย!!) เลยตัดสินใจพักที่โอซาก้ามันตลอดทริปนี่แหละ แล้วเดินทางไป-กลับพวกเกียวโต โกเบ นารา เอา และก็ตัดสินใจถูก เพราะว่าค่าเดินทางเราใช้พวก pass ท่องเที่ยวของเค้า หากวางแผนเดินทางดีๆ มันประหยัดนะ แถมระยะเวลาเดินทางจากที่พักเรามันก็ไม่ได้นานอะไรขนาดนั้น นั่งรถไฟราวๆ 50-70 นาทีเพลินๆ (แหม่...ระยะทาง 10 กม.บางที่ในกทม. รถยังติดนานกว่าอีก จริงมะ)
เราขอรีวิวที่พัก 2 ที่นะคะ อย่างที่บอกตอนแรกกะนอนเกียวโต ก็ได้จองที่พักที่โอซาก้าไว้แล้ว และพบว่าที่พักเกียวโตเต็ม สรุปนอนโอซาก้า 7 คืน กับที่พัก 2 ที่ เกณฑ์การเลือกที่พักของเรามีตามนี้
1. เป็นห้องส่วนตัวสำหรับ 2 คน เพราะเราไปกะคุณสามี ซึ่งคุณสามีไม่ต้องการแชร์ห้องนอนกะใคร (อาจอายถ้าเธอนอนไม่เรียบร้อย 555) ดังนั้น ที่นอนแบบ dorm และแคปซูล ตัดไป
2. มีห้องน้ำในตัว เราสองคนเที่ยวกันเองไม่เป็นเวลา เลยไม่อยากต่อคิวรอเค้าห้องน้ำในเวลาเร่งรีบ
3. งบไม่แพงมาก ในที่นี้ไม่เกินคืนละ 1,800 เพราะอยากเก็บตังค์ไว้หาไรอร่อยๆกินดีกว่า ^^
4. Non-smoking และต้องสะอาดค่ะ
5. อยู่ใกล้รถไฟ หรือถ้าต้องเดิน ขอเป็นระยะทางที่เดินไหวไม่ไกลรถไฟมาก
เหมือนว่าข้อจำกัดไม่เยอะนะ 5 ข้อเอง แต่ก็แอบหายากพอดู ลองหาโรงแรมตาม agoda, booking, hostel etc.. ก็ได้ข้อนั้น ไม่ได้ข้อนี้ นึกขึ้นได้ว่าเราเคยใช้บริการของ airbnb ตอนเที่ยวฮ่องกง-มาเก๊า ก็เลยลองดู (มันคือห้องพักที่เจ้าของห้องเปิดให้เช่าเอง) แล้วก็พบกับที่พักที่เราจะมารีวิวกันวันนี้จ้า
ที่พักแรก คืนละ 1,000B. @Kamishinjo station (พักได้ 2-3 คน)
ใช่แล้ว!! อ่านไม่ผิดหรอกคืนละไม่เกินพันจริงๆ ขึ้นอยู่กับเรทเงิน ณ ตอนนั้นด้วยนะ ยิ่งพักนานก็ยิ่งถูก ตอนเราไปค่าห้องอยู่ที่ 1,100 (พัก 5 คืน) รวมค่าธรรมเนียมการจอง ค่าทำความสะอาดแล้วตกคืนละ 1,285B. แต่เข้าไปดูตอนนี้เหลือคืนละ 980B. เอ๊ง!! (แบบยังไม่รวมค่าธรรมเนียมนะ) ว่าแล้วมาดูกันว่าห้องมีอะไรบ้าง รูปเราอาจมีสลับกลางวัน-กลางคืน พร้อมมีของใช้ส่วนตัวติดในภาพบ้างน้า เพราะตอนแรกตั้งใจถ่ายเก็บไว้เฉยๆ แต่ห้องมันโอเคสำหรับเราเลยเอามาแบ่งปันกันดีกว่า ^^
อ้อ!! ก่อนมาถึง เจ้าของห้องเค้าจะส่งแผนที่พร้อมวิธีการเดินทางมาให้เราทางเมลล์ (ไอ้เราก็แอบหวั่นๆว่าจะมาถูกมั้ย แต่ก็เดินทางไม่ยากนะคะ หากหลงจริงๆ ให้ print แผนที่ที่เค้าส่งมาให้นี่แหละ ให้คนแถวนั้นช่วย ไม่หลงแน่นอน)
เริ่มจากสถานีที่ใกล้ที่พัก Kamishinjo station (เดินทางจากสถานี namba ราวๆ 20-25 นาที) เดินออกมาหน้าสถานีมีร้าน Lotteria อยู่ อย่างน้อยก็มีไรกินไม่อดแล้วนะ ^^
ฝั่งตรงข้ามมีทั้ง Mc Donald KFC Misterdonut Yoshinoya และ Cafe อีกเพียบ
ร้านขายของทอด ขายบ่ายๆถึงดึกเลย ถัดไปอีกนิดมีร้านปาจิงโกะ (แต่ดั๊นลืมถ่ายรูปมา)
เดินมุ่งหน้ามายังถนน Hana Mizuki
ระหว่างทางก็มีร้านข้าวหน้าเนื้อ open 24 hr. นะจ๊ะ
Family mart เปิดตลอด 24 ชม. ไม่ต้องห่วงเรื่องของกินถ้าหิวตอนดึกจ้า
ข้ามแยกนี้มาก็ใกล้ถึงละ
จะเห็นป้ายร้านกาแฟ U Coffee อยู่ทางซ้ายมือ
ตึกอยู่ติดร้านกาแฟ เห็นป้ายสีแดงนี้ก็ถึงแล้วค่า
เค้ามีหลายห้องนะคะ แต่ห้องที่เราจองอยู่ชั้น 2 หันหน้าออกถนน ขึ้นไปดูกัน
ถึงแล้ว!! ห้อง 201 ของเรา หน้าห้องเป็นประตูเหล็ก
ก่อนมาเจ้าของห้องบอกว่าเข้าไปได้เลย ห้องไม่ได้ล็อค กุญแจวางให้บนโต๊ะในห้อง ระหว่างออกเที่ยวก็ล๊อคห้องซะหน่อย แต่หาก check out แล้วก็วางไว้ที่เดิม ไม่ต้องล๊อคห้องนะจ๊ะ (คุณพระ!! นี่มันประเทศอะไรนี่ ความปลอดภัยสูงเกิ๊น)
แต่นแต๊น...อย่างแรกที่เปิดเข้ามา มีชุดครัวเล็กๆให้จ้า มีให้ครบทั้งจาน ชาม ช้อน ส้อม ถุงขยะ อ่างล่างจ้าน น้ำยาล้างจาน สก๊อตไบรท์ หม้อ เตาไฟฟ้า เอาเป็นว่าใครอยากทำอาหารทานเอง งานนี้สบายละ
หันมาทางซ้ายนิดนึง มีอะไรบ้างจ๊ะ มาหมดทั้งกระจกแต่งตัว ตู้เย็น กาต้มน้ำ ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าวพร้อมทัพพี ย้ำ!! หม้อหุงข้าวพร้อมทัพพี โอ้คุณพระ สวรรค์ของคนชอบทำอาหารเลย ราคานี้โรงแรมมีให้มั้ยยย
กลับหลังหันไปทางประตูหน่อย มีชั้นวางรองเท้าพร้อมรองเท้าแตะใส่ในห้อง ร่มอีก 2 คัน สำหรับวันฝนตก โธ่..อิชั้นก็อุตส่าห์แบกร่มมาจากบ้าน แทบอยากจะร่อนทิ้ง
ขยับเข้ามาในห้องกันบ้าง เตียงนอนพร้อมผ้านวมจ้า ขนาดจากการคาดคะเน 6 ฟุต นอนสบายๆ 2 คนกลิ้งได้ ไม่อึดอัด นอน 3 คนก็พอไหว แต่หากอึดอัดก็ลงมานอนพื้นสักคนก็ได้ (แต่ต้องพกหมอน ผ้าห่มแบบปิกนิคมาสักหน่อย) ที่สำคัญเตียงนุ่มนอนสบายมาก (ไม่รู้ว่าเพราะเหนื่อยจากการเดินทางด้วยรึเปล่า) ส่วนหมอนรองคอใบเล็กๆของเรา 2 คนเองค่ะ
มาดูห้องน้ำกันบ้าง เล็กไปนิด แต่มีพร้อมทั้งสบู่ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ทิชชู่ อ่างอาบน้ำ ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น และการระบายกลิ่น ที่สำคัญน้ำไหลแรงมว๊ากกก
บนโต๊ะกลางห้อง ก็จะมีทิชชู่ธรรมดา ทิชชู่เปียก ลูกอม (ลูกอมรสนมอร่อยมาก คุณสามียังติดใจ) กุญแจห้อง รีโมททีวี/ไฟ คู่มือการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า กฏระเบียบต่างๆ แผนที่ที่พัก วิธีติดต่อเจ้าของห้อง และมี Pocket Wifi ไว้ให้ใช้ตลอดการพักที่นี่ เริ่ดอ่า ไม่ต้องเสียตังค์เช่าด้วยยยย
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆบ้าง มีแอร์ (ที่สามารถปรับเป็นฮีตเตอร์ได้) ทีวี ไดร์เป่าผม ถังขยะ (ซึ่งถ้าเต็มก็หิ้วถุงลงไปทิ้งชั้นล่าง) กระดาษชำระ แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับการดำรงชีพแล้วนะเนี่ย อ้อ!! สำหรับเรื่องปลั๊กไฟที่นี่สามารถเสียบได้ 2 ที่ ที่นึงจะมี adapter ต่อได้อีก 3 จุด รวมเป็น 6 ชาร์ตแบตได้ไม่ต้องแย่งกันค่ะ
มีราวตากผ้า พร้อมไม้แขวนเสื้อให้ด้วยนะคะ (เสื้ออาจแขวนรกไปหน่อยน้า ^^!!) สำหรับตะกร้าด้านล่างเจ้าของห้องเตรียมผ้าเช็ดตัว และผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้ 2 ชุด สำหรับ 2 คน ขอบอกว่าผ้าขนหนูที่นี่เป็นผ้าแบบนาโนแท้ๆ ซับปุ๊บแห้งปั๊บ ผิดกับผ้านาโนตามตลาดนัดบ้านเราเลย ^^
ไหนออกมาดูระเบียงยามเช้ากันบ้าง นี่เป็นมุมจากห้องชั้นสอง แม้ว่าจะติดถนน แต่เสียงรบกวนแทบไม่มี (หรือว่าเราหลับสนิทเกินไป ^^!!)
9 โมงแล้ว ถนนก็ยังไม่พลุกพล่าน
คุณป้าทำความสะอาดยามเช้า
[CR] ที่พักโอซาก้าแบบ Apartment 2-3 คน ราคา 1000-1,800/คืนเท่านั้น (งานนี้โรงแรมมีหนาว!!)
ก่อนอื่นขอเกริ่นเล็กน้อย ว่าเราไปโอซาก้าช่วง 31 มี.ค.-8 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้จองตั๋วโปรของสายการบินหางแดงข้ามปีมาตั้งแต่เดือนก.ย. เลยได้ลองหาที่พักไว้แต่เนิ่นๆ เพราะช่วงที่ไปเป็นช่วงที่ซากุระบานพอดี ที่พักส่วนใหญ่คนก็ได้จองกันล่วงหน้าแบบนานมากกกก ตอนแรกตั้งใจจะแบ่งพักที่เกียวโตสัก 2 คืน แต่ที่เล็งๆไว้ก็เต็มแล้ว (ขนาดเริ่มดูตั้งแต่เดือนต.ค.นะเนี่ย!!) เลยตัดสินใจพักที่โอซาก้ามันตลอดทริปนี่แหละ แล้วเดินทางไป-กลับพวกเกียวโต โกเบ นารา เอา และก็ตัดสินใจถูก เพราะว่าค่าเดินทางเราใช้พวก pass ท่องเที่ยวของเค้า หากวางแผนเดินทางดีๆ มันประหยัดนะ แถมระยะเวลาเดินทางจากที่พักเรามันก็ไม่ได้นานอะไรขนาดนั้น นั่งรถไฟราวๆ 50-70 นาทีเพลินๆ (แหม่...ระยะทาง 10 กม.บางที่ในกทม. รถยังติดนานกว่าอีก จริงมะ)
เราขอรีวิวที่พัก 2 ที่นะคะ อย่างที่บอกตอนแรกกะนอนเกียวโต ก็ได้จองที่พักที่โอซาก้าไว้แล้ว และพบว่าที่พักเกียวโตเต็ม สรุปนอนโอซาก้า 7 คืน กับที่พัก 2 ที่ เกณฑ์การเลือกที่พักของเรามีตามนี้
1. เป็นห้องส่วนตัวสำหรับ 2 คน เพราะเราไปกะคุณสามี ซึ่งคุณสามีไม่ต้องการแชร์ห้องนอนกะใคร (อาจอายถ้าเธอนอนไม่เรียบร้อย 555) ดังนั้น ที่นอนแบบ dorm และแคปซูล ตัดไป
2. มีห้องน้ำในตัว เราสองคนเที่ยวกันเองไม่เป็นเวลา เลยไม่อยากต่อคิวรอเค้าห้องน้ำในเวลาเร่งรีบ
3. งบไม่แพงมาก ในที่นี้ไม่เกินคืนละ 1,800 เพราะอยากเก็บตังค์ไว้หาไรอร่อยๆกินดีกว่า ^^
4. Non-smoking และต้องสะอาดค่ะ
5. อยู่ใกล้รถไฟ หรือถ้าต้องเดิน ขอเป็นระยะทางที่เดินไหวไม่ไกลรถไฟมาก
เหมือนว่าข้อจำกัดไม่เยอะนะ 5 ข้อเอง แต่ก็แอบหายากพอดู ลองหาโรงแรมตาม agoda, booking, hostel etc.. ก็ได้ข้อนั้น ไม่ได้ข้อนี้ นึกขึ้นได้ว่าเราเคยใช้บริการของ airbnb ตอนเที่ยวฮ่องกง-มาเก๊า ก็เลยลองดู (มันคือห้องพักที่เจ้าของห้องเปิดให้เช่าเอง) แล้วก็พบกับที่พักที่เราจะมารีวิวกันวันนี้จ้า
ที่พักแรก คืนละ 1,000B. @Kamishinjo station (พักได้ 2-3 คน)
ใช่แล้ว!! อ่านไม่ผิดหรอกคืนละไม่เกินพันจริงๆ ขึ้นอยู่กับเรทเงิน ณ ตอนนั้นด้วยนะ ยิ่งพักนานก็ยิ่งถูก ตอนเราไปค่าห้องอยู่ที่ 1,100 (พัก 5 คืน) รวมค่าธรรมเนียมการจอง ค่าทำความสะอาดแล้วตกคืนละ 1,285B. แต่เข้าไปดูตอนนี้เหลือคืนละ 980B. เอ๊ง!! (แบบยังไม่รวมค่าธรรมเนียมนะ) ว่าแล้วมาดูกันว่าห้องมีอะไรบ้าง รูปเราอาจมีสลับกลางวัน-กลางคืน พร้อมมีของใช้ส่วนตัวติดในภาพบ้างน้า เพราะตอนแรกตั้งใจถ่ายเก็บไว้เฉยๆ แต่ห้องมันโอเคสำหรับเราเลยเอามาแบ่งปันกันดีกว่า ^^
อ้อ!! ก่อนมาถึง เจ้าของห้องเค้าจะส่งแผนที่พร้อมวิธีการเดินทางมาให้เราทางเมลล์ (ไอ้เราก็แอบหวั่นๆว่าจะมาถูกมั้ย แต่ก็เดินทางไม่ยากนะคะ หากหลงจริงๆ ให้ print แผนที่ที่เค้าส่งมาให้นี่แหละ ให้คนแถวนั้นช่วย ไม่หลงแน่นอน)
เริ่มจากสถานีที่ใกล้ที่พัก Kamishinjo station (เดินทางจากสถานี namba ราวๆ 20-25 นาที) เดินออกมาหน้าสถานีมีร้าน Lotteria อยู่ อย่างน้อยก็มีไรกินไม่อดแล้วนะ ^^
ฝั่งตรงข้ามมีทั้ง Mc Donald KFC Misterdonut Yoshinoya และ Cafe อีกเพียบ
ร้านขายของทอด ขายบ่ายๆถึงดึกเลย ถัดไปอีกนิดมีร้านปาจิงโกะ (แต่ดั๊นลืมถ่ายรูปมา)
เดินมุ่งหน้ามายังถนน Hana Mizuki
ระหว่างทางก็มีร้านข้าวหน้าเนื้อ open 24 hr. นะจ๊ะ
Family mart เปิดตลอด 24 ชม. ไม่ต้องห่วงเรื่องของกินถ้าหิวตอนดึกจ้า
ข้ามแยกนี้มาก็ใกล้ถึงละ
จะเห็นป้ายร้านกาแฟ U Coffee อยู่ทางซ้ายมือ
ตึกอยู่ติดร้านกาแฟ เห็นป้ายสีแดงนี้ก็ถึงแล้วค่า
เค้ามีหลายห้องนะคะ แต่ห้องที่เราจองอยู่ชั้น 2 หันหน้าออกถนน ขึ้นไปดูกัน
ถึงแล้ว!! ห้อง 201 ของเรา หน้าห้องเป็นประตูเหล็ก
ก่อนมาเจ้าของห้องบอกว่าเข้าไปได้เลย ห้องไม่ได้ล็อค กุญแจวางให้บนโต๊ะในห้อง ระหว่างออกเที่ยวก็ล๊อคห้องซะหน่อย แต่หาก check out แล้วก็วางไว้ที่เดิม ไม่ต้องล๊อคห้องนะจ๊ะ (คุณพระ!! นี่มันประเทศอะไรนี่ ความปลอดภัยสูงเกิ๊น)
แต่นแต๊น...อย่างแรกที่เปิดเข้ามา มีชุดครัวเล็กๆให้จ้า มีให้ครบทั้งจาน ชาม ช้อน ส้อม ถุงขยะ อ่างล่างจ้าน น้ำยาล้างจาน สก๊อตไบรท์ หม้อ เตาไฟฟ้า เอาเป็นว่าใครอยากทำอาหารทานเอง งานนี้สบายละ
หันมาทางซ้ายนิดนึง มีอะไรบ้างจ๊ะ มาหมดทั้งกระจกแต่งตัว ตู้เย็น กาต้มน้ำ ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าวพร้อมทัพพี ย้ำ!! หม้อหุงข้าวพร้อมทัพพี โอ้คุณพระ สวรรค์ของคนชอบทำอาหารเลย ราคานี้โรงแรมมีให้มั้ยยย
กลับหลังหันไปทางประตูหน่อย มีชั้นวางรองเท้าพร้อมรองเท้าแตะใส่ในห้อง ร่มอีก 2 คัน สำหรับวันฝนตก โธ่..อิชั้นก็อุตส่าห์แบกร่มมาจากบ้าน แทบอยากจะร่อนทิ้ง
ขยับเข้ามาในห้องกันบ้าง เตียงนอนพร้อมผ้านวมจ้า ขนาดจากการคาดคะเน 6 ฟุต นอนสบายๆ 2 คนกลิ้งได้ ไม่อึดอัด นอน 3 คนก็พอไหว แต่หากอึดอัดก็ลงมานอนพื้นสักคนก็ได้ (แต่ต้องพกหมอน ผ้าห่มแบบปิกนิคมาสักหน่อย) ที่สำคัญเตียงนุ่มนอนสบายมาก (ไม่รู้ว่าเพราะเหนื่อยจากการเดินทางด้วยรึเปล่า) ส่วนหมอนรองคอใบเล็กๆของเรา 2 คนเองค่ะ
มาดูห้องน้ำกันบ้าง เล็กไปนิด แต่มีพร้อมทั้งสบู่ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ทิชชู่ อ่างอาบน้ำ ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น และการระบายกลิ่น ที่สำคัญน้ำไหลแรงมว๊ากกก
บนโต๊ะกลางห้อง ก็จะมีทิชชู่ธรรมดา ทิชชู่เปียก ลูกอม (ลูกอมรสนมอร่อยมาก คุณสามียังติดใจ) กุญแจห้อง รีโมททีวี/ไฟ คู่มือการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า กฏระเบียบต่างๆ แผนที่ที่พัก วิธีติดต่อเจ้าของห้อง และมี Pocket Wifi ไว้ให้ใช้ตลอดการพักที่นี่ เริ่ดอ่า ไม่ต้องเสียตังค์เช่าด้วยยยย
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆบ้าง มีแอร์ (ที่สามารถปรับเป็นฮีตเตอร์ได้) ทีวี ไดร์เป่าผม ถังขยะ (ซึ่งถ้าเต็มก็หิ้วถุงลงไปทิ้งชั้นล่าง) กระดาษชำระ แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับการดำรงชีพแล้วนะเนี่ย อ้อ!! สำหรับเรื่องปลั๊กไฟที่นี่สามารถเสียบได้ 2 ที่ ที่นึงจะมี adapter ต่อได้อีก 3 จุด รวมเป็น 6 ชาร์ตแบตได้ไม่ต้องแย่งกันค่ะ
มีราวตากผ้า พร้อมไม้แขวนเสื้อให้ด้วยนะคะ (เสื้ออาจแขวนรกไปหน่อยน้า ^^!!) สำหรับตะกร้าด้านล่างเจ้าของห้องเตรียมผ้าเช็ดตัว และผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้ 2 ชุด สำหรับ 2 คน ขอบอกว่าผ้าขนหนูที่นี่เป็นผ้าแบบนาโนแท้ๆ ซับปุ๊บแห้งปั๊บ ผิดกับผ้านาโนตามตลาดนัดบ้านเราเลย ^^
ไหนออกมาดูระเบียงยามเช้ากันบ้าง นี่เป็นมุมจากห้องชั้นสอง แม้ว่าจะติดถนน แต่เสียงรบกวนแทบไม่มี (หรือว่าเราหลับสนิทเกินไป ^^!!)
9 โมงแล้ว ถนนก็ยังไม่พลุกพล่าน
คุณป้าทำความสะอาดยามเช้า