Horror Story Thailand : อย่าเล่า 1.5
เวลา 19:30 น.
" สีเทียน " ปูนิ่มเอ่ยขึ้นมา
" หืม มีอะไร"
"ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าเเกก็กลัวเหมือนกัน ฉันมีนเห็นเเก่ตัวจริงๆในเวลาคับขันเเบบนี้ยังมาเอะอะโวยวายทำตัวโง่ๆ เเถมยังเป็นตัวถ่วงทำให้เเกต้องมาลำบาก มาคอยดูเเลอีก😥"
"ไม่เป็นไรเเก เเกเป็นเพื่อนฉันนะตราบใดที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน เราต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ เราจะไม่มัวรอให้คนอื่นมาช่วยอย่างเดียว✌️"
ทั้งสองเรียกกำลังใจให้ตนฟันฝ่าเรื่องน่ากลัวในตอนนี้ เเม้ว่าตอนนี้ตนกำลังประสบกับเรื่องน่ากลัวก็คือเดินวนเวียนอยู่เพียงชั้นเดียวไปไม่ถึงชั้นล่างเสียที ทั้งสองเดินลงบันไดจนเหนื่อยเต็มที
" เห้ยๆ สีเทียนชั้น3 เเล้วอ้ะ "
"เห้ย!! จริงด้วย เย้ๆๆๆ ป่ะๆรีบลงกันเถอะพวกนั้นคงรอเราอยู่"
ทั้งคู่รีบวิ่งเพื่อจะมุ่งไปหัวมุมชั้น3 เพื่อลงบันไดสู่อาคารด้านล่าง เเต่เเล้วทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อภาพที่อยู่ตรงหน้าทั้งคู่คืแ เก้าอี้ไม้ตัวนึงตั้งขวางทางอยู่ตรงระหว่างกลางของทางเดิน........
"สีเทียน...😦"
"หืม อะไรเเก? 😥"
"เเกดูเก้าอี้นั่นดิ่ มันมาตั้งอะไรทางนั้นวะเเก?"
ปูนิ่มพูดขึ้นมาก็ทำให้สีเทียนอดคิดถึงเรื่องที่เจนเล่าไม่ได้เเต่ต้องทำเป็นไม่สนใจอะไรไม่ให้เพื่อนคิดมาก
"อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกปูนิ่ม ไอ้เก้าอี้ตัวเนี้ยฉันเห็นตั้งเเต่ตอนพักกลางวันเเล้ว อย่าคิดมากน่า"
สีเทียนพูดพลางจูงมือปูนิ่มเดินหน้าไป เเต่ดูเจ้าตัวจะขัดๆ
"เอางี้ถ้าเเกกลัวเราไปลงบันไดอีกฝั่งหนึ่งก็ได้นะดีมั้ย? เเต่มันไม่มีอะไรหรอกว่ามั้ยมั้ย😅 "
สีเทียนใช้วิธีเเก้ปัญหาด้วยการเสียเวลาเดินไปอีกฝั่งของอาคาร ซึ่งมีสองฝั่งซ้าย-ขวา เเละน่าเป็นทางออกที่ดีเเก่ทั้งคู่
ทั้งสองคิดเเละตัดสินใจทำในสิ่งที่คิดว่าดีกว่า อย่างน้อยถึงจะเสียเวลาหน่อยเเต่ถ้าเป็นวิธีที่ทำให้ปูนิ่มเลิกกลัว
เเต่สิ่งที่ทั้งคู่คิดว่าจะดีตอนนี้มันพังลงไปเเล้ว เมื่อมีเสียงๆหนึ่งเกิดขึ้น
~ครืด....~
เสียงนี้เกิดจากทางด้านหลังของทั้งคู่ทันทีที่หันหลังเพื่อจะเดินไปลงอีกทาง
~ครืดดดดดดดดดด~
ทั้งสองเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ปูนิ่มตัวสั่นจนสังเกตุได้ ในขณะที่สีเทียนทำหน้าเป็นสัญญาณว่าอย่าหันไปมองเด็ดขาด ในขณะที่ทั้งคู่เเทบจะวิ่งกันอยู่นั้น เสียงลากเก้าอี้ก็ยิ่งเร่งขึ้นเรื่อยๆ ประหนึ่งเหมือนจะตามให้ทัน ทั้งคู่วิ่งอย่างเร็วเพื่อจะหนีให้เร็วเท่าที่จะทำได้
เเต่เหมือนปูนิ่มจะลืมตัว เผลอหันไปดูจึงพบกับเงาดำจับรูปร่างไม่ได้กำลังอยู่ในท่าเหมือนเด็นที่กำลังเข็นรถเข็นมุ่งมาข้างหน้าพร้อมกับเสียงขาเก้าอี้ขูดกับพื้นปูน
~ครืดดดดดดดดดดดดดด~
"กรี๊ดดดดดดดดดด!!!! ช่วยด้วย"
"สีเทียนฉันไม่ไหวเเล้ว" ปูนิ่มร้องบอก
พร้อมกับจะวิ่งลงชั้นล่างที่ประตูเหล็กถูกเลื่อนปิด
"ปูนิ่มขึ้นข้างบนเหอะ ข้างล่างมันล็อค!!!"
ทั้งสองวิ่งขึ้นชั้นบนอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งลงบันไดอีกฝั่งของอาคารก่อนจะพากันลงมาชั้นล่างที่เป็นประตูเหล็กเเละหวังเพียงไม่เจออะไรอีกนอกจากเพื่อนๆ
..........................................
-เเพท-
ในขณะที่เเพทกำลังมองหาคนช่วยเปิด มาเป็นเวลา 30 นาทีจนตนก็เริ่มจะหงุดหงิดเสียเเล้ว เหตุการที่เขาเจอมากับกรอสมันช่างน่ากลัวจนทำให้เขาร้อนรนจนไม่อาจจะอยู่ที่นี่ได้อีก ภาพเด็กผมยาวสยายขู่จะเอาชีวิต ในใจเเพทอยากจะคิดในเเง่ดีว่าเจนอาจจะเเกล้งคืนเเต่ก็ไม่อาจคิดเช่นนั้นได้ เพราะชุดที่เด็กสาวคนนั้นใส่เป็นชุดเครื่องเเบบของโรงเรียนรุ่นเก่าที่มีการเปลี่ยนมาเเล้ว 22 ปี เจนไม่มีทางมีชุดนั้นมาใส่เพื่อที่จะมาเเกล้งตนเเน่นอนเเพทคิดสงสัยอยู่คนเดียว เมื่อมองนาฬิกาที่ข้อมือก็เป็นเวลา 20:00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เริ่มมืดลงทุกทีจนรู้สึกว่าไม่ได้การ
" มีใครอยู่มั้ยมีคนติดอยู่ในอาคาร!!!! "
เพทตะโกนเรียกอย่างสุดเสียง
" เห้ย!! ได้ยินมั้ยวะหูหนวกกันรึไง"
เเพทเริ่มที่จะโมโหจากคนขี้เล่นตอนนี้ได้กลายเป็นคนฉุนเฉียวไปเสียเเล้ว
"

เอ๊ย ไอ้สั_ส ประตู

ก็เสือ_กปิดก่อนเวลา ยังจะหูหนวกไม่ได้ยินกุอีก เเหกปากจนคอกุจะเเตกอยู่เเละ โว๊ยยยย!!!!"
"เเพท!!! " เสียงเรียกของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างบนตรงราวบันได
"สีเทียนลงมาเเล้วหรอ เเล้วไอ้ปูนิ่มล่ะ" เเพทถามนึกดีใจที่มีเพื่อน
"นี่ไง" สีเทียนบอกพลางชี้ข้ามไหล่ของตัวเอง เเละปรากฎร่างอวบที่ชะโงกมาดูคนตรงหน้า
"นี่เเพทไงปูนิ่ม ไม่ใช่ผีหรอก" สีเทียนบอกเพื่อน
"เมื่อกี้เเกโวยวายอะไรวะเเพท ตกใจหมด" ปูนิ่มพูดพร้อมส่งสายตาดุ
"ก็ไอ้ประตูเนี่ยสิมันเปิดไม่ออก ตะโกนให้ใครมาช่วยก็ไมีใคร สงสัยไอ้ลุงภารโรง

คงตายห่_าไปเเละ " เเพทพูดด้วยความโมโห
"ใจเย็นๆนะ ฉันว่าเราหาอะไรมาทุบดูมั้ย?" สีเทียนผู้ใช้สมองเอ่ยขึ้น
"จะมีอะไรล่ะ ที่จะทุบประเหล็กนี่ได้" แพทถามด้วยอาการสงบลง
"งั้นเเยกย้ายไปหาเเละกัน ปูนิ่มเเกอยู่ตรงนี้นะสว่างหน่อย เเกไม่ต้องไป และถ้าเจอกรอสกับเจนก็บอกให้รอนะตรงนี้ด้วยไม่ต้องตามหาอีก เราจะรวมตัวกันตรงนี้เข้าใจนะ "
สีเทียนบอกเพื่อนให้อยู่เพราะเห็นท่าทีของเพื่อนที่ไม่ไหวเเล้ว
"โอเค .. กลับมาเร็วๆนะ ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวนานๆ" ปูนิ่มบอกด้วยท่าทางกังวล
" ไม่ต้องห่วง ถ้าเเกอยู่ที่เดิมฉันมาหาเเกเเน่นอน"
สีเทียนพูดรับปากก่อนจะเเยกไปคนละทางกับเเพท โดยที่เธอเลี่ยงจะไม่ไปอีกทาง ทางที่ตนวิ่งหนีเก้าอี้ไม้ตัวนั้นมา
อีกฟากหนึ่งเด็กหนุ่มหน้าตี๋ก็ได้วิ่งตามอาคาร เพื่อค้นหาสิ่งของที่จะสามารถทำลายประตูเหล็กให้เปิดออกได้ เเพทวิ่งไปตามห้องต่างๆของอาคารเขย่าประตูเเทบทุกห้องไม่มีท่าทีว่าห้องไหนจะไม่ล็อคคงเป็นเพราะภายในห้องคงมีของมีค่า ห้องที่เปิดไว้มีเพียงเเต่ห้องเรียนประจำเท่านั้น
"อะไรกันวะ ไม่มีห้องไหนที่มันเปิดออกเลยรึไงกัน "
~ครืด~
"เสียงอะไรวะ?"
เเพทหันไปดูที่มาของเสียง ก็พบเก้าอี้ไม้ตัวเดิม ตัวที่ใช้เเกล้งเจน
"เห้ย ไอ้กรอส มุขซ้ำอย่าๆ ออกมาๆ "
เเพทพูดพลางหัวเราะเเห้งๆเกาหัวลุ้นให้กรอสเเสดงตัว เเต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
เเพทยืนจ้องเก้าอี้ตัวนั้น เเละก็ดูเหมือนว่ามันก็กำลังจ้องมองเด็กหนุ่มอยู่เช่นกัน
~ครืด~ ครืด ~ ครืดดดดด
เก้าลากขยับเข้ามาเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เเพทลังเลกับสถานการณ์ครั้งนี้ว่าจะทำอย่างไรดีจะหนีหรือว่า
~พลั่ก!!!!~ ครืดดดดดดด
เเพทตัดสินใจสู้ด้วยการวิ่งถีบสวนเก้าอี้ที่ลากเข้าหา เเต่เมื่อเก้าอี้ตัวนั้นล้มลงขาของเก้าอี้จึงขัดขาให้เเพทล้มลงไปด้วย
เก้าอี้ตัวนั้นกระเด็นเเตกหักกระจาย ส่วนตัวเเพทก็เซล้มไปอีกทาง คงไม่ใช่เรื่องเเปลกที่เจ้าตัวจะล้มเนื่องจากสิ่งที่ตนถีบกระเด็นไปนั้นเป็นเก้าอี้ไม้ทั้งหนักเเละหนา
เเพทคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าตนทำอะไรลงไป สิ่งที่เขาเองกำลังสู้อยู่นั้นมันคืออะไร เมื่อได้สติเเพทจึงพยายามลุกขึ้นพาตัวเองยืน
เก้าอี้ตัวนั้นคงไม่สามารถทำอะไรหรือลากตามเขาได้เพราะตอนนี้มันหักพังไปเรียบร้อย เเพทลุกขึ้นยืนมองเก้าอี้อย่างภาคภูมิใจก่อนจะเดินก้าวไปข้างหน้า
"โอ๊ย!! อะไรวะ?"
เเพทรู้สึกเจ็บที่บริเวณน่องข้างขวา เขาพยุงตัวเองให้นั่งตรงระเบียงก่อนจะดูให้เเน่ใจว่าคืออะไร เเละเขาก็ได้เห็นคือมีซีกไม้ยาว 1 ฟุตจากเก้าอี้ตัวนั้นเสียบคาน่องของเขาในลักษณะเเทงทะลุครึ่งต่อครึ่ง
"เห้ย!! ไม่จริงอ่ะไม่จริง!!! โอ๊ยยยย อ่าาา"
เเพทร้องด้วยเสียงที่กลัวต่อภาพที่เห็น มันเป็นภาพที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตน
"ไอ้เก้าอี้เหี้_ย ฤทธิ์เยอะนักนะ"
เเพทพูดก่อนจะยันดาลโทสะด้วยการจับเก้าอี้ตัวนั้นฟาดไปมาจนเก้าอี้เเตกหักไม่มีชิ้นดี
เเพทยืนหอบก่อนจะนั่งลงที่ระเบียงอีกครั้ง เด็กหนุ่มเเข็งใจดึงซีกไม้ที่เสียบคาน่องด้วยความเจ็บปวดจนกระทั่งซีกไม้หลุดออก
"เเพทเเกเป็นอะไรอ้ะ!!!" สีเทียนวิ่งลงบันไดจากชั้นบนลงมาก่อนจะเจอเเพทในสภาพบาดเจ็บ
"ฉันโดนไม้เสียบน่องน่ะ เเต่ไม่เป็นไรเเล้วชั้นดึงออกได้เเล้ว
"เเพท เลือด!!!"
สีเทียนตกใจกับภาพตรงหน้า เลือดของเเพทไหลทะลักออกจากบาดเเผลอยากมากจนนองพื้นอย่างน่าตกใจ
"เเพทเเกโอเคมั้ย?" สีเทียนถามด้วยความเป็นห่วง
"จะบอกว่าโอเคคงไม่ใช่ เลือดมันไหลไม่หยุดเลยว่ะทำไงดี ช่วยหน่อย"
เเพทพูดยิ้มเหมือนเสเเสร้งยิ้ม
"เเกมีผ้าเช็ดหน้ามั้ยเเพท ชั้นมีอยู่ผืนนึงเเต่มันไม่พอ"
"มีๆ ผืนใหญ่อยู่ " เเพทบอกพลางยืนผ้ามาให้
"โอเค ดีเลย เดี๋ยวชั้นจะผูกผ้าห้ามเลือดให้ "
สีเทียนเอาผ้าเช็ดหน้าที่ตนมีมาผูกรวมกับผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ของเเพทก่อนจะนำมาผูกปิดปากเเผลที่น่องเเละรัดอย่างเเน่นที่สุด
"ขอบใจนะสีเทียน ที่ช่วยฉัน"
"ไม่เป็นไร เเกพอเดินได้ไหม?"
เด็กหนุ่มพยักหน้านิดๆ ก่อนพยามจะเดินด้วยการลากข้าที่เจ็บ
เห็นอย่างนั้นสีเทียนจึงรีบพยุงทันที
"ขอบใจนะที่อุตส่าห์ช่วย นี่ขนาดเธอดูจะไม่ชอบขี้หน้าฉันนะเนี่ย"
"บ้า ฉันเปล่าไม่ชอบขี้หน้านายนะ เเต่ฉันว่าถ้าใครชอบขี้หน้านายก็เเปลกเเล้วดูปากนายสิ "
"เห้ย พูดตรงว่ะ" เเพทพูดกึ่งหัวเราะ
"เเต่ข้อดีนายก็มีนะ นายเป็นคนเฮฮาดีนะคุยสนุกดี ฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนายซะทีเดียว"
สีเทียนพูดพลางยิ้มให้เเพท
"นี่เป็นครั้งเเรกเลยนะที่เธอพูดกับชั้นมากกว่า 3 คำ เเละก็เป็นครั้งเเรกเลยที่เธอยิ้มให้ฉัน ฉันรู้เเละว่าทำไทใครๆก็ชอบเธอ ก็เธอเป็นคนดีเเบบนี้นี่เอง ขอบคุณนะ 😊"
"อื้ม" สีเทียนส่งยิ้มให้อีกครั้ง
"ฉันสัญญาเลยว่าหลังจากนี้ ฉันจะปรับปรุงตัวเองนะ 😀" เเพทบอก
"เห้ย!?!!" พลั่กกก!!
~ตึง!!!!!
จู่ประตูก็เปิดออกมาอย่างเเรงเหมือนมีคนพลักออกมาอย่างเเรงกระเเทกเข้ากับร่างของเเพทก่อนที่จะกระเด็นล้มเซไปข้างหลังอย่างเเรง
"เเพท กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!! "
------------------------------
โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากติดตามเเฟนเพจได้ที่ชื่อเดียวกับเรื่อง
Horror Story Thailand ตอน อย่าเล่า 1.5
เวลา 19:30 น.
" สีเทียน " ปูนิ่มเอ่ยขึ้นมา
" หืม มีอะไร"
"ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าเเกก็กลัวเหมือนกัน ฉันมีนเห็นเเก่ตัวจริงๆในเวลาคับขันเเบบนี้ยังมาเอะอะโวยวายทำตัวโง่ๆ เเถมยังเป็นตัวถ่วงทำให้เเกต้องมาลำบาก มาคอยดูเเลอีก😥"
"ไม่เป็นไรเเก เเกเป็นเพื่อนฉันนะตราบใดที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน เราต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ เราจะไม่มัวรอให้คนอื่นมาช่วยอย่างเดียว✌️"
ทั้งสองเรียกกำลังใจให้ตนฟันฝ่าเรื่องน่ากลัวในตอนนี้ เเม้ว่าตอนนี้ตนกำลังประสบกับเรื่องน่ากลัวก็คือเดินวนเวียนอยู่เพียงชั้นเดียวไปไม่ถึงชั้นล่างเสียที ทั้งสองเดินลงบันไดจนเหนื่อยเต็มที
" เห้ยๆ สีเทียนชั้น3 เเล้วอ้ะ "
"เห้ย!! จริงด้วย เย้ๆๆๆ ป่ะๆรีบลงกันเถอะพวกนั้นคงรอเราอยู่"
ทั้งคู่รีบวิ่งเพื่อจะมุ่งไปหัวมุมชั้น3 เพื่อลงบันไดสู่อาคารด้านล่าง เเต่เเล้วทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อภาพที่อยู่ตรงหน้าทั้งคู่คืแ เก้าอี้ไม้ตัวนึงตั้งขวางทางอยู่ตรงระหว่างกลางของทางเดิน........
"สีเทียน...😦"
"หืม อะไรเเก? 😥"
"เเกดูเก้าอี้นั่นดิ่ มันมาตั้งอะไรทางนั้นวะเเก?"
ปูนิ่มพูดขึ้นมาก็ทำให้สีเทียนอดคิดถึงเรื่องที่เจนเล่าไม่ได้เเต่ต้องทำเป็นไม่สนใจอะไรไม่ให้เพื่อนคิดมาก
"อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกปูนิ่ม ไอ้เก้าอี้ตัวเนี้ยฉันเห็นตั้งเเต่ตอนพักกลางวันเเล้ว อย่าคิดมากน่า"
สีเทียนพูดพลางจูงมือปูนิ่มเดินหน้าไป เเต่ดูเจ้าตัวจะขัดๆ
"เอางี้ถ้าเเกกลัวเราไปลงบันไดอีกฝั่งหนึ่งก็ได้นะดีมั้ย? เเต่มันไม่มีอะไรหรอกว่ามั้ยมั้ย😅 "
สีเทียนใช้วิธีเเก้ปัญหาด้วยการเสียเวลาเดินไปอีกฝั่งของอาคาร ซึ่งมีสองฝั่งซ้าย-ขวา เเละน่าเป็นทางออกที่ดีเเก่ทั้งคู่
ทั้งสองคิดเเละตัดสินใจทำในสิ่งที่คิดว่าดีกว่า อย่างน้อยถึงจะเสียเวลาหน่อยเเต่ถ้าเป็นวิธีที่ทำให้ปูนิ่มเลิกกลัว
เเต่สิ่งที่ทั้งคู่คิดว่าจะดีตอนนี้มันพังลงไปเเล้ว เมื่อมีเสียงๆหนึ่งเกิดขึ้น
~ครืด....~
เสียงนี้เกิดจากทางด้านหลังของทั้งคู่ทันทีที่หันหลังเพื่อจะเดินไปลงอีกทาง
~ครืดดดดดดดดดด~
ทั้งสองเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ปูนิ่มตัวสั่นจนสังเกตุได้ ในขณะที่สีเทียนทำหน้าเป็นสัญญาณว่าอย่าหันไปมองเด็ดขาด ในขณะที่ทั้งคู่เเทบจะวิ่งกันอยู่นั้น เสียงลากเก้าอี้ก็ยิ่งเร่งขึ้นเรื่อยๆ ประหนึ่งเหมือนจะตามให้ทัน ทั้งคู่วิ่งอย่างเร็วเพื่อจะหนีให้เร็วเท่าที่จะทำได้
เเต่เหมือนปูนิ่มจะลืมตัว เผลอหันไปดูจึงพบกับเงาดำจับรูปร่างไม่ได้กำลังอยู่ในท่าเหมือนเด็นที่กำลังเข็นรถเข็นมุ่งมาข้างหน้าพร้อมกับเสียงขาเก้าอี้ขูดกับพื้นปูน
~ครืดดดดดดดดดดดดดด~
"กรี๊ดดดดดดดดดด!!!! ช่วยด้วย"
"สีเทียนฉันไม่ไหวเเล้ว" ปูนิ่มร้องบอก
พร้อมกับจะวิ่งลงชั้นล่างที่ประตูเหล็กถูกเลื่อนปิด
"ปูนิ่มขึ้นข้างบนเหอะ ข้างล่างมันล็อค!!!"
ทั้งสองวิ่งขึ้นชั้นบนอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งลงบันไดอีกฝั่งของอาคารก่อนจะพากันลงมาชั้นล่างที่เป็นประตูเหล็กเเละหวังเพียงไม่เจออะไรอีกนอกจากเพื่อนๆ
..........................................
-เเพท-
ในขณะที่เเพทกำลังมองหาคนช่วยเปิด มาเป็นเวลา 30 นาทีจนตนก็เริ่มจะหงุดหงิดเสียเเล้ว เหตุการที่เขาเจอมากับกรอสมันช่างน่ากลัวจนทำให้เขาร้อนรนจนไม่อาจจะอยู่ที่นี่ได้อีก ภาพเด็กผมยาวสยายขู่จะเอาชีวิต ในใจเเพทอยากจะคิดในเเง่ดีว่าเจนอาจจะเเกล้งคืนเเต่ก็ไม่อาจคิดเช่นนั้นได้ เพราะชุดที่เด็กสาวคนนั้นใส่เป็นชุดเครื่องเเบบของโรงเรียนรุ่นเก่าที่มีการเปลี่ยนมาเเล้ว 22 ปี เจนไม่มีทางมีชุดนั้นมาใส่เพื่อที่จะมาเเกล้งตนเเน่นอนเเพทคิดสงสัยอยู่คนเดียว เมื่อมองนาฬิกาที่ข้อมือก็เป็นเวลา 20:00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เริ่มมืดลงทุกทีจนรู้สึกว่าไม่ได้การ
" มีใครอยู่มั้ยมีคนติดอยู่ในอาคาร!!!! "
เพทตะโกนเรียกอย่างสุดเสียง
" เห้ย!! ได้ยินมั้ยวะหูหนวกกันรึไง"
เเพทเริ่มที่จะโมโหจากคนขี้เล่นตอนนี้ได้กลายเป็นคนฉุนเฉียวไปเสียเเล้ว
"
"เเพท!!! " เสียงเรียกของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างบนตรงราวบันได
"สีเทียนลงมาเเล้วหรอ เเล้วไอ้ปูนิ่มล่ะ" เเพทถามนึกดีใจที่มีเพื่อน
"นี่ไง" สีเทียนบอกพลางชี้ข้ามไหล่ของตัวเอง เเละปรากฎร่างอวบที่ชะโงกมาดูคนตรงหน้า
"นี่เเพทไงปูนิ่ม ไม่ใช่ผีหรอก" สีเทียนบอกเพื่อน
"เมื่อกี้เเกโวยวายอะไรวะเเพท ตกใจหมด" ปูนิ่มพูดพร้อมส่งสายตาดุ
"ก็ไอ้ประตูเนี่ยสิมันเปิดไม่ออก ตะโกนให้ใครมาช่วยก็ไมีใคร สงสัยไอ้ลุงภารโรง
"ใจเย็นๆนะ ฉันว่าเราหาอะไรมาทุบดูมั้ย?" สีเทียนผู้ใช้สมองเอ่ยขึ้น
"จะมีอะไรล่ะ ที่จะทุบประเหล็กนี่ได้" แพทถามด้วยอาการสงบลง
"งั้นเเยกย้ายไปหาเเละกัน ปูนิ่มเเกอยู่ตรงนี้นะสว่างหน่อย เเกไม่ต้องไป และถ้าเจอกรอสกับเจนก็บอกให้รอนะตรงนี้ด้วยไม่ต้องตามหาอีก เราจะรวมตัวกันตรงนี้เข้าใจนะ "
สีเทียนบอกเพื่อนให้อยู่เพราะเห็นท่าทีของเพื่อนที่ไม่ไหวเเล้ว
"โอเค .. กลับมาเร็วๆนะ ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวนานๆ" ปูนิ่มบอกด้วยท่าทางกังวล
" ไม่ต้องห่วง ถ้าเเกอยู่ที่เดิมฉันมาหาเเกเเน่นอน"
สีเทียนพูดรับปากก่อนจะเเยกไปคนละทางกับเเพท โดยที่เธอเลี่ยงจะไม่ไปอีกทาง ทางที่ตนวิ่งหนีเก้าอี้ไม้ตัวนั้นมา
อีกฟากหนึ่งเด็กหนุ่มหน้าตี๋ก็ได้วิ่งตามอาคาร เพื่อค้นหาสิ่งของที่จะสามารถทำลายประตูเหล็กให้เปิดออกได้ เเพทวิ่งไปตามห้องต่างๆของอาคารเขย่าประตูเเทบทุกห้องไม่มีท่าทีว่าห้องไหนจะไม่ล็อคคงเป็นเพราะภายในห้องคงมีของมีค่า ห้องที่เปิดไว้มีเพียงเเต่ห้องเรียนประจำเท่านั้น
"อะไรกันวะ ไม่มีห้องไหนที่มันเปิดออกเลยรึไงกัน "
~ครืด~
"เสียงอะไรวะ?"
เเพทหันไปดูที่มาของเสียง ก็พบเก้าอี้ไม้ตัวเดิม ตัวที่ใช้เเกล้งเจน
"เห้ย ไอ้กรอส มุขซ้ำอย่าๆ ออกมาๆ "
เเพทพูดพลางหัวเราะเเห้งๆเกาหัวลุ้นให้กรอสเเสดงตัว เเต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
เเพทยืนจ้องเก้าอี้ตัวนั้น เเละก็ดูเหมือนว่ามันก็กำลังจ้องมองเด็กหนุ่มอยู่เช่นกัน
~ครืด~ ครืด ~ ครืดดดดด
เก้าลากขยับเข้ามาเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เเพทลังเลกับสถานการณ์ครั้งนี้ว่าจะทำอย่างไรดีจะหนีหรือว่า
~พลั่ก!!!!~ ครืดดดดดดด
เเพทตัดสินใจสู้ด้วยการวิ่งถีบสวนเก้าอี้ที่ลากเข้าหา เเต่เมื่อเก้าอี้ตัวนั้นล้มลงขาของเก้าอี้จึงขัดขาให้เเพทล้มลงไปด้วย
เก้าอี้ตัวนั้นกระเด็นเเตกหักกระจาย ส่วนตัวเเพทก็เซล้มไปอีกทาง คงไม่ใช่เรื่องเเปลกที่เจ้าตัวจะล้มเนื่องจากสิ่งที่ตนถีบกระเด็นไปนั้นเป็นเก้าอี้ไม้ทั้งหนักเเละหนา
เเพทคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าตนทำอะไรลงไป สิ่งที่เขาเองกำลังสู้อยู่นั้นมันคืออะไร เมื่อได้สติเเพทจึงพยายามลุกขึ้นพาตัวเองยืน
เก้าอี้ตัวนั้นคงไม่สามารถทำอะไรหรือลากตามเขาได้เพราะตอนนี้มันหักพังไปเรียบร้อย เเพทลุกขึ้นยืนมองเก้าอี้อย่างภาคภูมิใจก่อนจะเดินก้าวไปข้างหน้า
"โอ๊ย!! อะไรวะ?"
เเพทรู้สึกเจ็บที่บริเวณน่องข้างขวา เขาพยุงตัวเองให้นั่งตรงระเบียงก่อนจะดูให้เเน่ใจว่าคืออะไร เเละเขาก็ได้เห็นคือมีซีกไม้ยาว 1 ฟุตจากเก้าอี้ตัวนั้นเสียบคาน่องของเขาในลักษณะเเทงทะลุครึ่งต่อครึ่ง
"เห้ย!! ไม่จริงอ่ะไม่จริง!!! โอ๊ยยยย อ่าาา"
เเพทร้องด้วยเสียงที่กลัวต่อภาพที่เห็น มันเป็นภาพที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตน
"ไอ้เก้าอี้เหี้_ย ฤทธิ์เยอะนักนะ"
เเพทพูดก่อนจะยันดาลโทสะด้วยการจับเก้าอี้ตัวนั้นฟาดไปมาจนเก้าอี้เเตกหักไม่มีชิ้นดี
เเพทยืนหอบก่อนจะนั่งลงที่ระเบียงอีกครั้ง เด็กหนุ่มเเข็งใจดึงซีกไม้ที่เสียบคาน่องด้วยความเจ็บปวดจนกระทั่งซีกไม้หลุดออก
"เเพทเเกเป็นอะไรอ้ะ!!!" สีเทียนวิ่งลงบันไดจากชั้นบนลงมาก่อนจะเจอเเพทในสภาพบาดเจ็บ
"ฉันโดนไม้เสียบน่องน่ะ เเต่ไม่เป็นไรเเล้วชั้นดึงออกได้เเล้ว
"เเพท เลือด!!!"
สีเทียนตกใจกับภาพตรงหน้า เลือดของเเพทไหลทะลักออกจากบาดเเผลอยากมากจนนองพื้นอย่างน่าตกใจ
"เเพทเเกโอเคมั้ย?" สีเทียนถามด้วยความเป็นห่วง
"จะบอกว่าโอเคคงไม่ใช่ เลือดมันไหลไม่หยุดเลยว่ะทำไงดี ช่วยหน่อย"
เเพทพูดยิ้มเหมือนเสเเสร้งยิ้ม
"เเกมีผ้าเช็ดหน้ามั้ยเเพท ชั้นมีอยู่ผืนนึงเเต่มันไม่พอ"
"มีๆ ผืนใหญ่อยู่ " เเพทบอกพลางยืนผ้ามาให้
"โอเค ดีเลย เดี๋ยวชั้นจะผูกผ้าห้ามเลือดให้ "
สีเทียนเอาผ้าเช็ดหน้าที่ตนมีมาผูกรวมกับผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ของเเพทก่อนจะนำมาผูกปิดปากเเผลที่น่องเเละรัดอย่างเเน่นที่สุด
"ขอบใจนะสีเทียน ที่ช่วยฉัน"
"ไม่เป็นไร เเกพอเดินได้ไหม?"
เด็กหนุ่มพยักหน้านิดๆ ก่อนพยามจะเดินด้วยการลากข้าที่เจ็บ
เห็นอย่างนั้นสีเทียนจึงรีบพยุงทันที
"ขอบใจนะที่อุตส่าห์ช่วย นี่ขนาดเธอดูจะไม่ชอบขี้หน้าฉันนะเนี่ย"
"บ้า ฉันเปล่าไม่ชอบขี้หน้านายนะ เเต่ฉันว่าถ้าใครชอบขี้หน้านายก็เเปลกเเล้วดูปากนายสิ "
"เห้ย พูดตรงว่ะ" เเพทพูดกึ่งหัวเราะ
"เเต่ข้อดีนายก็มีนะ นายเป็นคนเฮฮาดีนะคุยสนุกดี ฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนายซะทีเดียว"
สีเทียนพูดพลางยิ้มให้เเพท
"นี่เป็นครั้งเเรกเลยนะที่เธอพูดกับชั้นมากกว่า 3 คำ เเละก็เป็นครั้งเเรกเลยที่เธอยิ้มให้ฉัน ฉันรู้เเละว่าทำไทใครๆก็ชอบเธอ ก็เธอเป็นคนดีเเบบนี้นี่เอง ขอบคุณนะ 😊"
"อื้ม" สีเทียนส่งยิ้มให้อีกครั้ง
"ฉันสัญญาเลยว่าหลังจากนี้ ฉันจะปรับปรุงตัวเองนะ 😀" เเพทบอก
"เห้ย!?!!" พลั่กกก!!
~ตึง!!!!!
จู่ประตูก็เปิดออกมาอย่างเเรงเหมือนมีคนพลักออกมาอย่างเเรงกระเเทกเข้ากับร่างของเเพทก่อนที่จะกระเด็นล้มเซไปข้างหลังอย่างเเรง
"เเพท กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!! "
------------------------------
โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากติดตามเเฟนเพจได้ที่ชื่อเดียวกับเรื่อง