อยากจะขอความรู้จากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทราบเรื่องกฎหมาย ว่าควรทำยังไงดี รู้สึกว่าค่าสินไหมมันจะแพงไปหรือป่าว
เรื่องเกิด ช่วง เดือน มีนาคม 2558 เรื่องมีอยู่ว่าวันนั้นพ่อผมขับรถกลับบ้านตามปกติ เวลาประมาณสองทุ่มพอมาถึงจุดที่เกิดเรื่องก็ชนเข้ากับท้ายมอไซที่วิ่งมาเลนเดียวกันซึ่งขับมาด้วยกันสองคน(คนขับกับคนซ้อน) รถมอไซของคู่กรณีไม่มีป้ายทะเบียน ป้ายสะท้อนไฟ ไม่มีไฟท้ายเลย ทำให้มองไม่ค่อยชัดเจนมาสังเกตเห็นในช่วงระยะประชิดทำให้หักหลบไม่ทันจึงเกิดเหตุดังกล่าว หลังจากชนท้ายมอไซแล้วพ่อผมจึงรีบลงจากรถเพื่อมาดูอาการของคนที่โดนชนแล้วจึงรีบโทรแจ้งให้ตำรวจและรถพยาบาลมายังที่เกิดเหตุ คนหนึ่งเป็นญาติเราเองที่โดนชนอีกคนไม่ใช่ญาติและไม่รู้จัก ทั้งสองคนไม่ได้สติประมาณสองอาทิตย์ช่วงที่ทั้งคู่ต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาลพ่อก็คอยไปเยี่ยมอยู่บ้างซึ่งก็เป็นห่วงคนที่โดนชน ค่าใช้จ่ายทางโรงพยาบาลพ่อเป็นคนจ่ายให้หมด จนทั้งคู่อาการดีขึ้นสามารถกลับบ้านได้ แต่ว่าไม่สามารถสื่อสารได้ชัดเจนเพราะว่าได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองอาจถึงขั้นเป็นคนสติไม่สมประกอบ หลังจากนั้นทางตำรวจได้นับให้ไปไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก ซึ่งพ่อผมไปกับปู่เพียงสองคนและทางญาติของผู้เสียหายอีกสองคน ทางพ่อและปู่ได้ขอเสนอค่าสินไหมไปว่าขอชดใช้ ค่าสินไหมคนละ 50,000 ได้ไหมเพราะว่าฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีพ่อผมทำงานก่อสร้างซึ่งทางเราก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดและไปเยี่ยมตลอด (ทางผู้เสียหายก็ไม่ได้ทำงานอะไร อันนี้เราไม่ได้พูดต่อหน้า) ทางญาติของผู้เสียหายได้แสดงอาการไม่พอใจ ฝ่ายญาติของผู้เสียหายที่เป็นญาติเราเรียกร้องค่าเสียหาย 150,000 ส่วนฝ่ายญาติของผู้เสียหายที่ไม่ใช่ญาติเรา เรียก 350,000 เขาขู่ว่าให้รีบหาตังมาจ่าย ถ้าขึ้นศาลจะหนักกว่านี้ ซึ่งก็ไม่สามารถเคลียกันได้จึงต้องให้ศาลตัดสินอีกประมาณ อาทิตย์หน้า
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรทำอย่างไรและคิดยังไงกับเรื่องนี้ ประโยคไม่ได้ใจความยังไงขออภัยได้นะครับ กระทู้แรกของผม
พ่อผมขับรถชนมอไชซ้อนกันมาสองคน โดนเรียกค่าทำขวัญ 500000
เรื่องเกิด ช่วง เดือน มีนาคม 2558 เรื่องมีอยู่ว่าวันนั้นพ่อผมขับรถกลับบ้านตามปกติ เวลาประมาณสองทุ่มพอมาถึงจุดที่เกิดเรื่องก็ชนเข้ากับท้ายมอไซที่วิ่งมาเลนเดียวกันซึ่งขับมาด้วยกันสองคน(คนขับกับคนซ้อน) รถมอไซของคู่กรณีไม่มีป้ายทะเบียน ป้ายสะท้อนไฟ ไม่มีไฟท้ายเลย ทำให้มองไม่ค่อยชัดเจนมาสังเกตเห็นในช่วงระยะประชิดทำให้หักหลบไม่ทันจึงเกิดเหตุดังกล่าว หลังจากชนท้ายมอไซแล้วพ่อผมจึงรีบลงจากรถเพื่อมาดูอาการของคนที่โดนชนแล้วจึงรีบโทรแจ้งให้ตำรวจและรถพยาบาลมายังที่เกิดเหตุ คนหนึ่งเป็นญาติเราเองที่โดนชนอีกคนไม่ใช่ญาติและไม่รู้จัก ทั้งสองคนไม่ได้สติประมาณสองอาทิตย์ช่วงที่ทั้งคู่ต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาลพ่อก็คอยไปเยี่ยมอยู่บ้างซึ่งก็เป็นห่วงคนที่โดนชน ค่าใช้จ่ายทางโรงพยาบาลพ่อเป็นคนจ่ายให้หมด จนทั้งคู่อาการดีขึ้นสามารถกลับบ้านได้ แต่ว่าไม่สามารถสื่อสารได้ชัดเจนเพราะว่าได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองอาจถึงขั้นเป็นคนสติไม่สมประกอบ หลังจากนั้นทางตำรวจได้นับให้ไปไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก ซึ่งพ่อผมไปกับปู่เพียงสองคนและทางญาติของผู้เสียหายอีกสองคน ทางพ่อและปู่ได้ขอเสนอค่าสินไหมไปว่าขอชดใช้ ค่าสินไหมคนละ 50,000 ได้ไหมเพราะว่าฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีพ่อผมทำงานก่อสร้างซึ่งทางเราก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดและไปเยี่ยมตลอด (ทางผู้เสียหายก็ไม่ได้ทำงานอะไร อันนี้เราไม่ได้พูดต่อหน้า) ทางญาติของผู้เสียหายได้แสดงอาการไม่พอใจ ฝ่ายญาติของผู้เสียหายที่เป็นญาติเราเรียกร้องค่าเสียหาย 150,000 ส่วนฝ่ายญาติของผู้เสียหายที่ไม่ใช่ญาติเรา เรียก 350,000 เขาขู่ว่าให้รีบหาตังมาจ่าย ถ้าขึ้นศาลจะหนักกว่านี้ ซึ่งก็ไม่สามารถเคลียกันได้จึงต้องให้ศาลตัดสินอีกประมาณ อาทิตย์หน้า
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าควรทำอย่างไรและคิดยังไงกับเรื่องนี้ ประโยคไม่ได้ใจความยังไงขออภัยได้นะครับ กระทู้แรกของผม