สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา เนื่องจากเกิดความผิดพลาดในการโอนเงินค่าลงทะเบียนของเราในการเรียนจนเราหมดสิทธิสอบ
เราได้เดินทางไปสอบถามที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายูไนเต็ดเซ็นเตอร์ สีลมด้วยตนเอง และไม่ได้รับคำชี้แจงใดๆกลับมาจึงต้องขอเรียนสอบถามเป็นความรู้จากท่านที่อาจอาจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในการโอนเงินที่เกิดขึ้นได้
1. เราโอนเงินค่าลงทะเบียนรายวิชาของคณะนิติศาสตร์ โครงการปริญญาตรีภาคบัณฑิต ภาคการศึกษาที่ 2 เมื่อวันที่ 18,440 บาทโดยนำใบแจ้งการชำระเงินค่าจดทะเบียนเรียนพร้อมกับนำสมุดบัญชีไปจ่ายที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ สีลม ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 โดยทางคณะฯมีกำหนดชำระเงินค่าลงทะเบียนภายใน 3 กุมภาพันธ์ 2558 ดังนั้นเรายังชำระค่าลงทะเบียนทันในช่วงเวลาเพิ่ม-ถอน หลังจากที่เราชำระเงินแล้ว 2-3วันก็ได้ไปสอบถามที่คณะ ทางเจ้าหน้าที่ยังแจ้งว่า ไม่สามารถตรวจสอบยอดเงินได้ และในระบบลงทะเบียนยังขึ้นเป็นสถานะค้างชำระเงินค่าลงทะเบียน เราจึงคิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากได้ชำระเงินไปเรียบร้อย เลข Ref.no. หรือข้อมูลบนใบเสร็จก็ถูกต้องทุกอย่าง
2. จนมาถึงเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่เรากำลังทำงาน มีโทรศัพท์จากพี่เจ้าหน้าที่คณะวิทยาศาสตร์ แจ้งมาว่าเราได้โอนเงินจำนวน 18,440 บาทซึ่งเป็นค่าลงทะเบียนของเราไปที่บัญชีโครงการปริญญาตรีภาคพิเศษ สาขาคณิตศาสตร์การจัดการ (!) เราตกใจมากเพราะเดือนหน้าเรากำลังจะสอบปลายภาคแล้ว ทางพี่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เพิ่งตรวจพบว่ามียอดโอนเงินเกินเข้ามาจึงติดต่อกลับไปที่ทางธนาคารและขอชื่อ รวมทั้งประสานไปยังคณะนิติศาสตร์จนได้เบอร์ติดต่อมา และแจ้งว่าให้มายื่นคำขอคืนเงินกับทางคณะโดยให้นำใบเสร็จตัวจริงที่ได้จากทางธนาคารมาด้วย แต่ตอนนั้นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ จะได้สอบไหมเดือนหน้า เรารีบขอลางานในช่วงบ่ายอีกวันเพื่อไปติดต่อทางธนาคารที่เกิดเรื่องเพื่อขอคำชี้แจงว่า เกิดความผิดพลาดจากตรงไหน จะได้ติดต่อได้ถูก
3. วันที่ 10 เมษายน เราได้เดินทางไปธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายูไนเต็ด เซ็นเตอร์และได้เข้าพบทางพนักงาน โดยเราได้พูดคุยกับพี่ผู้หญิงซึ่งไม่ได้ประจำตรงส่วนเคาท์เตอร์ เธอจะเดินตรวจงานพนักงานที่ตรงเคาท์เตอร์และตำแหน่งที่นั่งของเธอเป็นโต๊ะแยกต่างหากจึงคิดว่า น่าจะเป็นพนักงานในระดับหัวหน้า เราได้ยื่นใบเสร็จรับเงินและใบแจ้งการชำระค่าเงินจดทะเบียนเรียนซึ่งส่วนด้านล่างถูกพนักงานที่รับชำระเงินเก็บไว้เป็นหลักฐานและมีตราประทับของเจ้าหน้าที่ธนาคารชัดเจนและสอบถามว่า เหตุใดคณะนิติศาสตร์ไม่เคยได้รับเงินค่าลงทะเบียนและตอนนี้บันทึกการลงทะเบียนเทอม 2 ของเราถูกลบหายออกไปจากระบบ พี่พนักงานผู้หญิงค่อนข้างงง เพราะเลข Ref.no. ตรงหมดทั้ง 3 จุด และดูจากใบเสร็จแล้วเธอบอกว่า แบบนี้เป็นการทำรายการโดยการแสกนบาร์โค้ดจะผิดพลาดได้อย่างไร แต่เรายืนยันว่า ได้รับแจ้งจากคณะวิทยาศาสตร์ว่า ได้รับเงินค่าลงทะเบียนของเราจริง สักพักก็ตามพนักงานพี่ผู้ชายอีกคน(ดูมีอายุหน่อยและจำได้ว่า เมื่อวันก่อนๆมีโทรศัพท์โทรมาสอบถามขอชื่อเรา) มา โดยทั้งสองคนยืนยันว่า ไม่น่าจะผิดพลาดได้เนื่องจากเป็นการแสกนบาร์โค้ด ไม่ใช่การคีย์ข้อมูล หลังจากที่เราพูดว่า ข้อมูลที่เราลงทะเบียนเทอมนี้หายไปทั้งหมด ก็เพราะคณะฯไม่ได้รับเงินค่าลงทะเบียน ทำให้เทอมนี้เราไม่มีสิทธิสอบ เรามาขอให้ชี้แจงว่าเกิดจากอะไร และขอให้ทำเป็นหนังสือชี้แจงเพื่อให้เราเอาไปยื่นประกอบคำร้องซึ่งจะส่งให้คณะได้ไหม พี่ผู้หญิงนำใบแจ้งลงทะเบียนส่วนด้านล่างซึ่งทางธนาคารเก็บไว้เป็นหลักฐานมาให้ดูว่า เลขบัญชีของคณะที่เราจะโอนไปเป็นธนาคารกรุงไทย ซึ่งตอนนั้นเราจำไม่ได้จริงๆว่า เราให้เขาโอนไปธนาคารกรุงไทยหรือเราไม่ได้ให้ดูให้ครบ พี่ผู้หญิงให้เราออกมาข้างนอกก่อน(คงเพราะเราพูดเสียงไม่เบาและมีลูกค้าท่านอื่นอยู่ด้วยเยอะ อาจจะได้ยิน) เราออกมารอข้างนอกประมาณเกือบชม. โดยยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ
4. เราโทรไปสอบถามเพิ่มเติมกับทางพี่พนักงานคณะวิทยาศาสตร์ที่เคยติดต่อ จึงได้ทราบว่า
เลขบัญชีที่โอนเงินเข้าไปโดยผิดพลาดนั้นก็เป็นเลขบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์เหมือนกัน แสดงว่า หลังจากที่แสกนบาร์โค้ดแล้วเงินไม่ได้โอนไปที่ธนาคารกรุงไทยแต่ไปเข้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ที่คณะฯนี้ใช้อยู่ โดยอาจมีชื่อบัญชีขึ้นต้นว่า Graduate Program เหมือนกัน(เพราะในใบเสร็จที่ได้จากธนาคารก็ระบุว่า ชื่อบัญชี Graduate Program สั้นๆ และเป็นโครงการปริญญาตรีภาคพิเศษเหมือนกันด้วย แต่เราก็สงสัยเพราะทางเจ้าหน้าที่คณะวิทยาศาสตร์ที่ติดต่อก็แจ้งว่า
เลขบัญชีก็ไม่ได้เหมือนกัน ธนาคารก็ใช้คนละธนาคาร โอนมาถึงที่บัญชีเขาได้อย่างไร บนใบแจ้งลงทะเบียนเราก็เป็นข้อมูลการลงทะเบียนของคณะเรา มีแต่เลขบัญชีของคณะเราคนเดียว แล้วจะโอนไปได้อย่างไร
5. ผ่านไปประมาณ 40-50 นาที ทางธนาคารโทรมาให้เราเข้าไปอีกครั้ง เมื่อเราเข้าไปแล้วพบว่า ลูกค้าน้อยลงมาก และพฤติกรรมบางอย่างก็เปลี่ยนไป เราเจอพี่พนักงานผู้หญิงที่เจอคนแรกเขาเดินเข้ามาหาแล้วถามว่า "น้องไม่รู้เหรอคะว่า ต้องโอนไปธนาคารกรุงไทย?" เราตอบว่า ไม่แน่ใจค่ะ แล้วพี่พนักงานที่โอนเงินให้หนูล่ะค่ะ ชี้แจงว่าอย่างไร พี่พนักงานผู้หญิงคนนั้นพูดตัดบททันทีว่า "ก็ผิดทั้งคู่นั่นแหละ!" แล้วก็จากไป เราเข้าพบพี่พนักงานอีก 3 คนซึ่งไม่ได้ให้คำตอบใดๆ หรือให้หนังสือชี้แจงตามที่เราขอ บอกแต่เพียงว่า ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลโครงการแล้ว ให้รีบไปวันที่ 16-17 เมษายนเพื่อให้เขาทำการลงทะเบียนให้ใหม่จะได้มีสิทธิสอบ เรายังถามย้ำว่า มันเป็นไปได้ไหมที่เมื่อแสกนบาร์โค้ดแล้ว จะเกิดความผิดพลาดกับระบบแล้วเป็นการทำรายการไปที่บัญชีอื่นแทน..... ไม่มีพนักงานคนไหนตอบเราเลย เราขอหนังสือชี้แจงแค่นำไปประกอบคำร้อง ขอครั้งที่4-5แล้ว ก็ไม่ตอบอะไรเรา สิ่งที่เราได้กลับมาวันนั้นคือ สำเนาใบเสร็จรับเงินที่ตัวเองถือไป โดยที่นั่งรอเป็นชม.
คำถามของเราคือ
1. ความผิดพลาดในกรณีของเรานั้น น่าจะเกิดจากอะไร เพราะเราไม่ได้รับคำชี้แจงใดๆจากธนาคารเลย และในกรณีที่มีการทำรายการโดยแสกนบาร์โค้ด พนักงานสามารถตรวจสอบได้ไหมคะว่า กำลังจะชำระค่าลงทะเบียนไปถูกบัญชีหรือไม่ เพราะเราคิดว่า แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ตรวจสอบว่า ต้องโอนไปที่ธนาคารกรุงไทย แต่พนักงานของธนาคารเองก็ควรตรวจตราดูก่อนหรือเปล่าว่า จะต้องโอนไปที่ธนาคารกรุงไทย ไม่ใช่บัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งไม่ได้มีเลขบัญชีตรงกันแต่อย่างใด ก่อนเราจะกลับ พนักงานธนาคารบางท่านกรุณาแนะนำว่า ใบแจ้งชำระค่าลงทะเบียนเรียนของมหาวิทยาลัยที่เราศึกษา ควรทำให้ชื่อธนาคารกรุงไทยใหญ่ขึ้นหน่อย นักศึกษาสังเกตเห็นจะได้ไม่เข้าใจผิด (คือคนโอนเข้าใจผิด ความผิดมันอยู่ตรงนี้อย่างเดียวหรือเปล่าคะ? นี่เป็นอย่างเดียวที่พี่พนักงานแนะนำมา)
2. การแสกนบาร์โค้ดมีโอกาสผิดพลาดบ้างหรือไม่คะ หากมี มากหรือน้อยกว่าการคีย์ตัวเลขด้วยมือ(บางครั้งเคยเห็นพี่พนักงานธนาคารคีย์ตัวเลขแทนการแสกนบาร์โค้ด จึงเกิดความสงสัยค่ะ)
3. การขอหนังสือชี้แจงจากธนาคารต้องดำเนินการอย่างไรคะ ไม่สามารถขอให้ทางพนักงานในสาขาที่เกิดเหตุออกให้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้หรือคะ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้
1.
ไม่มีสิทธิสอบค่ะ เพราะไม่มีสภาพนักศึกษาแล้ว สิ่งที่เรียนมาอ่านมาเป็นเดือน ไม่รู้จะได้เอาไปสอบหรือเปล่า
2. ความเสียหายกับหน้าที่การงาน – ต้องลางานวันที่ 10 เมษายนและวันที่ 16 เมษายน เพื่อไปขอคำชี้แจงกับทางธนาคารและไปยื่นคำร้องขอเงินคืนที่คณะวิทยาศาสตร์ถึงรังสิต และกลับมายื่นคำร้องที่คณะนิติศาสตร์เพื่อขอให้มีสภาพนักศึกษาอีกครั้ง เราลางาน 2 วันต่อกันเลยนะคะ และจะต้องลาเพิ่มอีกเพราะต้องไปเอาเงินคืนเองที่รังสิตเพื่อเอามาส่งให้คณะที่ท่าพระจันทร์ ถ้าเป็นกรณีคนอื่นที่ไม่สามารถลางานได้ คงไม่มีโอกาสแม้แต่จะทำเรื่องขอคืนสภาพนักศึกษา
3. เสียเวลาเดินทางและเสียเงิน – สอบถามทางเจ้าหน้าที่ของคณะฯแล้ว เราจำเป็นต้องจ่ายค่าลงทะเบียนทั้งหมดด้วยเงินสดภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้สามารถดำเนินการประสานงานกับทางฝ่ายทะเบียน ฝ่ายการเงินและทางคณบดีได้ เพราะทางคณะวิทยาศาสตร์อาจไม่สามารถนำเงินออกมาให้ได้ทัน
4. เสียความรู้สึก – เราไปที่ธนาคารแค่ขอคำชี้แจงเพิ่มเติมว่า เกิดความผิดพลาดที่ตรงไหนและขอแค่หนังสือชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้น จะเขียนอะไรมาก็ได้ขอให้เป็นความจริงและทำให้เราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เราได้คุยกับพี่พนักงานรวมทั้งหมด 4 คน แต่เรากลับไม่ได้รับคำชี้แจงใดๆรวมทั้งคำขอโทษก็ไม่ได้ยินสักคำจากพนักงานสักคน (เราไปพร้อมกับรุ่นน้องอีก 2 คน ทั้งสองคนก็ไม่ได้ยินอะไรเลย) ข้อมูลที่เราได้มาทั้งหมดมาจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ของคณะวิทยาศาสตร์ที่กรุณาติดต่อมาเพราะเกรงว่า จะเป็นยอดเงินลงทะเบียน เราไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากธนาคารหรือที่ไหนนอกจากนี้อีกเลย ถ้าคณะวิทยาศาสตร์ไม่ติดต่อมา ก็คงไม่รู้ว่า ไม่มีสิทธิสอบ ไม่มีสภาพนักศึกษาเอาหน้าห้องสอบในเดือนหน้า ทางธนาคารไม่ได้ชี้แจงหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆเลยในวันนั้น แล้วคราวหน้าเราจะตรวจสอบได้เฉพาะที่บัญชีปลายทางอย่างเดียวใช่ไหมคะว่าได้รับเงินโอนหรือไม่ แต่ไม่สามารถถือใบเสร็จรับเงินมาให้ทางธนาคารตรวจสอบว่า ธนาคารโอนเงินของเราไปที่ไหน?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบพระคุณท่านที่เข้ามาให้ความเห็นและความรู้เพิ่มเติมค่ะ
ขอคำชี้แจ้งจากธ.ไทยพาณิชย์ โอนเงินผิดบัญชี จนไม่มีสิทธิสอบ
เราได้เดินทางไปสอบถามที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายูไนเต็ดเซ็นเตอร์ สีลมด้วยตนเอง และไม่ได้รับคำชี้แจงใดๆกลับมาจึงต้องขอเรียนสอบถามเป็นความรู้จากท่านที่อาจอาจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในการโอนเงินที่เกิดขึ้นได้
1. เราโอนเงินค่าลงทะเบียนรายวิชาของคณะนิติศาสตร์ โครงการปริญญาตรีภาคบัณฑิต ภาคการศึกษาที่ 2 เมื่อวันที่ 18,440 บาทโดยนำใบแจ้งการชำระเงินค่าจดทะเบียนเรียนพร้อมกับนำสมุดบัญชีไปจ่ายที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ สีลม ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 โดยทางคณะฯมีกำหนดชำระเงินค่าลงทะเบียนภายใน 3 กุมภาพันธ์ 2558 ดังนั้นเรายังชำระค่าลงทะเบียนทันในช่วงเวลาเพิ่ม-ถอน หลังจากที่เราชำระเงินแล้ว 2-3วันก็ได้ไปสอบถามที่คณะ ทางเจ้าหน้าที่ยังแจ้งว่า ไม่สามารถตรวจสอบยอดเงินได้ และในระบบลงทะเบียนยังขึ้นเป็นสถานะค้างชำระเงินค่าลงทะเบียน เราจึงคิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากได้ชำระเงินไปเรียบร้อย เลข Ref.no. หรือข้อมูลบนใบเสร็จก็ถูกต้องทุกอย่าง
2. จนมาถึงเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่เรากำลังทำงาน มีโทรศัพท์จากพี่เจ้าหน้าที่คณะวิทยาศาสตร์ แจ้งมาว่าเราได้โอนเงินจำนวน 18,440 บาทซึ่งเป็นค่าลงทะเบียนของเราไปที่บัญชีโครงการปริญญาตรีภาคพิเศษ สาขาคณิตศาสตร์การจัดการ (!) เราตกใจมากเพราะเดือนหน้าเรากำลังจะสอบปลายภาคแล้ว ทางพี่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เพิ่งตรวจพบว่ามียอดโอนเงินเกินเข้ามาจึงติดต่อกลับไปที่ทางธนาคารและขอชื่อ รวมทั้งประสานไปยังคณะนิติศาสตร์จนได้เบอร์ติดต่อมา และแจ้งว่าให้มายื่นคำขอคืนเงินกับทางคณะโดยให้นำใบเสร็จตัวจริงที่ได้จากทางธนาคารมาด้วย แต่ตอนนั้นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ จะได้สอบไหมเดือนหน้า เรารีบขอลางานในช่วงบ่ายอีกวันเพื่อไปติดต่อทางธนาคารที่เกิดเรื่องเพื่อขอคำชี้แจงว่า เกิดความผิดพลาดจากตรงไหน จะได้ติดต่อได้ถูก
3. วันที่ 10 เมษายน เราได้เดินทางไปธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายูไนเต็ด เซ็นเตอร์และได้เข้าพบทางพนักงาน โดยเราได้พูดคุยกับพี่ผู้หญิงซึ่งไม่ได้ประจำตรงส่วนเคาท์เตอร์ เธอจะเดินตรวจงานพนักงานที่ตรงเคาท์เตอร์และตำแหน่งที่นั่งของเธอเป็นโต๊ะแยกต่างหากจึงคิดว่า น่าจะเป็นพนักงานในระดับหัวหน้า เราได้ยื่นใบเสร็จรับเงินและใบแจ้งการชำระค่าเงินจดทะเบียนเรียนซึ่งส่วนด้านล่างถูกพนักงานที่รับชำระเงินเก็บไว้เป็นหลักฐานและมีตราประทับของเจ้าหน้าที่ธนาคารชัดเจนและสอบถามว่า เหตุใดคณะนิติศาสตร์ไม่เคยได้รับเงินค่าลงทะเบียนและตอนนี้บันทึกการลงทะเบียนเทอม 2 ของเราถูกลบหายออกไปจากระบบ พี่พนักงานผู้หญิงค่อนข้างงง เพราะเลข Ref.no. ตรงหมดทั้ง 3 จุด และดูจากใบเสร็จแล้วเธอบอกว่า แบบนี้เป็นการทำรายการโดยการแสกนบาร์โค้ดจะผิดพลาดได้อย่างไร แต่เรายืนยันว่า ได้รับแจ้งจากคณะวิทยาศาสตร์ว่า ได้รับเงินค่าลงทะเบียนของเราจริง สักพักก็ตามพนักงานพี่ผู้ชายอีกคน(ดูมีอายุหน่อยและจำได้ว่า เมื่อวันก่อนๆมีโทรศัพท์โทรมาสอบถามขอชื่อเรา) มา โดยทั้งสองคนยืนยันว่า ไม่น่าจะผิดพลาดได้เนื่องจากเป็นการแสกนบาร์โค้ด ไม่ใช่การคีย์ข้อมูล หลังจากที่เราพูดว่า ข้อมูลที่เราลงทะเบียนเทอมนี้หายไปทั้งหมด ก็เพราะคณะฯไม่ได้รับเงินค่าลงทะเบียน ทำให้เทอมนี้เราไม่มีสิทธิสอบ เรามาขอให้ชี้แจงว่าเกิดจากอะไร และขอให้ทำเป็นหนังสือชี้แจงเพื่อให้เราเอาไปยื่นประกอบคำร้องซึ่งจะส่งให้คณะได้ไหม พี่ผู้หญิงนำใบแจ้งลงทะเบียนส่วนด้านล่างซึ่งทางธนาคารเก็บไว้เป็นหลักฐานมาให้ดูว่า เลขบัญชีของคณะที่เราจะโอนไปเป็นธนาคารกรุงไทย ซึ่งตอนนั้นเราจำไม่ได้จริงๆว่า เราให้เขาโอนไปธนาคารกรุงไทยหรือเราไม่ได้ให้ดูให้ครบ พี่ผู้หญิงให้เราออกมาข้างนอกก่อน(คงเพราะเราพูดเสียงไม่เบาและมีลูกค้าท่านอื่นอยู่ด้วยเยอะ อาจจะได้ยิน) เราออกมารอข้างนอกประมาณเกือบชม. โดยยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ
4. เราโทรไปสอบถามเพิ่มเติมกับทางพี่พนักงานคณะวิทยาศาสตร์ที่เคยติดต่อ จึงได้ทราบว่า เลขบัญชีที่โอนเงินเข้าไปโดยผิดพลาดนั้นก็เป็นเลขบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์เหมือนกัน แสดงว่า หลังจากที่แสกนบาร์โค้ดแล้วเงินไม่ได้โอนไปที่ธนาคารกรุงไทยแต่ไปเข้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ที่คณะฯนี้ใช้อยู่ โดยอาจมีชื่อบัญชีขึ้นต้นว่า Graduate Program เหมือนกัน(เพราะในใบเสร็จที่ได้จากธนาคารก็ระบุว่า ชื่อบัญชี Graduate Program สั้นๆ และเป็นโครงการปริญญาตรีภาคพิเศษเหมือนกันด้วย แต่เราก็สงสัยเพราะทางเจ้าหน้าที่คณะวิทยาศาสตร์ที่ติดต่อก็แจ้งว่า เลขบัญชีก็ไม่ได้เหมือนกัน ธนาคารก็ใช้คนละธนาคาร โอนมาถึงที่บัญชีเขาได้อย่างไร บนใบแจ้งลงทะเบียนเราก็เป็นข้อมูลการลงทะเบียนของคณะเรา มีแต่เลขบัญชีของคณะเราคนเดียว แล้วจะโอนไปได้อย่างไร
5. ผ่านไปประมาณ 40-50 นาที ทางธนาคารโทรมาให้เราเข้าไปอีกครั้ง เมื่อเราเข้าไปแล้วพบว่า ลูกค้าน้อยลงมาก และพฤติกรรมบางอย่างก็เปลี่ยนไป เราเจอพี่พนักงานผู้หญิงที่เจอคนแรกเขาเดินเข้ามาหาแล้วถามว่า "น้องไม่รู้เหรอคะว่า ต้องโอนไปธนาคารกรุงไทย?" เราตอบว่า ไม่แน่ใจค่ะ แล้วพี่พนักงานที่โอนเงินให้หนูล่ะค่ะ ชี้แจงว่าอย่างไร พี่พนักงานผู้หญิงคนนั้นพูดตัดบททันทีว่า "ก็ผิดทั้งคู่นั่นแหละ!" แล้วก็จากไป เราเข้าพบพี่พนักงานอีก 3 คนซึ่งไม่ได้ให้คำตอบใดๆ หรือให้หนังสือชี้แจงตามที่เราขอ บอกแต่เพียงว่า ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลโครงการแล้ว ให้รีบไปวันที่ 16-17 เมษายนเพื่อให้เขาทำการลงทะเบียนให้ใหม่จะได้มีสิทธิสอบ เรายังถามย้ำว่า มันเป็นไปได้ไหมที่เมื่อแสกนบาร์โค้ดแล้ว จะเกิดความผิดพลาดกับระบบแล้วเป็นการทำรายการไปที่บัญชีอื่นแทน..... ไม่มีพนักงานคนไหนตอบเราเลย เราขอหนังสือชี้แจงแค่นำไปประกอบคำร้อง ขอครั้งที่4-5แล้ว ก็ไม่ตอบอะไรเรา สิ่งที่เราได้กลับมาวันนั้นคือ สำเนาใบเสร็จรับเงินที่ตัวเองถือไป โดยที่นั่งรอเป็นชม.
คำถามของเราคือ
1. ความผิดพลาดในกรณีของเรานั้น น่าจะเกิดจากอะไร เพราะเราไม่ได้รับคำชี้แจงใดๆจากธนาคารเลย และในกรณีที่มีการทำรายการโดยแสกนบาร์โค้ด พนักงานสามารถตรวจสอบได้ไหมคะว่า กำลังจะชำระค่าลงทะเบียนไปถูกบัญชีหรือไม่ เพราะเราคิดว่า แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ตรวจสอบว่า ต้องโอนไปที่ธนาคารกรุงไทย แต่พนักงานของธนาคารเองก็ควรตรวจตราดูก่อนหรือเปล่าว่า จะต้องโอนไปที่ธนาคารกรุงไทย ไม่ใช่บัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งไม่ได้มีเลขบัญชีตรงกันแต่อย่างใด ก่อนเราจะกลับ พนักงานธนาคารบางท่านกรุณาแนะนำว่า ใบแจ้งชำระค่าลงทะเบียนเรียนของมหาวิทยาลัยที่เราศึกษา ควรทำให้ชื่อธนาคารกรุงไทยใหญ่ขึ้นหน่อย นักศึกษาสังเกตเห็นจะได้ไม่เข้าใจผิด (คือคนโอนเข้าใจผิด ความผิดมันอยู่ตรงนี้อย่างเดียวหรือเปล่าคะ? นี่เป็นอย่างเดียวที่พี่พนักงานแนะนำมา)
2. การแสกนบาร์โค้ดมีโอกาสผิดพลาดบ้างหรือไม่คะ หากมี มากหรือน้อยกว่าการคีย์ตัวเลขด้วยมือ(บางครั้งเคยเห็นพี่พนักงานธนาคารคีย์ตัวเลขแทนการแสกนบาร์โค้ด จึงเกิดความสงสัยค่ะ)
3. การขอหนังสือชี้แจงจากธนาคารต้องดำเนินการอย่างไรคะ ไม่สามารถขอให้ทางพนักงานในสาขาที่เกิดเหตุออกให้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้หรือคะ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้
1. ไม่มีสิทธิสอบค่ะ เพราะไม่มีสภาพนักศึกษาแล้ว สิ่งที่เรียนมาอ่านมาเป็นเดือน ไม่รู้จะได้เอาไปสอบหรือเปล่า
2. ความเสียหายกับหน้าที่การงาน – ต้องลางานวันที่ 10 เมษายนและวันที่ 16 เมษายน เพื่อไปขอคำชี้แจงกับทางธนาคารและไปยื่นคำร้องขอเงินคืนที่คณะวิทยาศาสตร์ถึงรังสิต และกลับมายื่นคำร้องที่คณะนิติศาสตร์เพื่อขอให้มีสภาพนักศึกษาอีกครั้ง เราลางาน 2 วันต่อกันเลยนะคะ และจะต้องลาเพิ่มอีกเพราะต้องไปเอาเงินคืนเองที่รังสิตเพื่อเอามาส่งให้คณะที่ท่าพระจันทร์ ถ้าเป็นกรณีคนอื่นที่ไม่สามารถลางานได้ คงไม่มีโอกาสแม้แต่จะทำเรื่องขอคืนสภาพนักศึกษา
3. เสียเวลาเดินทางและเสียเงิน – สอบถามทางเจ้าหน้าที่ของคณะฯแล้ว เราจำเป็นต้องจ่ายค่าลงทะเบียนทั้งหมดด้วยเงินสดภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้สามารถดำเนินการประสานงานกับทางฝ่ายทะเบียน ฝ่ายการเงินและทางคณบดีได้ เพราะทางคณะวิทยาศาสตร์อาจไม่สามารถนำเงินออกมาให้ได้ทัน
4. เสียความรู้สึก – เราไปที่ธนาคารแค่ขอคำชี้แจงเพิ่มเติมว่า เกิดความผิดพลาดที่ตรงไหนและขอแค่หนังสือชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้น จะเขียนอะไรมาก็ได้ขอให้เป็นความจริงและทำให้เราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เราได้คุยกับพี่พนักงานรวมทั้งหมด 4 คน แต่เรากลับไม่ได้รับคำชี้แจงใดๆรวมทั้งคำขอโทษก็ไม่ได้ยินสักคำจากพนักงานสักคน (เราไปพร้อมกับรุ่นน้องอีก 2 คน ทั้งสองคนก็ไม่ได้ยินอะไรเลย) ข้อมูลที่เราได้มาทั้งหมดมาจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ของคณะวิทยาศาสตร์ที่กรุณาติดต่อมาเพราะเกรงว่า จะเป็นยอดเงินลงทะเบียน เราไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากธนาคารหรือที่ไหนนอกจากนี้อีกเลย ถ้าคณะวิทยาศาสตร์ไม่ติดต่อมา ก็คงไม่รู้ว่า ไม่มีสิทธิสอบ ไม่มีสภาพนักศึกษาเอาหน้าห้องสอบในเดือนหน้า ทางธนาคารไม่ได้ชี้แจงหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆเลยในวันนั้น แล้วคราวหน้าเราจะตรวจสอบได้เฉพาะที่บัญชีปลายทางอย่างเดียวใช่ไหมคะว่าได้รับเงินโอนหรือไม่ แต่ไม่สามารถถือใบเสร็จรับเงินมาให้ทางธนาคารตรวจสอบว่า ธนาคารโอนเงินของเราไปที่ไหน?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบพระคุณท่านที่เข้ามาให้ความเห็นและความรู้เพิ่มเติมค่ะ