เครียดค่ะไม่รู้จะทำยังไง คือ4ปีที่แล้วดิฉันเริ่มคบกะแฟน หลังน้ำท่วมปี2554อ่ะค่ะ ยอมแพ้ความดีเค้าช่วยเหลือดิฉันและครอบครัวเยอะ และเค้าก็ดีกะดิฉันในทุกๆเรื่องเลย ชอบตรงที่เค้าเป็นสุภาพบุรุษมากๆเลย เค้าเป็นคนรักครอบครัวแบบผูกพันธ์กันสุดๆ จนทำให้ดิฉันรู้สึกอบอุ่นไปด้วย เคยคุยกันว่าคบกันสักพักไว้มั่นใจเราจะแต่งงานกัน แต่วันนี้ดิฉันรู้สึกว่างานแต่งมันยังห่างไกลมากเลย และรู้สึกว่างานแต่งที่ดิฉันหวังไว้เริ่มจะเป็นภาระ!!!
เรื่องมันมีอยู่ว่าช่วงเราคบกันแรกๆเค้าทำงานบ.โลจิสติกส์แห่งหนึ่ง เงินเดือนเค้าก็สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้สบาย แต่ช่วงนั้นยางพาราราคาดี เค้าตัดสินใจลาออกจากงาน เค้าบอกกับดิฉันว่าจะไปกรีดยางพาราเก็บเงินมาสู่ขอดิฉันและส่วนหนึ่งอยากจะแบ่งเบาภาระทางบ้านด้วย ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรผ่านไปได้สักครึ่งปีเงินที่เค้าเคยเก็บไว้ขณะทำงานบ.โลจิสติกส์เริ่มหมด ดิฉันรู้เพราะดิฉันถามถึงสร้อยคอที่เค้าเคยใส่มันหายไป!! เค้าบอกดิฉันว่ายางพาราราคาไม่ค่อยดี ก็เลยต้องเอาไปจำนำไว้ก่อนนับจากวันนั้นเค้าก็ทำงานหนักขึ้นทุกวัน เวลาที่เราเคยมีด้วยกันเริ่มน้อยลง
ปี2556 น้องชายคนสุดท้องของที่บ้านเค้าต้องเรียนต่อ พี่สาวคนโตเค้าอยากให้ได้เรียนโรงเรียนชื่อดังในตัวจังหวัดแต่เค้าไม่เคยคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายเลย แฟนดิฉันก็ไม่ได้คัดค้านอะไร มีแต่ดิฉันที่ไปถามแฟนว่าใครเป็นคนจ่ายค่าเทอม ค่าหอ ค่าใช้จ่ายประจำวัน เค้าถามดิฉันว่าทำไม เอาจริงๆดิฉันก็นึกหวั่นๆ สุดท้ายมารู้ว่าแฟนดิฉันเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายน้องชายทั้งหมดรวมแล้วแต่ละเดือนประมาณ8000กว่าบาทค่าเทอม เทอมละ 9000 แต่เค้ามีรายได้เดือนละ20000กว่านิดๆ นอกจากค่าใช้จ่ายของน้อง ยังมีค่าบัตรเครดิตต่างๆอีกเดือนละ3700 ค่าใช้จ่ายส่วนตัวจิปาถะอีกล่ะ (คิดดูมันจะพอยังไงเดือนชนเดือนทุกครั้ง) ดิฉันเคยบอกให้เค้าเอาเงินไปเข้าบัญชีบ้างเผื่ออนาคตข้างหน้า อย่าที่ดิฉันเกริ่นค่ะเงินในบัญชีเค้าหมดแล้ว ดิฉันเคยถามเค้าเรื่องแต่งงานเค้าก็บอกว่าหาได้ คือเอารถเข้าไฟแนนท์ คือตอนนี้เราอยู่ด้วยกันแล้วดิฉันก็เกรงใจพ่อแม่ดิฉัน ถึงแม้ท่านจะไม่เคยว่าอะไร แต่ท่านก็บอกว่าให้แต่งๆกันซะให้เรียบร้อย เราก็หมั้นกันมา2ปีกว่าแล้ว บอกเลยไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งกันเมื่อไหร่ ดิฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนในครอบครัวเค้าถึงไม่เข้าใจ
ว่าแฟนดิฉันต้องสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่ช่วยกันแบ่งเบาค่าใช้จ่ายเพราะบ้านเค้าเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อ แม่ พี่สาว แฟนดิฉัน น้องชายซึ่งมีครอบครัวแล้ว น้องชายที่กำลังเรียน แม่เค้าก็ดูแลค่าใช้ค่าในครัวเรือนและอี่นๆที่จำเป็นบนบ้าน ส่วนน้องชายเค้าไม่จ่ายอะไรเลยแม้กระทั่งช่วยค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถยังขอจากแม่ ส่วนน้องสะใภ้ทำงานได้ก็เก็บหมดใช้แค่ค่าของใช้ของลูกเค้า
เวลาดิฉันไปบ้านแฟน แฟนจะชวนแวะตลาดซื้อกับข้าว อาหารสด ไปทุกครั้งซึ่งเราหารกันคนละครึ่ง ดิฉันรักแฟนมากไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจ เพราะเค้าเหนื่อยมาก แต่ดิฉันก็ห่วงความรู้สึกของพ่อกะแม่ดิฉันด้วย ชาวบ้านนินทาได้ยินบ่อยๆ ช่วยแนะนำดิฉันหน่อยเถอะค่ะ ดิฉันควรทำยังไง
เมื่องานแต่งงานกลายเป็นภาระ
เรื่องมันมีอยู่ว่าช่วงเราคบกันแรกๆเค้าทำงานบ.โลจิสติกส์แห่งหนึ่ง เงินเดือนเค้าก็สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้สบาย แต่ช่วงนั้นยางพาราราคาดี เค้าตัดสินใจลาออกจากงาน เค้าบอกกับดิฉันว่าจะไปกรีดยางพาราเก็บเงินมาสู่ขอดิฉันและส่วนหนึ่งอยากจะแบ่งเบาภาระทางบ้านด้วย ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรผ่านไปได้สักครึ่งปีเงินที่เค้าเคยเก็บไว้ขณะทำงานบ.โลจิสติกส์เริ่มหมด ดิฉันรู้เพราะดิฉันถามถึงสร้อยคอที่เค้าเคยใส่มันหายไป!! เค้าบอกดิฉันว่ายางพาราราคาไม่ค่อยดี ก็เลยต้องเอาไปจำนำไว้ก่อนนับจากวันนั้นเค้าก็ทำงานหนักขึ้นทุกวัน เวลาที่เราเคยมีด้วยกันเริ่มน้อยลง
ปี2556 น้องชายคนสุดท้องของที่บ้านเค้าต้องเรียนต่อ พี่สาวคนโตเค้าอยากให้ได้เรียนโรงเรียนชื่อดังในตัวจังหวัดแต่เค้าไม่เคยคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายเลย แฟนดิฉันก็ไม่ได้คัดค้านอะไร มีแต่ดิฉันที่ไปถามแฟนว่าใครเป็นคนจ่ายค่าเทอม ค่าหอ ค่าใช้จ่ายประจำวัน เค้าถามดิฉันว่าทำไม เอาจริงๆดิฉันก็นึกหวั่นๆ สุดท้ายมารู้ว่าแฟนดิฉันเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายน้องชายทั้งหมดรวมแล้วแต่ละเดือนประมาณ8000กว่าบาทค่าเทอม เทอมละ 9000 แต่เค้ามีรายได้เดือนละ20000กว่านิดๆ นอกจากค่าใช้จ่ายของน้อง ยังมีค่าบัตรเครดิตต่างๆอีกเดือนละ3700 ค่าใช้จ่ายส่วนตัวจิปาถะอีกล่ะ (คิดดูมันจะพอยังไงเดือนชนเดือนทุกครั้ง) ดิฉันเคยบอกให้เค้าเอาเงินไปเข้าบัญชีบ้างเผื่ออนาคตข้างหน้า อย่าที่ดิฉันเกริ่นค่ะเงินในบัญชีเค้าหมดแล้ว ดิฉันเคยถามเค้าเรื่องแต่งงานเค้าก็บอกว่าหาได้ คือเอารถเข้าไฟแนนท์ คือตอนนี้เราอยู่ด้วยกันแล้วดิฉันก็เกรงใจพ่อแม่ดิฉัน ถึงแม้ท่านจะไม่เคยว่าอะไร แต่ท่านก็บอกว่าให้แต่งๆกันซะให้เรียบร้อย เราก็หมั้นกันมา2ปีกว่าแล้ว บอกเลยไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งกันเมื่อไหร่ ดิฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนในครอบครัวเค้าถึงไม่เข้าใจ
ว่าแฟนดิฉันต้องสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่ช่วยกันแบ่งเบาค่าใช้จ่ายเพราะบ้านเค้าเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อ แม่ พี่สาว แฟนดิฉัน น้องชายซึ่งมีครอบครัวแล้ว น้องชายที่กำลังเรียน แม่เค้าก็ดูแลค่าใช้ค่าในครัวเรือนและอี่นๆที่จำเป็นบนบ้าน ส่วนน้องชายเค้าไม่จ่ายอะไรเลยแม้กระทั่งช่วยค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถยังขอจากแม่ ส่วนน้องสะใภ้ทำงานได้ก็เก็บหมดใช้แค่ค่าของใช้ของลูกเค้า
เวลาดิฉันไปบ้านแฟน แฟนจะชวนแวะตลาดซื้อกับข้าว อาหารสด ไปทุกครั้งซึ่งเราหารกันคนละครึ่ง ดิฉันรักแฟนมากไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจ เพราะเค้าเหนื่อยมาก แต่ดิฉันก็ห่วงความรู้สึกของพ่อกะแม่ดิฉันด้วย ชาวบ้านนินทาได้ยินบ่อยๆ ช่วยแนะนำดิฉันหน่อยเถอะค่ะ ดิฉันควรทำยังไง