เราคบกับแฟนมาตั้งแต่มัธยม ตอนแรกเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วขยับมาเป็นแฟนกันตอนไหนไม่รู้ สุดท้ายเลิกกันตอนจบม.6 เพราะเขาไปมีคนใหม่ ระหว่างนั้นเขาพยายามบอกเราว่าแค่คบกับคนใหม่เล่นๆ พาไปเที่ยว พาไปกินข้าว เพื่อนเราเห็นแทบทุกคนแต่ไม่มีใครบอก เราเลยไม่แน่ใจว่าเขากำลังคบใครเล่นๆ กันแน่ ระหว่างเรากับคนใหม่ของเขา (สมัยนั้นเพลงยิ่งกว่าเสียใจของพั้นซ์กำลังมา โดนเลยยยยยยยยย)
หลังจากใช้เวลาสักพัก เราก็มาคุยกันได้เหมือนเดิม เขาเป็นคนที่ไม่เคยหายไปจากชีวิต ไม่ว่าจะทำอะไร อยู่ที่ไหน ต่างคนต่างแยกย้ายทำงาน เขาก็จะโทรหาเราประจำทุกๆ 2 สัปดาห์ (ไม่รู้ว่าบังเอิญรึป่าว) เป็นอย่างนี้มาตลอดระยะเวลาประมาณ 4 ปี คุยเรื่องนู้นนี่นั่นได้เยอะแยะ จนกระทั่งเราเรียนจบ เขาแต่งงานเป็นช่วงที่เรานอยๆ เลยเลี่ยงที่จะไม่รับโทรศัพท์เขา จนกระทั่งมารู้คือเช้าวันที่เขาแต่งงาน ก็อึ้งๆ แต่ก็ไปแสดงความยินดีกับกลุ่มเพื่อนเฮฮากันไป
ผ่านมาอีกประมาณเกือบสองปี เขาทะเลาะกับแฟน บอกเราว่าไม่มีทางกลับไปคืนดีกันแน่นอน แล้วขอโอกาสเรากลับมาคบกัน เราก็เกือบหลวมตัวนะ แต่สุดท้ายก็ยืนยันว่าเราเป็นเพื่อนกันนี่แหละ ดีสุดแล้ว เพราะยังไงก็ไม่เลิกกันแน่นอน เขาเริ่มคุยกะเรามากขึ้น หยอดบ้าง แสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยบ้าง อีกอย่างเดาว่ามันเป็นความผูกพันที่มีมานานมาก มันเลยเหมือนตัดกันไม่ขาดสักที เราก็ชัดเจนว่าเพื่อนแหละแต่ก็สนิทและคุยได้มากกว่าทุกคน จนกระทั่งภรรยาเขาจะคลอดลูกคน เรานี่แบบงงเลย มารู้อีกที่คือจะคลอดแล้วไง อ่าว เห้ย ไหนว่าเลิกกันแล้วไงว่ะ เขาบอกเราว่าครั้งเดียวเอง ไม่คิดว่าจะท้องได้ หึหึ (ดี๊ดีเนอะ) ส่วนเราก็บอกตัวเองเรื่อยๆ ว่า "เอ็งอ่ะ เป็นเพื่อนจะไปยุ่งอะไรกับเขา" ถือว่าโชคยังดีที่เราไม่หลวมตัวไปมากกว่านี้


จนกระทั่ง เขาเลิกกับภรรยาสักประมาณปีนึง จริงๆแล้วในทุกๆตอนของชีวิตเราก็มีเขาเป็นเพื่อนมาตลอด คุยเยอะบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ช่วงชีวิตของแต่ละคน มีอยู่ช่วงหนึ่งเราคุยกันมากขึ้น เขาเลยขอให้เราลองกลับมาคบกันอีกครั้ง ยอมรับเลยว่าใจอ่อนแหละ ลองกันอีกสักตั้ง คบกันมาได้ประมาณปีกว่า ๆ ทะเลาะกันบ้าง หวานเวอร์กันบ้าง แต่เพื่อนๆไม่รู้นะ(หรือว่ารู้ก็ไม่รู้) เพื่อนส่วนใหญ่คิดว่ามันก็สนิทกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่เลิกกันมาตอนม.6 ก็เห็นดูแลกันแบบนี้ตลอด เราเชื่อว่าช่วงเวลาที่เราคบกันมาตั้งแต่มัธยม ถึงแม้จะเปลี่ยนสถานะบ้าง ลดหย่นไปบ้างแต่เราก็ดูแล เป็นห่วงเป็นใยกันแบบนี้มาตลอด เขาดูแลเราดีเลยหละ จนกระทั่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ไม่โทรหา ไม่ไลน์หา ผ่านไป 2 วันกว่า ๆ เราเลยโทรหาถามกันตรงๆว่า คุยกับคนอื่นบ้างรึป่าว (เขาเป็นคนเจ้าชู้ในระดับนึง) เขาบอกเพิ่งเริ่มคุยกับเพื่อนที่ทำงานใหม่ได้ไม่นาน เห้ยยยยยยย...แล้วเราหล่ะ นี่เราเป็นอะไรกัน ทำไมตอบง่าย ๆ ว่าคุยกะคนอื่นอยู่ ตอนนี้น้ำตาเริ่มซึมๆล่ะ สุดท้ายเราเลยบอกว่าในเมื่อเธอเลือกแล้วก็ไปเถอะ เราว่าดีกว่าที่จะทำให้เราสองคนเกลียดกัน เพราะตอนนี้เรายังไม่เกลียดเธอ เราว่าเราโอเค เขาก็ขอโทษๆๆๆๆๆ เราก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร เราว่าดีกว่าเธอคบซ้อนเยอะเลย เพราะถ้าเธอคบซ้อนเราอาจจะเกลียดเธอจนไม่อยากมองหน้าเลยก็ได้
ประโยคสุดท้ายที่ทำเราน้ำตาแตก ก็คือ "ตัวเองรอเขานะ" เห้ยยยยยยยยยยยย ร้องไห้หนักมากอ่ะ บอกให้เรารอให้เขาไปคบกับคนอื่น นี่สรุปเราเป็นอะไรสำหรับเขาว่ะ ปิดท้ายเขาก็จบว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ คือเรื่องนี้เราก็ไม่ได้ว่าเขาผิดฝ่ายเดียวหรอกนะ เราก็ผิดด้วย อาจจะผิดเยอะกว่าเขาด้วยซ้ำ ตอนนี้เลยอาจต้องชดใช้ด้วยการยิ้มแป้นแล้นว่า "เรายังเป็นเพื่อนกันได้" ก็แค่นั้น
ระหว่างนี้เราใช้วิธีปิดการช่องทางสื่อสารกับเขาทุกช่องทางก่อน ไว้พร้อมแล้วค่อย "เป็นเพื่อนกันใหม่" สักวันเราจะเป็นเพื่อนแกอย่างบริสุทธิ์ใจ
ฟ้าคงส่งให้เรามาเกิดมาเป็นเพื่อนกัน***
หลังจากใช้เวลาสักพัก เราก็มาคุยกันได้เหมือนเดิม เขาเป็นคนที่ไม่เคยหายไปจากชีวิต ไม่ว่าจะทำอะไร อยู่ที่ไหน ต่างคนต่างแยกย้ายทำงาน เขาก็จะโทรหาเราประจำทุกๆ 2 สัปดาห์ (ไม่รู้ว่าบังเอิญรึป่าว) เป็นอย่างนี้มาตลอดระยะเวลาประมาณ 4 ปี คุยเรื่องนู้นนี่นั่นได้เยอะแยะ จนกระทั่งเราเรียนจบ เขาแต่งงานเป็นช่วงที่เรานอยๆ เลยเลี่ยงที่จะไม่รับโทรศัพท์เขา จนกระทั่งมารู้คือเช้าวันที่เขาแต่งงาน ก็อึ้งๆ แต่ก็ไปแสดงความยินดีกับกลุ่มเพื่อนเฮฮากันไป
ผ่านมาอีกประมาณเกือบสองปี เขาทะเลาะกับแฟน บอกเราว่าไม่มีทางกลับไปคืนดีกันแน่นอน แล้วขอโอกาสเรากลับมาคบกัน เราก็เกือบหลวมตัวนะ แต่สุดท้ายก็ยืนยันว่าเราเป็นเพื่อนกันนี่แหละ ดีสุดแล้ว เพราะยังไงก็ไม่เลิกกันแน่นอน เขาเริ่มคุยกะเรามากขึ้น หยอดบ้าง แสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยบ้าง อีกอย่างเดาว่ามันเป็นความผูกพันที่มีมานานมาก มันเลยเหมือนตัดกันไม่ขาดสักที เราก็ชัดเจนว่าเพื่อนแหละแต่ก็สนิทและคุยได้มากกว่าทุกคน จนกระทั่งภรรยาเขาจะคลอดลูกคน เรานี่แบบงงเลย มารู้อีกที่คือจะคลอดแล้วไง อ่าว เห้ย ไหนว่าเลิกกันแล้วไงว่ะ เขาบอกเราว่าครั้งเดียวเอง ไม่คิดว่าจะท้องได้ หึหึ (ดี๊ดีเนอะ) ส่วนเราก็บอกตัวเองเรื่อยๆ ว่า "เอ็งอ่ะ เป็นเพื่อนจะไปยุ่งอะไรกับเขา" ถือว่าโชคยังดีที่เราไม่หลวมตัวไปมากกว่านี้
จนกระทั่ง เขาเลิกกับภรรยาสักประมาณปีนึง จริงๆแล้วในทุกๆตอนของชีวิตเราก็มีเขาเป็นเพื่อนมาตลอด คุยเยอะบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ช่วงชีวิตของแต่ละคน มีอยู่ช่วงหนึ่งเราคุยกันมากขึ้น เขาเลยขอให้เราลองกลับมาคบกันอีกครั้ง ยอมรับเลยว่าใจอ่อนแหละ ลองกันอีกสักตั้ง คบกันมาได้ประมาณปีกว่า ๆ ทะเลาะกันบ้าง หวานเวอร์กันบ้าง แต่เพื่อนๆไม่รู้นะ(หรือว่ารู้ก็ไม่รู้) เพื่อนส่วนใหญ่คิดว่ามันก็สนิทกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่เลิกกันมาตอนม.6 ก็เห็นดูแลกันแบบนี้ตลอด เราเชื่อว่าช่วงเวลาที่เราคบกันมาตั้งแต่มัธยม ถึงแม้จะเปลี่ยนสถานะบ้าง ลดหย่นไปบ้างแต่เราก็ดูแล เป็นห่วงเป็นใยกันแบบนี้มาตลอด เขาดูแลเราดีเลยหละ จนกระทั่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ไม่โทรหา ไม่ไลน์หา ผ่านไป 2 วันกว่า ๆ เราเลยโทรหาถามกันตรงๆว่า คุยกับคนอื่นบ้างรึป่าว (เขาเป็นคนเจ้าชู้ในระดับนึง) เขาบอกเพิ่งเริ่มคุยกับเพื่อนที่ทำงานใหม่ได้ไม่นาน เห้ยยยยยยย...แล้วเราหล่ะ นี่เราเป็นอะไรกัน ทำไมตอบง่าย ๆ ว่าคุยกะคนอื่นอยู่ ตอนนี้น้ำตาเริ่มซึมๆล่ะ สุดท้ายเราเลยบอกว่าในเมื่อเธอเลือกแล้วก็ไปเถอะ เราว่าดีกว่าที่จะทำให้เราสองคนเกลียดกัน เพราะตอนนี้เรายังไม่เกลียดเธอ เราว่าเราโอเค เขาก็ขอโทษๆๆๆๆๆ เราก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร เราว่าดีกว่าเธอคบซ้อนเยอะเลย เพราะถ้าเธอคบซ้อนเราอาจจะเกลียดเธอจนไม่อยากมองหน้าเลยก็ได้
ประโยคสุดท้ายที่ทำเราน้ำตาแตก ก็คือ "ตัวเองรอเขานะ" เห้ยยยยยยยยยยยย ร้องไห้หนักมากอ่ะ บอกให้เรารอให้เขาไปคบกับคนอื่น นี่สรุปเราเป็นอะไรสำหรับเขาว่ะ ปิดท้ายเขาก็จบว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ คือเรื่องนี้เราก็ไม่ได้ว่าเขาผิดฝ่ายเดียวหรอกนะ เราก็ผิดด้วย อาจจะผิดเยอะกว่าเขาด้วยซ้ำ ตอนนี้เลยอาจต้องชดใช้ด้วยการยิ้มแป้นแล้นว่า "เรายังเป็นเพื่อนกันได้" ก็แค่นั้น
ระหว่างนี้เราใช้วิธีปิดการช่องทางสื่อสารกับเขาทุกช่องทางก่อน ไว้พร้อมแล้วค่อย "เป็นเพื่อนกันใหม่" สักวันเราจะเป็นเพื่อนแกอย่างบริสุทธิ์ใจ