สักวา มีเรื่องเล่า ชาวมะกัน มีลุงแซม แสนสุขสันต์ สุดหรรษา
ลุงเพิ่งซื้อ รถสปอร์ต ยอดรถมา แสนหรูหรา สง่าจริง วิ่งได้ดี
ขึ้นไฮเวย์ ถนนว่าง เป็นอย่างยิ่ง ขับรถซิ่ง วิ่งสะใจ ไปเร็วจี๋
ซิ่งไม่นาน งานก็เข้า เอาแล้วซี อยู่ดีๆ มีตำรวจ ไล่กวดมา
รถเรานั้น มันรถแข่ง แรงเป็นเลิศ จึงรีบเชิด เปิดตูดหนี ทันทีหนา
เหยียบเต็มที่ หนีห่างไกล ได้ทันตา ทิ้งตำรวจ ที่กวดมา หารอรี
แล้วคิดได้ ไฉนเรา งี่เง่าจริง แม้ว่าเรา ขับรถซิ่ง กะชิ่งหนี
แต่สุดท้าย อาจได้เพิ่ม เติมคดี ข้อหาหนี การจับกุม ยิ่งกลุ้มใจ
จึงจอดรถ รอโปลิศ เลิกคิดหนี เจอตำรวจ อย่าอวดดี อาจขี้ไหล
ตำรวจเขา ก้าวเข้ามา ถามทำไม ขับหนีไป เกินพิกัด เกินอัตรา
ตำรวจว่า จะลงเวร อยู่พอดี อยากปล่อยพี่ ขี้เกียจจับ ปรับหรอกหนา
เพียงถ้ามี เหตุผลดี พิจารณา จงตอบมา ว่าทำไม ขับไวเกิน
ลุงตอบว่า นานมาแล้ว ลุงมีเมีย โอ้มายเดียร์ เมียเวรกรรม ทำห่างเหิน
เมียหนีไป กับโปลิศ คิดเจริญ ลุงดำเนิน ชีวิตอยู่ อย่างเดียวดาย
แต่รู้ไหม พอเมียหนี มีอิสระ รู้มั้ยล่ะ ว่าชีวี ดีเหลือหลาย
เมียไม่มี ชีวิตใหม่ ไร้เจ้านาย ช่างสุขกาย กลายเป็นหนุ่ม กระชุ่มกระชวย
พอเมื่อกี้ ขับรถเล่น เห็นโปลิศ ใจจึงคิด กลัวโปลิศ คิดคืนหมวย
เกิดเอาเมีย มาคืนล่ะ คงจะซวย พระเจ้าช่วย ด้วยเหตุนี้ หนีทันใด
ตำรวจฟัง หลังคำตอบ ชอบใจยิ่ง แม้ไม่จริง ปล่อยลุงไป อภัยให้
คำตอบดี คือคำตอบ ที่ชอบใจ ตอบถูกต้อง อาจเป็นภัย ก็ได้เอย



วันสุข แต่สักวาวันนี้ไม่ลงใต้เลยนะครับ ออกแนวกวนๆ น่าร้อกๆ มากกว่าทะลึ่งนะครับ
คนเรามักชอบฟังคำตอบที่ “ถูกใจ” มากกว่าคำตอบที่ “ถูกต้อง”
จริงหรือไม่ก็แล้วแต่คน แล้วแต่สถานการณ์นะครับ
คนบางคน ถามเพียงเพื่ออยากฟังคำตอบที่ถูกใจ เพื่อต้องการให้คนอื่น confirm สิ่งที่เขาคิดอยู่
ไม่ได้ต้องการฟังคำตอบที่ถูกต้องหรอกครับ
ยกตัวอย่างเช่น เม่าคนหนึ่ง เล็งหุ้นตัวหนึ่งเอาไว้ ดูทั้งปัจจัยพื้นฐาน ดูทั้งกราฟ เห็นว่าหุ้นตัวนี้ดี
ก็เลยถามเม่าที่เก่งกว่า ถามเซียนที่ประสบการณ์มากกว่า
ในใจเขาต้องการคำตอบที่สนับสนุนความคิดของเขาเท่านั้นแหละครับ
ถ้าคนที่เขาถาม ให้คำตอบที่ถูกใจ เขาก็จะชอบใจ และเชื่อทันที แล้วก็เสยหุ้นตัวนั้นเข้าพอร์ต
พร้อมกับคิดว่า คนที่ให้คำตอบมาเป็นคนเก่ง เป็นเพื่อนรัก (เพราะตอบถูกใจเขา)
แต่ถ้าเขาตอบมาแบบ “ถูกต้อง” ว่า “เอ็งวิเคราะห์ผิด! ” “หุ้นตัวนี้ความจริงมันห่วยแตก! ” ฯลฯ
เขาก็คงคิดว่า ไอ้บ้านี้มันไม่รู้เรื่อง วิเคราะห์ผิด หาว่าหุ้นดีๆของกรูห่วย กรูเกลียดไอ้คนพวกนี้จริงๆ
แล้วสุดท้ายก็ไม่เชื่อ เพราะโดนคำตอบ “ถูกต้อง” แต่ “ไม่ถูกใจ” แต่แรก ก็เลยแอนตี้ไปหมด
(และสุดท้ายก็ไม่ฟังเหตุผลใดๆ แล้วในที่สุดก็เสยหุ้นตัวนั้นอยู่ดี)
ถ้าเราถูกถามคำถามอะไรจากคนอื่น ลองคิดดูนะครับว่า เขาต้องการคำตอบแบบไหนกันแน่
บางทีเราให้คำตอบแบบ “ถูกต้อง” แต่ “ไม่ถูกใจ” เขา เราอาจเสียเพื่อนก็ได้นะครับ
แต่บางทีเราตอบ “ถูกใจ” เขา แต่ “ไม่ถูกต้อง” เขาก็อาจเสียหายได้นะครับ
วิธีแก้ไขนะครับ ใช้หลักการทางจิตวิทยาง่ายๆ ก็คือ
ให้คำตอบที่ “ถูกใจ” เขาก่อน แล้วค่อยมี “แต่....” ตามมาด้วยคำตอบที่ถูกต้องในภายหลัง
เช่นในกรณีข้างบนอาจตอบว่า
“คุณวิเคราะห์มาได้ดี เก่งจริงๆ ผมเห็นด้วยที่ว่า...(ทำให้เขา “ถูกใจ” ก่อน)... แต่...(ตอนนี้ค่อยๆบอกสิ่งที่ “ถูกต้อง” ไป)...”
แบบนี้ เขาก็จะได้รับฟังทั้งคำตอบที่ถูกใจ และยอมรับฟังคำตอบที่ถูกต้องของคุณไปด้วยครับ
ยาวเกินไปแล้ว แค่นี้ก่อนนะครับ หวังว่าคงจะพอนำไปใช้ได้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้บ้างนะครับ

ขอให้ทุกท่านโชคดี ขอให้ได้อะไรที่ทั้ง "ถูกต้อง" และ "ถูกใจ" นะครับ
<[^_^]> สักวา มีเรื่องเล่า ชาวมะกัน.....มีลุงแซม แสนสุขสันต์ สุดหรรษา
ลุงเพิ่งซื้อ รถสปอร์ต ยอดรถมา แสนหรูหรา สง่าจริง วิ่งได้ดี
ขึ้นไฮเวย์ ถนนว่าง เป็นอย่างยิ่ง ขับรถซิ่ง วิ่งสะใจ ไปเร็วจี๋
ซิ่งไม่นาน งานก็เข้า เอาแล้วซี อยู่ดีๆ มีตำรวจ ไล่กวดมา
รถเรานั้น มันรถแข่ง แรงเป็นเลิศ จึงรีบเชิด เปิดตูดหนี ทันทีหนา
เหยียบเต็มที่ หนีห่างไกล ได้ทันตา ทิ้งตำรวจ ที่กวดมา หารอรี
แล้วคิดได้ ไฉนเรา งี่เง่าจริง แม้ว่าเรา ขับรถซิ่ง กะชิ่งหนี
แต่สุดท้าย อาจได้เพิ่ม เติมคดี ข้อหาหนี การจับกุม ยิ่งกลุ้มใจ
จึงจอดรถ รอโปลิศ เลิกคิดหนี เจอตำรวจ อย่าอวดดี อาจขี้ไหล
ตำรวจเขา ก้าวเข้ามา ถามทำไม ขับหนีไป เกินพิกัด เกินอัตรา
ตำรวจว่า จะลงเวร อยู่พอดี อยากปล่อยพี่ ขี้เกียจจับ ปรับหรอกหนา
เพียงถ้ามี เหตุผลดี พิจารณา จงตอบมา ว่าทำไม ขับไวเกิน
ลุงตอบว่า นานมาแล้ว ลุงมีเมีย โอ้มายเดียร์ เมียเวรกรรม ทำห่างเหิน
เมียหนีไป กับโปลิศ คิดเจริญ ลุงดำเนิน ชีวิตอยู่ อย่างเดียวดาย
แต่รู้ไหม พอเมียหนี มีอิสระ รู้มั้ยล่ะ ว่าชีวี ดีเหลือหลาย
เมียไม่มี ชีวิตใหม่ ไร้เจ้านาย ช่างสุขกาย กลายเป็นหนุ่ม กระชุ่มกระชวย
พอเมื่อกี้ ขับรถเล่น เห็นโปลิศ ใจจึงคิด กลัวโปลิศ คิดคืนหมวย
เกิดเอาเมีย มาคืนล่ะ คงจะซวย พระเจ้าช่วย ด้วยเหตุนี้ หนีทันใด
ตำรวจฟัง หลังคำตอบ ชอบใจยิ่ง แม้ไม่จริง ปล่อยลุงไป อภัยให้
คำตอบดี คือคำตอบ ที่ชอบใจ ตอบถูกต้อง อาจเป็นภัย ก็ได้เอย
วันสุข แต่สักวาวันนี้ไม่ลงใต้เลยนะครับ ออกแนวกวนๆ น่าร้อกๆ มากกว่าทะลึ่งนะครับ
คนเรามักชอบฟังคำตอบที่ “ถูกใจ” มากกว่าคำตอบที่ “ถูกต้อง”
จริงหรือไม่ก็แล้วแต่คน แล้วแต่สถานการณ์นะครับ
คนบางคน ถามเพียงเพื่ออยากฟังคำตอบที่ถูกใจ เพื่อต้องการให้คนอื่น confirm สิ่งที่เขาคิดอยู่
ไม่ได้ต้องการฟังคำตอบที่ถูกต้องหรอกครับ
ยกตัวอย่างเช่น เม่าคนหนึ่ง เล็งหุ้นตัวหนึ่งเอาไว้ ดูทั้งปัจจัยพื้นฐาน ดูทั้งกราฟ เห็นว่าหุ้นตัวนี้ดี
ก็เลยถามเม่าที่เก่งกว่า ถามเซียนที่ประสบการณ์มากกว่า
ในใจเขาต้องการคำตอบที่สนับสนุนความคิดของเขาเท่านั้นแหละครับ
ถ้าคนที่เขาถาม ให้คำตอบที่ถูกใจ เขาก็จะชอบใจ และเชื่อทันที แล้วก็เสยหุ้นตัวนั้นเข้าพอร์ต
พร้อมกับคิดว่า คนที่ให้คำตอบมาเป็นคนเก่ง เป็นเพื่อนรัก (เพราะตอบถูกใจเขา)
แต่ถ้าเขาตอบมาแบบ “ถูกต้อง” ว่า “เอ็งวิเคราะห์ผิด! ” “หุ้นตัวนี้ความจริงมันห่วยแตก! ” ฯลฯ
เขาก็คงคิดว่า ไอ้บ้านี้มันไม่รู้เรื่อง วิเคราะห์ผิด หาว่าหุ้นดีๆของกรูห่วย กรูเกลียดไอ้คนพวกนี้จริงๆ
แล้วสุดท้ายก็ไม่เชื่อ เพราะโดนคำตอบ “ถูกต้อง” แต่ “ไม่ถูกใจ” แต่แรก ก็เลยแอนตี้ไปหมด
(และสุดท้ายก็ไม่ฟังเหตุผลใดๆ แล้วในที่สุดก็เสยหุ้นตัวนั้นอยู่ดี)
ถ้าเราถูกถามคำถามอะไรจากคนอื่น ลองคิดดูนะครับว่า เขาต้องการคำตอบแบบไหนกันแน่
บางทีเราให้คำตอบแบบ “ถูกต้อง” แต่ “ไม่ถูกใจ” เขา เราอาจเสียเพื่อนก็ได้นะครับ
แต่บางทีเราตอบ “ถูกใจ” เขา แต่ “ไม่ถูกต้อง” เขาก็อาจเสียหายได้นะครับ
วิธีแก้ไขนะครับ ใช้หลักการทางจิตวิทยาง่ายๆ ก็คือ
ให้คำตอบที่ “ถูกใจ” เขาก่อน แล้วค่อยมี “แต่....” ตามมาด้วยคำตอบที่ถูกต้องในภายหลัง
เช่นในกรณีข้างบนอาจตอบว่า
“คุณวิเคราะห์มาได้ดี เก่งจริงๆ ผมเห็นด้วยที่ว่า...(ทำให้เขา “ถูกใจ” ก่อน)... แต่...(ตอนนี้ค่อยๆบอกสิ่งที่ “ถูกต้อง” ไป)...”
แบบนี้ เขาก็จะได้รับฟังทั้งคำตอบที่ถูกใจ และยอมรับฟังคำตอบที่ถูกต้องของคุณไปด้วยครับ
ยาวเกินไปแล้ว แค่นี้ก่อนนะครับ หวังว่าคงจะพอนำไปใช้ได้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้บ้างนะครับ