จากมติชนออนไลน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินหน้าศึกษาการพัฒนาระบบขนส่งทางทะเล โดยการสร้างท่าเรือเฟอร์รี่ เชื่อมการเดินทางระหว่าง พัทยา ชะอำ และหัวหิน ให้เสร็จภายในกลางปี 2559
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดเผยหลังการประชุมพัฒนาเชื่อมโยงระบบการขนส่งและการท่องเที่ยวพื้นที่อ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกว่า ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่าไปเร่งศึกษาแผนการสร้างท่าเรือเฟอร์รี่เชื่อมโยงการเดินทางพัทยา ชะอำ และหัวหิน ให้เสร็จภายในกลางปี 2559
เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การค้าระหว่าง 2 พื้นที่เข้าด้วยกัน รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งจะลดเวลาการเดินทางจากปัจจุบัน 6-7 ชั่วโมง เหลือเพียง 3 ชั่วโมง ซึ่งเดิมโครงการนี้กรมเจ้าท่าเคยศึกษามาแล้วตั้งแต่ปี 2555 จึงมีแผนพัฒนาต่อเนื่องตามนโยบายของ คสช. ที่สนใจพัฒนาท่าเรือเฟอร์รี่เชื่อมโยงอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
โดย รูปแบบการลงทุน และการก่อสร้างในเบื้องต้น มีภาคเอกชน ได้เสนอแผนการลงทุนระยะ 4 ปี 2559-62 มาให้พิจารณา โดยใช้งบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท รองรับนักท่องเที่ยว นักเดินทาง นักธุรกิจได้ปีละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน และรถยนต์ปีละ 220,000 คันสำหรับแผนการลงทุนช่วง 2 ปีแรก จะใช้สำหรับการต่อเรือ การสร้างอาคาร จุดจอดเรือ จากนั้นจะเริ่มเปิดให้เดินเรือได้ตั้งแต่ปี 2560-62 เป็นต้นไป ระยะแรกมี 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางพัทยา-หัวหินปราณบุรี เส้นทางบางปู-หัวหิน-ปราณบุรี และเส้นทางบางปู-พัทยา ส่วนระยะต่อไปเพิ่มเส้นทางบางปู-เกาะช้าง 146 ไมล์ เส้นทางบางปู-เกาะสมุย 240 ไมล์ และเส้นทางบางปู-สงขลา 380 ไมล์ โดยใช้เรือเฟอร์รี่ คาตามาลาน สำหรับขนส่งผู้โดยสารและรถความเร็ว 82 ก.ม.ต่อชั่วโมง บรรทุกได้ผู้โดยสาร ครั้งละ 450 คน และรถยนต์ 33 คัน
เชื่อมพัทยา-ชะอำ-หัวหิน! คสช.เดินหน้าสร้างท่าเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินหน้าศึกษาการพัฒนาระบบขนส่งทางทะเล โดยการสร้างท่าเรือเฟอร์รี่ เชื่อมการเดินทางระหว่าง พัทยา ชะอำ และหัวหิน ให้เสร็จภายในกลางปี 2559
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดเผยหลังการประชุมพัฒนาเชื่อมโยงระบบการขนส่งและการท่องเที่ยวพื้นที่อ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกว่า ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่าไปเร่งศึกษาแผนการสร้างท่าเรือเฟอร์รี่เชื่อมโยงการเดินทางพัทยา ชะอำ และหัวหิน ให้เสร็จภายในกลางปี 2559
เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การค้าระหว่าง 2 พื้นที่เข้าด้วยกัน รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งจะลดเวลาการเดินทางจากปัจจุบัน 6-7 ชั่วโมง เหลือเพียง 3 ชั่วโมง ซึ่งเดิมโครงการนี้กรมเจ้าท่าเคยศึกษามาแล้วตั้งแต่ปี 2555 จึงมีแผนพัฒนาต่อเนื่องตามนโยบายของ คสช. ที่สนใจพัฒนาท่าเรือเฟอร์รี่เชื่อมโยงอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
โดย รูปแบบการลงทุน และการก่อสร้างในเบื้องต้น มีภาคเอกชน ได้เสนอแผนการลงทุนระยะ 4 ปี 2559-62 มาให้พิจารณา โดยใช้งบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท รองรับนักท่องเที่ยว นักเดินทาง นักธุรกิจได้ปีละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน และรถยนต์ปีละ 220,000 คันสำหรับแผนการลงทุนช่วง 2 ปีแรก จะใช้สำหรับการต่อเรือ การสร้างอาคาร จุดจอดเรือ จากนั้นจะเริ่มเปิดให้เดินเรือได้ตั้งแต่ปี 2560-62 เป็นต้นไป ระยะแรกมี 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางพัทยา-หัวหินปราณบุรี เส้นทางบางปู-หัวหิน-ปราณบุรี และเส้นทางบางปู-พัทยา ส่วนระยะต่อไปเพิ่มเส้นทางบางปู-เกาะช้าง 146 ไมล์ เส้นทางบางปู-เกาะสมุย 240 ไมล์ และเส้นทางบางปู-สงขลา 380 ไมล์ โดยใช้เรือเฟอร์รี่ คาตามาลาน สำหรับขนส่งผู้โดยสารและรถความเร็ว 82 ก.ม.ต่อชั่วโมง บรรทุกได้ผู้โดยสาร ครั้งละ 450 คน และรถยนต์ 33 คัน