ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยนะค่ะว่าเป็น เป็นรีวิวแรกของ จขกท ถ้ามีข้อผิดพลาดยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ^_^
ทีตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่ออยากให้คนไทย หลายๆคนกล้าที่จะก้าวเท้าสู่โลกกว้างที่เรายังไม่เคยเจอ ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่า จขกท เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยเลื่อนปิดเทอม เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเปิด AEC แต่ที่คณะของ จขกท เองหยุดแค่ 3 เดือน ส่วนตัวก็เลยคิดว่าจะทำอะไรดีก่อนจบ เพราะอยู่ปี 3 แล้ว เปิดเทอมมาก็ขึ้นปี 4 คิดจะหางาน part time ทำแต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร ประจวบกับก่อนหน้านั้นได้มีโอกาสไปเที่ยวกับ โครงการ Road trip ที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้นที่ กัมพูชา และก็เวียดนาม เลยทำให้เราติดใจอยากไปต่างประเทศอีกซักครั้ง ก็เลยดูว่าทำยังไงเราถึงจะได้ไปต่างประเทศ ก็หาข้อมูลเรื่อยๆ ก็สนใจกับงานอาสาสมัครในต่างประเทศ อยากจะลองดูซักครั้ง ส่วนตัวชอบทำกิจกรรมอยู่ก่อนแล้ว แต่ภาษาอังกฤษ นี่อ่อนแอมาก ก็มันอยากไปนี่หน่า ไฟกำลังมาเพิ่งกลับจาก กัมพูชา เวียดนามมาได้แค่ เดือนเดียวเองมั้งตอนนั้น
หาไปหามาก็ไปเจอ ค่ายอาสาสมัครนานาชาติของสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติเกาหลี ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 8 – 28 กรกฎาคม 2557 ณ สาธารณรัฐเกาหลี หรือ KNCU workcamp ส่วนตัวไม่ได้เป็นติ่ง K-pop อะไรนะที่เลือกเกาหลี แต่ว่าโครงการมันน่าสนใจเลยลองดู และพบว่ามันตอบโจทย์เรามาก 14 วัน ไม่น้อยไม่มากเกินไป สำหรับประสบการณ์ครั้งแรก ก็เลยสมัครไปจ้าา อยากบอกว่าเราอ่อนด้อย Eng มากกก ใช้เวลาเขียนใบสมัครนานมากกก ต้องเปิด google translate ช่วยกันเต็มที่ กว่าจะเขียนได้แต่ละประโยค 4-5 ข้อ ใช้เวลาตั้ง 3 วัน 555 สุดท้ายก็เสร็จจนได้ และส่งไปให้ทาง unesco เกาหลี ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้เลยไม่ค่อยได้ตามข่าว จู่วันที่ 30 มิถุนายนนี่แหละอยาก check e-mail เลยเห็นจดหมายตอบกลับจาก unesco ตอนเที่ยงคืน ซึ่งเค้าส่งมาให้เราเป็นอาทิตย์แล้ว และให้ส่งจดหมายยืนยันการไปค่ายด้วย เหลือเวลาอีก 2 วัน กรี๊ยดดด เลยคร้าาา เอาว่ะติดแล้ววว เลยต้องรีบดำเนินการเรื่องเอกสารต่าง อย่างเร่งด่วน เพราะค่ายมีวันที่ 15-28 กรกฎาคม 2557 ตื่นเต้นมากตอนนั้น ต้องเดินเอกสาร ทำอะไรเองหมด กลัวก็กลัวไม่รู้ตัวเองจะทำได้หรือเปล่า สุดท้ายก็เดินเรื่องมาจนถึงวันเดินทางจนได้
ปล. ไปค่ายแบบงบน้อย สไตล์ blackpacker นะคะ
Day 1 (กล้าสมัคร ก็ต้องกล้าที่จะลุย 555)
ตื่นเต้นมาก กับการเดินทางคนเดียวครั้งแรกคนเดียว ต้องขึ้นเครื่องตั้งแต่ 7 โมงเช้า เดินทางไป seoul ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5.30 ชม นั่งกันตูดแฉะกันเลยทีเดียว ประสบการณ์ขึ้นเครื่อง ชม.บินก็น้อย ตอนแรกก็ตื่นเต้น พอ ชม.ที่ 2-3 เริ่มเมื่อยตูด หลับๆตื่นๆ หลายรอบมาก ก็ไม่ถึงซักที แต่พอเครื่อง landing ล้อกระทบพื้นเท่านั้นแหละ พรั่งพรูออกมาเต็มว่า ตูมาทำไรที่นี่คนเดียวเนี่ยยย จะไปยังไงต่อ ทำอะไรยังไง เพราะเค้าให้เดินทางไปที่ unesco เอง โอ้ย!! จะทำยังไงเนี่ย สภาพเป็นอีเพิ้งสุดๆ แบกเป้ 3 ใบ เดินขึ้น airbus มุ่งหน้าสู่ myeongdong เพื่อไป guesthouse ที่ booking ไว้ ภาษาอังกฤษนี่ไก่กามากจริงๆ airbus ที่เกาหลีจะมี บอกด้วยว่าตอนนี้ถึงสถานีอะไรแล้ว และก็พูดหลายภาษามาก ทั้งเกาหลี จีน อังกฤษ และก็ญี่ปุ่นอีกภาษามั้ง จำไม่ได้แล้ว แต่ว่าเราจดจ่อที่ eng อย่างเดียวจ้า แล้วแบบเร็วมาก พยายาามฟังให้ทันชื่อสถานีอย่างเดียว สุดท้ายก็ได้ก้าวลงจาก airbus ตรง โรงแรม sejong hotel สถานีสุดท้ายพอดี รอดตายแล้วตรู 555
หลังจากฝ่าฟัน มาสู่ตัวเมืองได้แล้ว ปฎฺบัติการต่อไปก็คือตามล่าหา guesthouse ต่อทันที เราจองที่ seoul tower vill ไว้ จำได้สมัยเป็นติ่งตอน ม.ปลาย เห็นนางเอกเค้าเดินทางขึ้นบ้าน ก็จินว่าตัวเองจะเป็นอย่างนั้น แต่ความจริง อีเพิ้งแบกเป้ 3 ใบ เดินขึ้นเขาเหนื่อยโฮกกก เหงื่อท่วมตัว ยังกะไปเดินป่าเหมือนตอนไปค่าย เดินตามแผนที่ไปเรื่อยๆ ถามคนแถวนั้น ตอนแรกก็เริ่มต้นประโยคด้วยภาษาอังกฤษ
เรา : " excuse me......"
คนเกาหลี : .... (เงียบ ไม่รู้ อย่ามายุ่งกับตรู)
เรา: ... "excuse me..." (สถานการณ์นี้ ด้านเท่านั้นจะพาเอาตัวรอดได้)
คนเกาหลี: .......
เรา: อันยอง ฮาเซโย
คนเกาหลี : ... (หันหน้ามามอง ว่าอีเพิ้งนี่เป็นใคร)
เรา : เสร็จตรูแระ กางแผนที่ใหญ่เลย พร้อมถาม "do you know this place?" พร้อมกับชี้ไปยังแผนที่ที่มีชื่อ guesthouse เป็นภาษาเกาหลีไว้
คนเกาหลี : #@%^&#*J$$ พร้อมกับชี้มือไปด้านบน ซักอย่าง
เรา : ????? (เอิ่ม แล้วตรูจะรู้เรื่องไหมเนี่ย เอาว่ะเค้าชี้ขึ้น มันก็คงต้องไปทางนั้นและ แต่มองบันไดแล้ว ขอปาดเหงื่อแปบ แค่นี้ก็จะตายแล้ว นี้ต้องเดินขึ้นอีกเหรอเนี่ย ก่อนไป ก็ คัมซาฮัมนีดา เค้าไป ประโยคเอาตัวรอดที่เกาหลี หนูเตรียมไปแค่ 2 ประโยคนี้จริงๆ สวัสดีค่ะ กับ ขอบคุณค่ะ 55)
ในที่สุดก็มาถึงจนได้ seoul tower vill !!! ฮ่าๆรอดตายแล้ว ฮูเร่ๆ เฮฮ่า พอไปติดต่อเท่านั้นแหละ อาจุมม่า เจ้าของหอพักแกพูด Eng ไม่ได้ ไม่จริ๊งง แล้วอีคนทีตอบ e-mail การ booking ของเราคือใครรร สุดท้ายเค้าจับใจความได้ว่าคนที่ดูแลเรื่อง guesthouse จริงๆ เป็นสามีของป้าแก แต่ไม่อยู่ ก็เลยจะให้เราคุยกันทางโทรศัพท์เอา อ้าวซวยแล้วตรู Eng ถ้าจะเข้าใจหนูต้องอาศัยดูปาก กับท่าทางของเค้า ประกอบฉากจึงจะสามารถถอดรหัสลับได้ แต่นี้ได้ยินแต่เสียง ตรูจะจับใจความอะไรได้บ้างเนี่ย ลุ้นมาก พอรับโทรศัพท์มาแนบหู ก็ต้องเริ่มด้วยประโยคทักทาย พื้นฐานก่อนเลย
เรา: Hello
อาจอชี : ....@%^&$&$ (คือแบบ จำไม่ได้ว่าแกพูดอะไรบ้าง แต่จับใจความได้ประมาณว่า ถามชื่อเราว่าชื่อไร ใช่คนที่จองไว้ 1 ห้อง มาจาก thailand หรือเปล่าไรประมาณนี้
เรา: (เราก็ตอบไปว่าใช่ๆ ไว้ก่อน คือฟังได้แต่ไม่สามารถเรียบเรียงประโยคที่ถูกต้องได้ แล้ว อาจอชีก็บอกให้เราเอาโทรศัพท์ไปให้ อาจุมม่า กลัวเราจะฟังรู้เรื่องนี่ โดนแกด่าเป็นเกาหลีไปด้วย โอ้ยยย ตรูจะบ้าตาย)
หลังจาก ลุง ป้า แกสื่อสารกันเรียบร้อย ป้าแกก็พาไปที่ห้อง น่าจะบอกให้เดินตามแกไป เราก็ตามจ้า ไปถึงแกบอกห้องนี้ พอเห็นห้องแล้ว โหดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ^_^ เป็นปลื้ม แกก็บอกต้องจ่ายเงินเลย เราก็จ่ายไป คืนละ 1400 บาทถ้าคิดเป็นเงินไทย ตอนแรกกระจะพักแบบ hostel ยังไม่กล้าเพราะว่าเดินทางต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก และไม่เคยพักด้วยก็เลยหา guesthouse ราคากลางๆไว้ เลยได้ที่นี่ แต่บอกเลยว่าเริศมาก ของครบทุกอย่างอ่ะ ห้องกว้าง ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ฯลฯ คือกะว่าที่บ้านเรามีไร ที่นี่ก็มีให้ทุกอย่างเลยแหละ

รูปภาพห้องที่ไปพักมา จะมีให้เลือกหลายราคา แล้วแต่เราเลือก
อ้อ เราเลือกเดินทางมาเกาหลีก่อนวันค่าย 1 วันมาเตรียมตัวด้วย และอีกอย่างกะเที่ยวด้วย แหมนานๆ จะมีโอกาสไปต่างประเทศกับเค้าบ้าง ก็เลยขอจัดซักหน่อย หลังจากเก็บของเรียบร้อย ก็ออกตะลุย เที่ยวเมียงดงทันที เห็นเค้าว่าเป็นแหล่ง shopping ไม่มาไม่ได้ เราก็เลยขอ survey สถานที่กันซักหน่อย 555 ก่อนที่จะไปค่ายพรุ่งนี้ซึ่งจัดที่ Muan เป็นอีกจังหวัดหนึ่งของเกาหลีอ่ะ

ทางเดินไปที่พัก จะอยู๋ใกล้ๆกับ seoul tower เลย
ภาพไม่สวยนะคะเพราะถ่ายจากมือถือ ทริปนี้เน้นประสบการณ์ล้วนๆแล้วกัน 555
ไว้จะกลับมาเล่าใหม่นะคะ คืนนี้ขอนอนก่อน แล้วเจอกัน ใน Day 2
[CR] KNCU workcamp @Korea ประสบการณ์อาสาครั้งแรก ในต่างแดน (Eng ไก่กา ก็พาตัวเองไปมาจนได้ >///< )
ทีตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่ออยากให้คนไทย หลายๆคนกล้าที่จะก้าวเท้าสู่โลกกว้างที่เรายังไม่เคยเจอ ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่า จขกท เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยเลื่อนปิดเทอม เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเปิด AEC แต่ที่คณะของ จขกท เองหยุดแค่ 3 เดือน ส่วนตัวก็เลยคิดว่าจะทำอะไรดีก่อนจบ เพราะอยู่ปี 3 แล้ว เปิดเทอมมาก็ขึ้นปี 4 คิดจะหางาน part time ทำแต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร ประจวบกับก่อนหน้านั้นได้มีโอกาสไปเที่ยวกับ โครงการ Road trip ที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้นที่ กัมพูชา และก็เวียดนาม เลยทำให้เราติดใจอยากไปต่างประเทศอีกซักครั้ง ก็เลยดูว่าทำยังไงเราถึงจะได้ไปต่างประเทศ ก็หาข้อมูลเรื่อยๆ ก็สนใจกับงานอาสาสมัครในต่างประเทศ อยากจะลองดูซักครั้ง ส่วนตัวชอบทำกิจกรรมอยู่ก่อนแล้ว แต่ภาษาอังกฤษ นี่อ่อนแอมาก ก็มันอยากไปนี่หน่า ไฟกำลังมาเพิ่งกลับจาก กัมพูชา เวียดนามมาได้แค่ เดือนเดียวเองมั้งตอนนั้น
หาไปหามาก็ไปเจอ ค่ายอาสาสมัครนานาชาติของสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติเกาหลี ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 8 – 28 กรกฎาคม 2557 ณ สาธารณรัฐเกาหลี หรือ KNCU workcamp ส่วนตัวไม่ได้เป็นติ่ง K-pop อะไรนะที่เลือกเกาหลี แต่ว่าโครงการมันน่าสนใจเลยลองดู และพบว่ามันตอบโจทย์เรามาก 14 วัน ไม่น้อยไม่มากเกินไป สำหรับประสบการณ์ครั้งแรก ก็เลยสมัครไปจ้าา อยากบอกว่าเราอ่อนด้อย Eng มากกก ใช้เวลาเขียนใบสมัครนานมากกก ต้องเปิด google translate ช่วยกันเต็มที่ กว่าจะเขียนได้แต่ละประโยค 4-5 ข้อ ใช้เวลาตั้ง 3 วัน 555 สุดท้ายก็เสร็จจนได้ และส่งไปให้ทาง unesco เกาหลี ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้เลยไม่ค่อยได้ตามข่าว จู่วันที่ 30 มิถุนายนนี่แหละอยาก check e-mail เลยเห็นจดหมายตอบกลับจาก unesco ตอนเที่ยงคืน ซึ่งเค้าส่งมาให้เราเป็นอาทิตย์แล้ว และให้ส่งจดหมายยืนยันการไปค่ายด้วย เหลือเวลาอีก 2 วัน กรี๊ยดดด เลยคร้าาา เอาว่ะติดแล้ววว เลยต้องรีบดำเนินการเรื่องเอกสารต่าง อย่างเร่งด่วน เพราะค่ายมีวันที่ 15-28 กรกฎาคม 2557 ตื่นเต้นมากตอนนั้น ต้องเดินเอกสาร ทำอะไรเองหมด กลัวก็กลัวไม่รู้ตัวเองจะทำได้หรือเปล่า สุดท้ายก็เดินเรื่องมาจนถึงวันเดินทางจนได้
ปล. ไปค่ายแบบงบน้อย สไตล์ blackpacker นะคะ
Day 1 (กล้าสมัคร ก็ต้องกล้าที่จะลุย 555)
ตื่นเต้นมาก กับการเดินทางคนเดียวครั้งแรกคนเดียว ต้องขึ้นเครื่องตั้งแต่ 7 โมงเช้า เดินทางไป seoul ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5.30 ชม นั่งกันตูดแฉะกันเลยทีเดียว ประสบการณ์ขึ้นเครื่อง ชม.บินก็น้อย ตอนแรกก็ตื่นเต้น พอ ชม.ที่ 2-3 เริ่มเมื่อยตูด หลับๆตื่นๆ หลายรอบมาก ก็ไม่ถึงซักที แต่พอเครื่อง landing ล้อกระทบพื้นเท่านั้นแหละ พรั่งพรูออกมาเต็มว่า ตูมาทำไรที่นี่คนเดียวเนี่ยยย จะไปยังไงต่อ ทำอะไรยังไง เพราะเค้าให้เดินทางไปที่ unesco เอง โอ้ย!! จะทำยังไงเนี่ย สภาพเป็นอีเพิ้งสุดๆ แบกเป้ 3 ใบ เดินขึ้น airbus มุ่งหน้าสู่ myeongdong เพื่อไป guesthouse ที่ booking ไว้ ภาษาอังกฤษนี่ไก่กามากจริงๆ airbus ที่เกาหลีจะมี บอกด้วยว่าตอนนี้ถึงสถานีอะไรแล้ว และก็พูดหลายภาษามาก ทั้งเกาหลี จีน อังกฤษ และก็ญี่ปุ่นอีกภาษามั้ง จำไม่ได้แล้ว แต่ว่าเราจดจ่อที่ eng อย่างเดียวจ้า แล้วแบบเร็วมาก พยายาามฟังให้ทันชื่อสถานีอย่างเดียว สุดท้ายก็ได้ก้าวลงจาก airbus ตรง โรงแรม sejong hotel สถานีสุดท้ายพอดี รอดตายแล้วตรู 555
หลังจากฝ่าฟัน มาสู่ตัวเมืองได้แล้ว ปฎฺบัติการต่อไปก็คือตามล่าหา guesthouse ต่อทันที เราจองที่ seoul tower vill ไว้ จำได้สมัยเป็นติ่งตอน ม.ปลาย เห็นนางเอกเค้าเดินทางขึ้นบ้าน ก็จินว่าตัวเองจะเป็นอย่างนั้น แต่ความจริง อีเพิ้งแบกเป้ 3 ใบ เดินขึ้นเขาเหนื่อยโฮกกก เหงื่อท่วมตัว ยังกะไปเดินป่าเหมือนตอนไปค่าย เดินตามแผนที่ไปเรื่อยๆ ถามคนแถวนั้น ตอนแรกก็เริ่มต้นประโยคด้วยภาษาอังกฤษ
เรา : " excuse me......"
คนเกาหลี : .... (เงียบ ไม่รู้ อย่ามายุ่งกับตรู)
เรา: ... "excuse me..." (สถานการณ์นี้ ด้านเท่านั้นจะพาเอาตัวรอดได้)
คนเกาหลี: .......
เรา: อันยอง ฮาเซโย
คนเกาหลี : ... (หันหน้ามามอง ว่าอีเพิ้งนี่เป็นใคร)
เรา : เสร็จตรูแระ กางแผนที่ใหญ่เลย พร้อมถาม "do you know this place?" พร้อมกับชี้ไปยังแผนที่ที่มีชื่อ guesthouse เป็นภาษาเกาหลีไว้
คนเกาหลี : #@%^&#*J$$ พร้อมกับชี้มือไปด้านบน ซักอย่าง
เรา : ????? (เอิ่ม แล้วตรูจะรู้เรื่องไหมเนี่ย เอาว่ะเค้าชี้ขึ้น มันก็คงต้องไปทางนั้นและ แต่มองบันไดแล้ว ขอปาดเหงื่อแปบ แค่นี้ก็จะตายแล้ว นี้ต้องเดินขึ้นอีกเหรอเนี่ย ก่อนไป ก็ คัมซาฮัมนีดา เค้าไป ประโยคเอาตัวรอดที่เกาหลี หนูเตรียมไปแค่ 2 ประโยคนี้จริงๆ สวัสดีค่ะ กับ ขอบคุณค่ะ 55)
ในที่สุดก็มาถึงจนได้ seoul tower vill !!! ฮ่าๆรอดตายแล้ว ฮูเร่ๆ เฮฮ่า พอไปติดต่อเท่านั้นแหละ อาจุมม่า เจ้าของหอพักแกพูด Eng ไม่ได้ ไม่จริ๊งง แล้วอีคนทีตอบ e-mail การ booking ของเราคือใครรร สุดท้ายเค้าจับใจความได้ว่าคนที่ดูแลเรื่อง guesthouse จริงๆ เป็นสามีของป้าแก แต่ไม่อยู่ ก็เลยจะให้เราคุยกันทางโทรศัพท์เอา อ้าวซวยแล้วตรู Eng ถ้าจะเข้าใจหนูต้องอาศัยดูปาก กับท่าทางของเค้า ประกอบฉากจึงจะสามารถถอดรหัสลับได้ แต่นี้ได้ยินแต่เสียง ตรูจะจับใจความอะไรได้บ้างเนี่ย ลุ้นมาก พอรับโทรศัพท์มาแนบหู ก็ต้องเริ่มด้วยประโยคทักทาย พื้นฐานก่อนเลย
เรา: Hello
อาจอชี : ....@%^&$&$ (คือแบบ จำไม่ได้ว่าแกพูดอะไรบ้าง แต่จับใจความได้ประมาณว่า ถามชื่อเราว่าชื่อไร ใช่คนที่จองไว้ 1 ห้อง มาจาก thailand หรือเปล่าไรประมาณนี้
เรา: (เราก็ตอบไปว่าใช่ๆ ไว้ก่อน คือฟังได้แต่ไม่สามารถเรียบเรียงประโยคที่ถูกต้องได้ แล้ว อาจอชีก็บอกให้เราเอาโทรศัพท์ไปให้ อาจุมม่า กลัวเราจะฟังรู้เรื่องนี่ โดนแกด่าเป็นเกาหลีไปด้วย โอ้ยยย ตรูจะบ้าตาย)
หลังจาก ลุง ป้า แกสื่อสารกันเรียบร้อย ป้าแกก็พาไปที่ห้อง น่าจะบอกให้เดินตามแกไป เราก็ตามจ้า ไปถึงแกบอกห้องนี้ พอเห็นห้องแล้ว โหดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ^_^ เป็นปลื้ม แกก็บอกต้องจ่ายเงินเลย เราก็จ่ายไป คืนละ 1400 บาทถ้าคิดเป็นเงินไทย ตอนแรกกระจะพักแบบ hostel ยังไม่กล้าเพราะว่าเดินทางต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก และไม่เคยพักด้วยก็เลยหา guesthouse ราคากลางๆไว้ เลยได้ที่นี่ แต่บอกเลยว่าเริศมาก ของครบทุกอย่างอ่ะ ห้องกว้าง ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ฯลฯ คือกะว่าที่บ้านเรามีไร ที่นี่ก็มีให้ทุกอย่างเลยแหละ
รูปภาพห้องที่ไปพักมา จะมีให้เลือกหลายราคา แล้วแต่เราเลือก
อ้อ เราเลือกเดินทางมาเกาหลีก่อนวันค่าย 1 วันมาเตรียมตัวด้วย และอีกอย่างกะเที่ยวด้วย แหมนานๆ จะมีโอกาสไปต่างประเทศกับเค้าบ้าง ก็เลยขอจัดซักหน่อย หลังจากเก็บของเรียบร้อย ก็ออกตะลุย เที่ยวเมียงดงทันที เห็นเค้าว่าเป็นแหล่ง shopping ไม่มาไม่ได้ เราก็เลยขอ survey สถานที่กันซักหน่อย 555 ก่อนที่จะไปค่ายพรุ่งนี้ซึ่งจัดที่ Muan เป็นอีกจังหวัดหนึ่งของเกาหลีอ่ะ
ทางเดินไปที่พัก จะอยู๋ใกล้ๆกับ seoul tower เลย
ภาพไม่สวยนะคะเพราะถ่ายจากมือถือ ทริปนี้เน้นประสบการณ์ล้วนๆแล้วกัน 555
ไว้จะกลับมาเล่าใหม่นะคะ คืนนี้ขอนอนก่อน แล้วเจอกัน ใน Day 2