กระต่ายเปลี่ยวสวัสดีครับผม

ชีวิตคือการท่องเที่ยว ของกระต่ายเปลี่ยว เที่ยวหมาดๆ ช่วงสงกรานต์ 12-14 เมษายน 2558 ที่ผ่านมาครับผม
Resort ที่กระบี่ คลองม่วง Nakamanda เป็น Resort ระดับ 5 ดาวครับผม ผมเคยพักที่นี่เมื่อ 10 ปีก่อนตั้งแต่เปิดใหม่ๆ ผ่านมา 10 ปี ในห้องยังดูดีเหมือนเดิม แต่สระว่ายน้ำ กระเบื้องก็มีเปลี่ยนสีไปนิสนุง แต่ภาพโดยรวมการบริการ สถานที่ อาหารการกิน อร่อย สวยงาม ประทับใจ
หน้าชายหาดอาจจะไม่สวยนะครับ มีเกาะบังอยู่ 1 เกาะ แต่ถ้าเดินปีกไปทางซ้าย ประมาณ 10 นาที จะเป็นเชอราตันครับ ปีกซ้ายและขวา สามารถเล่นน้ำได้ครับ
เมื่อ 10 ปีที่แล้วไปกัน 4 คน เลยเลือก Pool Villa แบบ 2 ห้องนอนครับ แต่รอบนี้เลือกแบบ Jacuzzi Villa ห้อง 2201 โดยรวมแล้ว ลักษณะห้องทั่วไปเค้าจะเรียกว่า ศาลา เพราะทางเข้าของแต่ละห้องจะมีที่นั่งพักเหมือนตั่งสวยๆ แต่สำหรับห้องที่เกรดตั้งแต่ Jacuzzi และ Pool Villa จะมีพิเศษตรงจะมี Living Room แยกออกมาเลย และมีห้องสำหรับอุ่นอาหาร อ่างล้างจานที่เพิ่มเติม ซึ่งแบบศาลาก็จะมีธรรมดาและมีแบบ Hydro Pool ด้วย
สำหรับทริปนี้ผมซื้อ Package จากงานท่องเที่ยว (เป็นครั้งแรกของต้นมี.ค. ไม่ใช่เที่ยวไทยครั้งนี้ 2 นะครับ)
ตอนจองกะว่าจะเลือกแบบ ศาลา Hydro Pool แต่รีบไปเช็คตั๋วเครื่องบิน วิ่งกลับไปกลับมา สรุป Hydro Pool หมดจ้า เลยจัด Jacuzzi แพงขึ้นมาอีกหน่อยนึงแต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับขนาดและความสะดวกสบายของห้อง
การเดินทางใช้สายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งโดนเปลี่ยนเวลามาบินเช้าขึ้น โอ้ววว....บินถึงกระบี่ตอน 11.00 น.
ใน Package ของห้องพัก ราคาอยู่ที่ 16,500 บาท 3 วัน 2 คืน อาหารเช้าปกติมีให้อยู่แล้ว แต่อาหารเย็นมีให้ 1 มือ เป็น Set นะครับ มี A,B,C,D แต่ท้ายที่สุด Chef ก็ใจดีให้เปลี่ยนประเภทอาหารแต่ละแบบได้ น่ารักที่สุดครับ และมี Spa ให้ 1 ชม. 2 ท่าน มีรถรับส่งทั้งไปและกลับที่สนามบิน
อาหารจานใหญ่นะครับไม่ใช่เล็กๆ เนื่องจากผมเป็นลูกค้าเก่า ทางทีมงานคุณปอน่ารักมาก เพิ่มอาหารเย็นให้อีก 1 มื้อ ขอบคุณมากๆ นะครับผม
สำหรับค่าห้องแบบ Jacuzzi ปกติ อยู่ที่ 8,000 บาทครับ เหมือนเพิ่มอีก 500 ได้ Spa และอาหารมื้อเย็นด้วยก็ถือว่าคุ้มครับ
การท่องเที่ยวรอบนี้เรียกว่าเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะกินกับนอนในห้องเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าเปลี่ยนที่นอนดีกว่า 555
วันแรกไปถึงก็เดินทางปีกซ้ายชายทะเลเพื่อไปแถวๆ เชอราตัน ไปหาอะไรทานนิสนุง แต่ร้านที่ทานอาหารยังไม่ค่อยถูกใจครับขอผ่าน
ความจริงมีร้านอาหารที่อยู่หน้าโรงแรมอีกหลายร้านครับ เช่น บานานาลีฟ มีร้านอิตาเลียน อีกร้าน Trip Adviser Recommend คือ Coconut อะไรสักอย่าง ผมไม่ได้ทานเหมือนกัน มีมินิมาร์ทเล็กๆ กระจายตัวอยู่เผื่อซื้ออะไรเล็กๆ น้อย ถ้าเดินไป 10 นาทีตามถนนก็จะมี 7-11 และเลยไปอีกหน่อยมี Family Mart ครับผม ถ้านั่งรถรับจ้าง (TAXI) 100 บาท แพงไปหน่อยครับ เมื่อก่อนไม่มีครับแต่ตอนนี้มีหลายร้านเลยนึงไม่ออกว่าจะออกมาทานข้างนอกดีมั้ย
แถวนั้นมีร้านส้มตำ ไก่ย่าง อร่อยนะครับชื่อร้าน ซี อี แลบ ผวนคำคือ แซบอีหลี นั่นเองครับ ตรงแถวๆ เชอราตันครับ
เนื่องจากไม่ได้ไปนานมาก ไม่คิดว่าจะมีเรือไว้คอยให้บริการ ที่เป็นทัวร์ตามเกาะ เพราะเมื่อก่อนไม่มีอะไรเลย ตอนนี้มีเต็มไปหมดเลย แบบไม่ต้องจองล่วงหน้า เพราะหน้าหาดก็มีเรือเอกชนให้ติดต่อได้ครับ ใช้บริการเป็นแบบเรือหางยาวนะครับราคาจะถูกกว่า Speed Boat แต่ถ้าอยากไปทัวร์ที่แบบราคาถูกเป็นกรุ๊ปก็อีกราคาเบาๆ ประเภทหัวละ 1,000 6 เกาะอะไรแบบนี้ แต่สำหรับผมจองไปก่อนเพราะจำไม่ได้กับบังหาก ราคา 55,000 วิ่งไปได้ประมาณ 6 แห่ง คิดว่าถ้าไปหน้าหาดราคาน่าจะอยู่ที่ 5,000 บาท ถ้าไป 6 ที่ครับ (ว้าแย่จุง)
1. เกาะห้อง (Lagoon)
2. เกาะห้อง (หน้าห้อง)
3. ทะเลแหวก (น้ำขึ้นเยอะเลยไม่เห็น แต่เรือเยอะมากจอดเต็ม เมื่อก่อนไม่มีเลยยยยจริงๆ)
4. เกาะปอดะ
5. ไร่เล่ย์ แล้วค่อยเดินไปถ้ำพระนางเอง
6. เกาะไก่
(ความจริงแล้วทะเลแหวก กับเกาะไก่ ติดกันนะครับ) แต่เนื่องจากผมเห็นทีท่าไม่ดีเพราะมีฝนลูกใหญ่เลย เลยรีบไปไร่เล่ย์ก่อน แล้วอ้อนๆ คนขับเรือพามาที่ทะเลแหวกอีกครั้ง และขอแถมกลับมาที่เกาะไก่ ดำดูปลานิสนุง (คนเรือก็เหมือนประมาณว่า นี่เหมือนเรานั่ง 2 รอบ นะเนี่ยะ ผมก็ยิ้มๆ 555 แต่เค้าก็พามานะครับ) อ้อ...แต่ละเกาะต้องจ่ายค่าขึ้นเกาะกันเองนะครับ เตรียมเงินกันไว้ตั้งแต่หัวละ 40 บาทไปจนถึง 60 บาทครับ และค่าอาหารถ้าไม่ได้เตรียมมาแต่ละเกาะก็ราคาเอาเรื่องกันเลยครับ
สรุปก่อนดูรูปนะครับ
วันที่ 12 เม.ย. ถึงที่พัก เดินเล่น กลับมานอน ตื่นมากินอาหารเย็น (พอดีนั่งที่มึดเลยไม่ได้ถ่ายรูป แนะนำปูนิ่มผัดผงกะหรี่ มัสหมั่นไก่อร่อยมากกกกกกกก ต้มยำรู้สึกว่ารสยังไม่ค่อยถูกใจ) หลังจากนั้นกลับบ้านพัก 5 ทุ่มลง Jacuzzi ในห้องส่วนตัว
วันที่ 13 เม.ย. ตื่นทานอาหารเช้า กลับมานอน 555 ฝนตกเลยปล่อยเลยตามเลย ตื่นมาบ่ายๆ เดินไปหาส้มตำร้านที่พนักานแนะนำ ร้านปิดเศร้า เดินเลยมานิดนึง เจอเพิงขายส้มตำเหมือนกัน รสชาติใช้ได้ กินเสร็จแวะ 7-11 และรีบจ้ำเพราะฝนกำลังจะตก และมีนัดนวดไว้ตอน 3 โมง แนะนำว่ามาถึงโรงแรมแล้วควรจองไว้นะครับ จากนั้นก็นอนเรื่อยเปื่อย ตื่นมาตอน 1 ทุ่ม ทานอาหารอีก Set นึง เนื่องจากวันนี้มีเทศกาลก็เลยมีแบบชุดปิ้งย่าง ปลา กุ้ง เผา บาร์บีคิว (ในอาหาร Set นี้ ถูกใจ ต้มข่าทะเลครับ รสชาติดีเลยทีเดียว หมูเปรี้ยวหวานใช้ได้เป็นแบบหมูที่ลงทอดก่อนเอามาผัด ส่วนยำเนื้อเหนียวไปหน่อย แกงเผ็ดเป็ดย่างอาจจะกะทิบางไปหน่อยครับ)
วันที่ 14 เม.ย. เราวางแผนไว้แล้วว่าจะกลับตอนทุ่ม และถ้าเราต้อง Check out เวลามันก็เหลือผมเลย Design ไว้ว่าวันนี้แหละที่จะนั่งเรือไปตามเกาะต่างๆ และขอห้องทางโรงแรมไว้สำหรับอาบน้ำขากลับ โรงแรมน่ารักมากครับ เปิดห้องให้เราอาบน้ำด้วย Love ที่สุด
ขากลับก็บอกพนักงานขับรถให้แวะที่ซื้อของฝากได้นะครับ ต้องบอกครับว่าประทับใจกับที่นี่ในเรื่องการบริการมากครับ ขนาดรีสอร์ทเล็กๆ แต่เรื่องการ Cover ตอนที่เราออกไปทำกิจกรรม ในเรื่องการเตรียมห้องทำได้ดีมาก แบบหายไป 1 ชม. กลับมา ห้องเรียบร้อยอะไรแบบนี้ครับ
[CR] กระต่ายเปลี่ยวเที่ยวกระบี่แบบสวยๆ คลองม่วง Nakamanda Resort & Spa
ชีวิตคือการท่องเที่ยว ของกระต่ายเปลี่ยว เที่ยวหมาดๆ ช่วงสงกรานต์ 12-14 เมษายน 2558 ที่ผ่านมาครับผม
Resort ที่กระบี่ คลองม่วง Nakamanda เป็น Resort ระดับ 5 ดาวครับผม ผมเคยพักที่นี่เมื่อ 10 ปีก่อนตั้งแต่เปิดใหม่ๆ ผ่านมา 10 ปี ในห้องยังดูดีเหมือนเดิม แต่สระว่ายน้ำ กระเบื้องก็มีเปลี่ยนสีไปนิสนุง แต่ภาพโดยรวมการบริการ สถานที่ อาหารการกิน อร่อย สวยงาม ประทับใจ
หน้าชายหาดอาจจะไม่สวยนะครับ มีเกาะบังอยู่ 1 เกาะ แต่ถ้าเดินปีกไปทางซ้าย ประมาณ 10 นาที จะเป็นเชอราตันครับ ปีกซ้ายและขวา สามารถเล่นน้ำได้ครับ
เมื่อ 10 ปีที่แล้วไปกัน 4 คน เลยเลือก Pool Villa แบบ 2 ห้องนอนครับ แต่รอบนี้เลือกแบบ Jacuzzi Villa ห้อง 2201 โดยรวมแล้ว ลักษณะห้องทั่วไปเค้าจะเรียกว่า ศาลา เพราะทางเข้าของแต่ละห้องจะมีที่นั่งพักเหมือนตั่งสวยๆ แต่สำหรับห้องที่เกรดตั้งแต่ Jacuzzi และ Pool Villa จะมีพิเศษตรงจะมี Living Room แยกออกมาเลย และมีห้องสำหรับอุ่นอาหาร อ่างล้างจานที่เพิ่มเติม ซึ่งแบบศาลาก็จะมีธรรมดาและมีแบบ Hydro Pool ด้วย
สำหรับทริปนี้ผมซื้อ Package จากงานท่องเที่ยว (เป็นครั้งแรกของต้นมี.ค. ไม่ใช่เที่ยวไทยครั้งนี้ 2 นะครับ)
ตอนจองกะว่าจะเลือกแบบ ศาลา Hydro Pool แต่รีบไปเช็คตั๋วเครื่องบิน วิ่งกลับไปกลับมา สรุป Hydro Pool หมดจ้า เลยจัด Jacuzzi แพงขึ้นมาอีกหน่อยนึงแต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับขนาดและความสะดวกสบายของห้อง
การเดินทางใช้สายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งโดนเปลี่ยนเวลามาบินเช้าขึ้น โอ้ววว....บินถึงกระบี่ตอน 11.00 น.
ใน Package ของห้องพัก ราคาอยู่ที่ 16,500 บาท 3 วัน 2 คืน อาหารเช้าปกติมีให้อยู่แล้ว แต่อาหารเย็นมีให้ 1 มือ เป็น Set นะครับ มี A,B,C,D แต่ท้ายที่สุด Chef ก็ใจดีให้เปลี่ยนประเภทอาหารแต่ละแบบได้ น่ารักที่สุดครับ และมี Spa ให้ 1 ชม. 2 ท่าน มีรถรับส่งทั้งไปและกลับที่สนามบิน
อาหารจานใหญ่นะครับไม่ใช่เล็กๆ เนื่องจากผมเป็นลูกค้าเก่า ทางทีมงานคุณปอน่ารักมาก เพิ่มอาหารเย็นให้อีก 1 มื้อ ขอบคุณมากๆ นะครับผม
สำหรับค่าห้องแบบ Jacuzzi ปกติ อยู่ที่ 8,000 บาทครับ เหมือนเพิ่มอีก 500 ได้ Spa และอาหารมื้อเย็นด้วยก็ถือว่าคุ้มครับ
การท่องเที่ยวรอบนี้เรียกว่าเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะกินกับนอนในห้องเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าเปลี่ยนที่นอนดีกว่า 555
วันแรกไปถึงก็เดินทางปีกซ้ายชายทะเลเพื่อไปแถวๆ เชอราตัน ไปหาอะไรทานนิสนุง แต่ร้านที่ทานอาหารยังไม่ค่อยถูกใจครับขอผ่าน
ความจริงมีร้านอาหารที่อยู่หน้าโรงแรมอีกหลายร้านครับ เช่น บานานาลีฟ มีร้านอิตาเลียน อีกร้าน Trip Adviser Recommend คือ Coconut อะไรสักอย่าง ผมไม่ได้ทานเหมือนกัน มีมินิมาร์ทเล็กๆ กระจายตัวอยู่เผื่อซื้ออะไรเล็กๆ น้อย ถ้าเดินไป 10 นาทีตามถนนก็จะมี 7-11 และเลยไปอีกหน่อยมี Family Mart ครับผม ถ้านั่งรถรับจ้าง (TAXI) 100 บาท แพงไปหน่อยครับ เมื่อก่อนไม่มีครับแต่ตอนนี้มีหลายร้านเลยนึงไม่ออกว่าจะออกมาทานข้างนอกดีมั้ย
แถวนั้นมีร้านส้มตำ ไก่ย่าง อร่อยนะครับชื่อร้าน ซี อี แลบ ผวนคำคือ แซบอีหลี นั่นเองครับ ตรงแถวๆ เชอราตันครับ
เนื่องจากไม่ได้ไปนานมาก ไม่คิดว่าจะมีเรือไว้คอยให้บริการ ที่เป็นทัวร์ตามเกาะ เพราะเมื่อก่อนไม่มีอะไรเลย ตอนนี้มีเต็มไปหมดเลย แบบไม่ต้องจองล่วงหน้า เพราะหน้าหาดก็มีเรือเอกชนให้ติดต่อได้ครับ ใช้บริการเป็นแบบเรือหางยาวนะครับราคาจะถูกกว่า Speed Boat แต่ถ้าอยากไปทัวร์ที่แบบราคาถูกเป็นกรุ๊ปก็อีกราคาเบาๆ ประเภทหัวละ 1,000 6 เกาะอะไรแบบนี้ แต่สำหรับผมจองไปก่อนเพราะจำไม่ได้กับบังหาก ราคา 55,000 วิ่งไปได้ประมาณ 6 แห่ง คิดว่าถ้าไปหน้าหาดราคาน่าจะอยู่ที่ 5,000 บาท ถ้าไป 6 ที่ครับ (ว้าแย่จุง)
1. เกาะห้อง (Lagoon)
2. เกาะห้อง (หน้าห้อง)
3. ทะเลแหวก (น้ำขึ้นเยอะเลยไม่เห็น แต่เรือเยอะมากจอดเต็ม เมื่อก่อนไม่มีเลยยยยจริงๆ)
4. เกาะปอดะ
5. ไร่เล่ย์ แล้วค่อยเดินไปถ้ำพระนางเอง
6. เกาะไก่
(ความจริงแล้วทะเลแหวก กับเกาะไก่ ติดกันนะครับ) แต่เนื่องจากผมเห็นทีท่าไม่ดีเพราะมีฝนลูกใหญ่เลย เลยรีบไปไร่เล่ย์ก่อน แล้วอ้อนๆ คนขับเรือพามาที่ทะเลแหวกอีกครั้ง และขอแถมกลับมาที่เกาะไก่ ดำดูปลานิสนุง (คนเรือก็เหมือนประมาณว่า นี่เหมือนเรานั่ง 2 รอบ นะเนี่ยะ ผมก็ยิ้มๆ 555 แต่เค้าก็พามานะครับ) อ้อ...แต่ละเกาะต้องจ่ายค่าขึ้นเกาะกันเองนะครับ เตรียมเงินกันไว้ตั้งแต่หัวละ 40 บาทไปจนถึง 60 บาทครับ และค่าอาหารถ้าไม่ได้เตรียมมาแต่ละเกาะก็ราคาเอาเรื่องกันเลยครับ
สรุปก่อนดูรูปนะครับ
วันที่ 12 เม.ย. ถึงที่พัก เดินเล่น กลับมานอน ตื่นมากินอาหารเย็น (พอดีนั่งที่มึดเลยไม่ได้ถ่ายรูป แนะนำปูนิ่มผัดผงกะหรี่ มัสหมั่นไก่อร่อยมากกกกกกกก ต้มยำรู้สึกว่ารสยังไม่ค่อยถูกใจ) หลังจากนั้นกลับบ้านพัก 5 ทุ่มลง Jacuzzi ในห้องส่วนตัว
วันที่ 13 เม.ย. ตื่นทานอาหารเช้า กลับมานอน 555 ฝนตกเลยปล่อยเลยตามเลย ตื่นมาบ่ายๆ เดินไปหาส้มตำร้านที่พนักานแนะนำ ร้านปิดเศร้า เดินเลยมานิดนึง เจอเพิงขายส้มตำเหมือนกัน รสชาติใช้ได้ กินเสร็จแวะ 7-11 และรีบจ้ำเพราะฝนกำลังจะตก และมีนัดนวดไว้ตอน 3 โมง แนะนำว่ามาถึงโรงแรมแล้วควรจองไว้นะครับ จากนั้นก็นอนเรื่อยเปื่อย ตื่นมาตอน 1 ทุ่ม ทานอาหารอีก Set นึง เนื่องจากวันนี้มีเทศกาลก็เลยมีแบบชุดปิ้งย่าง ปลา กุ้ง เผา บาร์บีคิว (ในอาหาร Set นี้ ถูกใจ ต้มข่าทะเลครับ รสชาติดีเลยทีเดียว หมูเปรี้ยวหวานใช้ได้เป็นแบบหมูที่ลงทอดก่อนเอามาผัด ส่วนยำเนื้อเหนียวไปหน่อย แกงเผ็ดเป็ดย่างอาจจะกะทิบางไปหน่อยครับ)
วันที่ 14 เม.ย. เราวางแผนไว้แล้วว่าจะกลับตอนทุ่ม และถ้าเราต้อง Check out เวลามันก็เหลือผมเลย Design ไว้ว่าวันนี้แหละที่จะนั่งเรือไปตามเกาะต่างๆ และขอห้องทางโรงแรมไว้สำหรับอาบน้ำขากลับ โรงแรมน่ารักมากครับ เปิดห้องให้เราอาบน้ำด้วย Love ที่สุด
ขากลับก็บอกพนักงานขับรถให้แวะที่ซื้อของฝากได้นะครับ ต้องบอกครับว่าประทับใจกับที่นี่ในเรื่องการบริการมากครับ ขนาดรีสอร์ทเล็กๆ แต่เรื่องการ Cover ตอนที่เราออกไปทำกิจกรรม ในเรื่องการเตรียมห้องทำได้ดีมาก แบบหายไป 1 ชม. กลับมา ห้องเรียบร้อยอะไรแบบนี้ครับ