***ลมซ่อนรักอวสานแล้ว มาติชมกันค่ะ***

ลมซ่อนรักอวสานแล้ว มาติชมกันค่ะ

ตามดูมาตั้งแต่ตอนแรก ยาวมาจนตอนจบ รู้สึกผูกพันกับละครเรื่องนี้มาก เลยขอแสดงความคิดเห็นเล็กๆน้อยเกี่ยวกับเรื่องลมซ่อนรักนิดนึงค่ะ

- นักแสดง
แต้ว /// แต้วเป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทและเป็นธรรมชาติมากกกก ฉากซึ้ง, เศร้า, ฮา เรียกว่าได้ครบหมด ตอนที่ภัทคิดว่าหมอจำตัวเองไม่ได้ ก็ทำคนดูเศร้าไปด้วย ตอนที่แก้แค้นหมอ คนดูก็จุก+อุร+แค้นไปกับภัทเหมือนกัน สำหรับจขกท.ตอนที่ 13 คือแต้วได้โชว์ของมาก แววตาดูออกเลยว่าทั้งรักทั้งแค้น โอยยยปังที่สุด อาจจะมีตินิดหน่อย เรื่องเสียงที่อาจจะมีเสียงแตกเสียงแสบแก้วหูบ้างในตอนแรกๆ นอกจากนี้ก็หาเรื่องจะติไม่ได้แล้วค่ะ คือดีงาม นักแสดงมืออาชีพจริงๆ

ณเดชน์ /// บทบาทฝาแฝดของณเดชน์ในเรื่องนี้ถือว่าเลิศ เล่นขาดมากๆ ดีไซน์ตัวละครแต่ละตัวได้ดีมากค่ะ การแสดงกับแต้วเรียกได้ว่าฝีมือสมกันค่ะ รับส่งอารมณ์กันไม่มีพลาด ไม่มีลอย ยิ่งฉากเข้าพระเข้านาง พ่อเอ้ยยย เทพมาก ทั้งโรแมนติก, อีโรติก, มุ้งมิ้ง แบรี่ได้หมดเลย เหยยยรักผู้ชายคนนี้ เรื่องข้อติ(อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ) ฉากที่หมอโทรหาพ่อถามเรื่องยาที่ส่งมาให้แม่ แล้วพ่อปฏิเสธ ฉากนั้นเห็นว่าดูเค้นมากค่ะ เล่นใหญ่เลยล่ะ แม้จะลองคิดว่าตอนนั้นหมอยังเด็ก แต่ก็คิดว่ายังดูล้นไปค่ะ สรุปทั้งเรื่องมีฉากเดียวค่ะที่ตงิดๆ ที่เหลือให้สามผ่านค่ะ

- บทสนทนา
บทเรื่องนี้ก็มีทั้งข้อชมข้อติ เหมือนกันค่ะ
ข้อดีที่ชัดเจนมากๆของบทเรื่องนี้คือความเป็นธรรมชาติค่ะ จขกท.ชอบตั้งแต่บทสนทนาแรกๆตอนเปิดเรื่อง ระหว่างภัทกับธนาตย์ คือบทพูดมันทันสมัย สะท้อนตัวตนของภัทให้คนดูได้รู้ภายในไม่กี่นาที ต่อมาที่ทำให้ได้อึ้งอีก (อาจจะแตกต่างกับคนอื่นนะคะ) คือฉากที่ดอยผาหมอก ที่แม่กับภัทปั่นจักรยานไปหาหมอครั้งแรก แม่มีบ่นว่า ที่ตรงนี้มันเป็นเนิน แม่ต้องจูงทุกที ปั่นไม่ไหว(ประมาณนี้) เฮ้ย คือเราชอบบทเรียบๆง่ายๆตอนนี้มากอ่ะ มันเป็นบทที่คนทั่วไปพูดกันจริงๆ ปลื้มค่ะ บทสนทนาของเรื่องนี้คุมโทนได้ดีมากนะคะ ขอมียกเว้นไว้ตอนที่อยูพบแพ ที่หมอพูดเรื่องลมอยู่รอบตัว อยู่ในทุกสรรพสิ่ง บลาๆๆ ตอนนี้แอบลิเกไปหน่อยค่ะ

- บทละครโดยรวม
ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ คือเอาจริงๆทุกอย่างมันไม่ตรงไปตรงมา คนดูไม่ใช่แค่นั่งเฉยๆรับสารไปอย่างเดียว เราชอบที่บทมันไม่ได้เฉลยทุกอย่างว่าตัวละครคิดยังไง คนดูต้องตีความจากคำพูดและพฤติกรรมของตัวละครเอง เช่น หมอไม่ได้คิดเสียงดังให้เราได้ยินว่าทำไมถึงไม่บอกความจริงกับภัท ตอนที่ภัทแก้แค้นหมอ คนดูก็ไม่รู้ว่าในใจของภัทคิดอะไรอยู่กันแน่ ปราณกับอัณจะเป็นยังไงต่อไป เราชอบที่ละครทิ้งช่องไว้ให้คนดูคิดบ้างแบบนี้ดีเลยค่ะ

เรื่องที่แอบไม่สมเหตุสมผลของเรื่องนี้อยู่ในพาร์ทธุรกิจ เข้าใจว่าในโลกแห่งความเป็นจริง กรรมการบริษัทกล่าวหาหรือเรียกร้องที่จะตรวจสอบประธานได้ แต่จะส่งไปคุม+กร่างถึงที่บ้านคนอื่นนี่ แจ้งความข้อหาบุกรุกได้สบายค่ะ อีกอย่างทั้งปราณและพ่อนี่ก็ไม่มีแบคไม่มีพวกเลย คือเข้าใจว่าต้องให้เกิดเหตุการณ์วิกฤตหนักเพื่อที่จะขยี้อารมณ์คนดู นำไปสู่จุดพีคและการคลี่คลาย คือตอนดูก็ลุ้นอยู่นะคะ แต่มันแอบหงุดหงิดเรื่องความไม่สมเหตุสมผลพวกนี้ค่ะ

อื่นๆ
- เราว่าเรื่องนี้นับเป็นละครส่งเสริมครอบครัวได้เลยค่ะ เราได้เห็นครอบครัวที่พ่อต้องการการซับพอร์ตจากลูก และครอบครัวที่แม่คอยซับพอร์ต เป็นหลักให้ลูกได้กลับมายึด ในความเป็นจริงการซับพอร์ตนี้ก็ต้องมาจากทั้งสองทาง ลูกก็ช่วยเหลือพ่อแม่ พ่อแม่ก็ต้องคอยช่วยเหลือลูก ซึ่งละครเรื่องนี้ทำฉากครอบครัวได้ถึงค่ะ มีทั้งความขัดแย้งแลัความอบอุ่นเข้าอกเข้าใจ

- สัญลักษณ์ ละครเรื่องนี้แฝงสัญลักษณ์ไว้พอสมควรเลยค่ะ อันนี้แล้วแต่คนจะตีความนะคะ ล่าสุดเลยก็คือ ตอนที่อัณณากับปราณเดินอยู่ด้วยกันบนดอยผาหมอก พูดเรื่องพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก อัณบอกว่าชอบทั้งสองแบบ แต่ไลฟ์สไตล์ของอัณไม่ได้เป็นคนตื่นเช้า เลยได้มาดื่มด่ำกับพระอาทิตย์ตกแทน เราตีความว่าพระอาทิตย์ขึ้นที่นำความสดใสมาให้นี่เหมือนกับหมอนนท์ ส่วนพระอาทิตย์ตกที่ดูสงบปลอบประโลมแทนตัวของปราณ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ววิถีชีวิตของอัณ มันไปกันได้กับพระอาทิตย์ตกอย่างปราณมากกว่าค่ะ

- ความจริงเรื่องที่สมควรได้รับการชมเชยมีอีกเยอะค่ะ ทั้งการกระจายบทที่ทั่วถึง ตัวร้ายและตัวประกอบที่ทำให้เรื่องมีสีสันและจัดจ้านขึ้นมาก   รวมทั้งสถานที่ถ่ายทำงามๆ เพลงประกอบละครเพราะๆ ต้องหยุดตัวเองไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวจะยาวไป 555

สรุป
ลมซ่อนรักเป็นละครที่ต้องยอมรับว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย เหมือนละครเรื่องอื่นๆ แต่ข้อดีที่มีอยู่เยอะมากทำให้ข้อเสียเล็กๆน้อยๆบางทีก็ถูกกลบไปจนมองไม่ค่อยจะเห็น อยากฝากช่องสามและผู้จัดให้ทำละครปราณีตแบบนี้ออกมาอีก โดยเฉพาะบทละคร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง ต้องเข้มงวดกวดขันมากๆหน่อยนะคะ ฟีดแบคที่ได้จะดีตามค่ะ