ลูกสาวมีปัญหาความรัก เราควรยุ่งหรือไม่ครับ

ลูกสาวมีปัญหาความรัก เราควรยุ่งหรือไม่ครับ

สถานการณ์ที่เกิด

ลูกสาว(ตุลาฯนี้ อายุ ๒๓).. เข้ามาขอคำปรึกษาว่า..
เธออยากคืนดีกับแฟนหนุ่ม เพราะเธอรักเขามาก
และเขาโทรฯมา "ง้อ" ... 'ว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีก'


ข้อมูลการผิดใจกัน

เมื่อ ๒๒ วันก่อน..

เธอกับแฟนหนุ่ม ไปหาเพื่อนเก่าสมัย ปวช. (ที่ขาดการติดต่อไปหลายปี แล้วเจอกันใน "เฟซฯ")
ที่นัดเจอกันที่ห้างฯดังแห่งหนึ่ง ย่านบางกะปิ.. กับแฟนหนุ่มของเธอ

แฟนของลูกสาว พอไปเจอเพื่อนใหม่กลุ่มหนึ่งที่มีสไตล์แบบที่ตัวเองชอบ(Punk Street)
จึงได้คบหากัน แค่วันแรกที่คบกัน เจ้าหัวโจก(เพื่อนใหม่-ของแฟนลุกสาว .. แฟนของเพื่อนลูกสาว)
ก็ดันไปทะเลาะกับ โต๊ะขี้เมาข้างๆ เจ้าหัวโจกสู้ไม่ได้ ก็กลับไปเอาปืนพี่ชายมาจี้หัวคู่อริ พร้อมทั้งขู่เอาซัมซุง S4
และเงินอีกห้าร้อย ก่อนปล่อยคู่อริ(ที่เด็กกว่า)ไป.. ลูกสาวผมตกใจมาก เพราะเธอเห็นว่า มันคือการ "ปล้น"

.. หลังจากนั้น ก็มีการชวนกันกิน "เหล้าแห้ง" ..
จนออกอาการเมาทั้งก๊วน(ยกเว้นลูกสาวผม)

ลูกสาวผมพอเห็นท่าไม่ดี จึงลากแฟนออกจากเพื่อนกลุ่มนั้น

เมื่อกลับมาตั้งหลักกันที่หอพัก(ของลูกสาว-แฟนเมาอยู่ ให้กลับบ้านไม่ได้ เดี๋ยวแม่แฟนรู้)..
ก็เกิดการทะเลาะกันขึ้น เพราะแฟนของลูกสาว เคยสัญญาว่าจะไม่แตะ "เหล้าแห้ง"
แต่ไม่รักษาสัญญา(แฟนเลิกมาเกือบปีแล้ว-เลิกเพราะลูกสาวผมขอไว้) ...

การทะเลาะ "เริ่ม" รุนแรงขึ้น เพราะฝ่ายหญิงก็โกรธ
ส่วนฝ่ายชายก็เมา ..
เรื่องจบด้วย "ลูกสาวผม-โดนต่อย ๓ หมัด" ( ข้อมูลที่เธอเล่าให้ฟัง )

.. ผลวันนั้น .. ลูกสาวผมรับไม่ได้ เลยไล่แฟนกลับบ้าน

ผ่านไป ๒ วัน.. ตอนสายๆ แฟนลูกสาวก็ไปได้เหล้าแห้งจากที่ใดไม่ทราบ เสพเรียบร้อยก็ดันเมาไปมหาวิทยาลัย
กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าเมาแอ๋ ผลคือถูก อจ. เรียกไปตักเตือน..

ผ่านไปอีกวัน.. เจ้าแฟนของลูกสาวผม ก็ไปทะเลาะกับเพื่อนๆที่ ม. หาว่าเพื่อนสร้างเหตุการณ์ให้กล้องวงจรปิดจับภาพได้
และควักมีดออกมาขู่ทั้งๆที่เมายา... เพื่อน(เกือบ)สนิทที่มีเรื่องกัน ก็เลยนำเรื่องไปปรึกษาคุณพ่อ/คุณแม่ของตนเอง ..

ผล...คือพ่อแม่ของหนุ่มคนนั้นตัดสินใจ โทรฯไปหาพ่อแม่ของแฟนลูกสาวผม ..
เรื่องลงเอยโดย หนุ่มดวงซวยที่โดนเพื่อนขู่ฆ่า.. ถูกผู้ปกครองสั่งให้เลิกคบกัน

ลูกสาวผมทราบเรื่อง.. จึงตัดสินใจ "ขอเลิก"
ตั้งแต่วันนั้น ลูกสาวผมก็ดูซึมๆไปเลย(ซึมมาก)
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบเดือนที่ผ่านมา..

ลูกสาวผม... เรียน ปีสี่ คณะนิเทศน์ฯ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กำลังจะจบปีนี้
เพื่อนๆเธอมีหลายกลุ่ม .. มีอยุ่กลุ่มหนึ่ง ที่ออกแนว "นักดื่ม" .. ก็พากันปลอบใจกันไปตามประสา
คือ .. ดื่มๆๆๆเพื่อลืมมัน... โดยเมื่อตกเวลาค่ำๆ ก็จะชวนลูกสาวผมออกไปเกือบทุกๆวัน
ผลเบื้องต้น .. ลูกสาวเมากลับบ้านในทุกคืน(ที่เธอออกไปดื่ม)

เมื่อสักครู่..

ลุกสาวโทรฯมาร้องห่มร้องไห้ เพราะแฟนโทรฯมาขอคืนดี และบอกเธอว่า แฟนหนุ่มจะขอมากราบเท้าผม เพื่อขอโทษ
ที่บังอาจลงไม้ลงมือกับลูกสาว(คนเดียว)ของผม..

ผมพยายาม "ใจเย็น" .. โดยบอกเธอไปว่า

อันว่าผุ้ชาย ที่ทำร้ายผู้หญิงนั้น ถ้าลองได้มีครั้งที่หนึ่ง ก็จะมีครั้งต่อๆไป
พ่อกับแม่ตลอดชีวิตการแต่งงาน แม้จะเพียง ๙ ปี .. ทะเลาะกันก็ไม่เคยให้ลูกได้ยิน
และไม่เคยเลยที่จะตบตีกัน.. หนูก็เห็นๆอยู่และคงจำได้

หนูโชคดีแล้ว ที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน+มีลูก

เพราะแต่งกันแล้วเลิกกัน มันก็ทำความเสียหายต่ออารมณ์แห่งชีวิตคู่
ผู้ชายนั้นไม่เท่าไหร่ ลูกพ่อเป็นผู้หญิง.. สังคมบ้านเรามีแต่เสียกับเสีย..

และยิ่งมีลูกมีเต้า แล้วมีการลงไม้ลงมือ แล้วหนูดันเลือกที่จะทนเพราะลูกที่หนูมี
หนูก็จะต้องทนไปตลอด.. ซึ่งนั่นมันจะไม่ใช่ "ความสุข-ของการอภัยนะลูก"
.. แต่เป็นการ "ตัดสินใจ-ผิดพลาด".. ที่เลือกเขา

เมื่อตอนนี้.. มันก็ยังไม่ "ไปถึง" ขั้นแต่ง/ขั้นมีลูกเต้า

ลูกพ่อ ก็ควรคิดให้มากๆ.. อนาคตของหนู อยู่ที่การตัดสินใจวันนี้นะ..

พ่อไม่ได้รังเกียจ หรือ ไม่ให้อภัยแฟนหนูนะ เพราะถ้าพ่อถือสา พ่อคงเอาเรื่องแฟนหนูไปแล้ว
ที่มาต่อยลูกสาวคนเดียวของพ่อ ซึ่งนี่พ่อยังไม่รวมถึงเรื่องเก่าๆตั้งแต่ปีก่อนแล้ว
(ปีก่อน.. หนุ่มคนนี้มีกิ๊กแนวๆอยากเจ้าชู้ ซะจนลูกสาวผมจับได้
และเธอเสียใจจนแทงต้นขาของตนเอง จนต้องเย็บถึงสี่เข็ม)

ลูกสาวฟังพ่อพูดจบ..

ก็บอกพ่อว่า..

"มันสัญญาว่าจะไม่ทำอีกนะป๊า ...
.. และหนูรักมันมากนะป๊า .... ที่มันต่อยหนู.. ก็คงเพราะมันเมา ... "


ผม..... พูดไม่ออก !!!
ที่ลูกรักแฟน จนปกป้องแฟนว่า "เค้าคงไม่ได้ตั้งใจจะต่อยหนูหรอกค่ะ" !!

************************
คำถาม ?

ต้องทำอย่างไร ?..

ในเรื่องที่ผมต้องเผชิญสถานการณ์ร้ายๆ
กับจิตใจของผมครับ


คือ...

๑. เฉยเสีย ไม่ต้องเก็บมาคิด(ประมาณๆ ปล่อยปละ-ละเลย)

๒. เก็บมาคิด และคิดๆๆๆๆ (จนจิตต์ตก)

๓. เก็บมาคิด เข้าใจเหตุการณ์ แล้วก็ไม่คิดต่อ อะไรจะเกิด ก็ช่างแม่...ม .. (ปล่อยปละ-ละวาง กึ่งๆ ละเลย)

๔. เก็บมาคิด เข้าใจเหตุการณ์ และพยายามป้องกันเหตุการณ์ที่(อาจจะ) จะเกิดในอนาคต(ให้ได้มากที่สุด)

๕. เก็บมาคิด ทำความเข้าใจอารมณ์ที่เกิดกับตนเอง แล้วคิดว่า "มันเป็นกรรมของลูก ซึ่งมันไม่ใช่กรรมของเรา"
     ( ปล่อยปละละวาง แบบที่พระอริยะท่านทำๆกัน )

๖. ติดต่อเข้าไปคุยกับครอบครัวของไอ้หนุ่มของลูก.. แล้วเตือนออกไปว่า.. "อย่ายุ่งกะลูกกูอีก !!! "

๗. ค่อยๆคิด.. ใจร่มๆ.. เดี๋ยวก็คิดวิธีออกละน่า..

หรือ ...

๘... โพสท์ระบายขึ้นเฟสบุ๊ค.. เหมือนๆ ที่ช่าวบ้านเค้าทำกันทั่วๆไป.... !!!


หรือ มีคำแนะนำอื่นๆ ก็โปรดแนะนำมาเลยนะครับ

**********************
ป.ล.    ขอคำแนะนำด่วนครับ
**********************

ข้อมูลเสริม เผื่อท่านที่อ่าน จะนำไปพิจารณาประกอบครับ
(ไม่รู้ว่าเกี่ยวหรือเปล่า แต่เป็นข้อมูลจริงครับ ซึ่งก็คงจะพอนำไป ยิ้ม ได้บ้างล่ะครับ )

๑. ผมเป็นพ่อเดี่ยว แยกกับแม่เธอมาตั้งแต่เธอเรียนประถม ๖ ครับ

๒. หลังผ่านเศรษฐกิจโดยไม่หมดตัวมาได้(โดนเพื่อนโกง) .. การเงินผมทุกวันไม่หวือหวา รอดไปเดือนๆ
    (ผมรับงานตัดต่อภาพยนตร์ จากเจ้าใหญ่ๆอีกทีนึงครับ)

๓. คุณแม่ของเธอ(อดีตภรรยา)แต่งงานใหม่ และออกแนว "รวย" จึงเป็นรายได้หลักส่งเสียลูกสาวครับ

๔. หลังจากทำตัวเนือยๆมาหลายปี(พ่อม่าย)... เมื่อตั้งแต่ต้นปีก่อน(๕๗) .. ผมก็พยายาม "สร้างสถานะ-หาจุดผลักดัน" อยู่ครับ
    ซึ่งก็พอจะมีแววว่า "จะ" กลับมารุ่งได้บ้าง(อนาคตคิดว่าคงจะเหลือเดือนละสักหลายพัน).. แต่รวยนั้นคงไม่ใช่ครับ

๕. ลูกสาวถูกเลี้ยงในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แบบ "ตามใจ" จากแม่  เรื่อง "ใช้เงิน" พอสมควรถึงมากไปบ้าง
    ..ขอเท่าไหร่ก็มักได้ตามยอดครับ ลูกสาวใช้เงินแบบ "ใช้ให้สะใจ" หลังจากลำบากกับพ่อมานานนนน... อะครับ

๖. เงินที่เธอใช้ ไม่ได้สุรุ่ยสุร่ายอะไรมากนะครับ ๙๐% เป็นพวก กล้อง เลนส์ คอมฯ มีเดีย ดีวีดีแมงป่อง และอะไรๆที่เกี่ยวกับ
    ภาพยนตร์แบบที่เธอชอบ เจ้าลูกสาวเธอก็จะซื้อครับ อีก ๑๐% ก็เป็นพวกของแต่งหน้า(ตามเพศ)อะครับ..

๗. ครั้งนี้เป็นผู้ชายคนที่สองที่เธอคบ "ลึกซึ้ง" ครับผม.. และเลยเถิดทุกครั้ง(พ่อ/แม่ รุ้ทีหลังว่ามีแฟนทั้ง ๒ ครั้ง) ครั้งแรก
     เจ้าหนุ่มนั่นหวงเธอจนเธอรำคาญ ...

๘. ผมเป็นพ่อที่ไม่ "ส่อง Facebook " ของลูกสาวครับ ได้บอกต่อหน้าลูกครับ ว่าพ่อไม่ก้าวล่วง.. กระเป๋าตังค์ลูกนั้น
     นานนานที ผมถึงจะแอบดู.. เพื่อจะดูว่าคุณแม่แอบให้ลูกมากกว่าที่ขอหรือไม่ครับผม ... เพราะตกลงกับฝั่งคุณแม่
     ไว้ครับ ว่าจะให้ตังค์ลูก.. ให้โทรฯบอกเราก่อนนะ (ผม ๔๘ อดีตภรรยา ๔๖)

๙.  คุยกับลูกสาวนั้น ผมคุยต่อหน้า คุยไลน์กันบ่อยครับ คุยทางโทรฯ .. ก็บ่อยครับ

๑๐. ผมกับลูกไม่มีความลับต่อกันครับ(ยกเว้นเรื่องจีบก่อน ขอทีหลัง.. เฮ้อ) .. เรื่องประเภทเมนส์มาวันไหน เมนส์หมดวันไหน
      ลูกสาวบอกหมดครับ   หรือแม้แต่เรื่องคำปรึกษาแบบ ๑๘+ .. เราพ่อลูกก็คุยกันได้ครับ

๑๑. ช่วงลูกสาวเรียน ปวช.๑ ถึง ปวช. ๒ .. ผมเองก็จีบสาวเหมือนกันครับ(รวม ๓ ครั้ง.. ๓ คน) แต่ไปกันไม่รอด เพราะโดนข้อหา
      รักลูกกว่าแฟน เอาแต่ระวังลูก ยังกับลูกเพิ่ง ๘ ขวบ ..... ผล-เลยจบกันสั้นๆ

๑๒. อยู่กันร่วม ๑๑ ปี .. แต่อดีตภรรยาก็ไม่ยอมมีลูกกับสามีใหม่ครับ(คงเข็ดผมนี่แหละ)

๑๓. ที่เลิกกับภรรยา เพราะผมเอาเสมียนในร้านฯมาเป็นเมียน้อยครับ เลยงานเข้าครับ(เธอโกรธมากๆ)



หากท่านที่อ่าน ต้องการข้อมูลมากกว่านี้ หรือเชิงลึกกว่านี้
สามารถขอข้อมูลเพิ่มได้นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 36
Case อย่างนี้อยากบอกว่าเป็นปัญหา classic ครับ เนื่องจากลูกคุณโตมาในสภาพที่ครอบครัวแตกแยก
และจากที่คุณเล่า คนผิดคือคุณ (มีเมียน้อย) มันทำให้ต้นแบบผู้ชายในฐานะหัวหน้าครอบครัวในความคิดของลูกคุณถูกบิดเบือนไป
เดาตามหลักจิตวิทยาว่าลูกคุณรู้สึกผิดและกดดันอยู่ลึกๆ ของการทำให้ครอบครัวแตกแยก (ผ่อนคลายชั่วคราวด้วยการ กินเหล้า เมายา)
สิ่งนี้มันจะถูกย้ำเตือนในจิตใต้สำนึก และทำให้เธอมองเห็นแต่ 'ผู้ชาย' ที่มีลักษณะผิดปกติดังกล่าว (คนที่ไม่มีแผลในใจ จะไม่ยอมเรื่องการละเมิดใดๆ แต่จากที่เล่ามา ชี้ชัดว่าเธอมีปัญหาและมีปมในใจแน่นอน)
...
Case อย่างนี้ คนเป็นพ่อคงต้องใจเย็นมากๆ และคิดว่าการแนะนำใดๆ ก็คงไม่มีผล
ถ้ามองจากปมปัญหา (ครอบครัว) คงแก้ยาก สิ่งที่จะช่วยได้ คงอยู่ที่ตัวคุณจะสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นได้มากแค่ไหน
เป็นต้นแบบของผู้ชายในอุดมคติ ที่เธอจะคบหาและสร้างครอบครัวต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่