ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 15/4/2015

กระทู้คำถาม



***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***


กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................




พลุ MC นู๋สร้างชาติ MC พิม ดูแลห้องเพลงรอบค่ำ MC ฮารุจัง รอบดึก MC มาริโอ้ รับหน้าที่ดูแลอาหารเช้าจ้าพลุ






คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




สวัสดีปีใหม่ไทยทุกท่าน วันนี้คนคงเริ่มเดินทางกลับกันแล้ว ขอให้ทุกท่าน เดินทางปลอดภัย



ดาราสาวสวยผู้หนึ่ง ได้มาทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง บ๋อยจึงเดินเข้ามาถาม
“คุณผู้หญิงครับ รู้สึกผมจะเคยเห็นคุณมาก่อนที่ไหนสักแห่งหนึ่ง “
ดาราสาวผู้นั้นตอบอย่างภาคภูมิใจ “ คุณคงจะเคยเห็นดิฉันในโรงหนังกระมังคะ “
บ๋อยคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตอบ “ อาจจะใช่ครับ
เพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบดูหนังที่สุดเลยครับ ว่าแต่ว่าปกติคุณไปโรงไหนเหรอครับ ?”




ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ


1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด

2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน

3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม







คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
หากจะมีงานในยุค 80
ที่ออกแนวจิ๊กโก๋ๆแต่เท่แล้วละก็
จ่าว่า The final count down ของวง "ยุโรป" เป็นงานที่มีลักษณะที่ว่านั้นเลยครับ

ในตอนนั้นไม่มีวัยรุ่นคนไหนไม่รู้จักเพลงนี้
ท่อนอินโทรที่ใช้ซินธีไซเซอร์ เป็นท่อนที่ติดหูที่สุด
และตามมาด้วยท่อนโซโล่ตอนกลางจากกีต้าร์ "เฟนเดอร์" ของ จอห์น นอรั่ม

เป็นลูกโซโล่ที่เท่มากครับ

ในขณะที่เสียงร้องของ โจอี้ เทมเพ็สท์ ก็ทำได้มาตรฐานเพลงร็อค

"ยุโรป" เป็นวงร็อคจากสวีเดน
พวกเขาเป็นความภูมิใจของพวกสวีดิช
และเป็นหัวหอกของวงร็อคจากแดนฟรีเซ็กส์ในการบุกอเมริกา

พูดถึงเรื่องฟรีเซ็กส์แล้ว
จ่าขัดใจสื่อสารมวลชนไทยในยุคซัก 30 ปีที่แล้วจริงๆ
ที่จู่ๆไปตั้งฉายาให้สวีเดนเป็นประเทศฟรีเซ็กส์ โดยไม่มีเหตุผล

ทั้งๆที่พวกสวีดิชเองก็มีพฤติกรรมเฉกเช่นฝรั่งทั่วไป
ที่มีการเปิดกว้างในเรื่องเพศตามสมัยนิยมของพวกเขา
และก็ไม่ได้ฟรีเซ็กส์แบบที่เป็นอยู่ในความหมายของคนไทย

แต่สื่อในยุคนั้นนิยามพวกเขาแบบนี้จริงๆครับ

ไม่ว่าจะเป็นนักเทนนิสอย่าง "บียอร์น บอร์ก"
หรือวงดนตรีป๊อบชื่อก้องโลกอย่าง ABBA
หรือทีมฟุตบอลทีมชาติสวีเดน หรือ ทีมระดับสโมสร

ต่างก็ได้รับคำ "สร้อย" ต่อท้ายจากสื่อไทยแบบนี้เสมอๆ

จ่าเองยังจำติดใจจนเอามาเรียกด้วยเช่นกัน แหะ แหะ...

ทำเป็นเล่นไปนะครับเรื่องฉายาเนี่ย
ครั้งนึงในช่วงฟุตบอลโลกกำลังเข้มข้น
สื่อไทยพาดหัวเรียกทีมชาติโคลอมเบียว่า "ทีมโคเคน"

ปรากฏว่าโดนตอกกลับจากประเทศโคลอมเบียว่าพวกเขาไม่ได้แย่ขนาดนั้น

และไทยเราเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกเขาเท่าไรนักหรอก (โว๊ยยย)

โห....อายโคลอมเบียเขามั๊ยล่ะ.....???!!!!!

กลับมาที่ The final count down  ต่อครับ

เพลงนี้ของพวกเขา
ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ และ 8 อเมริกา

โจอี้ เทมเพ็สท์ เขียนเพลงนี้
จากแรงบันดาลใจในเพลงๆหนึ่งของ เดวิด โบวี่

แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาคิดว่าเพลงมันน่าจะไปไม่รอด
เพราะในตอนที่พวกเขาคิดท่อนอินโทรด้วยการใช้เสียงซินธีไซเซอร์นั้น
พวกเขาคิดว่า "เฮ้ยยยยย...สงสัยแม่มมจะไม่ไหวว่ะ ท่วงทำนองมันห่วยจริงๆ"

แต่เสียงซินฯของ มิค มิคเคลลี ก็ได้กลายมาเป็นสัญญลักษณ์ของเพลงในที่สุด

ทั้งนี้ก็ต้องยอกความดีให้ จอห์น เลเว็น
ที่เป็น "เบสแมน" ของพวกเขาที่ได้บอกกับโจอี้ว่า

"โจอี้โว๊ยยยยย.....เมิงควรเขียนเนื้อเพลงตามทำนองของเสียงซินฯของไอ้มิคมัน"

จริงๆแล้วพวกเขาไม่คิดจะตัดเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลครับ
เพราะมีแผนที่จะตัดเพลงเอกที่เตรียมไว้อีกเพลงหนึ่งเป็นซิงเกิ้ลอยู่แล้ว
แต่ที่พวกเขาเขียน The final count down ขึ้นมาก็เพราะอยากใช้ในคอนเสิร์ท

โดยกะว่าจะใช้เปิดโชว์ให้อลังการไปเลย ก็เลยทำเสียงซินฯซะเท่ขนาดนั้น

และที่สำคัญ...พวกเขาไม่คิดเลยว่าเพลงมันจะ "ฮิต" ขนาดนี้

นี่แหละ....ของอะไรที่มันจะดังแล้วละก็ ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่จริงๆว่ะ..!!!!


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


แม้ตอนหลัง "ยุโรป" จะเปลี่ยนสไตล์ของพวกเขา
จากร็อคแบบที่เป็นอยู่ไปมีกลิ่นของบลูส์ร็อคแบบอเมริกันในอัลบั้มหลังๆ
แต่แฟนๆไม่มีทางลืม The final count down ที่แสนจะดุดัน และติดหูอย่างแน่นอน

จ่าว่ามันคือเพลงที่ถูกจดจำมากที่สุดของยุโรปครับ....

จ่าเองในตอนนั้นอยู่ในช่วงวัยรุ่นนมแตกพาน
จำได้ว่าวัยรุ่นที่เป็นนักกีต้าร์ในยุคนั้นหัดเล่นเพลงนี้กันค่อนเมือง

ตอนที่ยุโรปเริ่มดังใหม่ๆ
พวกเขายังไม่ได้รับการยอมรับมากนัก
เพราะพวกเขาโดนค่อนขอดว่าเป็น "แฮร์ แบนด์"
หรือพวกนักดนตรีผมยาวที่ขายหน้าตาและการแต่งตัว

ดูรูปของพวกยุโรปปัจจุบัน ที่ถ่ายคู่กับรูปเมื่อ 29 ปีที่แล้วซะก่อน...ดูดีกว่าตอนวัยรุ่นซะอีก


แม้จะถูกค่อนขอดว่าเป็นของเก๊
แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาทำให้นักวิจารณ์หุบปากซะสนิทด้วยการทำงานคุณภาพออกมาให้ได้เห็น

และ พิสูจน์ให้ผู้คนเห็นว่า นักวิจารณ์เหล่านั้นนั่นแหละที่คิดผิด

ขอพลังแห่งร็อคจงอยู่คู่คุณๆทุกๆคนครับ







จ่าพิเชษฐ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่