ผมเป็นคนกรุงเทพ พ่อแม่ก็อยู่กรุงเทพ ก็เลยไม่ความจำเป็นต้องออกต่างจังหวัด ก็เพียงแค่ขับรถออกไปพักผ่อนกับครอบครัวแค่เช้าไปบ่ายกลับเท่านั้น ซึ่งกิจกรรมตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 จนถึงเช้า 15 วันนี้ของผมก็เป็นดังนี้ครับ
เสาร์ 11 ทานมื้อเช้าเสร็จก็ออกจากบ้านไปบ้านพ่อ (ห่างกันแค่ 4 กิโลเมตรเศษ) เพื่อเอาบันไดพับและสว่านมาใช้ติดหลอดไฟที่ชายคาบ้าน แวะซื้อสายไฟกับกล่องใส่สวิทช์ไฟ แล้วก็ลงมือทำงานกันเลย ลูกชายก็ช่วยอีกแรง กว่าจะติดหลอดไฟเสร็จก็บ่ายเพราะใช้หลอดฟลูออเรสเซนส์แบบยาว จะพาดบันไดก็ลำบากเพราะชายคามีที่เหลือไม่มาก ต้องย้ายบันไดหลายครั้งกว่าจะติดเสร็จ พอ 5 โมงเย็นก็หยุดพักเพราะนัดทานมื้อเย็นกันที่บ้านพ่อ รวมญาติพี่น้องครอบครัวกัน 7 คน (ผม ภรรยา ลูกชาย พ่อผม แม่ผม พี่สาว และพี่ชาย พี่สาวและพี่ชายอยู่บ้านพ่อ)
อาทิตย์ 12 หลังทานมื้อเช้าเสร็จก็จัดการกับสายไฟให้เรียบร้อย แค่ชั่วโมงกว่าก็เสร็จ ทดลองเปิดไฟก็ใช้ได้ (หลังจากมัวแต่เสียเวลากับกล่องสวิทช์อยู่ตั้งแต่เมื่อวาน) ตอนบ่ายไปที่คอนโดที่พี่สาวซื้อไว้ (ไปกันทั้ง 7 คน) เปลี่ยนก็อกน้ำเป็นวาล์วเพื่อติดตั้งเครื่องซักผ้า (พี่ซื้อไว้เพื่อปล่อยให้เช่า) เสร็จแล้วลงไปว่ายน้ำผ่อนคลายกล้ามเนื้อในสระของคอนโด แล้วก็ไปทานมื้อเย็นกัน
จันทร์ 13 ตื่นตอน 6 โมงเช้า 3 คนพ่อแม่ลูกออกไปใส่บาตร แล้วไปรวมตัวกันที่บ้านพ่อ ขึ้นรถคันเดียวไประยองจุดหมายที่สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ ของปตท. ว่าจะไปดูดอกทิวลิป
- ระหว่างทางแวะพักที่ Homepro ใกล้ๆ กับปตท. เพราะรู้ว่าที่ปั๊มปตท.คนต้องเยอะแน่ๆ เลยเลี้ยวเข้า Homepro (อยู่ก่อนถึงปั๊มปตท. ไม่กี่ร้อยเมตร) ตอนนั้น 9 โมงครึ่ง ห้างเปิดแล้ว ห้องน้ำว่างโล่ง ซื้อน้ำ ของกินเล็กน้อย แล้วเดินทางต่อ ผ่านปั๊มปตท.ก็เป็นดังคาด รถจอดเต็มเลย
- ไปถึงสวนสมุนไพรเวลา 11 โมง รถเยอะมาก ต้องไปจอดรถที่ลานจอดรถ 2 ด้านนอกแล้วก็เดินเข้าไปในสวนสมุนไพร มีคนมากันเยอะหลายพันคนเลย พอไปถึงบริเวณจัดแสดงไม้ทิวลิป พี่ชายเดินเข้าไปซื้อน้ำแล้วกลับมาบอกว่า ถ้าจะเข้าไปคงต้องตอนเย็นเพราะคนเยอะมาก เลยไปทานอาหารมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารในศูนย์กีฬา แล้วก็กลับบ้าน ทริปชมดอกไม้กลายเป็นทริปทานมื้อเที่ยงนอกบ้านแทน ระหว่างทานอาหารโทรไปหาเพื่อนที่เป็นทหารเรือที่สัตหีบ ปรากฏว่าเขาไปธุระที่ฉะเชิงเทราก็เลยคลาดกัน พอกลับถึงบ้านลูกชายไปเล่นน้ำที่สีลม ภรรยาก็เลยพาเขาไปส่งที่บ้านแม่เขาเพื่อไปรวมกับลูกพี่ลูกน้องที่จะไปสีลมด้วยกัน ส่วนผมนอนดูทีวีอยู่ที่บ้าน
อังคาร 14 นอนตื่นสายวันแรก ลูกชายจะไปเล่นน้ำกับเพื่อนที่โรงเรียนอีกวัน(ก็ไปสีลมอีก) คราวนี้ออกไปพี่ชายผมเพราะจะแวะไปเยี่ยมคุณอาและคุณย่าที่โรงพยาบาลก่อน พี่ชายผมจะไปช่วยภรรยาเขาเก็บของที่ตลาดบางน้ำผึ้ง (คุณย่าอายุ 97 ปีแล้ว เป็นโรคชรา ส่วนคุณอาไปค้างที่โรงพยาบาลเพื่อดูแล)
- พอบ่าย 3 โมงผมกับภรรยาก็ไปที่โรงพยาบาล นัดกับคุณพ่อ แม่และพี่สาวไปเจอกันที่โรงพยาบาล
- อยู่ที่โรงพยาบาลก็ถามไถ่ถึงอาการของคุณย่า (อยู่โรงพยาบาลมามากกว่า 3 ปีแล้ว) ตอนนี้ก็ดูแลรักษาไปตามอาการ ไม่ทำอะไรมากเพราะยิ่งทำไปก็จะทรมานท่าน (เวลานี้ท่านนอนหลับมากกว่า ตื่นมาก็แทบจะไม่รับรู้อะไรแล้ว) คุณอาบอกว่าเวลานี้ ไตเริ่มทำงานน้อยลง หมอจะให้ฟอกไต แต่คุณอาพิจารณาแล้วไม่ฟอกเพราะต้องเจาะเส้นเลือดเพิ่มอีก ซึ่งตอนนี้เส้นเลือดคุณย่าเปราะมาก จับเนื้อบีบแรงๆ เส้นเลือดก็แตกแล้ว ยิ่งไปทรมานท่าน
- 5 โมงเย็นโทรหาลูกชาย ตอนนี้เขาเลิกเล่นแล้วกำลังจะกลับบ้านก็เลยบอกให้เขาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านเพื่อนแล้วแวะไปรับ มื้อเย็นก็ทานอาหารนอกบ้านกันอีก คราวนี้เพื่อนลูกชายมาด้วยอีกคน ทานเสร็จก็ไปส่งเพื่อนลูกชายที่บ้านแล้วก็กลับบ้าน
ส่วนวันนี้ผมกะว่าจะอยู่บ้าน ไม่ออกไปไหนแล้ว รีดเสื้อผ้าชุดทำงาน ล้างรถ เตรียมตัวทำงานวันพรุ่งนี้ ส่วนลูกชายบอกไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าบ่ายวันนี้จะไปเล่นน้ำกับเพื่อนอีก (ลูกชายเพิ่งจบ ม.6 ช่วงนี้เลยให้เขาเที่ยวพักผ่อนเต็มที่หลังจากคร่ำเคร่งกับการเรียนและการสอบ)
เล่าสู่กันฟัง วันหยุดยาว 5 วันทำอะไรกันบ้าง
เสาร์ 11 ทานมื้อเช้าเสร็จก็ออกจากบ้านไปบ้านพ่อ (ห่างกันแค่ 4 กิโลเมตรเศษ) เพื่อเอาบันไดพับและสว่านมาใช้ติดหลอดไฟที่ชายคาบ้าน แวะซื้อสายไฟกับกล่องใส่สวิทช์ไฟ แล้วก็ลงมือทำงานกันเลย ลูกชายก็ช่วยอีกแรง กว่าจะติดหลอดไฟเสร็จก็บ่ายเพราะใช้หลอดฟลูออเรสเซนส์แบบยาว จะพาดบันไดก็ลำบากเพราะชายคามีที่เหลือไม่มาก ต้องย้ายบันไดหลายครั้งกว่าจะติดเสร็จ พอ 5 โมงเย็นก็หยุดพักเพราะนัดทานมื้อเย็นกันที่บ้านพ่อ รวมญาติพี่น้องครอบครัวกัน 7 คน (ผม ภรรยา ลูกชาย พ่อผม แม่ผม พี่สาว และพี่ชาย พี่สาวและพี่ชายอยู่บ้านพ่อ)
อาทิตย์ 12 หลังทานมื้อเช้าเสร็จก็จัดการกับสายไฟให้เรียบร้อย แค่ชั่วโมงกว่าก็เสร็จ ทดลองเปิดไฟก็ใช้ได้ (หลังจากมัวแต่เสียเวลากับกล่องสวิทช์อยู่ตั้งแต่เมื่อวาน) ตอนบ่ายไปที่คอนโดที่พี่สาวซื้อไว้ (ไปกันทั้ง 7 คน) เปลี่ยนก็อกน้ำเป็นวาล์วเพื่อติดตั้งเครื่องซักผ้า (พี่ซื้อไว้เพื่อปล่อยให้เช่า) เสร็จแล้วลงไปว่ายน้ำผ่อนคลายกล้ามเนื้อในสระของคอนโด แล้วก็ไปทานมื้อเย็นกัน
จันทร์ 13 ตื่นตอน 6 โมงเช้า 3 คนพ่อแม่ลูกออกไปใส่บาตร แล้วไปรวมตัวกันที่บ้านพ่อ ขึ้นรถคันเดียวไประยองจุดหมายที่สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ ของปตท. ว่าจะไปดูดอกทิวลิป
- ระหว่างทางแวะพักที่ Homepro ใกล้ๆ กับปตท. เพราะรู้ว่าที่ปั๊มปตท.คนต้องเยอะแน่ๆ เลยเลี้ยวเข้า Homepro (อยู่ก่อนถึงปั๊มปตท. ไม่กี่ร้อยเมตร) ตอนนั้น 9 โมงครึ่ง ห้างเปิดแล้ว ห้องน้ำว่างโล่ง ซื้อน้ำ ของกินเล็กน้อย แล้วเดินทางต่อ ผ่านปั๊มปตท.ก็เป็นดังคาด รถจอดเต็มเลย
- ไปถึงสวนสมุนไพรเวลา 11 โมง รถเยอะมาก ต้องไปจอดรถที่ลานจอดรถ 2 ด้านนอกแล้วก็เดินเข้าไปในสวนสมุนไพร มีคนมากันเยอะหลายพันคนเลย พอไปถึงบริเวณจัดแสดงไม้ทิวลิป พี่ชายเดินเข้าไปซื้อน้ำแล้วกลับมาบอกว่า ถ้าจะเข้าไปคงต้องตอนเย็นเพราะคนเยอะมาก เลยไปทานอาหารมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารในศูนย์กีฬา แล้วก็กลับบ้าน ทริปชมดอกไม้กลายเป็นทริปทานมื้อเที่ยงนอกบ้านแทน ระหว่างทานอาหารโทรไปหาเพื่อนที่เป็นทหารเรือที่สัตหีบ ปรากฏว่าเขาไปธุระที่ฉะเชิงเทราก็เลยคลาดกัน พอกลับถึงบ้านลูกชายไปเล่นน้ำที่สีลม ภรรยาก็เลยพาเขาไปส่งที่บ้านแม่เขาเพื่อไปรวมกับลูกพี่ลูกน้องที่จะไปสีลมด้วยกัน ส่วนผมนอนดูทีวีอยู่ที่บ้าน
อังคาร 14 นอนตื่นสายวันแรก ลูกชายจะไปเล่นน้ำกับเพื่อนที่โรงเรียนอีกวัน(ก็ไปสีลมอีก) คราวนี้ออกไปพี่ชายผมเพราะจะแวะไปเยี่ยมคุณอาและคุณย่าที่โรงพยาบาลก่อน พี่ชายผมจะไปช่วยภรรยาเขาเก็บของที่ตลาดบางน้ำผึ้ง (คุณย่าอายุ 97 ปีแล้ว เป็นโรคชรา ส่วนคุณอาไปค้างที่โรงพยาบาลเพื่อดูแล)
- พอบ่าย 3 โมงผมกับภรรยาก็ไปที่โรงพยาบาล นัดกับคุณพ่อ แม่และพี่สาวไปเจอกันที่โรงพยาบาล
- อยู่ที่โรงพยาบาลก็ถามไถ่ถึงอาการของคุณย่า (อยู่โรงพยาบาลมามากกว่า 3 ปีแล้ว) ตอนนี้ก็ดูแลรักษาไปตามอาการ ไม่ทำอะไรมากเพราะยิ่งทำไปก็จะทรมานท่าน (เวลานี้ท่านนอนหลับมากกว่า ตื่นมาก็แทบจะไม่รับรู้อะไรแล้ว) คุณอาบอกว่าเวลานี้ ไตเริ่มทำงานน้อยลง หมอจะให้ฟอกไต แต่คุณอาพิจารณาแล้วไม่ฟอกเพราะต้องเจาะเส้นเลือดเพิ่มอีก ซึ่งตอนนี้เส้นเลือดคุณย่าเปราะมาก จับเนื้อบีบแรงๆ เส้นเลือดก็แตกแล้ว ยิ่งไปทรมานท่าน
- 5 โมงเย็นโทรหาลูกชาย ตอนนี้เขาเลิกเล่นแล้วกำลังจะกลับบ้านก็เลยบอกให้เขาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านเพื่อนแล้วแวะไปรับ มื้อเย็นก็ทานอาหารนอกบ้านกันอีก คราวนี้เพื่อนลูกชายมาด้วยอีกคน ทานเสร็จก็ไปส่งเพื่อนลูกชายที่บ้านแล้วก็กลับบ้าน
ส่วนวันนี้ผมกะว่าจะอยู่บ้าน ไม่ออกไปไหนแล้ว รีดเสื้อผ้าชุดทำงาน ล้างรถ เตรียมตัวทำงานวันพรุ่งนี้ ส่วนลูกชายบอกไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าบ่ายวันนี้จะไปเล่นน้ำกับเพื่อนอีก (ลูกชายเพิ่งจบ ม.6 ช่วงนี้เลยให้เขาเที่ยวพักผ่อนเต็มที่หลังจากคร่ำเคร่งกับการเรียนและการสอบ)