7-8 เมษายน 2558
กระทู้พาเที่ยวหัวหินน่าจะเยอะจนเกร่อแล้ว แต่อินดี้ครับ ขอเก็บเป็นไดอารี่การเดินทางของตัวเองละกัน
มีแรงบันดาลใจมาจากกระทู้
http://pantip.com/topic/32929205
ดองความคิดไว้นานมากโดยอ้างกับตัวเองว่าไม่มีเวลา แต่ที่จริงแล้วคือขี้เกียจ จนมาถึงวันหนึ่ง
จึงยืนขึ้นและสลัดความคิดนี้ออกไป ทริปนี้จึงบังเกิด

เตรียมของก่อนออกเดินทาง
หากต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟรี สิ่งที่ 'ต้อง 'เตรียมมีดังนี้
- น้ำ/กระติกน้ำ
- ผ้าเช็ดหน้า/ผ้าปิดปากปิดจมูก
- หมวก
สิ่งจำเป็นทั้ง 3 นี้จะขาดไม่ได้เลย เพราะการเดินทางใช้เวลานานมาก ไปตอนเดือนเมษายิ่งแล้วใหญ่
แดดร้อน บวกกับลมร้อนที่พัดมาจากข้างนอก ผสมกับเขม่า/ขี้เถ้าที่มีการเผาใบไม้แห้งกับหญ้าแห้งข้างทางตลอดทาง
ยิ่งทำให้ทรมานเข้าไปใหญ่ หากใส่เสื้อคลุมทับอีกชั้นก็จะดี

พระเอกในทริปครั้งนี้ต้องยกให้ของ 2 สิ่ง คือ กระติกน้ำกับผ้าเช็ดหน้า ขาดไปนี่ตายแน่ ซื้อน้ำแข็ง 7-Eleven
ถุงละ 8 บาท ใส่กระติกพร้อมหลอด ปล่อยให้ละลายก็ดูดได้เลย ส่วนผ้าเช็ดหน้านี่ใช้ซับเหงื่อตลอดเวลา

ออกจากบ้าน 8.10 น. ไปหาอะไรกินรองท้องก่อนออกเดินทาง แต่ยังไม่หิวเท่าไรเลยไปจัดไก่ KFC ด้านหน้าซักอย่าง 2อย่าง
และขอตั๋วพร้อมเสร็จ

รถไฟมาถึงตรงเวลา ออกเลทบ้างนิดหน่อยไม่เกิน 20 นาที ระหว่างทางนี่นรกแตกมากๆ แนะนำให้หากิจกรรม
สันทนาการมาทำ เช่นฟังเพลง อ่านหนังสือ สุดท้ายถึงสถานีรถไฟหัวหินที่เวลา 13.52
คิดว่าจะเดินหาที่พักเลียบชายหาดสดๆ ณ ตอนนั้นเลย แต่ก็ลองกดๆเข้าไปดูใน Map และรีวิวก่อน
ด้วยความขี้เกียจ(อีกแล้ว) จึงยึดทางกระทู้ต้นทาง โรงแรมสิริเพชรเกษม วิธีมาโคตรง่าย
เดินออกจากสถานีรถไฟตรงไปทางชายหาด (หันหลังให้สถานีรถไฟ) เลี้ยวซ้ายเดินเข้าถนนสระสง

เดินตรงไป 200เมตรจะเจอป้ายเลี้ยวเข้าโลด
ได้ห้องขึ้นต้นเลข 3 แต่อยู่ชั้น 4 เดินขาลากนิดนึง
ห้องพัดลม 350 ห้องแอร์ 450 พักได้ 2 คน สภาพห้องตามที่เห็น
ข้อดีของที่นี่คือ
- ราคาถูก มากัน 2 คน หารกันยิ่งคุ้มไปใหญ่
- สะอาด
- อยู่ใกล้สถานีรถไฟ และตลาดโต้รุ่ง
- ด้านหน้าโรงแรมมีรถตู้และรถทัวร์ให้บริการ
- ใกล้ 7-Eleven
ข้อเสีย
- มีเต้าเสียบปลั๊กเพียงตัวเดียวแบบ 2 ตา
- ต้องลุ้นดวงกับเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละห้องเอา
- อยู่ไกลชายหาด แต่ไม่มากเท่าไร
เฟอร์นิเจอร์ผ่านการใช้งานมาพอสมควร ไม่ได้เก่าแต่ก็ไม่ได้ดูใหม่ แต่ห้องสะอาดดี
ห้องที่ผมเสี่ยงดวงมาโชคร้ายนิดหน่อย คือ ประตูหน้าห้องมีรูนิดๆ ไฟหัวเตียงเปิดไม่ได้
กระเบื้องห้องน้ำแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่มีพรมปูรอบเตียง (สังเกตห้องอื่นมี)

ถอดพัดลมเพดานแต่ไม่ติดไฟกลางห้อง

ไฟหัวเตียง หวังพึ่งแสงสุดท้าย แต่.. เปิดไม่ติด ง่ะ ==*
แต่กระนั้นลุยๆอยู่แล้วไม่แคร์อะไรมากมายก็เลยไม่ได้ขอเปลี่ยนห้อง พอถึงปุ๊บรีบอาบน้ำทันที
เพราะทั้งตัวตอนนั้นโดนรมไปด้วยอะไรหลายๆสิ่งๆ ฝุ่น ควัน เขม่า ใบไม้แห้ง กิ่งไม้ บวกกับเหงื่อเปียกๆ

อาบน้ำเสร็จแต่งตัวไปเดินเพลินวานชิลๆ ขึ้นรถสองแถวสีเขียวๆ เขียนว่าไปเขาตะเกียบ (ยืมรูปจากเน็ท ลืมถ่าย)
เดินออกโรงแรมมาเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปขึ้นตรงหน้าเซเว่นที่อยู่ตรงข้ามกับธนาคาร SCB
ถึงเพลินวานกดออดลง สังเกตเอา ซ.หัวหิน 39 ราคา 10 บาท

อากาศร้อนดีมาก แปลกดีที่ไม่หิวเลย แต่กินน้ำไปเยอะมาก เดินเล่นไปเรื่อยๆไม่ค่อยตื่นตาเท่าไรเพราะเคยมาแล้ว

จัดขนมถังเต็มไป 1 ชิ้นเป็นของว่าง
ที่นี่ค่อนข้างแคบแถมนั่งชิลๆก็ไม่เหมาะเพราะบรรยากาศและลมไม่อำนวยเท่าไร จึงกลับที่พักและไปทะเลต่อดีกว่า
ขึ้นรถกลับถึงที่พักประมาณ 15.30น. เดินเท้าเปล่าจากที่พักไปทางลงทะเลหลักง่ายๆเลี้ยวขวาตรงไปเลี้ยวซ้ายที่
ซ.ดำเนินเกษมแล้วตรงยาวๆ ทั้งหมดแค่ 900 เมตร แค่ 10 นาทีก็ถึงทะเล
แต่ก่อนหน้านั้นผมเลือกจะเดินไปทาง ซ.นเรศดำริห์ เพื่อชมวิถีชีวิตชาวบ้านแถวนั้นก่อนอย่างชิลๆ
เดินผ่านท่าเทียบเรือประมง แต่ไม่รู้เข้าทางไหนก็ได้แต่เดินผ่านๆ
เสร็จแล้วก็ย้อนกลับมาเดินลงหาดหลัก ไปถึงก็นั่งเล่น ถ่ายรูป เดินเลียบชายหาด เดินลงน้ำพอเป็นพิธี

หมาน้อย ><
กิจกรรมสันทนาการแล้วแต่บุคคลพึงกระทำ เล่นน้ำ เดินเล่น ถ่ายรูป ขี่ม้า จิบเบียร์ บลาๆ
ผมเลือกที่จะนั่งเล่นมองทะเล ดูเส้นขอบฟ้า ปล่อยเวลาไปเอื่อยๆอย่างนี้ อ่าห์ ฟิน
เหงาก็หาชาวต่างชาติแถวๆนั้นคุยเล่นพอเป็นพิธี
ใช้เวลาที่นี่ไป 3ชม.กว่าๆ ชิลมาก กลับถึงที่พักประมาณ 19.30 อาบน้ำต่อแล้วออกไปหาอะไรกินที่ตลาดโต้รุ่ง
เดินออกจากที่พักนาทีเดียวก็ถึงแล้ว ตอนนี้หิวมากเลยเข้าร้านซีฟู้ดชื่อร้านครัวลุงจ่า สั่งกับข้าวมา 2 อย่าง

หอยเขล์ย่าง 150

หมึกนึ่งมะนาว 180
ข้าวเปล่า 1 จาน น้ำเปล่า 1 ขวด
เบ็ดเสร็จหมดไป 350 บาท ฟินกันเลยทีเดียวเชียว

เดินเล่นต่อที่ตลาดโต้รุ่งเจอวงดนตรีกลุ่มนี้ มันส์มาก เล่นเพลงภูมิแพ้กรุงเทพฯกับ Canon เป็นดนตรีประยุกต์ที่ฟังเพลินมาก

มาต่อข้างในตลาดฉัตรศิลา แคบๆนิดนึงไม่ได้กว้างมาก จัดแว่นกันแดดกับเสื้ออย่างละอันละตัว ของฝ่งของฝากไม่ซื้อ แบกเกะกะ ฮ่าๆ
กลับถึงที่พักประมาณ 22.00 น. ชิลไปอี้กกกก เวลาอีก 2 ชม. ก่อนนอน Social +ดูหนังกันไป
เคเบิ้ลที่นี่มีช่อง CI ด้วยล่ะ ภาพไม่ชัดเท่าไรแต่รับได้
วันรุ่งขึ้น ว่าจะตื่นเช้าไปตลาดหาอะไรกิน+เดินเล่น แต่ร่างกายเพลียแดดจากเมื่อวาน ลุกไม่ขึ้นอะ = =*
ตาเบิกเมื่อ 11.00น. ว่าแล้วก็ตื่นมาอาบน้ำ แปรงฟัน Chech out ตอน 12.00 พอดีเป๊ะ แล้วก็มาทานข้าวเช้า (?)
แถวๆที่พักก่อนออกเดินทาง

งานซีฟู้ดต้องมาอีกจาน
ก่อนกลับวางแผนว่าจะไปเขา หิน เหล็ก ไฟ มาหัวหินไม่เคยได้ไปเลย ทริปนี้จึงเป็นโอกาสอันดี
อันที่จริงคิดว่าจะหารถนั่งหรือเดินเท้าไป แต่ไม่มีข้อมูลเลย เพราะมันเป็นที่เฉพาะ
จึงยอมนั่งวินมอเตอร์ไซต์ไปดีกว่า โดนเฉาะไป 100 บาท ค่าบิดขึ้นเขา คุณพระ ขากลับจึงคิดว่าเดินลงดีกว่าประหยัดเงิน

เมื่อมาถึงจะเจอประตูทางเข้าเป็นสัญลักษณ์
ข้างในจะเป็นบริเวณลานกว้างๆให้จอดรถได้แล้วลงเดินเท้าไปตามจุดชมวิวต่างๆ เท่าที่ดูมามี 6 จุดชมวิว
แต่เจอป้ายแค่ 3 จุด คือ 4 5 และ 6 พร้อมความสงสัยในหัว แล้วจุดที่ 1 2 3 มันอยู่ตรงไหนวะ
เดินผ่านลานกว้างมามีทางแยกซ้ายกับขวา ทางซ้ายเห็นฝูงลิงตีกัน เลยขอเลี้ยวซ้ายก่อนดีกว่า

น้องลิง เท่าที่ดูจะกลัวคน แต่ก็ไม่วางใจ ห้ามถืออะไรเด็ดขาด

เดินมาไม่ถึง 20 ก้าว เจอแอ่งขนาดใหญ่ไม่รู้สร้างไว้ใส่อะไร ตกลงไปนี่ตายแหง นึกถึงอารมณ์หนัง Warning
ที่ทุกคนกระโดดลงน้ำกลางทะเล แต่ขึ้นเรือไม่ได้เพราะไม่ได้หย่อนบันไดปีนเอาไว้
เดินต่อมาอีกหน่อยเจอทางแยกย่อยอีกละ ตามเวรตามกรรมแล้วกัน ก็สุ่มๆไปปีนป่ายกันไป
ชื่นชมธรรมชาติ อาห์...
เดินออกไปทางหลักดีกว่า ฝูงลิงสงบแล้ว

ระหว่างทางเจอกองหินที่สลักจากกิจกรรม 987 ปลูกราชพฤกษ์ เทิดไท้องค์ราชัน
เลข 9 หมายถึงรัชกาลที่ 9 เลข 87 หมายถึงเฉลิมพระชนมายุ 87 พรรษา ตัวอย่าง
เดินมาอีกหน่อยจะเจอลานกว้าง ทางซ้ายเป็นอนุสาวรีย์พระบรมรูปรัชกาลที่ 7
ทางขวาเป็นจุดชมวิวที่ 4

ป้ายหัวหินเผื่อใครไม่ได้ถ่ายที่สถานีรถไฟ
มาต่อจุดชมวิวที่ 5 เดินตรงไปขึ้นเนิน ชันอยู่

วิวกว้างสวยดี
หาจุดชมวิวที่ 6 ไม่เจอ แต่เดินไปตามทางเท้าปีนป่ายหินก็ได้วิวนี้มา
เอาล่ะถึงเวลาลงเขา จริงๆขอเบอร์พี่วินไว้ เผื่อมารับ แต่เท่าที่นั่งขึ้นมาเห็นว่ามันก็ไม่ได้ชันอะไรมากขนาดนั้น พอเดินลงได้นะ
ระหว่างทางลง อ่าวเจอ จุดชมวิวที่ 1

เดินไปตามทางนิดๆรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วล่ะ มีแต่ต้นไม้+หิน ไม่มีทางเดินไม่รู้จะไปต่อยังไง กลับดีกว่า
ระหว่างทางก็เจอวัด+สำนักสงฆ์อยู่ตามไหล่เขา

แล้วก็เจอลูกแมวเมี้ยว
ลงเขามาตอน 14.10 ถึงทางลงตอนราบประมาณ 14.30 เดินชิลๆดีนะ
แดดวันนั้นแรงแต่ไม่มากเท่าตอนนั่งรถไฟอุณหภูมิเฉลี่ย 32 องศา
ลงทางราบมาเจอหลุมศพแบบจีนอยู่ตรงตีนเขาเลย
เดินผ่านโรงเรียนอนุบาลหมีน้อย เสียงเจื้อยแจ้วเจรจา
เอาล่ะถึงเวลากลับ คิดว่าถ้าลงเขามาก่อน 14.10 ก็จะกลับรถไฟฟรี แต่นี่เกินเวลาแล้วจึงคิดว่านั่งกลับรถทัวร์สบายๆดีกว่า
ไปขึ้นรถที่เดิมหน้าโรงแรมที่พัก มีทั้งรถตู้ รถทัวร์ให้บริการ
รถออก 16.00 น. ไปหาอะไรรองท้อง พอดีเจอร้านก๋วยเตี๋ยวเรือใกล้ๆก็จัดไป 1 ชาม
[CR] ลุยเดี่ยวเที่ยวหัวหินแบบบ้านๆ [2 Days Trip @Huahin by Free Train]
กระทู้พาเที่ยวหัวหินน่าจะเยอะจนเกร่อแล้ว แต่อินดี้ครับ ขอเก็บเป็นไดอารี่การเดินทางของตัวเองละกัน
มีแรงบันดาลใจมาจากกระทู้ http://pantip.com/topic/32929205
ดองความคิดไว้นานมากโดยอ้างกับตัวเองว่าไม่มีเวลา แต่ที่จริงแล้วคือขี้เกียจ จนมาถึงวันหนึ่ง
จึงยืนขึ้นและสลัดความคิดนี้ออกไป ทริปนี้จึงบังเกิด
เตรียมของก่อนออกเดินทาง
หากต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟรี สิ่งที่ 'ต้อง 'เตรียมมีดังนี้
- น้ำ/กระติกน้ำ
- ผ้าเช็ดหน้า/ผ้าปิดปากปิดจมูก
- หมวก
สิ่งจำเป็นทั้ง 3 นี้จะขาดไม่ได้เลย เพราะการเดินทางใช้เวลานานมาก ไปตอนเดือนเมษายิ่งแล้วใหญ่
แดดร้อน บวกกับลมร้อนที่พัดมาจากข้างนอก ผสมกับเขม่า/ขี้เถ้าที่มีการเผาใบไม้แห้งกับหญ้าแห้งข้างทางตลอดทาง
ยิ่งทำให้ทรมานเข้าไปใหญ่ หากใส่เสื้อคลุมทับอีกชั้นก็จะดี
พระเอกในทริปครั้งนี้ต้องยกให้ของ 2 สิ่ง คือ กระติกน้ำกับผ้าเช็ดหน้า ขาดไปนี่ตายแน่ ซื้อน้ำแข็ง 7-Eleven
ถุงละ 8 บาท ใส่กระติกพร้อมหลอด ปล่อยให้ละลายก็ดูดได้เลย ส่วนผ้าเช็ดหน้านี่ใช้ซับเหงื่อตลอดเวลา
ออกจากบ้าน 8.10 น. ไปหาอะไรกินรองท้องก่อนออกเดินทาง แต่ยังไม่หิวเท่าไรเลยไปจัดไก่ KFC ด้านหน้าซักอย่าง 2อย่าง
และขอตั๋วพร้อมเสร็จ
รถไฟมาถึงตรงเวลา ออกเลทบ้างนิดหน่อยไม่เกิน 20 นาที ระหว่างทางนี่นรกแตกมากๆ แนะนำให้หากิจกรรม
สันทนาการมาทำ เช่นฟังเพลง อ่านหนังสือ สุดท้ายถึงสถานีรถไฟหัวหินที่เวลา 13.52
คิดว่าจะเดินหาที่พักเลียบชายหาดสดๆ ณ ตอนนั้นเลย แต่ก็ลองกดๆเข้าไปดูใน Map และรีวิวก่อน
ด้วยความขี้เกียจ(อีกแล้ว) จึงยึดทางกระทู้ต้นทาง โรงแรมสิริเพชรเกษม วิธีมาโคตรง่าย
เดินออกจากสถานีรถไฟตรงไปทางชายหาด (หันหลังให้สถานีรถไฟ) เลี้ยวซ้ายเดินเข้าถนนสระสง
เดินตรงไป 200เมตรจะเจอป้ายเลี้ยวเข้าโลด
ได้ห้องขึ้นต้นเลข 3 แต่อยู่ชั้น 4 เดินขาลากนิดนึง
ห้องพัดลม 350 ห้องแอร์ 450 พักได้ 2 คน สภาพห้องตามที่เห็น
ข้อดีของที่นี่คือ
- ราคาถูก มากัน 2 คน หารกันยิ่งคุ้มไปใหญ่
- สะอาด
- อยู่ใกล้สถานีรถไฟ และตลาดโต้รุ่ง
- ด้านหน้าโรงแรมมีรถตู้และรถทัวร์ให้บริการ
- ใกล้ 7-Eleven
ข้อเสีย
- มีเต้าเสียบปลั๊กเพียงตัวเดียวแบบ 2 ตา
- ต้องลุ้นดวงกับเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละห้องเอา
- อยู่ไกลชายหาด แต่ไม่มากเท่าไร
เฟอร์นิเจอร์ผ่านการใช้งานมาพอสมควร ไม่ได้เก่าแต่ก็ไม่ได้ดูใหม่ แต่ห้องสะอาดดี
ห้องที่ผมเสี่ยงดวงมาโชคร้ายนิดหน่อย คือ ประตูหน้าห้องมีรูนิดๆ ไฟหัวเตียงเปิดไม่ได้
กระเบื้องห้องน้ำแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่มีพรมปูรอบเตียง (สังเกตห้องอื่นมี)
ถอดพัดลมเพดานแต่ไม่ติดไฟกลางห้อง
ไฟหัวเตียง หวังพึ่งแสงสุดท้าย แต่.. เปิดไม่ติด ง่ะ ==*
แต่กระนั้นลุยๆอยู่แล้วไม่แคร์อะไรมากมายก็เลยไม่ได้ขอเปลี่ยนห้อง พอถึงปุ๊บรีบอาบน้ำทันที
เพราะทั้งตัวตอนนั้นโดนรมไปด้วยอะไรหลายๆสิ่งๆ ฝุ่น ควัน เขม่า ใบไม้แห้ง กิ่งไม้ บวกกับเหงื่อเปียกๆ
อาบน้ำเสร็จแต่งตัวไปเดินเพลินวานชิลๆ ขึ้นรถสองแถวสีเขียวๆ เขียนว่าไปเขาตะเกียบ (ยืมรูปจากเน็ท ลืมถ่าย)
เดินออกโรงแรมมาเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปขึ้นตรงหน้าเซเว่นที่อยู่ตรงข้ามกับธนาคาร SCB
ถึงเพลินวานกดออดลง สังเกตเอา ซ.หัวหิน 39 ราคา 10 บาท
อากาศร้อนดีมาก แปลกดีที่ไม่หิวเลย แต่กินน้ำไปเยอะมาก เดินเล่นไปเรื่อยๆไม่ค่อยตื่นตาเท่าไรเพราะเคยมาแล้ว
จัดขนมถังเต็มไป 1 ชิ้นเป็นของว่าง
ที่นี่ค่อนข้างแคบแถมนั่งชิลๆก็ไม่เหมาะเพราะบรรยากาศและลมไม่อำนวยเท่าไร จึงกลับที่พักและไปทะเลต่อดีกว่า
ขึ้นรถกลับถึงที่พักประมาณ 15.30น. เดินเท้าเปล่าจากที่พักไปทางลงทะเลหลักง่ายๆเลี้ยวขวาตรงไปเลี้ยวซ้ายที่
ซ.ดำเนินเกษมแล้วตรงยาวๆ ทั้งหมดแค่ 900 เมตร แค่ 10 นาทีก็ถึงทะเล
แต่ก่อนหน้านั้นผมเลือกจะเดินไปทาง ซ.นเรศดำริห์ เพื่อชมวิถีชีวิตชาวบ้านแถวนั้นก่อนอย่างชิลๆ
เดินผ่านท่าเทียบเรือประมง แต่ไม่รู้เข้าทางไหนก็ได้แต่เดินผ่านๆ
เสร็จแล้วก็ย้อนกลับมาเดินลงหาดหลัก ไปถึงก็นั่งเล่น ถ่ายรูป เดินเลียบชายหาด เดินลงน้ำพอเป็นพิธี
หมาน้อย ><
กิจกรรมสันทนาการแล้วแต่บุคคลพึงกระทำ เล่นน้ำ เดินเล่น ถ่ายรูป ขี่ม้า จิบเบียร์ บลาๆ
ผมเลือกที่จะนั่งเล่นมองทะเล ดูเส้นขอบฟ้า ปล่อยเวลาไปเอื่อยๆอย่างนี้ อ่าห์ ฟิน
เหงาก็หาชาวต่างชาติแถวๆนั้นคุยเล่นพอเป็นพิธี
ใช้เวลาที่นี่ไป 3ชม.กว่าๆ ชิลมาก กลับถึงที่พักประมาณ 19.30 อาบน้ำต่อแล้วออกไปหาอะไรกินที่ตลาดโต้รุ่ง
เดินออกจากที่พักนาทีเดียวก็ถึงแล้ว ตอนนี้หิวมากเลยเข้าร้านซีฟู้ดชื่อร้านครัวลุงจ่า สั่งกับข้าวมา 2 อย่าง
หอยเขล์ย่าง 150
หมึกนึ่งมะนาว 180
ข้าวเปล่า 1 จาน น้ำเปล่า 1 ขวด
เบ็ดเสร็จหมดไป 350 บาท ฟินกันเลยทีเดียวเชียว
เดินเล่นต่อที่ตลาดโต้รุ่งเจอวงดนตรีกลุ่มนี้ มันส์มาก เล่นเพลงภูมิแพ้กรุงเทพฯกับ Canon เป็นดนตรีประยุกต์ที่ฟังเพลินมาก
มาต่อข้างในตลาดฉัตรศิลา แคบๆนิดนึงไม่ได้กว้างมาก จัดแว่นกันแดดกับเสื้ออย่างละอันละตัว ของฝ่งของฝากไม่ซื้อ แบกเกะกะ ฮ่าๆ
กลับถึงที่พักประมาณ 22.00 น. ชิลไปอี้กกกก เวลาอีก 2 ชม. ก่อนนอน Social +ดูหนังกันไป
เคเบิ้ลที่นี่มีช่อง CI ด้วยล่ะ ภาพไม่ชัดเท่าไรแต่รับได้
วันรุ่งขึ้น ว่าจะตื่นเช้าไปตลาดหาอะไรกิน+เดินเล่น แต่ร่างกายเพลียแดดจากเมื่อวาน ลุกไม่ขึ้นอะ = =*
ตาเบิกเมื่อ 11.00น. ว่าแล้วก็ตื่นมาอาบน้ำ แปรงฟัน Chech out ตอน 12.00 พอดีเป๊ะ แล้วก็มาทานข้าวเช้า (?)
แถวๆที่พักก่อนออกเดินทาง
งานซีฟู้ดต้องมาอีกจาน
ก่อนกลับวางแผนว่าจะไปเขา หิน เหล็ก ไฟ มาหัวหินไม่เคยได้ไปเลย ทริปนี้จึงเป็นโอกาสอันดี
อันที่จริงคิดว่าจะหารถนั่งหรือเดินเท้าไป แต่ไม่มีข้อมูลเลย เพราะมันเป็นที่เฉพาะ
จึงยอมนั่งวินมอเตอร์ไซต์ไปดีกว่า โดนเฉาะไป 100 บาท ค่าบิดขึ้นเขา คุณพระ ขากลับจึงคิดว่าเดินลงดีกว่าประหยัดเงิน
เมื่อมาถึงจะเจอประตูทางเข้าเป็นสัญลักษณ์
ข้างในจะเป็นบริเวณลานกว้างๆให้จอดรถได้แล้วลงเดินเท้าไปตามจุดชมวิวต่างๆ เท่าที่ดูมามี 6 จุดชมวิว
แต่เจอป้ายแค่ 3 จุด คือ 4 5 และ 6 พร้อมความสงสัยในหัว แล้วจุดที่ 1 2 3 มันอยู่ตรงไหนวะ
เดินผ่านลานกว้างมามีทางแยกซ้ายกับขวา ทางซ้ายเห็นฝูงลิงตีกัน เลยขอเลี้ยวซ้ายก่อนดีกว่า
น้องลิง เท่าที่ดูจะกลัวคน แต่ก็ไม่วางใจ ห้ามถืออะไรเด็ดขาด
เดินมาไม่ถึง 20 ก้าว เจอแอ่งขนาดใหญ่ไม่รู้สร้างไว้ใส่อะไร ตกลงไปนี่ตายแหง นึกถึงอารมณ์หนัง Warning
ที่ทุกคนกระโดดลงน้ำกลางทะเล แต่ขึ้นเรือไม่ได้เพราะไม่ได้หย่อนบันไดปีนเอาไว้
เดินต่อมาอีกหน่อยเจอทางแยกย่อยอีกละ ตามเวรตามกรรมแล้วกัน ก็สุ่มๆไปปีนป่ายกันไป
ชื่นชมธรรมชาติ อาห์...
เดินออกไปทางหลักดีกว่า ฝูงลิงสงบแล้ว
ระหว่างทางเจอกองหินที่สลักจากกิจกรรม 987 ปลูกราชพฤกษ์ เทิดไท้องค์ราชัน
เลข 9 หมายถึงรัชกาลที่ 9 เลข 87 หมายถึงเฉลิมพระชนมายุ 87 พรรษา ตัวอย่าง
เดินมาอีกหน่อยจะเจอลานกว้าง ทางซ้ายเป็นอนุสาวรีย์พระบรมรูปรัชกาลที่ 7
ทางขวาเป็นจุดชมวิวที่ 4
ป้ายหัวหินเผื่อใครไม่ได้ถ่ายที่สถานีรถไฟ
มาต่อจุดชมวิวที่ 5 เดินตรงไปขึ้นเนิน ชันอยู่
วิวกว้างสวยดี
หาจุดชมวิวที่ 6 ไม่เจอ แต่เดินไปตามทางเท้าปีนป่ายหินก็ได้วิวนี้มา
เอาล่ะถึงเวลาลงเขา จริงๆขอเบอร์พี่วินไว้ เผื่อมารับ แต่เท่าที่นั่งขึ้นมาเห็นว่ามันก็ไม่ได้ชันอะไรมากขนาดนั้น พอเดินลงได้นะ
ระหว่างทางลง อ่าวเจอ จุดชมวิวที่ 1
เดินไปตามทางนิดๆรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วล่ะ มีแต่ต้นไม้+หิน ไม่มีทางเดินไม่รู้จะไปต่อยังไง กลับดีกว่า
ระหว่างทางก็เจอวัด+สำนักสงฆ์อยู่ตามไหล่เขา
แล้วก็เจอลูกแมวเมี้ยว
ลงเขามาตอน 14.10 ถึงทางลงตอนราบประมาณ 14.30 เดินชิลๆดีนะ
แดดวันนั้นแรงแต่ไม่มากเท่าตอนนั่งรถไฟอุณหภูมิเฉลี่ย 32 องศา
ลงทางราบมาเจอหลุมศพแบบจีนอยู่ตรงตีนเขาเลย
เดินผ่านโรงเรียนอนุบาลหมีน้อย เสียงเจื้อยแจ้วเจรจา
เอาล่ะถึงเวลากลับ คิดว่าถ้าลงเขามาก่อน 14.10 ก็จะกลับรถไฟฟรี แต่นี่เกินเวลาแล้วจึงคิดว่านั่งกลับรถทัวร์สบายๆดีกว่า
ไปขึ้นรถที่เดิมหน้าโรงแรมที่พัก มีทั้งรถตู้ รถทัวร์ให้บริการ
รถออก 16.00 น. ไปหาอะไรรองท้อง พอดีเจอร้านก๋วยเตี๋ยวเรือใกล้ๆก็จัดไป 1 ชาม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น