เรื่องย๊าวยาว เล่าเลยละกันค่ะ
วันที่ 24 มี.ค. ไปจ่ายเงินค่าบริการที่หน้าเคาท์เตอร์ สังเกตุเห็นใน invoice เขียนว่าเป็นชำระล่วงหน้า แต่หน้าเคาเตอร์รูดเงินผ่านบัตรเครดิตไปยอดถูกต้องตาม invoice แม้กระทั่งเศษสตางค์ เลยถามเคาน์เตอร์ว่าทำไมขึ้นว่าชำระล่วงหน้า เพราะนี่ก็ชำระตาม invoice ที่แจ้งมาเลยนะ เคาน์เตอร์ตอบว่าเป็นที่ระบบค่ะ และเป็นกับบางเบอร์ เราเลยไม่ติดใจอะไร บอกให้เค้าเขียนมาให้หน้าใบเสร็จด้วยว่า ไม่ได้เป็นการชำระล่วงหน้า แต่เป็นการชำระค่าบริการตามรอบ invoice จริง เพื่อจะได้นำไปเบิกกับที่ทำงานได้
วันที่ 30 มี.ค. มี sms จากดีแทคมาแจ้งว่า ขอบคุณที่ชำระค่าบริการผ่านทางการตัดบัตรเครดิต เมื่อ 27 มี.ค. เราจำได้ว่าไม่ได้ชำระเมื่อวันที่ 27 นี่น่า เอะใจนิดนึง
วันที่ 31 มี.ค.
ช่วงที่ 1 โทรไปหา call center บัตรเครดิต CITIBANK เพื่อถามว่ามี 2 transaction ใช่หรือไม่ นางบอกว่ามียอดเรียกเก็บผ่านบัตรเครดิต 2 ครั้งจริง เราแจ้งว่าได้มีการยกเลิกการตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติไปนานแล้วทำไมยังตัดอยู่ นางบอกว่าของทางนี้นางตัดแล้ว เราต้องโทรไปยกเลิกกับ DTAC เอง นางตัดส่วนนี้ให้ไม่ได้
ช่วงที่ 2 โทรไปหา call center ว่า sms ที่เพิ่งได้รับนี่หมายถึงมีการจ่ายเบิ้ลใช่ไหม คนรับสายคนแรกเป็นผู้หญิงตอบว่าใช่ เราถามเกิดจากอะไร เพราะที่ผ่านมาถ้าไปจ่ายที่หน้าเคาน์เตอร์แล้ว ก็จะไม่มีการตัดผ่านบัตรเครดิตซ้ำ นางตอบว่า วันที่ 24 มี.ค. เป็นการตัดบัตรเครดิต แล้วเราอ่ะไปจ่าย วันที่ 27 มี.ค. แน๊ๆๆๆๆๆ นางมารู้ดีกว่าคนทำธุรกรรม แล้วยังมาบอกอีก ว่าแบบนี้แหละค่ะวันหลังอย่าไปจ่ายซ้ำนะคะ
เราขอยกเลิกการชำระ 1 ยอดจะไปขอเงินคืนที่เคาน์เตอร์ นางบอกขอรับเงินคืนไม่ได้ เราเลยถามแล้วต้องทำไง เพราะเราไม่ต้องการให้มียอดการชำระเงินล่วงหน้าในระบบ เราต้องการไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ตามรอบเดือนที่มีค่าบริการเพื่อที่จะได้นำใบเสร็จรับเงินไปเบิกกับที่ทำงานได้ ซึ่งถ้ามันขึ้นว่าเป็นการชำระเงินล่วงหน้าจะเบิกไม่ได้ นางบอกนางจะทำเรื่องขอเงินคืนจากบัตรเครดิตให้
เราแจ้งยกเลิกการตัดผ่านบัตรเครดิตด้วย นางบอกว่าถ้าแจ้งยกเลิกการตัดบัตรเครดิตตอนนี้ ยอดเงินที่ขอคืนจะไม่เข้า อย่าเพิ่งแจ้ง ให้เงินคืนเข้ามาก่อน แล้วค่อยโทรมาแจ้งใหม่ นางไม่สามารถทำเรื่องให้อัตโนมัติได้ การคืนยอดใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เราเลยถามว่า กว่ายอดเงินจะคืนมา invoice รอบใหม่ก็มาแล้วป่ะ ก็กลายเป็นเราจ่ายเงินล่วงหน้าอีก ต้องโทรมาใหม่แบบนี้อีกป่ะ นางบอกว่าสามารถแจ้งเร่งให้ทำการด่วนได้ เราก็บอกงั้นขอด่วนค่ะ เพื่อจะได้ไม่ทับรอบกัน แล้ววางสายกันไป
ช่วงที่ 3 ยังติดใจอยู่เลยโทรไปใหม่หลังจากวางสายคนแรกไปไม่ถึง 10 นาที คนรับสายคนที่สองเป็นผู้ชาย ต้องเล่าเรื่องใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ฮีบอกว่า เราจ่ายด้วยตนเองวันที่ 24 จริง และในวันเดียวกันระบบทำเรื่องตั้งจ่ายตัดบัตรแล้ว เพื่อไปตัดบัตรวันที่ 27 เลยกลายเป็นว่าวันที่เราไปจ่ายเองมันเป็นวันเดียวกันกับที่ระบบตั้งจ่าย เลยทำให้เกิดการตัดยอดซ้ำซ้อน และพนักงานคนก่อนหน้านี้ก็ได้แจ้งขอคืนยอดผ่านบัตรให้เรียบร้อยแล้ว
เราถามว่าปกติถ้าเราจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ มันจะไม่ตัดผ่านบัตรซ้ำ ถ้าอย่างนั้นเราต้องจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ก่อนวันที่เท่าไหร่สำหรับเดือนหน้า เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ฮีไปเช็คระบบแล้วตอบกลับมาว่าก่อนวันที่ 20 เดือนหน้า เราก็โอเค จัดว่าแฮปปี้ เพราะเท่ากับถ้าเป็นไปตามที่สองสายด้านบนแจ้งมา เราก็เข้าสู่โหมดปกติ คือ invoice มาก็ไปจ่ายตังค์ ได้ใบเสร็จไปเบิกที่ทำงาน พอได้เงินคืนผ่านบัตรก็โทรไปแจ้งยกเลิกการตัดบัตรเครดิตอีกครั้ง จบ
วันที่ 10 เม.ย. เราเช็คยอดเงินคืนผ่านบัตรเครดิตจากเว็บไซต์ CITIBANK ยังไม่มียอดเข้า
วันที่ 12 เม.ย. มี e Invoice มาแจ้งยอดค่าบริการ บอกว่าได้ชำระล่วงหน้าไปแล้ว ไม่ต้องจ่าย เราเลยโทรไปหา call center ว่าเรื่องเงินคืนผ่านบัตรไปถึงไหนแล้ว ชีผู้รับสายบอกว่าติดต่อหน้าเคาน์เตอร์ เราถามว่า อะไรติดต่อหน้าเคาน์เตอร์ ครั้งที่แล้วบอกคืนเงินหน้าเคาน์เตอร์ไม่ได้ไง นางบอก บันทึกครั้งล่าสุดบันทึกไว้ว่าติดต่อหน้าเคาน์เตอร์ เพราะการแจ้งขอเงินคืนผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพได้มีการยกเลิกไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย. เนื่องจากข้อมูลไม่ชัดเจน
เราบอกไม่ใช่บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพค่ะ แต่เป็น CITIBANK นางยังคงเถียงว่าแล้วทำไมมีการบันทึกว่าบัตรธนาคารกรุงเทพล่ะคะ จึงบอกไปว่าเราไม่มีบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพค่ะ แล้วข้อมูลที่ว่าไม่ชัดเจนเลยยกเลิกการคืนเงิน ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่โทรมาถามคะ คอมเพลนเจ้าหน้าที่คนเก่าได้ไหมคะ ต้องทำผ่านทางไหน นางบอกได้ค่ะ ผ่านทางนางได้เลย
แล้วเราก็ต้องเล่าเรื่องใหม่ทั้งหมดอีกเป็นรอบที่ 3 ว่าเรื่องราวเป็นไง และเราต้องการอะไร นางบอกถ้างั้นก็แค่แจ้งขอใบเสร็จรับเงินเป็นกรณีพิเศษค่ะ มันจะไม่ขึ้นว่าชำระมาล่วงหน้า เราก็โอเค
ใจจริงอยากถามว่าแล้วทำไมสองคนก่อนหน้านี้ไม่แนะนำแบบนี้แต่ถามไปเค้าคงตอบแทนกันไม่ได้ เราก็เลยถามว่าแล้วทำไมถึงไม่แนะนำแบบเจ้าหน้าที่สองท่านที่เคยคุยกับเราก่อนหน้านี้ จริงๆ วิธีที่นางบอกมันง่ายกว่ามากๆ เลย แล้วเราก็จะสามาถแจ้งยกเลิกการตัดเงินผ่านบัตรเครดิตได้ตั้งแต่ครั้งที่แล้วเลย
นางบอก งั้นขออนุญาตติดต่อกลับได้ไหม นางขอประสานงานกับเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้ก่อน เราก็ถามว่าแล้วจะโทรมาหาเราเพื่อแจ้งว่าอะไร ในเมื่อคุณบอกว่าถ้าเราขอใบเสร็จรับเงินกรณีพิเศษ ก็จะได้สิ่งที่เราต้องการแล้ว ทำไมต้องโทรมาอีก นางบอกขอประสานงานก่อนไล่เรื่องราวใหม่หมดตั้งแต่ต้น เราบอก ที่เราเล่าไปไม่พอหรอ เพราะเราเล่าค่อนข้างละเอียดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับพนักงานมากที่สุด แต่นางแจ้งว่ายังไงก็จะขอโทรกลับ เราก็วางไป
ประมาณ 10 นาที นางโทรกลับมา ขออธิบายเหตุการณ์ คือนางอธิบายเหตุการณ์เหมือนคนที่สองคือ เราไปจ่ายมาจริง และบัตรไปตัดซ้ำมาจริงเป็นความผิดพลาดของระบบเองต้องขอโทษด้วย ระบบใหม่จะตัดบัตรเครดิตถึงแม้จะมีการจ่ายเงินไปแล้ว
เราก็ถามว่าถ้าเดือนหน้าเราไปจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ก็ตัดหรอ เพราะที่ผ่านมา เราไปจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ไม่เคยมีการตัดเงินซ้ำ นางบอกนั่นระบบเก่าค่ะ นี่ระบบใหม่ ยังไงก็ตัด จ่ายวันไหนก็ตัด เราเลยถามสรุปคือ เดือนนี้เราแค่ขอใบเสร็จรับเงินกรณีพิเศษ จะไม่มีขึ้นว่าชำระล่วงหน้า คือจบแล้วใช่ไหม นางบอกใช่ เราก็โอเค ถ้างั้นเรายกเลิกการตัดบัตรเครดิตเลย ในเมื่อจะไม่มีการคืนเงินตามที่แจ้งมาตอนแรกแล้ว นางบอก แจ้งยกเลิกบัตรเครดิต ใช้เวลา 3 รอบบิลนะคะ เราก็ อ้าว ถ้างั้นคือเราต้องโทรมาแจ้งขอใบเสร็จกรณีพิเศษไปอีก 3-4 เดือนเลย?? นางบอกค่ะ
เราเลยถามว่าถ้าเราต้องการยกเลิกการตัดบัตรเครดิตทันทีหรือแค่ภายใน 1 รอบบิลมีทางเดียวคือเปลี่ยนค่ายใช่ไหม เพื่อตัดไม่ให้มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น นางบอกค่ะ สามารถติดต่อที่สำนักงานใหญ่ได้เลย เราเลยถามว่า ที่จามจุรีสแควร์อะนะคะ แล้วต้องไปวันธรรมดาด้วยป่ะ นางบอกทำการทุกวันค่ะ ได้หมด ที่บางนาก็ได้ เราก็อ้อ (คิดในใจ นั่นเรียกว่าสาขาใหญ่ว้อย สำนักงานใหญ่มันคือจามจุรีสแควร์)
เราบอกถ้างั้นช่วย note ด้วยนะคะ ว่าเดือนหน้าก็จะโทรมาขอใบเสร็จกรณีพิเศษอีก นางบอกโน๊ตไว้พนักงานก็ทำให้ไม่ได้ค่ะกรณีเดือนหน้า ต้องโทรมาใหม่ เราบอกแค่ขอให้โน๊ตไว้ว่าจะโทรมาอีกเรื่องนี้ พนักงานก็ยังยืนยัน ว่าโน๊ตไว้ก็เท่านั้นแหละค่ะ เราเลยบอกค่ะ แค่จะให้โน๊ตไว้จะได้ไม่ต้องเล่าอะไรใหม่ เข้าใจค่ะว่าที่นี่ลูกค้าต้องแมนนวลเองทุกอย่าง ทุกเดือน นางบอกค่ะ
จบ
สรุปเลิกใช้เพราะ
1. ระบบห่วยมาก จ่ายเงินไปแล้วก็ตัดบัตรเครดิตไปซ้ำอีก
2. ระบบตัดบัตรเครดิต กว่าจะส่งใบเสร็จรับเงินมาที่บ้านรอไปดิอีก 2-3 เดือน คือต้องการใบเสร็จภายในเดือนที่จ่ายเพื่อเอาไปเบิกที่ทำงาน
3. ถ้าต้องการใบเสร็จภายในเดือนจากการตัดบัตรเครดิต คือต้องโทรไป call center ทุกเดือน เพื่อขอใบเสร็จรับเงินกรณีพิเศษ หลายๆ คนน่าจะมีประสบการณ์การโทรหา call center ทุกแบรนด์น่าจะเหมือนกัน คือกว่าจะได้คุยเพื่อแจ้งเรื่องที่ต้องการ รอไปดิ 5 นาที แล้วต้องทำแบบนี้ทุกเดือน คนอื่นอาจไม่รู้สึกไร แต่เราไม่โอเค
4. ยกเลิกการตัดเงินบัตรเครดิต ใช้เวลา 3 รอบบิล = ประมาณ 3 เดือน นานไปป่ะ รอบบิลเดียวคือยังโอเคนะ
5. เรื่องที่ลูกค้าขอดำเนินการไปถูกยกเลิกทำไมไม่มีการโทรมาแจ้งลูกค้า เรื่องเงินๆ ทองๆ ด้วย
6. Call center 3 คนตอบไม่เหมือนกันสักคน อย่างน้อยต้องมีรายละเอียดไรสักอย่างที่แตกต่างออกไป น้ำเสียงและวิธีการตอบน่าตบมาก คนแรกเถียงตลอด อ่านข้อมูลไม่ถูกต้องยังจะมาเถียงคนทำธุรกรรม มีแค่คนที่สองที่เป็นผู้ชายที่พูดดี ช่วยหาวิธีแก้ปัญหา คนที่สามนี่พูดแทรกตลอดเรายังพูดไม่จบ หลายครั้งจนเราต้องบอก เชิญค่ะ พูดก่อนเลย
7. อันนี้รู้สึกมานานแล้วแต่ขี้เกียจไปทำเรื่องย้ายค่ายและคิดว่ายังพอทนได้ คืออินเตอร์เน็ตช้ามาก หอยทากเรียกดีแทคว่าป้าได้เลยค่ะ
[CR] ลากันที DTAC feel good เพราะเราว่ามัน feel กากมากกว่า จ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ไปแล้วยังมาตัดบัตรเครดิตซ้อนอีก
วันที่ 24 มี.ค. ไปจ่ายเงินค่าบริการที่หน้าเคาท์เตอร์ สังเกตุเห็นใน invoice เขียนว่าเป็นชำระล่วงหน้า แต่หน้าเคาเตอร์รูดเงินผ่านบัตรเครดิตไปยอดถูกต้องตาม invoice แม้กระทั่งเศษสตางค์ เลยถามเคาน์เตอร์ว่าทำไมขึ้นว่าชำระล่วงหน้า เพราะนี่ก็ชำระตาม invoice ที่แจ้งมาเลยนะ เคาน์เตอร์ตอบว่าเป็นที่ระบบค่ะ และเป็นกับบางเบอร์ เราเลยไม่ติดใจอะไร บอกให้เค้าเขียนมาให้หน้าใบเสร็จด้วยว่า ไม่ได้เป็นการชำระล่วงหน้า แต่เป็นการชำระค่าบริการตามรอบ invoice จริง เพื่อจะได้นำไปเบิกกับที่ทำงานได้
วันที่ 30 มี.ค. มี sms จากดีแทคมาแจ้งว่า ขอบคุณที่ชำระค่าบริการผ่านทางการตัดบัตรเครดิต เมื่อ 27 มี.ค. เราจำได้ว่าไม่ได้ชำระเมื่อวันที่ 27 นี่น่า เอะใจนิดนึง
วันที่ 31 มี.ค.
ช่วงที่ 1 โทรไปหา call center บัตรเครดิต CITIBANK เพื่อถามว่ามี 2 transaction ใช่หรือไม่ นางบอกว่ามียอดเรียกเก็บผ่านบัตรเครดิต 2 ครั้งจริง เราแจ้งว่าได้มีการยกเลิกการตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติไปนานแล้วทำไมยังตัดอยู่ นางบอกว่าของทางนี้นางตัดแล้ว เราต้องโทรไปยกเลิกกับ DTAC เอง นางตัดส่วนนี้ให้ไม่ได้
ช่วงที่ 2 โทรไปหา call center ว่า sms ที่เพิ่งได้รับนี่หมายถึงมีการจ่ายเบิ้ลใช่ไหม คนรับสายคนแรกเป็นผู้หญิงตอบว่าใช่ เราถามเกิดจากอะไร เพราะที่ผ่านมาถ้าไปจ่ายที่หน้าเคาน์เตอร์แล้ว ก็จะไม่มีการตัดผ่านบัตรเครดิตซ้ำ นางตอบว่า วันที่ 24 มี.ค. เป็นการตัดบัตรเครดิต แล้วเราอ่ะไปจ่าย วันที่ 27 มี.ค. แน๊ๆๆๆๆๆ นางมารู้ดีกว่าคนทำธุรกรรม แล้วยังมาบอกอีก ว่าแบบนี้แหละค่ะวันหลังอย่าไปจ่ายซ้ำนะคะ
เราขอยกเลิกการชำระ 1 ยอดจะไปขอเงินคืนที่เคาน์เตอร์ นางบอกขอรับเงินคืนไม่ได้ เราเลยถามแล้วต้องทำไง เพราะเราไม่ต้องการให้มียอดการชำระเงินล่วงหน้าในระบบ เราต้องการไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ตามรอบเดือนที่มีค่าบริการเพื่อที่จะได้นำใบเสร็จรับเงินไปเบิกกับที่ทำงานได้ ซึ่งถ้ามันขึ้นว่าเป็นการชำระเงินล่วงหน้าจะเบิกไม่ได้ นางบอกนางจะทำเรื่องขอเงินคืนจากบัตรเครดิตให้
เราแจ้งยกเลิกการตัดผ่านบัตรเครดิตด้วย นางบอกว่าถ้าแจ้งยกเลิกการตัดบัตรเครดิตตอนนี้ ยอดเงินที่ขอคืนจะไม่เข้า อย่าเพิ่งแจ้ง ให้เงินคืนเข้ามาก่อน แล้วค่อยโทรมาแจ้งใหม่ นางไม่สามารถทำเรื่องให้อัตโนมัติได้ การคืนยอดใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เราเลยถามว่า กว่ายอดเงินจะคืนมา invoice รอบใหม่ก็มาแล้วป่ะ ก็กลายเป็นเราจ่ายเงินล่วงหน้าอีก ต้องโทรมาใหม่แบบนี้อีกป่ะ นางบอกว่าสามารถแจ้งเร่งให้ทำการด่วนได้ เราก็บอกงั้นขอด่วนค่ะ เพื่อจะได้ไม่ทับรอบกัน แล้ววางสายกันไป
ช่วงที่ 3 ยังติดใจอยู่เลยโทรไปใหม่หลังจากวางสายคนแรกไปไม่ถึง 10 นาที คนรับสายคนที่สองเป็นผู้ชาย ต้องเล่าเรื่องใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ฮีบอกว่า เราจ่ายด้วยตนเองวันที่ 24 จริง และในวันเดียวกันระบบทำเรื่องตั้งจ่ายตัดบัตรแล้ว เพื่อไปตัดบัตรวันที่ 27 เลยกลายเป็นว่าวันที่เราไปจ่ายเองมันเป็นวันเดียวกันกับที่ระบบตั้งจ่าย เลยทำให้เกิดการตัดยอดซ้ำซ้อน และพนักงานคนก่อนหน้านี้ก็ได้แจ้งขอคืนยอดผ่านบัตรให้เรียบร้อยแล้ว
เราถามว่าปกติถ้าเราจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ มันจะไม่ตัดผ่านบัตรซ้ำ ถ้าอย่างนั้นเราต้องจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ก่อนวันที่เท่าไหร่สำหรับเดือนหน้า เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ฮีไปเช็คระบบแล้วตอบกลับมาว่าก่อนวันที่ 20 เดือนหน้า เราก็โอเค จัดว่าแฮปปี้ เพราะเท่ากับถ้าเป็นไปตามที่สองสายด้านบนแจ้งมา เราก็เข้าสู่โหมดปกติ คือ invoice มาก็ไปจ่ายตังค์ ได้ใบเสร็จไปเบิกที่ทำงาน พอได้เงินคืนผ่านบัตรก็โทรไปแจ้งยกเลิกการตัดบัตรเครดิตอีกครั้ง จบ
วันที่ 10 เม.ย. เราเช็คยอดเงินคืนผ่านบัตรเครดิตจากเว็บไซต์ CITIBANK ยังไม่มียอดเข้า
วันที่ 12 เม.ย. มี e Invoice มาแจ้งยอดค่าบริการ บอกว่าได้ชำระล่วงหน้าไปแล้ว ไม่ต้องจ่าย เราเลยโทรไปหา call center ว่าเรื่องเงินคืนผ่านบัตรไปถึงไหนแล้ว ชีผู้รับสายบอกว่าติดต่อหน้าเคาน์เตอร์ เราถามว่า อะไรติดต่อหน้าเคาน์เตอร์ ครั้งที่แล้วบอกคืนเงินหน้าเคาน์เตอร์ไม่ได้ไง นางบอก บันทึกครั้งล่าสุดบันทึกไว้ว่าติดต่อหน้าเคาน์เตอร์ เพราะการแจ้งขอเงินคืนผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพได้มีการยกเลิกไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย. เนื่องจากข้อมูลไม่ชัดเจน
เราบอกไม่ใช่บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพค่ะ แต่เป็น CITIBANK นางยังคงเถียงว่าแล้วทำไมมีการบันทึกว่าบัตรธนาคารกรุงเทพล่ะคะ จึงบอกไปว่าเราไม่มีบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพค่ะ แล้วข้อมูลที่ว่าไม่ชัดเจนเลยยกเลิกการคืนเงิน ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่โทรมาถามคะ คอมเพลนเจ้าหน้าที่คนเก่าได้ไหมคะ ต้องทำผ่านทางไหน นางบอกได้ค่ะ ผ่านทางนางได้เลย
แล้วเราก็ต้องเล่าเรื่องใหม่ทั้งหมดอีกเป็นรอบที่ 3 ว่าเรื่องราวเป็นไง และเราต้องการอะไร นางบอกถ้างั้นก็แค่แจ้งขอใบเสร็จรับเงินเป็นกรณีพิเศษค่ะ มันจะไม่ขึ้นว่าชำระมาล่วงหน้า เราก็โอเค
ใจจริงอยากถามว่าแล้วทำไมสองคนก่อนหน้านี้ไม่แนะนำแบบนี้แต่ถามไปเค้าคงตอบแทนกันไม่ได้ เราก็เลยถามว่าแล้วทำไมถึงไม่แนะนำแบบเจ้าหน้าที่สองท่านที่เคยคุยกับเราก่อนหน้านี้ จริงๆ วิธีที่นางบอกมันง่ายกว่ามากๆ เลย แล้วเราก็จะสามาถแจ้งยกเลิกการตัดเงินผ่านบัตรเครดิตได้ตั้งแต่ครั้งที่แล้วเลย
นางบอก งั้นขออนุญาตติดต่อกลับได้ไหม นางขอประสานงานกับเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้ก่อน เราก็ถามว่าแล้วจะโทรมาหาเราเพื่อแจ้งว่าอะไร ในเมื่อคุณบอกว่าถ้าเราขอใบเสร็จรับเงินกรณีพิเศษ ก็จะได้สิ่งที่เราต้องการแล้ว ทำไมต้องโทรมาอีก นางบอกขอประสานงานก่อนไล่เรื่องราวใหม่หมดตั้งแต่ต้น เราบอก ที่เราเล่าไปไม่พอหรอ เพราะเราเล่าค่อนข้างละเอียดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับพนักงานมากที่สุด แต่นางแจ้งว่ายังไงก็จะขอโทรกลับ เราก็วางไป
ประมาณ 10 นาที นางโทรกลับมา ขออธิบายเหตุการณ์ คือนางอธิบายเหตุการณ์เหมือนคนที่สองคือ เราไปจ่ายมาจริง และบัตรไปตัดซ้ำมาจริงเป็นความผิดพลาดของระบบเองต้องขอโทษด้วย ระบบใหม่จะตัดบัตรเครดิตถึงแม้จะมีการจ่ายเงินไปแล้ว
เราก็ถามว่าถ้าเดือนหน้าเราไปจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ก็ตัดหรอ เพราะที่ผ่านมา เราไปจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ไม่เคยมีการตัดเงินซ้ำ นางบอกนั่นระบบเก่าค่ะ นี่ระบบใหม่ ยังไงก็ตัด จ่ายวันไหนก็ตัด เราเลยถามสรุปคือ เดือนนี้เราแค่ขอใบเสร็จรับเงินกรณีพิเศษ จะไม่มีขึ้นว่าชำระล่วงหน้า คือจบแล้วใช่ไหม นางบอกใช่ เราก็โอเค ถ้างั้นเรายกเลิกการตัดบัตรเครดิตเลย ในเมื่อจะไม่มีการคืนเงินตามที่แจ้งมาตอนแรกแล้ว นางบอก แจ้งยกเลิกบัตรเครดิต ใช้เวลา 3 รอบบิลนะคะ เราก็ อ้าว ถ้างั้นคือเราต้องโทรมาแจ้งขอใบเสร็จกรณีพิเศษไปอีก 3-4 เดือนเลย?? นางบอกค่ะ
เราเลยถามว่าถ้าเราต้องการยกเลิกการตัดบัตรเครดิตทันทีหรือแค่ภายใน 1 รอบบิลมีทางเดียวคือเปลี่ยนค่ายใช่ไหม เพื่อตัดไม่ให้มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น นางบอกค่ะ สามารถติดต่อที่สำนักงานใหญ่ได้เลย เราเลยถามว่า ที่จามจุรีสแควร์อะนะคะ แล้วต้องไปวันธรรมดาด้วยป่ะ นางบอกทำการทุกวันค่ะ ได้หมด ที่บางนาก็ได้ เราก็อ้อ (คิดในใจ นั่นเรียกว่าสาขาใหญ่ว้อย สำนักงานใหญ่มันคือจามจุรีสแควร์)
เราบอกถ้างั้นช่วย note ด้วยนะคะ ว่าเดือนหน้าก็จะโทรมาขอใบเสร็จกรณีพิเศษอีก นางบอกโน๊ตไว้พนักงานก็ทำให้ไม่ได้ค่ะกรณีเดือนหน้า ต้องโทรมาใหม่ เราบอกแค่ขอให้โน๊ตไว้ว่าจะโทรมาอีกเรื่องนี้ พนักงานก็ยังยืนยัน ว่าโน๊ตไว้ก็เท่านั้นแหละค่ะ เราเลยบอกค่ะ แค่จะให้โน๊ตไว้จะได้ไม่ต้องเล่าอะไรใหม่ เข้าใจค่ะว่าที่นี่ลูกค้าต้องแมนนวลเองทุกอย่าง ทุกเดือน นางบอกค่ะ
จบ
สรุปเลิกใช้เพราะ
1. ระบบห่วยมาก จ่ายเงินไปแล้วก็ตัดบัตรเครดิตไปซ้ำอีก
2. ระบบตัดบัตรเครดิต กว่าจะส่งใบเสร็จรับเงินมาที่บ้านรอไปดิอีก 2-3 เดือน คือต้องการใบเสร็จภายในเดือนที่จ่ายเพื่อเอาไปเบิกที่ทำงาน
3. ถ้าต้องการใบเสร็จภายในเดือนจากการตัดบัตรเครดิต คือต้องโทรไป call center ทุกเดือน เพื่อขอใบเสร็จรับเงินกรณีพิเศษ หลายๆ คนน่าจะมีประสบการณ์การโทรหา call center ทุกแบรนด์น่าจะเหมือนกัน คือกว่าจะได้คุยเพื่อแจ้งเรื่องที่ต้องการ รอไปดิ 5 นาที แล้วต้องทำแบบนี้ทุกเดือน คนอื่นอาจไม่รู้สึกไร แต่เราไม่โอเค
4. ยกเลิกการตัดเงินบัตรเครดิต ใช้เวลา 3 รอบบิล = ประมาณ 3 เดือน นานไปป่ะ รอบบิลเดียวคือยังโอเคนะ
5. เรื่องที่ลูกค้าขอดำเนินการไปถูกยกเลิกทำไมไม่มีการโทรมาแจ้งลูกค้า เรื่องเงินๆ ทองๆ ด้วย
6. Call center 3 คนตอบไม่เหมือนกันสักคน อย่างน้อยต้องมีรายละเอียดไรสักอย่างที่แตกต่างออกไป น้ำเสียงและวิธีการตอบน่าตบมาก คนแรกเถียงตลอด อ่านข้อมูลไม่ถูกต้องยังจะมาเถียงคนทำธุรกรรม มีแค่คนที่สองที่เป็นผู้ชายที่พูดดี ช่วยหาวิธีแก้ปัญหา คนที่สามนี่พูดแทรกตลอดเรายังพูดไม่จบ หลายครั้งจนเราต้องบอก เชิญค่ะ พูดก่อนเลย
7. อันนี้รู้สึกมานานแล้วแต่ขี้เกียจไปทำเรื่องย้ายค่ายและคิดว่ายังพอทนได้ คืออินเตอร์เน็ตช้ามาก หอยทากเรียกดีแทคว่าป้าได้เลยค่ะ