ผมอยากจะให้เรื่องของผมเป็นกรณีศึกษาครับ เหตุการณ์นี้เกิดในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 10เมษายน2558 เวลาประมาณ 20.30น. ผมได้ขี่จักรยานยนต์ Scoopy-i (น้ำเงิน)มาจากจุดเริ่มต้นในแผนที่ จนมาถึงจุดแดง ก็มีรถจักรยานยนต์ wave100(แดง) ขี่ย้อนศรมาชน หลังจากชน ตัวผมบาดเจ็บเล็กน้อยคือมีแผลถลอกเล็กๆตามร่างกาย ส่วนรถผมก็มีชิ้นส่วนแตกเสียหายเล็กน้อย เมื่อผมลุกขึ้นมาได้ก็เข้าไปพูดคุยกับคู่กรณีและมีการโต้เถียงกันเนื่องจากคู่กรณีไม่ยอมรับผิดฝ่ายเดียว กล่าวหาว่าผมขี่เร็วเกิน เขาจึงหลบไม่ทัน ให้ต่างคนต่างซ่อมแล้วจบกันไป แต่ผมไม่ยอมเขาจึงโทรตามคนที่บ้านมา ผมก็โทรตามพ่อผมมาเพื่อประเมินค่าเสียหาย(ที่บ้านผมเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ครับ) ณ จุดนี้ผมรู้สึกโมโหมากเพราะคู่กรณีผิดเต็มๆแต่ไม่ขอโทษผมซักคำ
หลังจากนั้นพักนึง ทางบ้านของคู่กรณีมาถึง ผมจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เมื่อฟังจบเขาขอโทษผมทันที ผมก็เลยบอกกับทางบ้านของคู่กรณีว่า ผมจะขอให้เขาชดใช้เฉพาะชิ้นส่วนที่แตกหักชัดเจน ซึ่งประกอบด้วย ไฟเลี้ยวหน้าขวา พื้นเหยียบชิ้นบน และล่าง ส่วนที่เป็นรอยนิดหน่อยผมไม่คิด หลังจากประเมินราคาแล้ว ตกลงกันที่ 1,000 บาท เรื่องก็น่าจะจบลงตรงนี้แล้ว
แต่มันไม่จบครับ เพราะไทยมุงไม่ยอม กล่าวหาว่าผมขี่รถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด แถมยุให้คู่กรณีเรียกตำรวจ แล้วพวกไทยมุงจะมาเป็นพยานเล่นงานผมเรื่องขี่รถเร็ว ดูท่าทางคู่กรณีจะยุขึ้นด้วย ผมจึงเข้าไปคุยกับกรณีอีกครั้งว่า ถ้าเรื่องถึงตำรวจ รถจะถูกยกไป จะโดนค่าดูแลอีกคันละ500 หลังจากนั้นก็ต้องมาชดใช้ผมอยู่ดี คู่กรณีจึงเสนอว่า” เขาขอแล้วกัน 600 บาท แล้วจบ” ผมเห็นว่าเดี๋ยวมันจะเลยเถิดไปกันใหญ่ มืดแล้วด้วย ก็เลยยอม แล้วก็แยกย้าย
หลังจากนั้นด้วยความข้องใจเรื่องความเร็ว ในการขี่ของผม เช้าวันนี้ผมจึงนำรถคันเดิมมาทดสอบ ณ จุดเกิดเหตุ ขี่ยังไงScoopy-iเดิมๆก็ทำความเร็วได้ไม่ถึง 80km/hr
ผมจึงอยากขอร้องท่านไทยมุงทั้งหลายครับ อย่าใช้ความรู้สึกตัวเองมาตัดสินอะไรอีก บางครั้งท่านทำไปด้วยความไม่รู้ แต่เกือบทำให้คู่กรณีผมเสียหายถูกนำรถไปจอดโรงพัก เพียงเพื่อต้องการให้ผมถูกตั้งข้อหาขี่รถเร็ว
คราวหน้าถ้าพวกท่านมามุงอีก...อย่าเผือกอีกนะครับถ้าท่านไม่รู้จริง ขอบคุณครับ
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ขอความกรุณาไทยมุงทั้งหลาย ถ้าท่านไม่รู้อะไรเลย......อย่าเผือก!!!!!!!!!
ผมอยากจะให้เรื่องของผมเป็นกรณีศึกษาครับ เหตุการณ์นี้เกิดในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 10เมษายน2558 เวลาประมาณ 20.30น. ผมได้ขี่จักรยานยนต์ Scoopy-i (น้ำเงิน)มาจากจุดเริ่มต้นในแผนที่ จนมาถึงจุดแดง ก็มีรถจักรยานยนต์ wave100(แดง) ขี่ย้อนศรมาชน หลังจากชน ตัวผมบาดเจ็บเล็กน้อยคือมีแผลถลอกเล็กๆตามร่างกาย ส่วนรถผมก็มีชิ้นส่วนแตกเสียหายเล็กน้อย เมื่อผมลุกขึ้นมาได้ก็เข้าไปพูดคุยกับคู่กรณีและมีการโต้เถียงกันเนื่องจากคู่กรณีไม่ยอมรับผิดฝ่ายเดียว กล่าวหาว่าผมขี่เร็วเกิน เขาจึงหลบไม่ทัน ให้ต่างคนต่างซ่อมแล้วจบกันไป แต่ผมไม่ยอมเขาจึงโทรตามคนที่บ้านมา ผมก็โทรตามพ่อผมมาเพื่อประเมินค่าเสียหาย(ที่บ้านผมเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ครับ) ณ จุดนี้ผมรู้สึกโมโหมากเพราะคู่กรณีผิดเต็มๆแต่ไม่ขอโทษผมซักคำ
หลังจากนั้นพักนึง ทางบ้านของคู่กรณีมาถึง ผมจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เมื่อฟังจบเขาขอโทษผมทันที ผมก็เลยบอกกับทางบ้านของคู่กรณีว่า ผมจะขอให้เขาชดใช้เฉพาะชิ้นส่วนที่แตกหักชัดเจน ซึ่งประกอบด้วย ไฟเลี้ยวหน้าขวา พื้นเหยียบชิ้นบน และล่าง ส่วนที่เป็นรอยนิดหน่อยผมไม่คิด หลังจากประเมินราคาแล้ว ตกลงกันที่ 1,000 บาท เรื่องก็น่าจะจบลงตรงนี้แล้ว
แต่มันไม่จบครับ เพราะไทยมุงไม่ยอม กล่าวหาว่าผมขี่รถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด แถมยุให้คู่กรณีเรียกตำรวจ แล้วพวกไทยมุงจะมาเป็นพยานเล่นงานผมเรื่องขี่รถเร็ว ดูท่าทางคู่กรณีจะยุขึ้นด้วย ผมจึงเข้าไปคุยกับกรณีอีกครั้งว่า ถ้าเรื่องถึงตำรวจ รถจะถูกยกไป จะโดนค่าดูแลอีกคันละ500 หลังจากนั้นก็ต้องมาชดใช้ผมอยู่ดี คู่กรณีจึงเสนอว่า” เขาขอแล้วกัน 600 บาท แล้วจบ” ผมเห็นว่าเดี๋ยวมันจะเลยเถิดไปกันใหญ่ มืดแล้วด้วย ก็เลยยอม แล้วก็แยกย้าย
หลังจากนั้นด้วยความข้องใจเรื่องความเร็ว ในการขี่ของผม เช้าวันนี้ผมจึงนำรถคันเดิมมาทดสอบ ณ จุดเกิดเหตุ ขี่ยังไงScoopy-iเดิมๆก็ทำความเร็วได้ไม่ถึง 80km/hr
ผมจึงอยากขอร้องท่านไทยมุงทั้งหลายครับ อย่าใช้ความรู้สึกตัวเองมาตัดสินอะไรอีก บางครั้งท่านทำไปด้วยความไม่รู้ แต่เกือบทำให้คู่กรณีผมเสียหายถูกนำรถไปจอดโรงพัก เพียงเพื่อต้องการให้ผมถูกตั้งข้อหาขี่รถเร็ว คราวหน้าถ้าพวกท่านมามุงอีก...อย่าเผือกอีกนะครับถ้าท่านไม่รู้จริง ขอบคุณครับ