คือสงสัยว่า ถ้าเราเป็นเกษตรกร
ถูกชักจูงโดยนายทุนตลอด สังเกตุง่ายๆว่า
พื้นที่ไหนๆ จะปลูกพืชจะเลี้ยงสัตว์อะไร ก็จะปลูก เลี้ยงตามที่เขาตั้งศูนย์รับซื้อ
เกษตรกรจะปลูกแต่พืชตลาดพื้นๆ ไม่มีความหลากหลาย เช่นแถวอีสาน แถวสระแก้ว ไร่อ้อย ปลูกมัน
ปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด แต่พืชผัก เนื้อสัตว์อื่นๆก็ไปสั่งซื้อที่ตลาด ก็มาจากที่อื่น
เกษตรกรก็ไม่ค่อยมีทางเลือก เพราะปลูกพืชพื้นๆมีตลาดรองรับแน่นอน แต่อาจได้ผลตอบแทนต่ำ
และต้นทุนผลิตสูง
ทีนี้ ผมสงสัยว่า ในเมื่อการเกษตรต้องใข้ การตลาดนำ มีแต่คนพูดลอยๆ เพ้อๆ
ในนิตยสาร ในเว็บไซด์ ในข่าวทีวี เกษตรกรตัวอย่างที่ร่ำรวย สังเกตุมักจะเป็นคนรุ่นใหม่ มีการศึกษา ใช้เทคโนโลยี
อินเตอร์เน็ทเป็น มีเครือข่ายกว้างขวาง...แล้วคำที่ว่าการตลาดนำ ต้องหาตลาด
มันคืออัลไล???? ต้องไปตลาดสด หรือ ตลาดไท สี่มุมเมือง
ถ้ามีเว็บไซด์ที่เป็นสื่อกลาง ซื้อขาย สินค้าเกษตร เหมือนเว็บขายของ olx ,pantipmarket ทั้งล่วงหน้า(สั่งซื้อก่อนปลูก) , ปัจจุบัน
เช่น สมมติฝั่งผู้ซื้อเป็นร้านทำน้ำผลไม้บรรจุขวดขายส่งที่อยู่ขอนแก่น ต้องการเสาวรส วันละ 100kg ทุกวัน ในราคา....บาท
ก็ตั้งกระทู้ไว้ที่กระดาน "อยากซื้อ"
ส่วนผู้ขายเป็นชาวไร่ ชาวสวน สมมติผมเป็นเกษตรกรสมัครเล่น มีที่แล้วยังไม่รู้จะปลูกอะไร ไปเจอโพสนี้
ก็ลองติดต่อคุยกัน contact กัน ผมก็มั่นใจว่ามีตลาดรับซื้อแร่ะ แต่อาจจะยังเสี่ยงที่ตลาดผู้ซื้อน้อยราย
ผมก็อาจจะไปติดต่ออีกหลายเจ้าเผื่อผลผลิตมันเยอะเกินกว่าร้านขายน้ำนี้จะรับได้ ทีนี้ผมก้อเริ่มวางแผนการปลูก
และพอผลผลิตออกมา ปรากฏมันเยอะเกิน ผลผลิตอุดมสมบูรณ์มาก เหลือ ก็รีบมาลง กระทู้ "อยากขาย"
ในเว็บอาจจะจัดแบ่ง หมวดหมู่ ตามความเหมาะสม แบ่งเป็น
ตลาดขายส่ง, ตลาดขายปลีก ,ตลาดส่งนอก
หรือแบ่งตามโซน ภูมิภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล
การมีเว็บไซด์เป็นสื่อกลาง ทำให้สะดวกมากขึ้นมากๆ เพราะ บางทีเกษตรกร อาจจะขี้อายที่จะไปติดต่อ
โดยตรง หรือยากที่ผู้ซื้อ ผู้ขาย จะมาเจอกัน เพราะอยู่คนละที่ และบางทีผู้ขายก็ไม่มีทางรู้ว่ามีใครอยากซื้ออะไร
ให้เว็บไซด์เป็นสื่อกลางการซื้อขายสินค้าเกษตรโดยตรง ดีกว่าเกษตรกร งมเข็ม เสี่ยงดวงปลูกเลี้ยงกันตามยถากรรม
หรือถูกนายทุน จูงจมูกโดยตั้งโต้ะรับซื้อ
มีเว็บไหน ที่เป็นสื่อกลางซื้อขาย สินค้าเกษตรบ้างครับ?
ถูกชักจูงโดยนายทุนตลอด สังเกตุง่ายๆว่า
พื้นที่ไหนๆ จะปลูกพืชจะเลี้ยงสัตว์อะไร ก็จะปลูก เลี้ยงตามที่เขาตั้งศูนย์รับซื้อ
เกษตรกรจะปลูกแต่พืชตลาดพื้นๆ ไม่มีความหลากหลาย เช่นแถวอีสาน แถวสระแก้ว ไร่อ้อย ปลูกมัน
ปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด แต่พืชผัก เนื้อสัตว์อื่นๆก็ไปสั่งซื้อที่ตลาด ก็มาจากที่อื่น
เกษตรกรก็ไม่ค่อยมีทางเลือก เพราะปลูกพืชพื้นๆมีตลาดรองรับแน่นอน แต่อาจได้ผลตอบแทนต่ำ
และต้นทุนผลิตสูง
ทีนี้ ผมสงสัยว่า ในเมื่อการเกษตรต้องใข้ การตลาดนำ มีแต่คนพูดลอยๆ เพ้อๆ
ในนิตยสาร ในเว็บไซด์ ในข่าวทีวี เกษตรกรตัวอย่างที่ร่ำรวย สังเกตุมักจะเป็นคนรุ่นใหม่ มีการศึกษา ใช้เทคโนโลยี
อินเตอร์เน็ทเป็น มีเครือข่ายกว้างขวาง...แล้วคำที่ว่าการตลาดนำ ต้องหาตลาด
มันคืออัลไล???? ต้องไปตลาดสด หรือ ตลาดไท สี่มุมเมือง
ถ้ามีเว็บไซด์ที่เป็นสื่อกลาง ซื้อขาย สินค้าเกษตร เหมือนเว็บขายของ olx ,pantipmarket ทั้งล่วงหน้า(สั่งซื้อก่อนปลูก) , ปัจจุบัน
เช่น สมมติฝั่งผู้ซื้อเป็นร้านทำน้ำผลไม้บรรจุขวดขายส่งที่อยู่ขอนแก่น ต้องการเสาวรส วันละ 100kg ทุกวัน ในราคา....บาท
ก็ตั้งกระทู้ไว้ที่กระดาน "อยากซื้อ"
ส่วนผู้ขายเป็นชาวไร่ ชาวสวน สมมติผมเป็นเกษตรกรสมัครเล่น มีที่แล้วยังไม่รู้จะปลูกอะไร ไปเจอโพสนี้
ก็ลองติดต่อคุยกัน contact กัน ผมก็มั่นใจว่ามีตลาดรับซื้อแร่ะ แต่อาจจะยังเสี่ยงที่ตลาดผู้ซื้อน้อยราย
ผมก็อาจจะไปติดต่ออีกหลายเจ้าเผื่อผลผลิตมันเยอะเกินกว่าร้านขายน้ำนี้จะรับได้ ทีนี้ผมก้อเริ่มวางแผนการปลูก
และพอผลผลิตออกมา ปรากฏมันเยอะเกิน ผลผลิตอุดมสมบูรณ์มาก เหลือ ก็รีบมาลง กระทู้ "อยากขาย"
ในเว็บอาจจะจัดแบ่ง หมวดหมู่ ตามความเหมาะสม แบ่งเป็น
ตลาดขายส่ง, ตลาดขายปลีก ,ตลาดส่งนอก
หรือแบ่งตามโซน ภูมิภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล
การมีเว็บไซด์เป็นสื่อกลาง ทำให้สะดวกมากขึ้นมากๆ เพราะ บางทีเกษตรกร อาจจะขี้อายที่จะไปติดต่อ
โดยตรง หรือยากที่ผู้ซื้อ ผู้ขาย จะมาเจอกัน เพราะอยู่คนละที่ และบางทีผู้ขายก็ไม่มีทางรู้ว่ามีใครอยากซื้ออะไร
ให้เว็บไซด์เป็นสื่อกลางการซื้อขายสินค้าเกษตรโดยตรง ดีกว่าเกษตรกร งมเข็ม เสี่ยงดวงปลูกเลี้ยงกันตามยถากรรม
หรือถูกนายทุน จูงจมูกโดยตั้งโต้ะรับซื้อ