คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ก็เหมือนสมัยนี้แหละครับ พื้นที่ปกครอง กำลังทหาร อำนาจเศรษฐกิจ ศักยภาพในการต่อรองบนเวทีโลก และที่เป็นพิเศษของยุคนั้นก็คืออาณานิคม
แนวคิดเรื่องรัฐชาติสมัยปลายศตวรรษที่ 19 ต้นศตวรรษที่ 20 จะมีเรื่องของมหาอำนาจ (Great Powers) ซึ่งหมายถึงรัฐชาติที่กำหนดชะตากรรมของตัวเองได้ ไม่ต้องรอฟังความเห็นจากรัฐอื่น และมีกำลังพอที่จะตัดสินความเป็นไปของเหตุการณ์หนึ่งแม้เหตุการณ์นั้นจะไม่ได้อยู่ในภูมิภาคของมหาอำนาจนั้นเอง เช่นเหตุการณ์เกิดในเอเซียตะวันออกแต่มหาอำนาจในยุโรปสามารถกำหนดหรือตกลงผลลัพธ์ของเหตุการณ์นั้นได้
ญี่ปุ่นช่วงสงครามกับรัสเซียจนจบสงครามโลกครั้งที่ 1 ผมมองว่ายังเป็น regional power ที่คาบเส้นเกือบเป็นมหาอำนาจแล้ว เพราะมีอำนาจในภูมิภาคของตนคือเอเซียตะวันออก แต่ยังไม่ถึงระดับมหาอำนาจที่มีอิทธิพลไปทั่วโลกครับ หรือในเขตอิทธิพลของตนที่อยู่โพ้นทะเล
ส่วนสยามนั้นเป็น regional power แบบเล็กๆ น่ะครับ ไม่สามารถก้าวไปเป็นมหาอำนาจได้ เพราะสยามไม่ได้พัฒนาจนเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทำให้ไม่มีกำลังทางเศรษฐกิจและทหารที่จะขึ้นเป็นมหาอำนาจ
แนวคิดเรื่องรัฐชาติสมัยปลายศตวรรษที่ 19 ต้นศตวรรษที่ 20 จะมีเรื่องของมหาอำนาจ (Great Powers) ซึ่งหมายถึงรัฐชาติที่กำหนดชะตากรรมของตัวเองได้ ไม่ต้องรอฟังความเห็นจากรัฐอื่น และมีกำลังพอที่จะตัดสินความเป็นไปของเหตุการณ์หนึ่งแม้เหตุการณ์นั้นจะไม่ได้อยู่ในภูมิภาคของมหาอำนาจนั้นเอง เช่นเหตุการณ์เกิดในเอเซียตะวันออกแต่มหาอำนาจในยุโรปสามารถกำหนดหรือตกลงผลลัพธ์ของเหตุการณ์นั้นได้
ญี่ปุ่นช่วงสงครามกับรัสเซียจนจบสงครามโลกครั้งที่ 1 ผมมองว่ายังเป็น regional power ที่คาบเส้นเกือบเป็นมหาอำนาจแล้ว เพราะมีอำนาจในภูมิภาคของตนคือเอเซียตะวันออก แต่ยังไม่ถึงระดับมหาอำนาจที่มีอิทธิพลไปทั่วโลกครับ หรือในเขตอิทธิพลของตนที่อยู่โพ้นทะเล
ส่วนสยามนั้นเป็น regional power แบบเล็กๆ น่ะครับ ไม่สามารถก้าวไปเป็นมหาอำนาจได้ เพราะสยามไม่ได้พัฒนาจนเป็นประเทศอุตสาหกรรม ทำให้ไม่มีกำลังทางเศรษฐกิจและทหารที่จะขึ้นเป็นมหาอำนาจ
แสดงความคิดเห็น
มหาอำนาจต่างๆของโลกช่วงคริสต์ศตวรรษที่18-19นี่เค้าวัดจากอะไรครับ