ย้อนกลับไปเมื่อปี 2548 ในปีก่อนหน้า ผมได้ยื่นขอผ่อนผันการตรวจรับคัดเลือกเกณฑ์ทหารมาเรื่อยๆ มาจนปี 2548 ผมอายุครบ26 ครบเกณฑ์การยื่นขอผ่อนผัน ตอนนั้นกำลังเรียนปริญญาโทอยู่ปี 2 เทอม2 ที่ม.รัฐบาลแห่งหนึ่ง ตอนเดือนเม.ย.48 ผมเก็บหน่วยกิตครบหมดทุกตัวเหลือแต่วิทยานิพนธ์ที่ยังไม่เสร็จ
ต้นเดือนเม.ย.ในปีนั้นผมตัดสินใจ ไม่ขอผ่อนผันต่อทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ และไม่แน่ใจว่าเขาจะให้ผ่อนผันต่อหรือไม่ แต่ในปี้นั้นก็อยากจะลองลุ้นดูด้วย เป็นเพราะว่าในปีก่อนหน้านั้น บางปีมีคนสมัครจนเต็ม (เพราะปีนั้นงานหายยาก ปีนั้นมีคนตกงานเยอะ) บางปีตอนช่วงจับสลาก จับไปได้ครึ่งนึงของ ใบแดงก็ออกหมด ทำให้คนที่รอลุ้นจับอีกครึ่งนึง ไม่ต้องจับ นั้นคือที่เหลือในไหคือใบดำทั้งหมด
ปีนั้นก็เช่นกันผมก็หวังว่า จะมีคนสมัครจนเต็ม แต่นาทีสุดท้าย เจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่าต้องการทหารจำนวน 50 กว่าคน มีคนสมัครเกือบ 10 คน ปรบมือสรรเสริญคนสมัครหน่อย (ทำไมคนสมัครน้อยจังฟร่ะ!) ต้องการทหารเพิ่มอีก 40 กว่าคน!
ผมอยู่ประเภทดี 1 ประเภท 1 ตอนนั้นมีคนที่ต้องจับสลากอยู่ประมาณ 120 กว่าคน นั้นหมายความว่า อัตราที่ต้องลุ้นใบแดง เฉลี่ย 4 ต่อ 1
ผมนั่งอยู่ตอนท้ายๆ จำได้แม่นเลยว่า ผมนั่งอยู่ลำดับที่ 12 ถ้านับจากท้าย มีคนนั่งหน้าก่อนผมประมาณร้อยกว่าผม ในใจก็ยังคิดว่าประมาณลำดับที่80ใบแดงน่าจะออกหมด
ก่อนการล้วงไห เหมือนการโหมโรง ญาติพี่น้องพ่อแม่เพื่อนฝูงรายล้อมอยู่รอบๆพวกผม กลองยาว ฉิ่งฉับ ทัมมารีน มากันพร้อม ตีดนตรีจังหวะอะไรก็ไม่รู้ แต่รู้ว่ามันช่างกระตุ้นการสูบฉีดเลือดและการเต้นของหัวใจซะเหลือเกิน
พอเริ่มคนแรกที่จับ ผมก็ได้รับรู้ว่า ไอ้พวกเพื่อนกองเชียร์ทั้งหลาย เวลาที่เพื่อนของมันลุกขึ้นมาจับ มันไม่เคยเชียร์เพื่อนของมันให้ได้ใบดำ แต่ตะโกนเชียร์ให้เพื่อนมันได้ใบแดง!...ใบแดง!...ใบแดง!...ใบแดง!..... พวกผมที่รอลุ้นไม่ได้จับก็เชียร์ใบแดงตามพวกมันด้วย รู้สึกว่าพวกผมตะโกนดังกว่าพวกกองเชียร์ด้วยซ้ำ
พอเพื่อนใครจับได้ใบดำ พวกกองเชียร์เหล่าเพื่อนมันกันโห่ว... (รักเพื่อนกันจิ๊งเลยนะพวก...!) พอเพื่อนใครจับได้ใบแดง ก็ร้องกรี๊ดดีใจ ร้องลั่นแสดงความสมน้ำหน้า ยิ่งเพื่อนคนที่จับสลากคนใดของมันเป็นลมล้มพับกอง ก็จะยิ่งหัวเราะดีใจร่าเข้าไปใหญ่ ซึ่งผมก็อยากบอกว่า ทุกครั้งที่เพื่อนพวกคุณจับได้ใบแดง พวกผมที่นั่งรอยังไม่ได้จับ ดีใจมากกว่าพวกคุณเป็นร้อยเป็นพันเท่า
ทุกใบแดงที่ถูกจับออกไปนั้น มันมีค่ายิ่งกว่าเมียของเหล่าพวกผมเป็นอย่างมาก
ผมได้เห็นอากัปกิริยาของคนที่นั่งรอจับอยู่หลายอากัปกิริยาแปลกๆ บ้างก็ใบไม้อะไรสักอย่างมาทัดหู บ้างก็สวดคาถา บ้างก็กุมมือภาวนา บ้างก็กระทืบเท้าซ้ายตอนลุกออกไปจับ ฯลฯ
ในมือผมมีปากกากับซองใส่เอกสารสีน้ำตาลสำหรับใส่เอกสาร ทุกครั้งที่ได้ใบแดง ผมจะเอาปากกาขีดติ๊กลงบนซอง เพื่อให้ได้รู้ว่าใบแดงออกไปแล้วกี่ใบ? ยังเหลืออีกกี่ใบ?
ในช่วงแรกใบแดงก็ออกไปได้เรื่อยๆตามค่าเฉลี่ยที่มันควรจะเป็น หรือ สี่ต่อหนึ่ง
และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น การจับประมาณลำดับที่ 50กว่าๆ ถึง 80 กว่าๆ (30กว่าคน) มีคนจับได้ใบแดงอยู่ 2 ใบ!
สุดท้ายก็มาถึงลำดับที่ผมต้องลุก ผมจำเหตุการณ์นั้นได้ดี มีคนที่ยังไม่ได้จับอยู่ 12 คน (รวมตัวผม) แต่มีใบแดงเหลืออยู่ในไห 4 ใบ มีใบดำอยู่ 8 ใบ นั้นหมายความว่าประมาณ 1ใน3 คุณจะได้ไปต่อ!
ตอนที่ผมล้วงเข้าไปในไห ผมหยิบขึ้นมา1อัน แล้วก็หลุดมือตอนที่มือกำลังอยู่ในไหนั้นแหล่ะ ผมจึงต้องหยิบอันใหม่มา1อัน
ผมส่งให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร สิ่งที่จับขึ้นมามันเป็นแท่งหลอดขุ่นๆ มีม้วนกระดาษอยู่ในแท่งหลอดนั้น มันไม่ใช่ม้วนใบดำหรือใบแดง แต่สิ่งที่จะรู้ได้ว่าได้หรือไม่ได้ คือ ต้องคลี่ม้วนกระดาษออกมา
ผมรู้สึกว่าผมสายตายาวขึ้นมาบัดดล เห็นคำว่า ทบ.2 ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศ ใช่แล้วครับ ผมเป็นทหารเกณฑ์ผลัด2 คนที่จับได้ใบแดง คุณไม่ต้องหาทางว่าต้องเดินไปทางไหน เพราะมีเจ้าหน้าที่ทหารสองคนมาหิ้วปีกมาคุณไปที่โต๊ะ แล้วไม่ต้องห่วงว่าคุณจะทำอะไรต่อแบบเงอะๆงะๆ ตอนนั้นสติคุณจะเลื่อนลอย จะมีเจ้าหน้าที่จับนิ้วมือคุณและพิมพ์ปั้มลายนิ้วมือ และทำอะไรอีกอื่นๆจนกระบวนการเสร็จสรรพ บอกตามตรงๆห้านาทีหลังจากที่จับได้ใบแดง ผมจำเหตุการณ์ต่างๆไม่ได้เลยครับ สติมันเบลอๆขั้นรุนแรง หูดังวิ้ง ไม่ได้ยินเสียงเหตุการณ์รอบข้าง สายตาเบลอๆ เลือดไม่ไปสูบฉีดที่หัว หน้าซีด ปากสั่น และแล้วนั้นก็คือจุดเริ่มต้นก่อนเข้าสู่...กองพันทหารเกรียน!
เมื่อผมไปคัดเลือกทหาร
ต้นเดือนเม.ย.ในปีนั้นผมตัดสินใจ ไม่ขอผ่อนผันต่อทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ และไม่แน่ใจว่าเขาจะให้ผ่อนผันต่อหรือไม่ แต่ในปี้นั้นก็อยากจะลองลุ้นดูด้วย เป็นเพราะว่าในปีก่อนหน้านั้น บางปีมีคนสมัครจนเต็ม (เพราะปีนั้นงานหายยาก ปีนั้นมีคนตกงานเยอะ) บางปีตอนช่วงจับสลาก จับไปได้ครึ่งนึงของ ใบแดงก็ออกหมด ทำให้คนที่รอลุ้นจับอีกครึ่งนึง ไม่ต้องจับ นั้นคือที่เหลือในไหคือใบดำทั้งหมด
ปีนั้นก็เช่นกันผมก็หวังว่า จะมีคนสมัครจนเต็ม แต่นาทีสุดท้าย เจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่าต้องการทหารจำนวน 50 กว่าคน มีคนสมัครเกือบ 10 คน ปรบมือสรรเสริญคนสมัครหน่อย (ทำไมคนสมัครน้อยจังฟร่ะ!) ต้องการทหารเพิ่มอีก 40 กว่าคน!
ผมอยู่ประเภทดี 1 ประเภท 1 ตอนนั้นมีคนที่ต้องจับสลากอยู่ประมาณ 120 กว่าคน นั้นหมายความว่า อัตราที่ต้องลุ้นใบแดง เฉลี่ย 4 ต่อ 1
ผมนั่งอยู่ตอนท้ายๆ จำได้แม่นเลยว่า ผมนั่งอยู่ลำดับที่ 12 ถ้านับจากท้าย มีคนนั่งหน้าก่อนผมประมาณร้อยกว่าผม ในใจก็ยังคิดว่าประมาณลำดับที่80ใบแดงน่าจะออกหมด
ก่อนการล้วงไห เหมือนการโหมโรง ญาติพี่น้องพ่อแม่เพื่อนฝูงรายล้อมอยู่รอบๆพวกผม กลองยาว ฉิ่งฉับ ทัมมารีน มากันพร้อม ตีดนตรีจังหวะอะไรก็ไม่รู้ แต่รู้ว่ามันช่างกระตุ้นการสูบฉีดเลือดและการเต้นของหัวใจซะเหลือเกิน
พอเริ่มคนแรกที่จับ ผมก็ได้รับรู้ว่า ไอ้พวกเพื่อนกองเชียร์ทั้งหลาย เวลาที่เพื่อนของมันลุกขึ้นมาจับ มันไม่เคยเชียร์เพื่อนของมันให้ได้ใบดำ แต่ตะโกนเชียร์ให้เพื่อนมันได้ใบแดง!...ใบแดง!...ใบแดง!...ใบแดง!..... พวกผมที่รอลุ้นไม่ได้จับก็เชียร์ใบแดงตามพวกมันด้วย รู้สึกว่าพวกผมตะโกนดังกว่าพวกกองเชียร์ด้วยซ้ำ
พอเพื่อนใครจับได้ใบดำ พวกกองเชียร์เหล่าเพื่อนมันกันโห่ว... (รักเพื่อนกันจิ๊งเลยนะพวก...!) พอเพื่อนใครจับได้ใบแดง ก็ร้องกรี๊ดดีใจ ร้องลั่นแสดงความสมน้ำหน้า ยิ่งเพื่อนคนที่จับสลากคนใดของมันเป็นลมล้มพับกอง ก็จะยิ่งหัวเราะดีใจร่าเข้าไปใหญ่ ซึ่งผมก็อยากบอกว่า ทุกครั้งที่เพื่อนพวกคุณจับได้ใบแดง พวกผมที่นั่งรอยังไม่ได้จับ ดีใจมากกว่าพวกคุณเป็นร้อยเป็นพันเท่า
ทุกใบแดงที่ถูกจับออกไปนั้น มันมีค่ายิ่งกว่าเมียของเหล่าพวกผมเป็นอย่างมาก
ผมได้เห็นอากัปกิริยาของคนที่นั่งรอจับอยู่หลายอากัปกิริยาแปลกๆ บ้างก็ใบไม้อะไรสักอย่างมาทัดหู บ้างก็สวดคาถา บ้างก็กุมมือภาวนา บ้างก็กระทืบเท้าซ้ายตอนลุกออกไปจับ ฯลฯ
ในมือผมมีปากกากับซองใส่เอกสารสีน้ำตาลสำหรับใส่เอกสาร ทุกครั้งที่ได้ใบแดง ผมจะเอาปากกาขีดติ๊กลงบนซอง เพื่อให้ได้รู้ว่าใบแดงออกไปแล้วกี่ใบ? ยังเหลืออีกกี่ใบ?
ในช่วงแรกใบแดงก็ออกไปได้เรื่อยๆตามค่าเฉลี่ยที่มันควรจะเป็น หรือ สี่ต่อหนึ่ง
และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น การจับประมาณลำดับที่ 50กว่าๆ ถึง 80 กว่าๆ (30กว่าคน) มีคนจับได้ใบแดงอยู่ 2 ใบ!
สุดท้ายก็มาถึงลำดับที่ผมต้องลุก ผมจำเหตุการณ์นั้นได้ดี มีคนที่ยังไม่ได้จับอยู่ 12 คน (รวมตัวผม) แต่มีใบแดงเหลืออยู่ในไห 4 ใบ มีใบดำอยู่ 8 ใบ นั้นหมายความว่าประมาณ 1ใน3 คุณจะได้ไปต่อ!
ตอนที่ผมล้วงเข้าไปในไห ผมหยิบขึ้นมา1อัน แล้วก็หลุดมือตอนที่มือกำลังอยู่ในไหนั้นแหล่ะ ผมจึงต้องหยิบอันใหม่มา1อัน
ผมส่งให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร สิ่งที่จับขึ้นมามันเป็นแท่งหลอดขุ่นๆ มีม้วนกระดาษอยู่ในแท่งหลอดนั้น มันไม่ใช่ม้วนใบดำหรือใบแดง แต่สิ่งที่จะรู้ได้ว่าได้หรือไม่ได้ คือ ต้องคลี่ม้วนกระดาษออกมา
ผมรู้สึกว่าผมสายตายาวขึ้นมาบัดดล เห็นคำว่า ทบ.2 ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศ ใช่แล้วครับ ผมเป็นทหารเกณฑ์ผลัด2 คนที่จับได้ใบแดง คุณไม่ต้องหาทางว่าต้องเดินไปทางไหน เพราะมีเจ้าหน้าที่ทหารสองคนมาหิ้วปีกมาคุณไปที่โต๊ะ แล้วไม่ต้องห่วงว่าคุณจะทำอะไรต่อแบบเงอะๆงะๆ ตอนนั้นสติคุณจะเลื่อนลอย จะมีเจ้าหน้าที่จับนิ้วมือคุณและพิมพ์ปั้มลายนิ้วมือ และทำอะไรอีกอื่นๆจนกระบวนการเสร็จสรรพ บอกตามตรงๆห้านาทีหลังจากที่จับได้ใบแดง ผมจำเหตุการณ์ต่างๆไม่ได้เลยครับ สติมันเบลอๆขั้นรุนแรง หูดังวิ้ง ไม่ได้ยินเสียงเหตุการณ์รอบข้าง สายตาเบลอๆ เลือดไม่ไปสูบฉีดที่หัว หน้าซีด ปากสั่น และแล้วนั้นก็คือจุดเริ่มต้นก่อนเข้าสู่...กองพันทหารเกรียน!