สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน
นับตั้งแต่ผมสมัครเป็นสมาชิกพันทิปมา ผมก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราวมากมาย
ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องราวในชีวิตของผมเอง ซึ่งอาจจะมีบางครั้งที่ผมนำเรื่องราวของเพื่อนมาถ่ายทอด
แต่สำหรับสิ่งที่ผมกำลังจะบอกเล่า (ระบาย) ต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวผมในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
เป็นเรื่องที่ผมเองก็คาดไม่ถึงว่ามันจะเกิด เป็นเรื่องที่ทำให้ผมท้อแท้อย่างมาก
เมื่อเพื่อนๆได้อ่านดูแล้วหลายคนอาจจะคิดว่า เรื่องราวมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก
ผมเองก็คิดเหมือนกันครับว่า ผมคงจะอ่อนแอเกินไป
..............................................................................................................................................................................
ปัจจุบันผมอายุ 29 ปีครับ สถานะสมรส มีลูกสาววัยเกือบๆสองขวบ
ทุกวันนี้ทำงานเป็นพนักงานบริษัทอยู่ในกรุงเทพฯครับ เงินเดือนก็ค่าแรงขั้นต่ำ (จบไม่สูงครับ)
ภรรยาของผมเธอมีตำแหน่งในหน้าที่การงาน และค่าตอบแทนที่สูงกว่า
ซึ่งผมยอมรับว่าอายนิดๆ แต่ถึงอย่างไรก็ดี ผมก็กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาศักยภาพตัวเองให้เป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมกำลังศึกษาวิชาความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ สายงานเขียนโปรแกรมครับ
ประมาณว่ารู้ตัวช้าไปหน่อยว่าเหมาะกับสายงานคอมพิวเตอร์
และเพิ่งจะรู้ว่านี่คือหนทางที่ผมจะเพิ่มศักยภาพให้ตัวเองในด้านการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี
ผมมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก แม้ว่าด้วยลักษณะนิสัยของผมแล้วไม่ใช่คนอดทนอะไรนาน
แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกับที่ผ่านๆมา เพราะผมมีลูกและครอบครัวเป็นเดิมพัน
ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะไปได้สวยใช่ไหมครับ ? ... คำตอบที่ได้คือ "เปล่าเลย"
จากนี้ไปผมขออนุญาตเท้าความหลังสักนิดนะครับ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพของเรื่องราวอย่างชัดเจน
http://pantip.com/topic/32508272
นี่คือเรื่องราวที่ผมเคยเขียนไว้เมื่อปีทีแล้วครับ เป็นเรื่องราวขณะที่ผมใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์
โดยพื้นเพแล้วผมเป็นคนกรุงเทพครับ แต่ที่ต้องไปทำงานที่นั่นเพราะแฟนที่ตอนนั้นอยู่คนละที่กับผมตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน
ผมจึงตัดสินใจทิ้งงานและทุกๆอย่างไว้เพื่อไปดูแลเธอ (เหตุหลักๆคือเธอไม่ยอมกลับลงมา กทม. ครับ เธอกำลังรุ่งเรืองเรื่องการงาน)
ซึ่งครั้งนั้นมีแต่คนค้าน อยากให้ผมพาแฟนมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ด้วยเหตุผลด้านญาติพี่น้องที่มากกว่าเป็นหลัก
แต่ผมไม่สามารถทำได้เพราะตอนนั้นแฟนผมเธอยืนกระต่ายขาเดียวว่าเสียดายงานที่ทำอยู่
http://pantip.com/topic/33102592
นี่คืออีกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของผมครับ
ถ้าใครได้อ่านจะเห็นว่า ผมมีปัญหากับน้องชายตัวเอง สัมพันธภาพระหว่างผมกับเขานั้นไม่ค่อยจะดีนัก
(ตอนนั้นผมก็ถามแฟนผมเหมือนกันว่าเธอคิดอย่างไร รับได้หรือไม่ ? ซึ่งเธอก็ตอบว่าเธอหนักใจแทน)
จาก 2 เรื่องราวด้านบน ผมจะนำมาสรุปให้ฟังชัดๆอีกครั้งหนึ่งครับ
1.) แฟนผมเรียนสูงกว่าผม หน้าที่การงานเธอดีกว่า
2.) พื้นเพเดิมผมเป็นคนกรุงเทพฯ ก่อนที่แฟนผมจะตั้งครรภ์และย้านถิ่นฐาน ผมก็มีหน้าที่การงานที่ดีในระดับหนึ่ง
3.) สัมพันธภาพระหว่างผมกับน้องชายไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งแฟนผมก็รับเรื่องนี้ไม่ค่อยจะได้
และทั้ง 3 ข้อนี้ครับ ที่เป็นชนวนเหตุ ทำให้ผมและแฟนมีปัญหาต่อกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้
ผมจะขออธิบายทีละข้อนะครับว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร (อาจดูงงๆต้องขออภัยด้วยนะครับ)
1.) แฟนผมเรียนสูงกว่าผม หน้าที่การงานเธอดีกว่า
ทำให้ตลอดเวลาที่ผมคบกับเธอ จนสร้างครอบครัวร่วมกันนั้น ผมคิดอยู่เสมอกับการที่จะพัฒนาตนเอง
ให้ดียิ่งกว่าเธอ เพราะเหตุผลหนึ่งก็คือไม่อยากให้เธอต้องอายใครน่ะครับ
แต่ก็อย่างว่า คนที่ต้นทุนน้อยอย่างผม จะทำอะไรเพื่อการก้าวกระโดดนั้นมันยาก (ผมสำเร็จการศึกษาระดับ ปวช. เท่านั้นครับ)
ถึงจะคิดได้บ้างก็ไม่ต่อเนื่องเพราะลูกที่เกิดมา งานอะไรที่ทำแล้วได้เงินผมก็ต้องทำไปก่อน ไม่งั้นลูกก็อดตาย
ตลอดเวลานี้เอง ที่ผมได้บอกจุดมุ่งหวังกับแฟนว่า ผมจะต้องดีขึ้นกว่านี้ เชื่อใจกันนะ
ตอนนั้นเองเธอก็ไม่ได้พูดอะไรครับ จนมามีปัญหาเมื่อเร็วๆนี้ ... (ผมจะอธิบายข้อ 2 ก่อนนะครับ)
2.) พื้นเพเดิมผมเป็นคนกรุงเทพฯ ก่อนที่แฟนผมจะท้องและย้านถิ่นฐาน ผมก็มีหน้าที่การงานที่ดีในระดับหนึ่ง
เมื่อประมาณปี 2012 ผมได้งานเกี่ยวกับ Overseas (ชื่อตำแหน่งภาษาไทย : เจ้าหน้าที่การต่างประเทศ)
เงินเดือนก็สูงอยู่ครับถ้าเทียบจากวุฒิแล้ว แต่เพราะลูกที่กำลังจะเกิดและแฟนของผมที่ไม่คิดจะลงมาตั้งรกราก ผมจึงต้องทิ้งงานนี้ไป
(โอกาสก้าวหน้าในตอนนั้นตกลงกับพื้น ในสายตาหลายคนมองว่าผม "ล้มเหลว"
แต่ผมไม่สนใจ เพราะผมเลือกครอบครัว)
3.) สัมพันธภาพระหว่างผมกับน้องชายไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งแฟนผมก็รับเรื่องนี้ไม่ค่อยจะได้
ผมคิดว่าข้อนี้เป็นเหตุผลประกอบอย่างหนึ่งที่ทำให้แฟนผมเกิดอาการไม่พึงประสงค์
เธออาจจะเก็บงำความคิดด้านนี้ไว้ในใจโดยไม่ได้บอกกับผมนานเกินไป วันนี้เธอจึงเป็นแบบนี้
ทีนี้มาถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
เราเคยทะเลาะกันจนเกือบจะเลิกกันสองถึงสามครั้ง เพราะผมสังเกตุช่วงระยะเวลาหลังๆ เธอไม่ใช่คนเดิม
แฟนผมคนเดิม เธอเป็นคนร่าเริงนะครับ มักจะมีเรื่องต่างๆมาเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือสถานที่ที่เธอไป
แต่เกือบเดือนที่ผ่านมานี้ เธอไม่พูดจากับผมเลย มองผมด้วยหางตา ราวกับว่าแค่เห็นผมอยู่ตรงนั้นแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจ
ผมพยายามเข้าใจว่า ที่เธอเป็นแบบนี้ เพราะกำลังอยู่ในช่วงมีปัญหากับที่ทำงาน (เธอกำลังมีปัญหาเรื่องที่ทำงานจริงๆครับ)
และอยู่ในช่วงที่เธอคิดจะหางานใหม่ ซึ่งผมเองก็ช่วยเต็มที่ครับ ทั้ง Search หาในอินเตอร์เน็ต และบอกกับครอบครัวของผมให้ช่วยหา
เนื่องจากผมคิดว่าเป็นการเพิ่มโอกาสให้เธอ แต่กลายเป็นว่าผมไม่รู้เลยว่า เธอกำลังไม่พอใจ ...
เมื่อเวลา 20.15 น. คุณพ่อผมเข้ามาทานข้าวที่บ้าน และได้ชวนเธอคุยเรื่องที่เธอคิดหางานใหม่
คุณพ่อผม : " '...ชื่อแฟนผม...' กำลังหางานใหม่เหรอลูก"
แฟนผม : ...... (นอนกดมือถือ ไม่มีทีท่าจะตอบ)
ผมเห็นดังนั้นก็เลยสะกิด แบบว่าอารมณ์เริ่มไม่ค่อยสู้ดี คิดว่า
นี่ผู้ใหญ่คุยด้วยนะ ไม่คิดเลยเหรอว่าที่ถูกที่ควรน่ะต้องทำยังไง
เมื่อผมสะกิด เธอจึงตอบสั้นๆห้วนๆว่า ...
"ยัง"
คุณพ่อผม : "เราจบอะไรมานะ คณะนี้ใช่มั้ย? งานก็ต้องเป็นงานนี้น่ะสินะ ?"
หมายเหตุ - เธอทำงานไม่ตรงสายที่เรียนครับ
แฟนผม : "หนูจบแบบนั้นมาก็คงต้องทำงานนั้นมั้ง ใช่ป่ะ?"
มาถึงตอนนี้ผมรู้สึกแล้วว่าบรรยากาศมันกำลังจะเสีย ก็เลยตอบคุณพ่อแทนว่า กำลังหางานแบบไหน อะไร อย่างไร ...
จนคุณพ่อผมได้ฟังและเดินออกไป และแน่นอนครับว่าหลังจากนั้น ผมต้องซักไซ้เธอ
ผม : "แม่ (เราแทนตัวเองกันว่า พ่อ-แม่) ทำไมถึงทำแบบนี้? พ่อเขาคุยด้วยทำไมถึงทำเป็นเฉย?"
แฟนผม : "ก็ยังไม่ทันหางานได้เลย พ่อจะไปเล่าให้เขาฟังทำไมว่าแม่กำลังหางาน"
ผม : "ก็จะได้ช่วยกันหา โอกาสแม่จะได้มีมากขึ้น"
แฟนผม : "ช่วยยังไง? แล้วแกก็ไปถามคนแถวนี้ แล้วเดี๋ยวก็พากันพูดอีกว่าแม่กำลังจะตกงาน"
เอ้า ... ผมไม่คิดเลยว่าเธอกำลังคิดแบบนี้อยู่ ผมได้ยินดังนั้นจึงเสริมเธอไป
ผม : "มันไม่สำคัญหรอก ว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง เพราะไม่ว่ายังไงคนในครอบครัวสำคัญที่สุด และพร้อมที่จะช่วยกันได้เสมอ"
แฟนผม : "เขาก็จะว่าเราโม้อย่างนั้นอย่างนี้อีกอ่ะ"
ผมเริ่มงงแล้วว่า อะไรคือโม้ กำลังจะถามให้หายสงสัย เธอก็พูดต่อ
แฟนผม : "เหมือนกับที่พ่อบอกคนนั้นคนนี้ว่าจะซื้อรถ แล้วก็ไม่ซื้อ เหมือนกับที่พ่อบอกว่าจะเรียน แล้วไหนล่ะ? ไม่เห็นจะจบสักที"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมื่อปี 2012 ผมลงทะเบียนเรียนรามคำแหงไว้ครับ และ 5 เดือนต่อมา เธอตั้งครรภ์ ก็เลยเกิดวงจรดังนี้ .-
<ลงทะเบียน -- อ่านตำรา -- ตุลาฯแฟนท้อง -- วางแผนชีวิต -- ตกลงกันได้ -- ผมต้องทิ้งงาน -- ผมต้องทิ้งเรียน>
หลายคนอาจจะแนะนำให้ผมไปเรียนต่อที่ จ.สุรินทร์ได้ แต่อยากให้เข้าใจนะครับว่า ผมกำลังก้าวไปสู่หัวหน้าครอบครัว
ที่มีคำว่า "พ่อ" ค้ำคอ และอยู่กันแบบมีเพียง 3 คน พ่อ แม่ ลูก ดังนั้นมันจึงไม่มีโอกาสเลยครับ
แต่ทุกวันนี้ผมกลับมาอยู่ที่ กทม. ทั้งสามคน (พ่อ-แม่-ลูก) แล้ว ลูกผมอยู่กับย่าของเขา ผมก็เลยมีโอกาสสานฝันตัวเองต่อ
ผมจึงวางแผนไว้ว่า พ.ค.นี้ ผมจะไปลงทะเบียนเรียนต่อ แต่ก็เกิดวิวาทะสำคัญเสียก่อน
ผมได้ยินดังนั้นแล้วรู้สึกเหมือนโดนฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะ มึนไปหมด
สติที่ยังพอเหลืออยู่สะท้อนหัวใจได้ความว่า รู้สึกเสียใจมาก ไม่เคยคิดว่าเธอจะมีความคิดอย่างนี้อยู่ในหัวสมองเธอ
ความคิดที่ตราหน้าว่าผมคล้ายเป็นคนล้มเหลว เป็นคนดีแต่พูด
ผมจึงรู้ได้ทันทีว่า ที่เธอเป็นแบบนี้ สาเหตุหนึ่งมาจากตัวผม (ในความคิดเธอ) นี่เอง
ผมเสียใจ แต่ก็พูดกับเธอได้เพียงว่า "ถ้านี่คือคำพูดคนที่ไม่รู้จักพ่อจริงๆ พ่อจะไม่เสียใจเลย" แล้วผมก็หยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ออกมา
ทั้งที่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่า จะขี่ไปไหน ... ได้ยินเสียงเธอบ่นตามหลังแว่วๆว่า
"ทำตัวมีปัญหาอีกแล้ว"
ผมได้ยินชัด แต่ไม่ได้หันไปตอบอะไร เพราะตอนนั้นผมมึนจริงๆครับ เหมือนโดนหมัดฟาดเข้าตรงหน้าจังๆ
และท้ายที่สุด สติของผมที่กำลังคิดว่า จะทำอย่างไรต่อไป ก็นำพาให้ผมมาร้านอินเตอร์เน็ต
เพื่อระบายในพื้นที่สุดท้ายที่เหลืออยู่ หลังจากที่ผมคิดว่าคงไม่มีพื้นที่ไหนอีกแล้วที่จะเพียงพอให้ผมได้ระบายออกมา
ผมคงไม่พูดบอกกับพ่อและแม่ของผมว่า ผมกำลังมีปัญหากับภรรยา ผมไม่อยากให้ท่านแบกทุกข์
ผมคงไม่พูดบอกกับเพื่อน เพราะตั้งแต่ผมมีเธอเป็นภรรยา ผมไม่มีสังคมเพื่อนฝูงเลยสักแห่งเดียว
ผมคงไม่พูดบอกกับที่ทำงาน เพราะผมไม่อยากดิสเครดิตตัวเอง
ผมคงไม่พูดปรับความเข้าใจกับเธอ เพราะที่ผ่านมานั้นมีหลายครั้งที่บ่งบอกว่า เราไม่เคยเข้าใจตรงกันเลย
ผมทำได้แค่ เล่าผ่านพื้นที่สีน้ำเงินอมม่วงแห่งนี้เท่านั้น
เพื่อนๆครับ เพื่อนๆอาจจะคิดว่า เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องไม่ใหญ่โตอะไรนัก
ก็อย่างที่ว่าละครับ ผมอาจจะเป็นคนที่อ่อนแอเกินไป ขี้น้อยใจ และไม่หนักแน่น
ผมเพียงแค่ คนหนึ่งๆที่มีแต่ครอบครัว ไม่มีที่พึ่งอื่น
มีแต่บ้าน และที่ทำงาน ไม่เคยสังสรรค์กับใครเพราะผม ... อยากอยู่กับลูกและเมียเท่านั้น
และในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ...
คำพูดจากภรรยาของผมเป็นแบบนี้ ...
ความคิดของเธอ เป็นแบบนี้ ...
เธอมองว่า ผู้นำครอบครัว เป็นแบบนี้ ...
ผมก็ไม่รู้เลยครับว่าจะทำยังไงต่อไป
..............................................................................................................................................................................
จากนี้ผมจะขอคำแนะนำจากเพื่อนๆสัก 3-4 ข้อครับ
1.เป็นไปได้ไหมครับว่า เธอกำลังคิดอะไรๆหลายอย่าง หนึ่งในความคิดนั้นคือ "เธอเลือกคนผิด" เธอจึงมีอาการ และคำพูดจาแบบนี้
2.จากนี้ ผมควรทำอย่างไรครับ เพราะผมทราบว่า ผมยังคงต้องทำตามความตั้งใจ คือเรียนให้จบ และทำงานสายคอมพิวเตอร์อย่างที่ต้องการ
แต่ผมกำลังคิดว่า ถ้าเธอหมดศรัทธาในตัวผม ผมควรจะเอากำลังใจจากลูกเพียงอย่างเดียว อย่างนั้นหรือไม่?
3.เพื่อนๆคิดว่า เท่าที่ได้อ่านเรื่องเล่าของผม ผมดูเป็นคนอย่างที่เธอว่าจริงหรือไม่ อย่างไรบ้าง?
4.ข้อแนะนำอื่นๆตามสมควรครับ
เรื่องราวอาจจะยาวเหลือเกิน แต่ขอบคุณเพื่อนทุกท่านที่อ่านจนจบ และขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆครับ
[ระบาย] เมื่อผมรู้สึกว่าผมกำลังล้มเหลว ทั้งที่พยายามโดยดีตลอดมา
นับตั้งแต่ผมสมัครเป็นสมาชิกพันทิปมา ผมก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราวมากมาย
ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องราวในชีวิตของผมเอง ซึ่งอาจจะมีบางครั้งที่ผมนำเรื่องราวของเพื่อนมาถ่ายทอด
แต่สำหรับสิ่งที่ผมกำลังจะบอกเล่า (ระบาย) ต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวผมในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
เป็นเรื่องที่ผมเองก็คาดไม่ถึงว่ามันจะเกิด เป็นเรื่องที่ทำให้ผมท้อแท้อย่างมาก
เมื่อเพื่อนๆได้อ่านดูแล้วหลายคนอาจจะคิดว่า เรื่องราวมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก
ผมเองก็คิดเหมือนกันครับว่า ผมคงจะอ่อนแอเกินไป
..............................................................................................................................................................................
ปัจจุบันผมอายุ 29 ปีครับ สถานะสมรส มีลูกสาววัยเกือบๆสองขวบ
ทุกวันนี้ทำงานเป็นพนักงานบริษัทอยู่ในกรุงเทพฯครับ เงินเดือนก็ค่าแรงขั้นต่ำ (จบไม่สูงครับ)
ภรรยาของผมเธอมีตำแหน่งในหน้าที่การงาน และค่าตอบแทนที่สูงกว่า
ซึ่งผมยอมรับว่าอายนิดๆ แต่ถึงอย่างไรก็ดี ผมก็กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาศักยภาพตัวเองให้เป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก แม้ว่าด้วยลักษณะนิสัยของผมแล้วไม่ใช่คนอดทนอะไรนาน
แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกับที่ผ่านๆมา เพราะผมมีลูกและครอบครัวเป็นเดิมพัน
ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะไปได้สวยใช่ไหมครับ ? ... คำตอบที่ได้คือ "เปล่าเลย"
จากนี้ไปผมขออนุญาตเท้าความหลังสักนิดนะครับ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพของเรื่องราวอย่างชัดเจน
http://pantip.com/topic/32508272
นี่คือเรื่องราวที่ผมเคยเขียนไว้เมื่อปีทีแล้วครับ เป็นเรื่องราวขณะที่ผมใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์
โดยพื้นเพแล้วผมเป็นคนกรุงเทพครับ แต่ที่ต้องไปทำงานที่นั่นเพราะแฟนที่ตอนนั้นอยู่คนละที่กับผมตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน
ผมจึงตัดสินใจทิ้งงานและทุกๆอย่างไว้เพื่อไปดูแลเธอ (เหตุหลักๆคือเธอไม่ยอมกลับลงมา กทม. ครับ เธอกำลังรุ่งเรืองเรื่องการงาน)
ซึ่งครั้งนั้นมีแต่คนค้าน อยากให้ผมพาแฟนมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ด้วยเหตุผลด้านญาติพี่น้องที่มากกว่าเป็นหลัก
แต่ผมไม่สามารถทำได้เพราะตอนนั้นแฟนผมเธอยืนกระต่ายขาเดียวว่าเสียดายงานที่ทำอยู่
http://pantip.com/topic/33102592
นี่คืออีกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของผมครับ
ถ้าใครได้อ่านจะเห็นว่า ผมมีปัญหากับน้องชายตัวเอง สัมพันธภาพระหว่างผมกับเขานั้นไม่ค่อยจะดีนัก
(ตอนนั้นผมก็ถามแฟนผมเหมือนกันว่าเธอคิดอย่างไร รับได้หรือไม่ ? ซึ่งเธอก็ตอบว่าเธอหนักใจแทน)
จาก 2 เรื่องราวด้านบน ผมจะนำมาสรุปให้ฟังชัดๆอีกครั้งหนึ่งครับ
1.) แฟนผมเรียนสูงกว่าผม หน้าที่การงานเธอดีกว่า
2.) พื้นเพเดิมผมเป็นคนกรุงเทพฯ ก่อนที่แฟนผมจะตั้งครรภ์และย้านถิ่นฐาน ผมก็มีหน้าที่การงานที่ดีในระดับหนึ่ง
3.) สัมพันธภาพระหว่างผมกับน้องชายไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งแฟนผมก็รับเรื่องนี้ไม่ค่อยจะได้
และทั้ง 3 ข้อนี้ครับ ที่เป็นชนวนเหตุ ทำให้ผมและแฟนมีปัญหาต่อกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้
ผมจะขออธิบายทีละข้อนะครับว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร (อาจดูงงๆต้องขออภัยด้วยนะครับ)
1.) แฟนผมเรียนสูงกว่าผม หน้าที่การงานเธอดีกว่า
ทำให้ตลอดเวลาที่ผมคบกับเธอ จนสร้างครอบครัวร่วมกันนั้น ผมคิดอยู่เสมอกับการที่จะพัฒนาตนเอง
ให้ดียิ่งกว่าเธอ เพราะเหตุผลหนึ่งก็คือไม่อยากให้เธอต้องอายใครน่ะครับ
แต่ก็อย่างว่า คนที่ต้นทุนน้อยอย่างผม จะทำอะไรเพื่อการก้าวกระโดดนั้นมันยาก (ผมสำเร็จการศึกษาระดับ ปวช. เท่านั้นครับ)
ถึงจะคิดได้บ้างก็ไม่ต่อเนื่องเพราะลูกที่เกิดมา งานอะไรที่ทำแล้วได้เงินผมก็ต้องทำไปก่อน ไม่งั้นลูกก็อดตาย
ตลอดเวลานี้เอง ที่ผมได้บอกจุดมุ่งหวังกับแฟนว่า ผมจะต้องดีขึ้นกว่านี้ เชื่อใจกันนะ
ตอนนั้นเองเธอก็ไม่ได้พูดอะไรครับ จนมามีปัญหาเมื่อเร็วๆนี้ ... (ผมจะอธิบายข้อ 2 ก่อนนะครับ)
2.) พื้นเพเดิมผมเป็นคนกรุงเทพฯ ก่อนที่แฟนผมจะท้องและย้านถิ่นฐาน ผมก็มีหน้าที่การงานที่ดีในระดับหนึ่ง
เมื่อประมาณปี 2012 ผมได้งานเกี่ยวกับ Overseas (ชื่อตำแหน่งภาษาไทย : เจ้าหน้าที่การต่างประเทศ)
เงินเดือนก็สูงอยู่ครับถ้าเทียบจากวุฒิแล้ว แต่เพราะลูกที่กำลังจะเกิดและแฟนของผมที่ไม่คิดจะลงมาตั้งรกราก ผมจึงต้องทิ้งงานนี้ไป
(โอกาสก้าวหน้าในตอนนั้นตกลงกับพื้น ในสายตาหลายคนมองว่าผม "ล้มเหลว" แต่ผมไม่สนใจ เพราะผมเลือกครอบครัว)
3.) สัมพันธภาพระหว่างผมกับน้องชายไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งแฟนผมก็รับเรื่องนี้ไม่ค่อยจะได้
ผมคิดว่าข้อนี้เป็นเหตุผลประกอบอย่างหนึ่งที่ทำให้แฟนผมเกิดอาการไม่พึงประสงค์
เธออาจจะเก็บงำความคิดด้านนี้ไว้ในใจโดยไม่ได้บอกกับผมนานเกินไป วันนี้เธอจึงเป็นแบบนี้
ทีนี้มาถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
เราเคยทะเลาะกันจนเกือบจะเลิกกันสองถึงสามครั้ง เพราะผมสังเกตุช่วงระยะเวลาหลังๆ เธอไม่ใช่คนเดิม
แฟนผมคนเดิม เธอเป็นคนร่าเริงนะครับ มักจะมีเรื่องต่างๆมาเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือสถานที่ที่เธอไป
แต่เกือบเดือนที่ผ่านมานี้ เธอไม่พูดจากับผมเลย มองผมด้วยหางตา ราวกับว่าแค่เห็นผมอยู่ตรงนั้นแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจ
ผมพยายามเข้าใจว่า ที่เธอเป็นแบบนี้ เพราะกำลังอยู่ในช่วงมีปัญหากับที่ทำงาน (เธอกำลังมีปัญหาเรื่องที่ทำงานจริงๆครับ)
และอยู่ในช่วงที่เธอคิดจะหางานใหม่ ซึ่งผมเองก็ช่วยเต็มที่ครับ ทั้ง Search หาในอินเตอร์เน็ต และบอกกับครอบครัวของผมให้ช่วยหา
เนื่องจากผมคิดว่าเป็นการเพิ่มโอกาสให้เธอ แต่กลายเป็นว่าผมไม่รู้เลยว่า เธอกำลังไม่พอใจ ...
เมื่อเวลา 20.15 น. คุณพ่อผมเข้ามาทานข้าวที่บ้าน และได้ชวนเธอคุยเรื่องที่เธอคิดหางานใหม่
คุณพ่อผม : " '...ชื่อแฟนผม...' กำลังหางานใหม่เหรอลูก"
แฟนผม : ...... (นอนกดมือถือ ไม่มีทีท่าจะตอบ)
ผมเห็นดังนั้นก็เลยสะกิด แบบว่าอารมณ์เริ่มไม่ค่อยสู้ดี คิดว่า
นี่ผู้ใหญ่คุยด้วยนะ ไม่คิดเลยเหรอว่าที่ถูกที่ควรน่ะต้องทำยังไง
เมื่อผมสะกิด เธอจึงตอบสั้นๆห้วนๆว่า ...
"ยัง"
คุณพ่อผม : "เราจบอะไรมานะ คณะนี้ใช่มั้ย? งานก็ต้องเป็นงานนี้น่ะสินะ ?"
หมายเหตุ - เธอทำงานไม่ตรงสายที่เรียนครับ
แฟนผม : "หนูจบแบบนั้นมาก็คงต้องทำงานนั้นมั้ง ใช่ป่ะ?"
มาถึงตอนนี้ผมรู้สึกแล้วว่าบรรยากาศมันกำลังจะเสีย ก็เลยตอบคุณพ่อแทนว่า กำลังหางานแบบไหน อะไร อย่างไร ...
จนคุณพ่อผมได้ฟังและเดินออกไป และแน่นอนครับว่าหลังจากนั้น ผมต้องซักไซ้เธอ
ผม : "แม่ (เราแทนตัวเองกันว่า พ่อ-แม่) ทำไมถึงทำแบบนี้? พ่อเขาคุยด้วยทำไมถึงทำเป็นเฉย?"
แฟนผม : "ก็ยังไม่ทันหางานได้เลย พ่อจะไปเล่าให้เขาฟังทำไมว่าแม่กำลังหางาน"
ผม : "ก็จะได้ช่วยกันหา โอกาสแม่จะได้มีมากขึ้น"
แฟนผม : "ช่วยยังไง? แล้วแกก็ไปถามคนแถวนี้ แล้วเดี๋ยวก็พากันพูดอีกว่าแม่กำลังจะตกงาน"
เอ้า ... ผมไม่คิดเลยว่าเธอกำลังคิดแบบนี้อยู่ ผมได้ยินดังนั้นจึงเสริมเธอไป
ผม : "มันไม่สำคัญหรอก ว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง เพราะไม่ว่ายังไงคนในครอบครัวสำคัญที่สุด และพร้อมที่จะช่วยกันได้เสมอ"
แฟนผม : "เขาก็จะว่าเราโม้อย่างนั้นอย่างนี้อีกอ่ะ"
ผมเริ่มงงแล้วว่า อะไรคือโม้ กำลังจะถามให้หายสงสัย เธอก็พูดต่อ
แฟนผม : "เหมือนกับที่พ่อบอกคนนั้นคนนี้ว่าจะซื้อรถ แล้วก็ไม่ซื้อ เหมือนกับที่พ่อบอกว่าจะเรียน แล้วไหนล่ะ? ไม่เห็นจะจบสักที"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมได้ยินดังนั้นแล้วรู้สึกเหมือนโดนฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะ มึนไปหมด
สติที่ยังพอเหลืออยู่สะท้อนหัวใจได้ความว่า รู้สึกเสียใจมาก ไม่เคยคิดว่าเธอจะมีความคิดอย่างนี้อยู่ในหัวสมองเธอ
ความคิดที่ตราหน้าว่าผมคล้ายเป็นคนล้มเหลว เป็นคนดีแต่พูด
ผมจึงรู้ได้ทันทีว่า ที่เธอเป็นแบบนี้ สาเหตุหนึ่งมาจากตัวผม (ในความคิดเธอ) นี่เอง
ผมเสียใจ แต่ก็พูดกับเธอได้เพียงว่า "ถ้านี่คือคำพูดคนที่ไม่รู้จักพ่อจริงๆ พ่อจะไม่เสียใจเลย" แล้วผมก็หยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ออกมา
ทั้งที่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่า จะขี่ไปไหน ... ได้ยินเสียงเธอบ่นตามหลังแว่วๆว่า
"ทำตัวมีปัญหาอีกแล้ว"
ผมได้ยินชัด แต่ไม่ได้หันไปตอบอะไร เพราะตอนนั้นผมมึนจริงๆครับ เหมือนโดนหมัดฟาดเข้าตรงหน้าจังๆ
และท้ายที่สุด สติของผมที่กำลังคิดว่า จะทำอย่างไรต่อไป ก็นำพาให้ผมมาร้านอินเตอร์เน็ต
เพื่อระบายในพื้นที่สุดท้ายที่เหลืออยู่ หลังจากที่ผมคิดว่าคงไม่มีพื้นที่ไหนอีกแล้วที่จะเพียงพอให้ผมได้ระบายออกมา
ผมคงไม่พูดบอกกับพ่อและแม่ของผมว่า ผมกำลังมีปัญหากับภรรยา ผมไม่อยากให้ท่านแบกทุกข์
ผมคงไม่พูดบอกกับเพื่อน เพราะตั้งแต่ผมมีเธอเป็นภรรยา ผมไม่มีสังคมเพื่อนฝูงเลยสักแห่งเดียว
ผมคงไม่พูดบอกกับที่ทำงาน เพราะผมไม่อยากดิสเครดิตตัวเอง
ผมคงไม่พูดปรับความเข้าใจกับเธอ เพราะที่ผ่านมานั้นมีหลายครั้งที่บ่งบอกว่า เราไม่เคยเข้าใจตรงกันเลย
ผมทำได้แค่ เล่าผ่านพื้นที่สีน้ำเงินอมม่วงแห่งนี้เท่านั้น
เพื่อนๆครับ เพื่อนๆอาจจะคิดว่า เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องไม่ใหญ่โตอะไรนัก
ก็อย่างที่ว่าละครับ ผมอาจจะเป็นคนที่อ่อนแอเกินไป ขี้น้อยใจ และไม่หนักแน่น
ผมเพียงแค่ คนหนึ่งๆที่มีแต่ครอบครัว ไม่มีที่พึ่งอื่น
มีแต่บ้าน และที่ทำงาน ไม่เคยสังสรรค์กับใครเพราะผม ... อยากอยู่กับลูกและเมียเท่านั้น
และในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ...
คำพูดจากภรรยาของผมเป็นแบบนี้ ...
ความคิดของเธอ เป็นแบบนี้ ...
เธอมองว่า ผู้นำครอบครัว เป็นแบบนี้ ...
ผมก็ไม่รู้เลยครับว่าจะทำยังไงต่อไป
..............................................................................................................................................................................
จากนี้ผมจะขอคำแนะนำจากเพื่อนๆสัก 3-4 ข้อครับ
1.เป็นไปได้ไหมครับว่า เธอกำลังคิดอะไรๆหลายอย่าง หนึ่งในความคิดนั้นคือ "เธอเลือกคนผิด" เธอจึงมีอาการ และคำพูดจาแบบนี้
2.จากนี้ ผมควรทำอย่างไรครับ เพราะผมทราบว่า ผมยังคงต้องทำตามความตั้งใจ คือเรียนให้จบ และทำงานสายคอมพิวเตอร์อย่างที่ต้องการ
แต่ผมกำลังคิดว่า ถ้าเธอหมดศรัทธาในตัวผม ผมควรจะเอากำลังใจจากลูกเพียงอย่างเดียว อย่างนั้นหรือไม่?
3.เพื่อนๆคิดว่า เท่าที่ได้อ่านเรื่องเล่าของผม ผมดูเป็นคนอย่างที่เธอว่าจริงหรือไม่ อย่างไรบ้าง?
4.ข้อแนะนำอื่นๆตามสมควรครับ
เรื่องราวอาจจะยาวเหลือเกิน แต่ขอบคุณเพื่อนทุกท่านที่อ่านจนจบ และขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆครับ