ที่มาตั้งกระทู้วันนี้ เพราะอยากเห็นความคิดเห็นของชาวพันทิพหลาย ๆ ท่าน
คหสต.ผมคิดว่า บ้านเรา(ที่พูดว่าในบ้านเรา เพราะผมไม่รู้ว่าต่างประเทศเค้าเป็นยังไง) สอนให้รู้สึกว่า ผู้หญิงคือเพศอ่อนแอ ผู้ชายควรเสียสละให้ผู้หญิง ควรเป็นสุภาพบุรุษ และในขณะเดียวกัน ก็สอนให้ผู้หญิงลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ผมขอพูดว่า มันทำให้ผู้หญิงเห็นแก่ตัว และมักใช้คำว่าเพศแม่ที่ทำให้เหล่าบรรดาชายไทยต้องสะอึกมาอ้างสิทธิและชิงความได้เปรียบในหลาย ๆ เรื่อง น้ำใจที่สังคมเราควรมีก็เรื่องนึง มันเป็นสิ่งที่คนให้อยากให้ด้วยความจริงใจ แต่ถ้าจะไม่ให้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมาทำให้รู้สึกผิด เพราะทุกเพศควรมีสิทธิเท่าเทียมกันในทุกเรื่อง ขอให้แยกเรื่องความมีน้ำใจกับความเท่าเทียมทางเพศออกจากกันนะครับ เอาคร่าว ๆ ที่คิดออกละกันนะคับ
1.ที่นั่งไม่ว่าจะเป็นรถสาธารณะ หรือที่นั่งตามที่ต่าง ๆ ควรเสียสละให้กับผู้หญิงก่อน
ถ้าทุกเพศมีสิทธิที่เท่าเทียมกันน่ะ มันต้องมาตามคิว ถูกไหมคับ ใครมาก่อนก็ต้องได้นั่งก่อน แต่สังคมเราสอนว่า หากผู้ชายนั่ง โดยที่ยังมีผู้หญิงยืนอยู่ จะต้องรู้สึกผิด มองหน้ากันเลิกลัก ๆ จนร้อนตูด ใครทนได้ก็นั่งไป ทนไม่ได้ก็ต้องยืนในที่สุด หรือไม่นั่งเลย ยืนมันตลอดจนลงนั่นแหละ เนี่ยคับ ทุกคนจ่ายค่าโดยสารเท่ากันตามระยะทาง ไม่มีแยกหญิงชาย จะอ้างเรื่องเมื่อย ความแข็งแรงของขา ก็มากน้อยต่างกันตามเพศ ผู้หญิง รูปร่างเล็กน้ำหนักน้อย ขาก็เล็กตามไป ในขณะที่ผู้ชายก็ตรงกันข้าม จะมาอ้างว่าเมื่อยไม่ได้ ทุกคนมีโอกาสที่จะเมื่อยเท่า ๆ กัน เพราะเราต่างคนต่างก็รับน้ำหนักตามความแข็งแรง(ไม่รวมเรื่องความอ้วนผอมนะคับ เพราะทุกเพศก็อ้วนผอมกันได้หมด) เรียกร้องสิทธิ แล้วทีเรื่องนี้ ทำไมถึงบอกว่าต้องเสียสละให้ผู้หญิง ถ้าเท่าเทียม ต้องเท่าเทียมทุกเรื่องสิครับ ดูญี่ปุ่นเป็นตัวอย่าง ถ้าไม่ใช่ที่ของคนแก่คนท้องหรือเด็ก เค้าไม่ลุกให้กันนั่งครับ ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน
2. เวลาเกิดการทำร้ายร่างกาย ด่าทอ หรือไม่ให้เกียติกัน
ตามหลักมนุษยธรรมแล้ว ไม่ว่าเพศไหน ไม่ควรทำร้ายกัน ด่าทอกันอยู่แล้ว แต่สังเกตุไหมคับ หากผู้ชายทำร้ายผู้ชายด้วยกันเอง ด่ากันเอง หรือแม้กระทั่ง ผู้หญิงด่าผุ้ชาย หรือด่ากันเอง มันจะเป็นเรื่องไม่รุนแรงเท่าไรนัก สังคมจะประนามก็ประนามตามมารยาท ในขณะที่ ผุ้ชายทำร้ายผู้หญิง ผู้ชายด่าผู้หญิง หรือไม่ให้เกียติผู้หญิง ดีกรีความรุนแรงมันจะดูมากโข สังคมของคนโลกสวยจะเกิดขึ้นทันที ไอ้หน้าTua-Mear ทำได้กระทั่งผู้หญิง นั่นเพศแม่นะ ทำได้ยังไง คือทำไมผู้หญิงทำ ไม่ด่าหน้าตัวผู้บ้างล่ะ ผมมองว่า เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดอยู่แล้ว ไม่ว่าเพศไหนจะเป็นฝ่ายทำเพศไหนก็ตาม แต่ถ้าจะเท่าเทียมกัน ควรเท่าเทียมกันทุกเรื่อง ถูกไหมคับ ไม่ใช่เอาเพศแม่มาอ้าง
3. การจะเป็นผู้นำทางการเมืองหรือผุ้นำสังคม
อันนี้ขอการเมืองนิดนะคับ แต่ไม่อ้างถึงฝ่ายใด โลกตอนนี้ถือว่าเปิดกว้างมากนะ ผู้ชายก็ยอมรับผู้หญิงมากขึ้น สังเกตุดูว่าผู้หญิงขึ้นมาอยู่บนเวทีการเมืองมากขึ้น แต่ ทำไมเวลาเกิดการดีเบสกัน มีคำพูดประมาณว่า "อย่าทำเก่งกับเพศแม่ ถ้าคุณแน่ ผมพร้อมดีเบส" นี่มันเท่าเทียมตรงไหน ผู้ชาย ผู้หญิง สมองมีเท่ากัน โอกาศมีขึ้นมาบนเวทีนี้แล้ว ทำไมถึงต้องให้ผู้ชายรู้สึกเกรงใจหากมีการต่อสู้กันทางความคิด
จริง ๆ มีเยอะกว่านี้ แต่กลัวผู้หญิงเกลียด แค่นี้ก็เรียกว่ากระทู้ฆ่าตัวตายแล้วครับ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีคนเข้าใจในสิ่งที่สื่อว่า เรื่องสิทธิสตรี มีข้อดี และเป็นสิ่งที่ควรเรียกร้องครับ แต่นั่นหมายถึงสตรีก็ควรเอาสิ่งที่เคยได้เปรียบออกไปเหมือนกันครับ
ผมรู้สึกว่า สังคมกำลังสอนให้ผู้หญิงมาเรียกร้องสิทธิในขณะที่ยังถือความได้เปรียบทางเพศเอาไว้เหมือนเดิม
คหสต.ผมคิดว่า บ้านเรา(ที่พูดว่าในบ้านเรา เพราะผมไม่รู้ว่าต่างประเทศเค้าเป็นยังไง) สอนให้รู้สึกว่า ผู้หญิงคือเพศอ่อนแอ ผู้ชายควรเสียสละให้ผู้หญิง ควรเป็นสุภาพบุรุษ และในขณะเดียวกัน ก็สอนให้ผู้หญิงลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ผมขอพูดว่า มันทำให้ผู้หญิงเห็นแก่ตัว และมักใช้คำว่าเพศแม่ที่ทำให้เหล่าบรรดาชายไทยต้องสะอึกมาอ้างสิทธิและชิงความได้เปรียบในหลาย ๆ เรื่อง น้ำใจที่สังคมเราควรมีก็เรื่องนึง มันเป็นสิ่งที่คนให้อยากให้ด้วยความจริงใจ แต่ถ้าจะไม่ให้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมาทำให้รู้สึกผิด เพราะทุกเพศควรมีสิทธิเท่าเทียมกันในทุกเรื่อง ขอให้แยกเรื่องความมีน้ำใจกับความเท่าเทียมทางเพศออกจากกันนะครับ เอาคร่าว ๆ ที่คิดออกละกันนะคับ
1.ที่นั่งไม่ว่าจะเป็นรถสาธารณะ หรือที่นั่งตามที่ต่าง ๆ ควรเสียสละให้กับผู้หญิงก่อน
ถ้าทุกเพศมีสิทธิที่เท่าเทียมกันน่ะ มันต้องมาตามคิว ถูกไหมคับ ใครมาก่อนก็ต้องได้นั่งก่อน แต่สังคมเราสอนว่า หากผู้ชายนั่ง โดยที่ยังมีผู้หญิงยืนอยู่ จะต้องรู้สึกผิด มองหน้ากันเลิกลัก ๆ จนร้อนตูด ใครทนได้ก็นั่งไป ทนไม่ได้ก็ต้องยืนในที่สุด หรือไม่นั่งเลย ยืนมันตลอดจนลงนั่นแหละ เนี่ยคับ ทุกคนจ่ายค่าโดยสารเท่ากันตามระยะทาง ไม่มีแยกหญิงชาย จะอ้างเรื่องเมื่อย ความแข็งแรงของขา ก็มากน้อยต่างกันตามเพศ ผู้หญิง รูปร่างเล็กน้ำหนักน้อย ขาก็เล็กตามไป ในขณะที่ผู้ชายก็ตรงกันข้าม จะมาอ้างว่าเมื่อยไม่ได้ ทุกคนมีโอกาสที่จะเมื่อยเท่า ๆ กัน เพราะเราต่างคนต่างก็รับน้ำหนักตามความแข็งแรง(ไม่รวมเรื่องความอ้วนผอมนะคับ เพราะทุกเพศก็อ้วนผอมกันได้หมด) เรียกร้องสิทธิ แล้วทีเรื่องนี้ ทำไมถึงบอกว่าต้องเสียสละให้ผู้หญิง ถ้าเท่าเทียม ต้องเท่าเทียมทุกเรื่องสิครับ ดูญี่ปุ่นเป็นตัวอย่าง ถ้าไม่ใช่ที่ของคนแก่คนท้องหรือเด็ก เค้าไม่ลุกให้กันนั่งครับ ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน
2. เวลาเกิดการทำร้ายร่างกาย ด่าทอ หรือไม่ให้เกียติกัน
ตามหลักมนุษยธรรมแล้ว ไม่ว่าเพศไหน ไม่ควรทำร้ายกัน ด่าทอกันอยู่แล้ว แต่สังเกตุไหมคับ หากผู้ชายทำร้ายผู้ชายด้วยกันเอง ด่ากันเอง หรือแม้กระทั่ง ผู้หญิงด่าผุ้ชาย หรือด่ากันเอง มันจะเป็นเรื่องไม่รุนแรงเท่าไรนัก สังคมจะประนามก็ประนามตามมารยาท ในขณะที่ ผุ้ชายทำร้ายผู้หญิง ผู้ชายด่าผู้หญิง หรือไม่ให้เกียติผู้หญิง ดีกรีความรุนแรงมันจะดูมากโข สังคมของคนโลกสวยจะเกิดขึ้นทันที ไอ้หน้าTua-Mear ทำได้กระทั่งผู้หญิง นั่นเพศแม่นะ ทำได้ยังไง คือทำไมผู้หญิงทำ ไม่ด่าหน้าตัวผู้บ้างล่ะ ผมมองว่า เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดอยู่แล้ว ไม่ว่าเพศไหนจะเป็นฝ่ายทำเพศไหนก็ตาม แต่ถ้าจะเท่าเทียมกัน ควรเท่าเทียมกันทุกเรื่อง ถูกไหมคับ ไม่ใช่เอาเพศแม่มาอ้าง
3. การจะเป็นผู้นำทางการเมืองหรือผุ้นำสังคม
อันนี้ขอการเมืองนิดนะคับ แต่ไม่อ้างถึงฝ่ายใด โลกตอนนี้ถือว่าเปิดกว้างมากนะ ผู้ชายก็ยอมรับผู้หญิงมากขึ้น สังเกตุดูว่าผู้หญิงขึ้นมาอยู่บนเวทีการเมืองมากขึ้น แต่ ทำไมเวลาเกิดการดีเบสกัน มีคำพูดประมาณว่า "อย่าทำเก่งกับเพศแม่ ถ้าคุณแน่ ผมพร้อมดีเบส" นี่มันเท่าเทียมตรงไหน ผู้ชาย ผู้หญิง สมองมีเท่ากัน โอกาศมีขึ้นมาบนเวทีนี้แล้ว ทำไมถึงต้องให้ผู้ชายรู้สึกเกรงใจหากมีการต่อสู้กันทางความคิด
จริง ๆ มีเยอะกว่านี้ แต่กลัวผู้หญิงเกลียด แค่นี้ก็เรียกว่ากระทู้ฆ่าตัวตายแล้วครับ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีคนเข้าใจในสิ่งที่สื่อว่า เรื่องสิทธิสตรี มีข้อดี และเป็นสิ่งที่ควรเรียกร้องครับ แต่นั่นหมายถึงสตรีก็ควรเอาสิ่งที่เคยได้เปรียบออกไปเหมือนกันครับ