เคยมั้ยที่คิดว่าเรียนจบ ป.ตรีแล้วจะทำงานอะไรดี?
เคยมั้ยที่สมัครงานกี่ 10 ที่ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าที่ไหนจะรับเราทำงาน?
เคยมั้ยที่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า "เราเรียนมหาลัยมาตั้ง 4 ปี เพื่อเงินเดือนแค่นี้เนี่ยนะ"?
คำุามเหล่านี้โบเคยถามตัวเองเมื่อ 7 ปีที่แล้วค่ะ เรียนมหาลัยเป็นอะไรที่หนักมาก ใช้เงินเยอะด้วย เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนทั้งสมอง แรงกาย แรงเงินด้วย หากคุณมาจากครอบครัวที่พอมีพอกินก็คงไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงินมากมายนัก
แต่เรามาจากครอบครัวที่ไม่มีอันจะกิน พ่อแม่หาเงินเดือนชนเดือน ยังดีที่สามารถกู้เงินเพื่อนการศึกษาได้ในขณะนั้น ต้องขอบคุณเงินส่วนนี้ที่ทำให้เด็กผู้หญิงยากจนคนหนึ่งสามารถเรียนจบ ป.ตรีได้อย่างไม่ลำบากมากนัก
พอเรียนจบแล้วปัญหาคือ หางานทำ??
สมัยนั้นอย่างมากก็ได้เงินเดือน 12000 บาทค่ะ ถามว่าพอเหรอ? เราว่ามันไม่พอสำหรับครอบครัว ทั้งค่าเช่าห้อง ค่าน้ำไฟ จิปาถะที่ต้องจ่าย
โชคดีที่น้าบอกว่า "ที่อาบูดาบี้ต้องการพนักงานเพิ่มนะ"
แต่เราต้องไปเรียนนวดสปา ทำเล็บเพิ่มเติมด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะได้ทำงานตำแหน่งอะไรแน่
จบภาษาจีนมา แต่ต้องไปเรียนเกี่ยวกับสปาเพิ่มเติมเป็นเดือนๆเนี่ยนะ ฟังแล้วยังเหนื่อยทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มเรียนเลยหละ เราคิดไปคิดมาหลายวันกว่าจะตอบตกลงไปเรียนเพิ่มเติม
แรกๆเหนื่อยมากเลยขอบอก เพราะเราไปเรียนนวดที่ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน เรียนแบบเต็มวันต้วย
แต่ยังดีที่มีเพื่อนๆในห้องที่เป็นกันเอง ครูก็สอนดีด้วย เนื้อหาแน่นเปรี๊ยะ
ทั้งหมดทั้งมวลใช้เวลาเรียนเกือบ 5 เดือน กว่าจะได้ไปทำงาน
ในที่สุดก็ถึงวันที่เรารอคอยซะที ตอนที่เราได้ตั๋วและวีซ่าไปทำงาน พูดเลยว่าตื่นเต้นสุดๆ
คนไม่เคยไปต่างประเทศคงพอจะเข้าใจดีว่ามันเหมือนมีผีเสื้อในท้องตลอดเวลา หายใจถี่ๆและไม่ทั่วท้อง
บรรยากาศการทำงานที่อาบูดาบี้ก็ดีทุกอย่าง ยกเว้นห้องที่เราอยู่แออัดไปนิดนึง ซึ่งแบ่งห้องกับเพื่อนๆที่ทำงานอีก 4 คนค่ะ ดีที่ไม่ได้นอนพื้นนะเนี่ย 55 สปาที่เราทำงานเนี่ยรับเฉพาะลูกค้าผู้หญิงค่ะ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าไม่โดนลวนลามแน่นอน
เงินดีมั้ย?
เป็นอีกคำถามที่โดนถามบ่อยมากๆๆๆ รวมค่าคอมเราได้เงินเดือนประมาณ 15000-25000 บาทจ้า คือบอกไม่ได้เลยว่าจะได้เท่าไหร่ในแต่ละเดือน แล้วแต่ว่ามีลูกค้าเยอะมั้ยช่วงนั้น
หวังว่าเรื่องราวของเราจะเป็นประโยชน์กับสาวสปานะจ๊ะ ไว้คราวหน้าจะมาเล่าหัวข้ออื่นให้ฟังนะจ๊ะ
อาจจะดูไม่ปะติดปะต่อ ต้องขออภัยด้วยนะคะ เป็นกระทู้แรกเลยที่มาเขียนอะไรแบบนี้ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
กว่าจะเป็น "สาวสปา" ใน "อาบูดาบี้"
เคยมั้ยที่สมัครงานกี่ 10 ที่ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าที่ไหนจะรับเราทำงาน?
เคยมั้ยที่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า "เราเรียนมหาลัยมาตั้ง 4 ปี เพื่อเงินเดือนแค่นี้เนี่ยนะ"?
คำุามเหล่านี้โบเคยถามตัวเองเมื่อ 7 ปีที่แล้วค่ะ เรียนมหาลัยเป็นอะไรที่หนักมาก ใช้เงินเยอะด้วย เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนทั้งสมอง แรงกาย แรงเงินด้วย หากคุณมาจากครอบครัวที่พอมีพอกินก็คงไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงินมากมายนัก
แต่เรามาจากครอบครัวที่ไม่มีอันจะกิน พ่อแม่หาเงินเดือนชนเดือน ยังดีที่สามารถกู้เงินเพื่อนการศึกษาได้ในขณะนั้น ต้องขอบคุณเงินส่วนนี้ที่ทำให้เด็กผู้หญิงยากจนคนหนึ่งสามารถเรียนจบ ป.ตรีได้อย่างไม่ลำบากมากนัก
พอเรียนจบแล้วปัญหาคือ หางานทำ??
สมัยนั้นอย่างมากก็ได้เงินเดือน 12000 บาทค่ะ ถามว่าพอเหรอ? เราว่ามันไม่พอสำหรับครอบครัว ทั้งค่าเช่าห้อง ค่าน้ำไฟ จิปาถะที่ต้องจ่าย
โชคดีที่น้าบอกว่า "ที่อาบูดาบี้ต้องการพนักงานเพิ่มนะ"
แต่เราต้องไปเรียนนวดสปา ทำเล็บเพิ่มเติมด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะได้ทำงานตำแหน่งอะไรแน่
จบภาษาจีนมา แต่ต้องไปเรียนเกี่ยวกับสปาเพิ่มเติมเป็นเดือนๆเนี่ยนะ ฟังแล้วยังเหนื่อยทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มเรียนเลยหละ เราคิดไปคิดมาหลายวันกว่าจะตอบตกลงไปเรียนเพิ่มเติม
แรกๆเหนื่อยมากเลยขอบอก เพราะเราไปเรียนนวดที่ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน เรียนแบบเต็มวันต้วย
แต่ยังดีที่มีเพื่อนๆในห้องที่เป็นกันเอง ครูก็สอนดีด้วย เนื้อหาแน่นเปรี๊ยะ
ทั้งหมดทั้งมวลใช้เวลาเรียนเกือบ 5 เดือน กว่าจะได้ไปทำงาน
ในที่สุดก็ถึงวันที่เรารอคอยซะที ตอนที่เราได้ตั๋วและวีซ่าไปทำงาน พูดเลยว่าตื่นเต้นสุดๆ
คนไม่เคยไปต่างประเทศคงพอจะเข้าใจดีว่ามันเหมือนมีผีเสื้อในท้องตลอดเวลา หายใจถี่ๆและไม่ทั่วท้อง
บรรยากาศการทำงานที่อาบูดาบี้ก็ดีทุกอย่าง ยกเว้นห้องที่เราอยู่แออัดไปนิดนึง ซึ่งแบ่งห้องกับเพื่อนๆที่ทำงานอีก 4 คนค่ะ ดีที่ไม่ได้นอนพื้นนะเนี่ย 55 สปาที่เราทำงานเนี่ยรับเฉพาะลูกค้าผู้หญิงค่ะ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าไม่โดนลวนลามแน่นอน
เงินดีมั้ย?
เป็นอีกคำถามที่โดนถามบ่อยมากๆๆๆ รวมค่าคอมเราได้เงินเดือนประมาณ 15000-25000 บาทจ้า คือบอกไม่ได้เลยว่าจะได้เท่าไหร่ในแต่ละเดือน แล้วแต่ว่ามีลูกค้าเยอะมั้ยช่วงนั้น
หวังว่าเรื่องราวของเราจะเป็นประโยชน์กับสาวสปานะจ๊ะ ไว้คราวหน้าจะมาเล่าหัวข้ออื่นให้ฟังนะจ๊ะ
อาจจะดูไม่ปะติดปะต่อ ต้องขออภัยด้วยนะคะ เป็นกระทู้แรกเลยที่มาเขียนอะไรแบบนี้ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน