คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
แยกตามชั้นปีแล้วกันครับ
ปี 1 ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ของมหิดล เรียนจันทร์-ศุกร์ 8.30 ถึง 17.30 วันพุธกับวันศุกร์เลิกครึ่งวัน ชีวิตชิวๆ เรียน เล่น ทำกิจกรรมได้ปกติ อ่านหนังสือสอบช่วง 2 สัปดาห์ก่อนสอบ
ปี 2-3 เรียนจันทร์-ศุกร์ 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็นทุกวัน อาจมีบางวันที่ทำแลปเลิก 1-2 ทุ่ม แต่โดยรวมยังถือว่าใช้ชีวิตได้ปกติ ส่วนเนื้อหาจะเยอะกว่าปี 1 มาก ต้องอ่านหนังสือเป็นประจำ เพราะแค่เนื้อหาที่เรียนประมาณ 1 สัปดาห์ก็เยอะกว่าชีวะ ม.ปลาย 3 ปีแล้ว ถ้ามาหวังอ่านแค่วันก่อนสอบมักจะไม่รอด โดยการสอบนั้น สถาบันส่วนมากจะสอบทุกสองสัปดาห์ เนื้อหาที่สอบก็จัดว่าเยอะมาก ตรงนี้จะมีบางคนที่อ่านหนังสือดึกดื่นทุกวัน ไปเที่ยวแค่วันสอบเสร็จ หรือบางคนที่ไม่ได้ซีเรียสมาก เรียนแค่พอผ่าน ก็เอาแค่เข้าเรียนแล้วอ่านทบทวนแค่วันละหน่อย จะยังได้นอนครบวันละ 7-8 ชั่วโมง
ปี 4-5 เริ่มใช้ชีวิตบนหอผู้ป่วย ชีวิตจะต่างกับคณะอื่นอย่างชัดเจน เริ่มไม่ได้เที่ยว บางวันอาจได้กินข้าวเย็นตอนเที่ยงคืน หรือบางวันก็อดนอน
ต้องขึ้นวอร์ดตอน 7.00 น. บางสถาบันให้ขึ้นแค่ จันทร์-เสาร์ (ให้หยุดวันอาทิตย์) แต่บางสถาบันก็ต้องขึ้นทุกวัน ชีวิตจะเริ่มด้วยการดูคนไข้ในวอร์ดตอนเช้า ออกตรวจผู้ป่วยนอก เข้าห้องผ่าตัด
อยู่เวร 1 วันเว้น 2 วัน เช่นอยู่เวรวันอาทิตย์ ก็จะต้องอยู่บนวอร์ดตั้งแต่ 7.00 ของวันอาทิตย์ จนถึง 7.00 ของวันจันทร์ แล้วอยู่ต่อไปถึง 17.00 ถึงจะลงวอร์ดได้ (32 ชั่วโมงติดกัน) พอวันอังคารกับวันพุธก็อยู่แค่ 7.00-17.00 วันพฤหัสก็จะเริ่มอยู่เวรอีกรอบ วนไปเรื่อยๆ
ภาระอื่นที่ต้องทำเช่น เขียนรายงานเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ฉบับ (ซึ่งไม่ใช่เนื้อหาที่เรียน แต่ต้องไปค้นตำราหรืองานวิจัยทางการแพทย์มาเขียน) แล้วนำไปดิสคัสกับอาจารย์แพทย์
ปี 6 คล้ายช่วงปี 4-5 แต่ต่างกันที่ตรงนี้ การทำงานจะคล้ายเป็นหมอจริงๆมากขึ้น เพียงแค่ต้องมีอาจารย์รับรอง หลายครั้งที่ต้องรักษาคนไข้ไปก่อน แล้วรายงานอาจารย์ทีหลัง (เพราะอาจารย์ไม่ได้อยู่ด้วยตลอด) ความรับผิดชอบเยอะขึ้นมาก ช่วงนี้คนที่มีแฟนอยู่คณะอื่นหลายคู่ต้องเลิกกันไปเพราะไม่มีเวลาให้ (สาเหตุที่หมอเป็นแฟนกันเองเยอะ เพราะเข้าใจเรื่องเวลานี่แหละ อย่าว่าแต่ไปเที่ยวเลย ช่วงปี 6 เนี่ย บางทีไม่ได้โทรหาเลยทั้งวัน เพราะแค่เวลานอนก็ไม่มีแล้ว คนที่ไม่ได้เป็นหมอมักจะไม่เข้าใจและรับไม่ได้)
ปี 1 ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ของมหิดล เรียนจันทร์-ศุกร์ 8.30 ถึง 17.30 วันพุธกับวันศุกร์เลิกครึ่งวัน ชีวิตชิวๆ เรียน เล่น ทำกิจกรรมได้ปกติ อ่านหนังสือสอบช่วง 2 สัปดาห์ก่อนสอบ
ปี 2-3 เรียนจันทร์-ศุกร์ 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็นทุกวัน อาจมีบางวันที่ทำแลปเลิก 1-2 ทุ่ม แต่โดยรวมยังถือว่าใช้ชีวิตได้ปกติ ส่วนเนื้อหาจะเยอะกว่าปี 1 มาก ต้องอ่านหนังสือเป็นประจำ เพราะแค่เนื้อหาที่เรียนประมาณ 1 สัปดาห์ก็เยอะกว่าชีวะ ม.ปลาย 3 ปีแล้ว ถ้ามาหวังอ่านแค่วันก่อนสอบมักจะไม่รอด โดยการสอบนั้น สถาบันส่วนมากจะสอบทุกสองสัปดาห์ เนื้อหาที่สอบก็จัดว่าเยอะมาก ตรงนี้จะมีบางคนที่อ่านหนังสือดึกดื่นทุกวัน ไปเที่ยวแค่วันสอบเสร็จ หรือบางคนที่ไม่ได้ซีเรียสมาก เรียนแค่พอผ่าน ก็เอาแค่เข้าเรียนแล้วอ่านทบทวนแค่วันละหน่อย จะยังได้นอนครบวันละ 7-8 ชั่วโมง
ปี 4-5 เริ่มใช้ชีวิตบนหอผู้ป่วย ชีวิตจะต่างกับคณะอื่นอย่างชัดเจน เริ่มไม่ได้เที่ยว บางวันอาจได้กินข้าวเย็นตอนเที่ยงคืน หรือบางวันก็อดนอน
ต้องขึ้นวอร์ดตอน 7.00 น. บางสถาบันให้ขึ้นแค่ จันทร์-เสาร์ (ให้หยุดวันอาทิตย์) แต่บางสถาบันก็ต้องขึ้นทุกวัน ชีวิตจะเริ่มด้วยการดูคนไข้ในวอร์ดตอนเช้า ออกตรวจผู้ป่วยนอก เข้าห้องผ่าตัด
อยู่เวร 1 วันเว้น 2 วัน เช่นอยู่เวรวันอาทิตย์ ก็จะต้องอยู่บนวอร์ดตั้งแต่ 7.00 ของวันอาทิตย์ จนถึง 7.00 ของวันจันทร์ แล้วอยู่ต่อไปถึง 17.00 ถึงจะลงวอร์ดได้ (32 ชั่วโมงติดกัน) พอวันอังคารกับวันพุธก็อยู่แค่ 7.00-17.00 วันพฤหัสก็จะเริ่มอยู่เวรอีกรอบ วนไปเรื่อยๆ
ภาระอื่นที่ต้องทำเช่น เขียนรายงานเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ฉบับ (ซึ่งไม่ใช่เนื้อหาที่เรียน แต่ต้องไปค้นตำราหรืองานวิจัยทางการแพทย์มาเขียน) แล้วนำไปดิสคัสกับอาจารย์แพทย์
ปี 6 คล้ายช่วงปี 4-5 แต่ต่างกันที่ตรงนี้ การทำงานจะคล้ายเป็นหมอจริงๆมากขึ้น เพียงแค่ต้องมีอาจารย์รับรอง หลายครั้งที่ต้องรักษาคนไข้ไปก่อน แล้วรายงานอาจารย์ทีหลัง (เพราะอาจารย์ไม่ได้อยู่ด้วยตลอด) ความรับผิดชอบเยอะขึ้นมาก ช่วงนี้คนที่มีแฟนอยู่คณะอื่นหลายคู่ต้องเลิกกันไปเพราะไม่มีเวลาให้ (สาเหตุที่หมอเป็นแฟนกันเองเยอะ เพราะเข้าใจเรื่องเวลานี่แหละ อย่าว่าแต่ไปเที่ยวเลย ช่วงปี 6 เนี่ย บางทีไม่ได้โทรหาเลยทั้งวัน เพราะแค่เวลานอนก็ไม่มีแล้ว คนที่ไม่ได้เป็นหมอมักจะไม่เข้าใจและรับไม่ได้)
แสดงความคิดเห็น
นักศึกษาแพทย์เนี่ย มีเวลาว่างมากไหมคะ
พี่เขาไม่มีเวลาว่างเลยค่ะ ต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือทังวัน
แต่เป็นคนปกตินะคะ ไม่ได้ติดเรียนขนาดนั้น
เลยคิดว่าวิศวะขนาดนี้ แพทย์จะขนาดไหนคะ
หรือพอๆกัน ใครเรียนแพทย์ช่วยบอกหน่อยนะคะ
แล้วรู้สึกชิลๆกันบ้างไหม