นักเรียนแลกเปลี่ยน

ไม่ต้องไปกังวลว่าเขาจะรังเกียจหรือไม่  เราจะไปเพื่อเรียนรู้นี่คะ   เขารับเราไปอยู่ด้วยนี่ก็แสดงว่าเขาเปิดประตูเปิดใจให้เราได้ระดับหนึ่งแล้ว  สถานการณ์ต่อจากนี้ขึ้นกับปฏิกิริยาและ ความประพฤติของเราว่าจะสานสัมพันธ์อย่างไร

ไปทั้งที แถมไปอยู่บ้านเขา ให้เปิดหูเปิดตาเปิดใจเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้  ทำตัวเหมือนสมาชิคของครอบครัว  รับผิดชอบเก็บข้าวของของตัวเองให้เป็นระเบียบ  เขาทำอะไรก็ร่วมกิจกรรมกับเขา อย่านิ่งดูดาย  แต่ก็อย่าให้เขาเอาเปรียบโละหน้าที่ให้ทำทุกอย่างโดยเจ้าตัวหรือลูกเขาไม่ทำอะไรเลย  เวลาไม่เข้าใจอะไรก็ไต่ถาม ให้เขาอธิบายให้ฟัง

หัดพูดทักทาย บอกลา ขอบคุณ ขอโทษให้ติดปาก  No, thank you. Yes, please. นี่พูดประจำ อย่าอ้ำอึ้งลังเล

อย่ามัวแต่เล่นมือถือ หรือเข้าห้องปิดเงียบ หรือติดต่อกับคนที่เมืองไทยอยู่ตลอดเวลา

เขาชวนทำอะไร ถ้าไม่มีอันตรายก็ทำไป  จะได้เรียนรู้วิถีชีวิต และความนึกคิดของเขาจ

เมื่อเร็วๆนี้มีกระทู้ของเด็กแลกเปลี่ยนที่อเมริกา บ่นว่าโดนบีบบังคับให้เปลี่ยนศาสนา  ป้ากลับมองว่า
เด็กคนนั้นปิดหูปิดตาเกินไป
เขาชวนไปโบสถ์ ชวนอ่าน Bible ก็ตามเขาไปสิ  จะได้ศึกษาธรรมเนียมของเขา  เชื่อไม่เชื่อมันเรื่องของเรา   ตามๆเขาไป จะได้รู้ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้เจอคนเพิ่ม ได้พูดคุยกับคนใหม่ๆ  อย่างน้อยก็จะได้ฝึกภาษา

ระวังเรืองความปลอดภัยของตัวเองด้วย  อย่าเปิดโอกาสให้ตัวเองไม่ปลอดภัย  อย่าอยู่กับใครสองต่อสองโดยเฉพาะผู้ชายแม้แต่ผู้ชายในครอบครัวก็ตาม ระวังตัวไว้เป็นดีค่ะ

กอบโกยความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ค่ะ  จะมีคุณค่าไปตลอดชีวิตนะ