กระแสกำลังมาแรงสำหรับการไล่ "แบน" ผู้ตัดสินในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก จนผมคิดว่า "นี่มันเป็นเทรนด์ใหม่ชัด ๆ" กับการเอื้อประโยชน์ใหกับ "ทีมบางทีม" เพียงเพราะว่า "อยู่ข้างตัวเอง"
จริง ๆ เรื่องการแบนผู้ตัดสิน ซึ่งเป็นคำสั่งตรงมาจาก คณะกรรมการผู้ตัดสิน โดยมี
ชินเสณ ทองโกมล อุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินนั้น เป็นเรื่องที่สร้างความปวดหัว และ ไร้มาตรฐานมาได้พักใหญ่ ๆ แล้ว ผมงงตั้งแต่การที่ไปแบน "เปาโค้ช" ศิวกร ภูอุดม ในแมตซ์ ชิงถ้วยพระราชทาน ก. ในวันที่ 1 ก.พ. 2556 ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไป 1 ประตูต่อ 0
โดยการให้เหตุผลของคณะกรรมการผู้ตัดสินคือ "ไม่เป่าจุดโทษให้กับ เจย์ โบธรอยด์ กองหน้าเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่โดนเตะล้มในเขตโทษ"

"เปาโค้ช" ศิวกร ภูอุดม (Credit : Goal.com)
What the Fu... !! พอออกข่าวมาผมนี่สบถคำหยาบลั่นห้อง เนื่องจากหามาตรฐานในการตัดสินไม่ได้เลย และไม่คิดว่าทางคณะกรรมการผู้ตัดสินจะ "หน้าด้าน" ขนาดที่ใช้ข้ออ้างแบบนี้ในการ "ลงโทษ" ผู้ตัดสิน ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่ากรณีดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า "เสน่ห์ของฟุตบอล" หรือถ้าลองย้อนมองกลับกัน หากเมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นผู้ชนะในแมตซ์ดังกล่าว เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นไหม?
โอเค .. ในเมื่อคิดว่าสิ่งนี้คือ "มาตรฐาน" ต่อมาอีกระยะนึง "เปาหนอม" ถนอม บริคุต ก็สร้างชื่อลือลั่น ด้วยการ "ไม่เป่าให้จุดโทษกับ วสันต์ ฮมแสน ผู้เล่นบางกอกกล๊าส เอฟซี" ในแมตซ์ที่เจอกับ โอสถสภา M-150 สระบุรี เมื่อวันที่ 26 เมษา 2557 ซึ่งแมตซ์ดังกล่าว ทำให้เกมส์ต้องระงับไปนานกว่า 5 นาที และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย รวมถึงการนำไปเปรียบเทียบกับกรณีของ เปาโค้ช อีกด้วย
และก็ไม่น่าเชื่อ ที่ประมุขผู้ตัดสินไทย จะออกมา Comment ว่า "
ไม่ผิดพลาดและเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง"

"เปาหนอม" ถนอม บริคุต (Credit : prachachat.net)
อะไรคือมาตรฐานการตัดสินว่ากรรมการท่านใดควรได้รับการลงโทษ? หรือเพียงเพราะว่า "ผลประโยชน์" และ "พวกพ้อง" มันบังตา จนประมุขผู้ตัดสินไทยไม่สามารถที่จะ "แยกแยะผิดชอบชั่วดี" ออกจากกันได้
ไม่ใช่เพียงแต่บทลงโทษที่ดูเหลื่อมล้ำกันเท่านั้น การปกป้องผู้ตัดสินที่เหมือนจะ "
เลือกที่รัก มักที่ชัง" โดยที่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อาทิ การปกป้อง อลงกรณ์ ฝีมือช่าง ในแมตซ์ที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด เฉือนชนะ อินทรี เพื่อนตำรวจไป 2-1 โดยที่บอลข้ามเส้นประตูไปแล้ว แต่กรรมการท่านนี้กลับถูก "ปกป้อง" โดยให้เหตุผลในครั้งนั้นว่า "
ปฏิบัติหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแม้จะผิดพลาดซ้ำซากอยู่ทุกเมื่อก็ตามที"

อลงกรณ์ ฝีมือช่าง (Credit : Goal.com)
และเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่ไหลเวียนเป็นบทวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานอัน "ไร้ศักยภาพ" และ "มาตรฐาน" ของวงการผู้ตัดสินไทย ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากแฟนฟุตบอลชาวไทย อาทิ การแก้ปัญหาผู้ตัดสินเอียง ด้วยการ พาไปสาบานที่วัดพระแก้ว ซึ่งกลายเป็นเรื่องตลกร้าย ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงนั้น ว่า คนที่เป็นถึง "ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน คิดได้แค่นี้เองเหรอ?" กับปัญหาดังกล่าว

ชินเสณ ทองโกมล นำคณะผู้ตัดสินสาบานที่วัดพระแก้วฯ (Credit : Matichon.co.th)
และล่าสุด จากเหตุการณ์ที่ สุพรรณบุรี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไป 2-1 ก็มีคำสั่งจากคณะกรรมการผู้ตัดสิน ให้แบน "เปาวีป" ทวีป อินทร์แก้ว แบบไร้กำหนด และ ยังแบนไลน์แมนในแมตซ์นั้นอย่าง "เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม" ไลน์แมนฟีฟ่า โดยให้เหตุผลว่า

"เปาวีป" ทวีป อินทร์แก้ว (Credit : siamsport.co.th)
"เรื่องนี้ถือเป็น
ความผิดที่เกิดขึ้นแบบซ้ำซาก ซึ่งจังหวะที่เกิดปัญหาคือจังหวะเดียวกับที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 จะต้องช่วยผู้ตัดสินดูเหตุการณ์ด้วย ซึ่งจังหวะที่เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สมควรจะได้จุดโทษนั้น เป็นตำแหน่งเดียวกับ เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม จะต้องช่วยผู้ตัดสินในสนามด้วย ทั้งนี้คณะกรรมการผู้ตัดสินจึงสรุปให้มีการลงโทษแบนยาวแบบไม่มีกำหนด ซึ่งหากผิดในลักษณะนี้อีกไม่ว่าจะเป็นผู้ตัดสิน หรือผู้ช่วยผู้ตัดสินจะต้องโดนแบนยาวทันที" (Credit : siamsport วันที่ 8/4/2015 เวลา 19.40.39)

เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม (Credit : siamsport.co.th)
และนั่นคือทั้งหมดของที่มาแห่งการวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการผู้ตัดสินแห่งประเทศไทยในวงกว้าง ตั้งแต่โลก Social ยันในหมู่แฟนบอลยิบย่อยน้อยใหญ่ ด้วยความที่ "มาตรฐานของการตัดสิน" ที่ดูเหมือนจะ "เข้าข้าง" ฝั่งที่ผู้มีอำนาจดังกล่าวได้สนับสนุนอยู่ โดยไม่แคร์ว่า การพัฒนาผู้ตัดสินและมาตรฐานต่าง ๆ กำลังถอยหลังเข้าคลองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ผมคงไม่สรุปว่า สิ่งที่ ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินและคณะ ทำนั้น "ถูกต้องหรือไม่" เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ มันก็สะท้อนให้เห็น "ความเหลื่อมล้ำ" ที่ชัดเจนอยู่แล้ว และคงไม่ต้องไปชี้นำอะไร เพราะแค่ตัวผู้ที่เป็นประธานยัง "ย้อนแย้ง" กับสิ่งที่ตัวเองพูดเลย ในเรื่องของ "
ความซ้ำซาก" ในความผิดอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่
คราว อลงกรณ์ ฝีมือช่าง คุณบอกว่า "
ปฏิบัติหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแม้จะผิดพลาดซ้ำซากอยู่ทุกเมื่อก็ตามที"
แต่พอคราวของ เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม คุณกลับบอกว่า "
เรื่องนี้ถือเป็นความผิดซ้ำซาก .."
หากยังเป็นอย่างนี้อยู่ อนาคตผู้ตัดสินไทยจะอยู่ตรงไหนครับ? เพราะแค่การปฏิบัติหน้าที่ที่ผิดพลาดเหมือนกัน กรณีใกล้กัน มาตรฐานการตัดสินยัง "ต่างกันฟ้ากับเหว" หรือเพียงเพราะว่า นี่คือหน้าฉากหนึ่งที่ต้องการจะเอาใจ "ขั้วอำนาจ" ที่ท่านสนิทชิดเชื้อ? โดยไม่สนใจว่าใครจะเสียผลประโยชน์จากการตัดสินอัน "อ่อนหัด" ของผู้บริหารที่ผมคิดว่า "ไร้ความสามารถ" อย่างนี้เหรอครับ?
น่าสงสาร .. น่าสงสารวงการฟุตบอลไทย ที่ตอนนี้กำลังเริ่มที่จะตื่นตัวขึ้นมา กระแสที่ได้จากการฟื้นจากอาการโคม่าของฟุตบอลทีมชาติ ช่วยปลุกกระแสให้แฟนบอลหลายระดับ ตื่นตัวกับวงการฟุตบอลไทย แต่กลับต้องมาเจอกับเหตุการณ์ "ไร้มาตรฐาน" สวนกระแสขาขึ้นของวงการฟุตบอลไทยอย่างชัดเจน
หากมาตรการต่าง ๆ จากทางคณะกรรมการดังกล่าวยัง "ตามใจฉัน" อยู่อย่างนี้ อีกไม่นาน ผู้ตัดสินในประเทศไทยจะค่อย ๆ หายไป และไม่มีคุณภาพ และแม้จะนำเข้าผู้ตัดสินเมืองนอกเมืองนาเข้ามาก็ตาม เชื่อผมเถอะครับ "
มันไม่มีทางยกระดับหรือพัฒนาผู้ตัดสินฟุตบอลไทยได้หรอก"
ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
edit : คำผิดและข้อความบางอย่างครับ (ใส่ชื่อบางท่านผิด 55+)
ความเหลื่อมล้ำในวงการผู้ตัดสินไทย : จากเปาโค้ช สู่ เปาเกรียงศักดิ์
จริง ๆ เรื่องการแบนผู้ตัดสิน ซึ่งเป็นคำสั่งตรงมาจาก คณะกรรมการผู้ตัดสิน โดยมี ชินเสณ ทองโกมล อุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินนั้น เป็นเรื่องที่สร้างความปวดหัว และ ไร้มาตรฐานมาได้พักใหญ่ ๆ แล้ว ผมงงตั้งแต่การที่ไปแบน "เปาโค้ช" ศิวกร ภูอุดม ในแมตซ์ ชิงถ้วยพระราชทาน ก. ในวันที่ 1 ก.พ. 2556 ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไป 1 ประตูต่อ 0
โดยการให้เหตุผลของคณะกรรมการผู้ตัดสินคือ "ไม่เป่าจุดโทษให้กับ เจย์ โบธรอยด์ กองหน้าเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่โดนเตะล้มในเขตโทษ"
"เปาโค้ช" ศิวกร ภูอุดม (Credit : Goal.com)
What the Fu... !! พอออกข่าวมาผมนี่สบถคำหยาบลั่นห้อง เนื่องจากหามาตรฐานในการตัดสินไม่ได้เลย และไม่คิดว่าทางคณะกรรมการผู้ตัดสินจะ "หน้าด้าน" ขนาดที่ใช้ข้ออ้างแบบนี้ในการ "ลงโทษ" ผู้ตัดสิน ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่ากรณีดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า "เสน่ห์ของฟุตบอล" หรือถ้าลองย้อนมองกลับกัน หากเมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นผู้ชนะในแมตซ์ดังกล่าว เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นไหม?
โอเค .. ในเมื่อคิดว่าสิ่งนี้คือ "มาตรฐาน" ต่อมาอีกระยะนึง "เปาหนอม" ถนอม บริคุต ก็สร้างชื่อลือลั่น ด้วยการ "ไม่เป่าให้จุดโทษกับ วสันต์ ฮมแสน ผู้เล่นบางกอกกล๊าส เอฟซี" ในแมตซ์ที่เจอกับ โอสถสภา M-150 สระบุรี เมื่อวันที่ 26 เมษา 2557 ซึ่งแมตซ์ดังกล่าว ทำให้เกมส์ต้องระงับไปนานกว่า 5 นาที และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย รวมถึงการนำไปเปรียบเทียบกับกรณีของ เปาโค้ช อีกด้วย
และก็ไม่น่าเชื่อ ที่ประมุขผู้ตัดสินไทย จะออกมา Comment ว่า "ไม่ผิดพลาดและเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง"
"เปาหนอม" ถนอม บริคุต (Credit : prachachat.net)
อะไรคือมาตรฐานการตัดสินว่ากรรมการท่านใดควรได้รับการลงโทษ? หรือเพียงเพราะว่า "ผลประโยชน์" และ "พวกพ้อง" มันบังตา จนประมุขผู้ตัดสินไทยไม่สามารถที่จะ "แยกแยะผิดชอบชั่วดี" ออกจากกันได้
ไม่ใช่เพียงแต่บทลงโทษที่ดูเหลื่อมล้ำกันเท่านั้น การปกป้องผู้ตัดสินที่เหมือนจะ "เลือกที่รัก มักที่ชัง" โดยที่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อาทิ การปกป้อง อลงกรณ์ ฝีมือช่าง ในแมตซ์ที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด เฉือนชนะ อินทรี เพื่อนตำรวจไป 2-1 โดยที่บอลข้ามเส้นประตูไปแล้ว แต่กรรมการท่านนี้กลับถูก "ปกป้อง" โดยให้เหตุผลในครั้งนั้นว่า "ปฏิบัติหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแม้จะผิดพลาดซ้ำซากอยู่ทุกเมื่อก็ตามที"
อลงกรณ์ ฝีมือช่าง (Credit : Goal.com)
และเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่ไหลเวียนเป็นบทวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานอัน "ไร้ศักยภาพ" และ "มาตรฐาน" ของวงการผู้ตัดสินไทย ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากแฟนฟุตบอลชาวไทย อาทิ การแก้ปัญหาผู้ตัดสินเอียง ด้วยการ พาไปสาบานที่วัดพระแก้ว ซึ่งกลายเป็นเรื่องตลกร้าย ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงนั้น ว่า คนที่เป็นถึง "ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน คิดได้แค่นี้เองเหรอ?" กับปัญหาดังกล่าว
ชินเสณ ทองโกมล นำคณะผู้ตัดสินสาบานที่วัดพระแก้วฯ (Credit : Matichon.co.th)
และล่าสุด จากเหตุการณ์ที่ สุพรรณบุรี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไป 2-1 ก็มีคำสั่งจากคณะกรรมการผู้ตัดสิน ให้แบน "เปาวีป" ทวีป อินทร์แก้ว แบบไร้กำหนด และ ยังแบนไลน์แมนในแมตซ์นั้นอย่าง "เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม" ไลน์แมนฟีฟ่า โดยให้เหตุผลว่า
"เปาวีป" ทวีป อินทร์แก้ว (Credit : siamsport.co.th)
"เรื่องนี้ถือเป็นความผิดที่เกิดขึ้นแบบซ้ำซาก ซึ่งจังหวะที่เกิดปัญหาคือจังหวะเดียวกับที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 จะต้องช่วยผู้ตัดสินดูเหตุการณ์ด้วย ซึ่งจังหวะที่เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สมควรจะได้จุดโทษนั้น เป็นตำแหน่งเดียวกับ เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม จะต้องช่วยผู้ตัดสินในสนามด้วย ทั้งนี้คณะกรรมการผู้ตัดสินจึงสรุปให้มีการลงโทษแบนยาวแบบไม่มีกำหนด ซึ่งหากผิดในลักษณะนี้อีกไม่ว่าจะเป็นผู้ตัดสิน หรือผู้ช่วยผู้ตัดสินจะต้องโดนแบนยาวทันที" (Credit : siamsport วันที่ 8/4/2015 เวลา 19.40.39)
เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม (Credit : siamsport.co.th)
และนั่นคือทั้งหมดของที่มาแห่งการวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการผู้ตัดสินแห่งประเทศไทยในวงกว้าง ตั้งแต่โลก Social ยันในหมู่แฟนบอลยิบย่อยน้อยใหญ่ ด้วยความที่ "มาตรฐานของการตัดสิน" ที่ดูเหมือนจะ "เข้าข้าง" ฝั่งที่ผู้มีอำนาจดังกล่าวได้สนับสนุนอยู่ โดยไม่แคร์ว่า การพัฒนาผู้ตัดสินและมาตรฐานต่าง ๆ กำลังถอยหลังเข้าคลองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ผมคงไม่สรุปว่า สิ่งที่ ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินและคณะ ทำนั้น "ถูกต้องหรือไม่" เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ มันก็สะท้อนให้เห็น "ความเหลื่อมล้ำ" ที่ชัดเจนอยู่แล้ว และคงไม่ต้องไปชี้นำอะไร เพราะแค่ตัวผู้ที่เป็นประธานยัง "ย้อนแย้ง" กับสิ่งที่ตัวเองพูดเลย ในเรื่องของ "ความซ้ำซาก" ในความผิดอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่
คราว อลงกรณ์ ฝีมือช่าง คุณบอกว่า "ปฏิบัติหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแม้จะผิดพลาดซ้ำซากอยู่ทุกเมื่อก็ตามที"
แต่พอคราวของ เกรียงศักดิ์ เกียรติสงคราม คุณกลับบอกว่า "เรื่องนี้ถือเป็นความผิดซ้ำซาก .."
หากยังเป็นอย่างนี้อยู่ อนาคตผู้ตัดสินไทยจะอยู่ตรงไหนครับ? เพราะแค่การปฏิบัติหน้าที่ที่ผิดพลาดเหมือนกัน กรณีใกล้กัน มาตรฐานการตัดสินยัง "ต่างกันฟ้ากับเหว" หรือเพียงเพราะว่า นี่คือหน้าฉากหนึ่งที่ต้องการจะเอาใจ "ขั้วอำนาจ" ที่ท่านสนิทชิดเชื้อ? โดยไม่สนใจว่าใครจะเสียผลประโยชน์จากการตัดสินอัน "อ่อนหัด" ของผู้บริหารที่ผมคิดว่า "ไร้ความสามารถ" อย่างนี้เหรอครับ?
น่าสงสาร .. น่าสงสารวงการฟุตบอลไทย ที่ตอนนี้กำลังเริ่มที่จะตื่นตัวขึ้นมา กระแสที่ได้จากการฟื้นจากอาการโคม่าของฟุตบอลทีมชาติ ช่วยปลุกกระแสให้แฟนบอลหลายระดับ ตื่นตัวกับวงการฟุตบอลไทย แต่กลับต้องมาเจอกับเหตุการณ์ "ไร้มาตรฐาน" สวนกระแสขาขึ้นของวงการฟุตบอลไทยอย่างชัดเจน
หากมาตรการต่าง ๆ จากทางคณะกรรมการดังกล่าวยัง "ตามใจฉัน" อยู่อย่างนี้ อีกไม่นาน ผู้ตัดสินในประเทศไทยจะค่อย ๆ หายไป และไม่มีคุณภาพ และแม้จะนำเข้าผู้ตัดสินเมืองนอกเมืองนาเข้ามาก็ตาม เชื่อผมเถอะครับ "มันไม่มีทางยกระดับหรือพัฒนาผู้ตัดสินฟุตบอลไทยได้หรอก"
ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
edit : คำผิดและข้อความบางอย่างครับ (ใส่ชื่อบางท่านผิด 55+)