คนไทยชินกับคำว่าใจดีมากเกินไปหรือเปล่าคะ

กระทู้สนทนา
กระทู้แรกของเรานะคะ อยากจะมาแสดงความคิดเห็นสักหน่อย
วันนี้ก็นั่งบีทีเอสไปลงที่สถานีบางหว้า แล้วก็จะขึ้นรถเมล์กลับบ้านตามปกติค่ะ
คนที่ขึ้นรถที่บางหว้าจะรู้ค่ะว่าคนจะยืนกันอยู่หน้าทางลงบันไดกันเยอะมาก
เพื่อที่จะรอขึ้นรถเมล์ แล้วปกติก็คือ ตรงนั้นรถจะติดมากค่ะ
แต่มาวันนี้มีเชือกสีแดงมากั้นไว้ให้เดินไปขึ้นข้างหน้าซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นป้ายรถเมล์นั่นแหละค่ะ
แล้วก็เจอพี่จาก ขสมก. มั้งคะ มายืนคอยโบกให้ผู้โดยสารเดินไปข้างหน้า
คอยอำนวยความสะดวก คอยบอกว่ารถเมล์สายไหนมาบ้าง คอยโบกรถให้ น่าชื่นชมมากค่ะ
แต่ประเด็นคือ เรายืนรอรถเมล์ประมาณ 10-20 นาที ก็สังเกตุมาตลอด คือ
จริงๆแล้วถ้าทุกคนทำตามระเบียบ ทำตามวินัย มันก็แก้ปัญหาไปได้หลายอย่างเลยนะคะ
เห็นประเทศญี่ปุ่นที่เค้าเข้าแถว เป็นระเบียบ รถไม่ติดอะไรแบบนี้มั้ยคะ เราว่าก็เป็นเพราะพวกเค้ามีระเบียบวินัย
อย่างกรณีนี้พี่ ขสมก. เค้าต้องการให้
1.ผู้โดยสารขึ้นรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์
2.คนขับรถเมล์จอดรับผู้โดยสารที่ป้าย โดยที่ไม่เปิดประตูก่อนที่จะถึงป้าย
3.คนขับรถเมล์ไม่จอดแช่รอผู้โดยสาร เมื่อผู้โดยสารคนสุดท้ายมาถึงก็ออกรถต่อเลย
4.รถธรรมดาให้ออกเลนขวาทั้งหมด (ตอนนี้มี 2 เลนค่ะเพราะติดทำบีทีเอส)
5.รถแท๊กซี่ให้ออกเลนขวาหรือถ้ามีผู้โดยสารขึ้นรถก็โบกได้แต่ถ้าไม่มีก็ให้ขับต่อไปไม่จอดแช่
*อย่างข้อนี้วันนี้ที่เราเห็นนะคะ คือผู้โดยสารขึ้นไปแล้วแท๊กซี่ออกรถเลย โดยที่ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องถาม
โชเฟอร์ก่อนว่าไปมั้ย เราว่าดีนะคะ และแท๊กซี่ก็ควรจะเป็นแบบนี้นะคะในความคิดเรา
แต่วันนี้ที่เจออีกคือ มีแท๊กซี่จอดแช่รอผู้โดยสาร โดยที่ไม่มีผู้โดยสารจะขึ้นเลยทำให้รถติด
พอพี่ ขสมก. ประกาศบอกให้ออกรถ พี่โชเฟอร์แกก็ขับเร็วมากเหมือนประชด เกือบชนพี่ขสมก.แหน่ะค่ะ
พี่ขสมก. พูดจาเพราะมากๆเลยนะคะ แอบสงสารพี่เค้า
6. รถสองแถวให้จอดที่ป้ายเหมือนรถเมล์ พอคนขึ้นหมดแล้วให้ออกรถเลย
*อันนี้เจอบ่อยมากค่ะ บางทีรถเมล์อยู่ข้างหลัง แต่พี่สองแถวแกจอดแช่ รถเมล์จะมาก็ไม่ได้

หลังจากที่สังเกตุมาเราว่ามันแก้ปัญหาได้เยอะเลยนะคะ คือ รถไหลไปเรื่อยๆ รถไม่ติดเลย
ผู้โดยสารขึ้นรถกันได้เป็นระเบียบ ได้ขึ้นรถเร็วขึ้น แล้วเราว่าการที่ออกรถเลยหลังจากที่ผู้โดยสารขึ้นครบ
ก็ไม่ได้เกิดปัญหาอะไรมากนะคะ บางคนอาจจะวิ่งไปไม่ทัน ไม่อยากรอคันต่อไปนานๆ แต่ลองคิดดูนะคะ
ถ้าเราทำกันแบบนี้ทุกสถานี รถก็จะไม่ติดจะสามารถวิ่งได้เรื่อยๆ รถเมล์ก็จะมาเรื่อยๆ ไม่ต้องเสียเวลารอนานนะคะ
บางคนอาจจะบอกว่า แล้วคนแก่หล่ะ คนถือของเยอะหล่ะ ไม่สงสารหรอ ที่จอดใกล้ๆให้ก็เพราะจะได้ไม่เหนื่อย
แต่เราว่าการมีน้ำใจก็ทำตามภายใต้ระเบียบวินัยได้นะคะ เช่น ถ้าเห็นคนแก่มาใกล้ๆ ก็อาจจะจอดรอแกที่ป้ายอีกสักพักเพื่อให้แกขึ้นทัน
หรือแสดงน้ำใจบนรถเมล์ที่เมื่อเห็นคนแก่ขึ้นมาก็ลุกให้นั่ง ซึ่งสมัยนี้หาได้ยากเพราะวัยรุ่นและวัยทำงานส่วนใหญ่
มีสมาร์ทโฟนเล่น ก็นั่งก้มหน้าก้มตาเล่น ไม่สนใจ หรือบางคนก็แกล้งหลับไปเลย
อย่างวันนี้ก็เจอผู้หญิงคนนึงถือถุงมาเยอะ พี่ขสมก.ก็คอยประกาศว่า "รบกวนเดินไปที่ป้ายเลยนะครับ รถเมล์จอดที่ป้ายนะครับ
เพื่อที่จะรถการติดขัดของจราจร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านกลับบ้านช้าลงนะครับ" แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เดินไปที่ป้าย
พอรถเมล์กำลังจะไปจอดที่ป้ายแต่ประตูยังไม่เปิด เพราะต้องเปิดที่ป้าย ผู้หญิงคนนี้ก็ต้องวิ่งๆตาม พี่ขสมก.ก็บอกคนขับว่า
ไปเรื่อยๆเลยครับ เปิดประตูที่ป้ายเลย ผู้หญิงคนนั้นกลับตะโกนว่า จะเรื่อยๆไปไหนเนี่ย

เราว่าถ้าทำตามที่พี่ ขสมก. อยากให้ทำตาม มันก็แก้ปัญหาไปได้เยอะเลยนะคะ
เราว่าเราควรที่จะมารณรงค์ปฏิบัติตาม 6 ข้อที่เรากล่าวไปกันนะคะ
เริ่มจากการปฏิบัติของเรา ทำให้แก้ปัญหาไปได้หลายเรื่องเลยนะคะ
-ขอบคุณค่ะ ^^-
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่