หลังจากที่ขับไล่ยิวจากมะดียะแล้ว
ท่านนบีได้ ตามไปจัดการยิวที่หนีจากมะดีนะ ไปคอยบัดร มีรายละเอียดในบันทึกของมุสลิม ดังนี้
www.mureed.com/article/Islamic-Geographic/koibar.doc
สรุปได้ดังนี้
1 หนึ่งในสามของความสมบูรณ์ของแถบอาหรับอยู่ที่คอยบัร
2.มุสลิมยกกำลัง1400คน ไปถึงกลางคืนโดยทางยิวไม่ทันรู้ตัว รุ่งเช้าพวกยิวเห็นทหารมุสลิม พวกยะฮูดีได้หลบซ่อนตัวอยู่ในป้อมปราการหลายแห่ง
3• มุสลิมสามารถยึดทรัพย์สงครามที่พวกยิวได้ทิ้งไว้ภายนอกป้อมปราการ และสามารถพิชิตป้อมปราการได้อย่างต่อเนื่อง ได้ทรัพย์สงครามในป้อมมากมาย
4.• มุสลิมได้บุกจู่โจมคอยบัรและสามารถพิชิตได้ทรัพย์สงครามจำนวนมากมาย
5• หลังจากพิชิตป้อม อัลวะฎีฮฺ และ อัสสุลาลิม ได้แล้ว บรรดายะฮูดได้ขอต่อท่านนบีให้ปล่อยพวกเขาไป โดยที่พวกเขาจะทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้แก่มุสลิม
6• พวกยะฮูดีจะแบ่งผลผลิตครึ่งหนึ่งให้แก่มุสลิม โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อไรที่ท่านนบี ต้องการให้พวกเขาออกไปจากสวนของพวกเขา เขาจะออกไปทันที
7• ชาวฟะดักเมื่อได้ทราบข่าวเรื่องสงครามคอยบัร ได้เกิดความหวาดกลัวขึ้นจึงได้ส่งคนมาขอทำสนธิสัญญาโดยจะส่งมอบผลผลิตครึ่งหนึ่งของเมืองให้แก่มุสลิม
8• มุสลิมชะฮีดในสงครามนี้ประมาณ 15 คน
สงครามยิว มุสลิม และการเก็บส่วย
ท่านนบีได้ ตามไปจัดการยิวที่หนีจากมะดีนะ ไปคอยบัดร มีรายละเอียดในบันทึกของมุสลิม ดังนี้
www.mureed.com/article/Islamic-Geographic/koibar.doc
สรุปได้ดังนี้
1 หนึ่งในสามของความสมบูรณ์ของแถบอาหรับอยู่ที่คอยบัร
2.มุสลิมยกกำลัง1400คน ไปถึงกลางคืนโดยทางยิวไม่ทันรู้ตัว รุ่งเช้าพวกยิวเห็นทหารมุสลิม พวกยะฮูดีได้หลบซ่อนตัวอยู่ในป้อมปราการหลายแห่ง
3• มุสลิมสามารถยึดทรัพย์สงครามที่พวกยิวได้ทิ้งไว้ภายนอกป้อมปราการ และสามารถพิชิตป้อมปราการได้อย่างต่อเนื่อง ได้ทรัพย์สงครามในป้อมมากมาย
4.• มุสลิมได้บุกจู่โจมคอยบัรและสามารถพิชิตได้ทรัพย์สงครามจำนวนมากมาย
5• หลังจากพิชิตป้อม อัลวะฎีฮฺ และ อัสสุลาลิม ได้แล้ว บรรดายะฮูดได้ขอต่อท่านนบีให้ปล่อยพวกเขาไป โดยที่พวกเขาจะทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้แก่มุสลิม
6• พวกยะฮูดีจะแบ่งผลผลิตครึ่งหนึ่งให้แก่มุสลิม โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อไรที่ท่านนบี ต้องการให้พวกเขาออกไปจากสวนของพวกเขา เขาจะออกไปทันที
7• ชาวฟะดักเมื่อได้ทราบข่าวเรื่องสงครามคอยบัร ได้เกิดความหวาดกลัวขึ้นจึงได้ส่งคนมาขอทำสนธิสัญญาโดยจะส่งมอบผลผลิตครึ่งหนึ่งของเมืองให้แก่มุสลิม
8• มุสลิมชะฮีดในสงครามนี้ประมาณ 15 คน