จากคนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของกันและกัน วันนี้กลับกลายเป็น........ (++)

สวัสดีค่ะ เราเป็นคนคนหนึ่งที่ชอบอ่านเรื่องราวความรักที่น่ารัก กุ๊กกิ๊กในพันทิปมาตลอด

ได้อ่านเรื่องราวความรักของหลายต่อหลายคน หลายต่อหลายคู่ เลยได้รู้ว่าโลกของเรามีรักที่สวยงามและไม่สวยงามปะปนกันไป

เลยอยากจะมาเล่าเรื่องความรักที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รักให้ทุกคนได้อ่านกัน ถ้าเขียนไม่สนุก ก็ต้องขออภัยมาล่วงหน้าเลยนะคะ เพราะเพิ่งหัดตั้งกระทู้ อมยิ้ม16

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนเอกชนโรงเรียนหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เราเรียนที่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ใส่เอี๊ยม ผูกเปียแกละ สมัย ป.1 จนถึง ผูกไทใส่เสื้อแขนยาว ตอน ม. 6 เลยทีเดียวเชียว เรียกได้ว่าอยู่โรงเรียนเดียวมา 12 ปี ไม่เคยย้ายไปไหนเลย (ดูรักโรงเรียนมากกกกก 555)  ซึ่งมันก็ไม่ต่างกันกับแฟนของเรา ที่อยู่โรงเรียนเดียวกันมาตลอดระยะเวลา 12 ปี หลังจากนี้ขออนุญาตแทนตัวเองว่า แบร์ และแทนชื่อแฟนว่า เท็ดดี้ นะคะ ^^

เชื่อมั้ยว่า ระยะเวลาตั้งแต่ ป.1 - ม.3 เท็ดดี้ และตัวของแบร์เองนั้น ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยคุยกัน ไม่เคยทำกิจกรรมร่วมกัน สารพัดจะสรรหาคำว่า "ไม่เคย" และที่หนักยิ่งกว่านั้นคือ ไม่เคยอยู่ในสายตากันเลย เพราะต่างคนต่างมีสเปกเป็นของตัวเอง ของเราต้องเป็นหนุ่มตี๋ ขาว สูง ในขณะที่ของเท็ดดี้นั้น ต้องเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ขาว น่ารัก  แหม่!!!!! ไอ่เรามันมีดีอยู่ข้อเดียวคือขาว ที่เหลือนี่ อวบอ้วน ตัน และเป็นผู้หญิงถึกและบึกบึน   ในขณะที่เท็ดดี้ ก็ไม่ใช่ผู้ชายสูง ไม่ใช่หนุ่มตี๋ในสเปก เรียกได้ว่า ไม่มีใคร อยู่ในสเปกใครเลย 55555

ไม่รู้ว่าใครจะเรียกอะไรนะ แต่เรากับเท็ดดี้ พร้อมใจเรียกเรื่อง ๆ นี้ว่าพรหมลิขิตชัด ๆ
มันเริ่มขึ้นตอนเปิดเทอม ม.4 วันเปิดเทอมธรรมดาที่แสนจะไม่ธรรมดา ห้องคิงก็เป็นห้องที่ธรรมดา เพราะมีแต่เพื่อนที่รู้จักกันตามกันมาอยู่แล้ว แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่ มีสิ่งแปลกปลอม อย่างเท็ดดี้ กับเพื่อนอีก 2 คนอยู่ในห้องด้วย

แล้วกรรมก็หล่นโบ๊ะ!!! ตกลงกลางหัวเท็ดดี้ ที่โดนเพื่อนผู้ชายคนอื่นในห้องโหวตให้เป็นหัวหน้าห้อง เพราะฮีมาจากห้องอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นห้องคิงกับห้องควีนเก่า (จริง ๆ แล้วโดนไอ่พวกชนกลุ่มใหญ่รวมหัวแกล้ง 5555) เราซึ่งก็เป็นผู้ร่วมโหวตหัวเราะได้ไม่นาน กรรมก็หล่นกลางหัวเราจัง ๆ ตำแหน่งเหรัญญิก ทวงเงินยิก ๆ ๆ ทุกอาทิตย์ก็ตามมาหลอกหลอน พ่อเท็ดดี้ขี้อายก็ร่วมหัวลงโรงหัวเราะด้วย หึหึหึ อย่าให้ได้ถึงเวลาทวงตังนะ!!!! (เจ้าคิดเจ้าแค้นตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ 5555)

หลังจากนั้น ทุก ๆ อาทิตย์ เราจะคุยกับเท็ดดี้แค่เพียงประโยคเดียวคือ "จ่ายเงินค่าห้องมา 10 บาท"  จบ!!!!!! แต่ฮีก็ดีนะ ไม่เคยเป็นหนี้เหรัญญิกอย่างเราเลย  ซึ่งการพูดกันแบบนี้มันก็เป็นรูปแบบเดิม ๆ ทุกอาทิตย์ เราสองคนไม่เคยได้คุยอะไรกันมากกว่านั้น

แม้ว่าจะมีกิจกรรมของห้อง กิจกรรมของอะไรก็ตาม เราไม่เคยอยู่ชุมนุมเดียวกัน ไม่เคยอยู่กลุ่มเดียวกัน อีกอย่างเราเป็นเด็กบ้ากิจกรรม ห้องเรียนนี่แทบไม่ได้อยู่ หรือถ้าอยู่ ก็นั่งกันคนละมุม คนละฟากห้อง  ในขณะที่เราตั้งใจเรียน พ่อเท็ดดี้ตัวดีก็นั่งหลับน้ำลายยืดดดดดด (เฮ้ย!!! หัวหน้าห้องประสาอะไร หลับน้ำลายยืดทุก ๆ คาบบ่าย ฮามากกกกก สารพัดท่าที่จะนั่งหลับของฮี 5555+) ถามว่าตอนนั้นเราสนใจเท็ดดี้มั้ย ตอบเลยว่า "ไม่" แต่ก็แบบ มองนิดมองหน่อย ตามประสาชะนีที่ชอบมองผู้ชายหน้าตาดี

เท็ดดี้เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดเพศเดียวกันได้ดีกว่าดึงดูดเพศตรงข้าม ดังนั้น หลังจากมีค่ายห้อง มีการทำกิจกรรมห้อง จาก ม.4 เลื่อนเป็น ม.5 ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่จะมีสาวรุ่นใหม่ (ที่มีไข่และยืนฉี่ได้) มาตกหลุมรัก อาจจะเพราะนิสัยที่ใจดี ดีแสนดี ปฏิเสธคนไม่เป็น ยอมเขาไปซะทุกอย่าง ทำให้สาว ๆ รุ่นใหม่ปันใจมอบรักให้ฮีได้ไม่ยาก แต่พี่เท็ดดี้แกก็ยืนยันอย่างหนักแน่น ว่าฮีเป็นแมน ไม่ชอบเพศเดียวกัน ฮีชอบชะนี!!!! เอ้ย สตรี  คำยืนยันหนักแน่นของฮีทำให้สาวรุ่นใหม่ ยอมตัดใจ ไม่ได้เป็นแฟนกันก็ยังเป็นเพื่อนกันได้

และเพราะเรื่อง ๆ นี้เขารู้กันทั่วทั้งห้อง เราได้มีโอกาสได้รู้จักนิสัยใจคอฮีเพิ่มเติม (จากที่เคยคิด ๆ อยู่นะว่า อิตาเท็ดดี้นี่ผู้ชายจริงหรือหญิงเทียมกันแน่??) เพื่อนสนิทเรา ขอเรียกว่าปุยฝ้ายนะคะ ทำตัวเป็นคนดี ตีสนิทกับเท็ดดี้  
นางชอบควงเท็ดดี้มาหาเราแล้วบอกเราว่า

"แก ๆ นี่สามีชั้น" อินี่ก็อยากเล่นด้วย เลยเดินเข้าไปหาเท็ดดี้บ้าง คว้าแขนอีกข้างของฮีมา พร้อมกับบอกว่า

"สามีแก แต่นี่คู่หมั้นชั้น" โอ้ยยยยย ขุ่นพระขุ่นเจ้า ไม่รู้ไปเอาความกล้าบ้าบิ่นที่ไหนมาเล่นด้วย ทั้ง ๆ ที่ยังไม่สนิทกะเค้า แบบว่าอายก็อายนะ แต่อยากแกล้งเพื่อนอ้ะ เลยเล่นไป

ตอนแรกนึกว่าฮีจะไม่เล่นด้วย ที่ไหนได้ค่ะคุณ ๆ ขาาาาาา นางปลดแขนปุยฝ้ายออก ละมายืนเคียงกับเราแทน แล้วหันไปบอกปุยฝ้ายว่า "เอ้อ เนี่ยแหละคู่หมั้นเรา" หวาย ๆ ๆ ๆ ว่าจะไม่เขินละ ขอเขินทีนึงค่าาาาาาา 5555+

อิชั้นได้ทีเลยเสริมเลยค่ะ "แกเป็นแค่เมียเก็บ ชั้นนี่ซิคู่หมั้นที่จะได้แต่งงานกับเค้า" อร๊ายยยยย ผีสิงค่ะ ผีสิง ไม่รู้กล้าพูดไปได้ไง อิตาเท็ดดี้หมีบ้าก็เออ ออ ผสมโรงด้วยเลยค่ะ  

หลังจากการละเล่นติงต๊องนี้ เรากับเท็ดดี้ก็เริ่มได้คุยกัน ได้ศึกษานิสัยใจคอกันมากขึ้น จนขึ้น ม.6 เท็ดดี้ตัดสินใจเลือกมานั่งที่นั่งข้าง ๆ เราเลยค่ะ
ไม่ว่าครูจะย้ายที่นั่งใหม่ในห้อง แต่ยังไง ๆ ทุกคนก็ย้ายไปย้ายมากันอยู่ดี จนครูเบื่อที่จะย้าย แต่รับประกันไว้เลยค่ะ ว่าเรากับเท็ดดี้นั่งติดกัน ไม่ว่าจะโดนแยกยังไง ก็จะกลับมานั่งด้วยกันตลอด เรารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษเสมอ ๆ เวลาอยู่กับเท็ดดี้ เพราะฮีจะพูด คิง ฮา ฯลฯ กับเพื่อนคนอื่น ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิงในห้อง ยกเว้น!!!! ตัวแบร์ค่าาาาา ฮีจะใช้คำว่า "เปิ้น" "ตั๋ว" "เรา" "เค้า" "ตัว" กับแบร์ตลอด ๆ จนเพื่อนในกลุ่มของแบร์เริ่มจับตามอง และสงสัย ตงิดใจว่าสรุปเท็ดดี้กับแบร์นี้จะอะไรยังไงกัน

แต่มันจะอะไร จะยังไงกันก็ไม่ได้ค่ะ เพราะตัวแบร์มีแฟนที่แก่กว่าแบร์ 1 ปี และ ณ จุด ๆ นั้น พี่เค้าเพิ่งเข้าไปเป็น เฟรชชี่ของมหาวิทยาลัยประจำจังหวัดค่ะ
เรียกได้ว่าเป็นจุดที่แบร์และพี่เค้าเริ่มห่างกัน เวลาว่างไม่ตรงกัน และความเจ้าชู้ของผู้ชายก็เริ่มออกลายอย่างจริงจัง

....จุดเริ่มต้นอย่างจริงจังและดราม่านิด ๆ ของเท็ดดี้แบร์กำลังจะเริ่ม......  ขอมาต่อดึก ๆ พรุ่งนี้นะคะ อมยิ้ม17

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่