Flo Hyman ยอดหญิงนักวอลเลย์บอลผู้พลีชีพในสนาม

กระทู้สนทนา
วันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2529 ในการแข่งขันลีกวอลเลย์บอลหญิงของญี่ปุ่นที่โรงยิม Matsue City ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 380 ไมล์ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ระหว่างทีม Daiei กับทีม Hitachi ขณะกำลังแข่งเซ็ตสามอยู่ ผู้เล่นชาวอเมริกันคนหนึ่งของ Daiei คือ Flo Hyman ถูกเปลี่ยนตัวให้มานั่งพัก เธอส่งเสียงตระโกนเชียร์เพื่อนร่วมทีมอยู่ดีๆก็เงียบหมดสติวูบไปเฉยๆ ฟุบไปพิงกับเพื่อนข้างๆ บรรดาเพื่อนและโค้ชกุลีกุจอปฐมพยาบาลเพราะเธอเคยเป็นลมอย่างนี้มาก่อน แต่ไม่เป็นผล จนต้องนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล Matsue Red Cross Hospital ทีมงานแพทย์พยาบาลแจ้งว่าเมื่อเธอไปถึงนั้นคลำไม่พบชีพจรเสียแล้ว เขาต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและปั๊มป์หัวใจอยู่นานแต่เธอไม่ฟื้น แพทย์ประกาศว่าเธอเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง สาเหตุเพราะหัวใจวาย

เธอตายเมื่ออายุเพียง 32 ปี ตายในยามที่ชื่อเสียงและเกียรติยศสูงสุด เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นนักวอลเลย์บอลที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในโลก ด้วยร่างที่สูงถึง 196 ซ.ม. ชั้นเชิงที่แพรวพราว เป็นหัวหน้าทีมสหรัฐฯมีดีกรีรับประกันคือเหรียญเงินวอลเลย์บอลโอลิมปิก ที่ ลอส แอนเจลีส เมื่อ พ.ศ.2527 และที่สำคัญคือพลังตบอันหนักหน่วงด้วยเทคนิคเฉพาะตัวที่มีฉายาว่า “The Flying Clutchman” ซึ่งตบได้เร็วถึง 180 ก.ม./ช.ม. พลังอันหนักหน่วงนี้คงได้มาด้วยการฝึกสอนจาก Dr.Gideon Ariel ซึ่งเป็นอดีตนักทุ่มน้ำหนักโอลิมปิกสองสมัยซ้อน เธอได้รับความเคารพรักใคร่จากเพื่อนร่วมทีมทั้งในฐานะสุดยอดนักกีฬาและในฐานะผู้นำ ทุกคนตกใจและเสียใจในการสูญเสียที่ไม่คาดฝัน เพราะความไม่คาดฝันนี้เอง ทางครอบครัวจึงยังไม่เชื่อในการลงความเห็นของแพทย์ญี่ปุ่นว่าเธอเสียชีวิตเพราะหัวใจวาย ผู้จัดการทีมคือนาย Yasuhiro Doi ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว AP ว่า “ก่อนการแข่งขันนี้สุขภาพของเธอก็ไม่มีอะไรแปลก เธอไม่มีปัญหาสุขภาพอะไรเลย” ดังนั้น อีกหกวันต่อมาเมื่อร่างของเธอกลับถึงสหรัฐฯ จึงได้มีการผ่าศพชันสูตอย่างละเอียดที่คาลิฟอร์เนีย

ผลการตรวจชันสูตกลับให้ผลออกมาผิดแผกอย่างยิ่งจากความเห็นเดิม ผู้ตรวจได้ตัดประเด็นความเป็นไปได้ของการเสียชีวิตด้วยหัวใจวาย เขาพบว่าหัวใจของเธออยู่ในสภาพดีมาก สิ่งที่เขาตรวจพบก็คือว่า Hyman เป็นโรคชนิดหนึ่งเรียกว่ากลุ่มอาการมาร์แฟง (Marfan syndrome) ที่แพทย์ไม่ได้วินิจฉัยไว้มาแต่แรกซึ่งส่งผลให้ในที่สุดเกิดการเซาะแทรกผนังเส้นเลือดใหญ่เอออร์ตา (Aortic dissection) ซึ่งเธอก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน อันที่จริงแล้วเธอแสดงอาการทางกายภาพของโรคนี้ไม่มากนัก นอกเหนือไปจากความสูงผิดปกติ สายตาสั้น แขนยาวมากและมือใหญ่ การตรวจศพพบก้อนเลือดที่แข็งตัวมานานประมาณสามสัปดาห์อยู่รอบๆรอยฉีกของหลอดเลือดแสดงว่าได้เคยเกิดรอยฉีก ณ จุดเดียวกันจนเริ่มสมานแล้วก่อนที่จะเกิดรอยฉีกซ้ำของเส้นเลือดใหญ่เอออร์ตาที่จุดเดิมจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตในที่สุด


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่