วันนี้ช่วงบ่ายๆคล้อยเย็น ผมไปทำธุระแถวๆตลาดสามย่านเก่า เดินไปเรื่อย ตระเวนหาอะไรทานไปด้วย ก็พยายามดูจำนวนคนในร้านเป็นตัววัดคำตัดสินของผม ช่วงที่ผมไปไม่ได้เป็นช่วงมื้ออาหาร ถ้าร้านไหนมีคนนั่งอยู่ประมาณนึงก็ถือว่าน่าจะรับได้  เดินไปเดินมาไปทะลุซอยจุฬา50 เห็นเป็นBBQ Buffet บวกกับกำลังร้อนและหิว(มาก) เลยจัดหนักซักหน่อย



ร้านเป็นตึกแถวสองห้องครับ หน้าร้านแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ๆบวกกับโทนสีดำ มีเมนู+ราคาให้ดูพร้อม เข้าไปในร้านเห็นลูกค้าก่อนหน้าซัก5-6โต๊ะ แต่รองรับลูกค้าได้ประมาณ50คนครับ



ผมเริ่มอ่านกฏกติการ้านก่อนเลยครับ เพราะเดี๋ยวนี้ตามร้านBuffet ชอบมีเงื่อนไขแปลกๆ อย่างทานได้1.30ชั่งโมง แต่สั่งได้แค่1ชั่วโม
เท่านั้นอะไรแบบนี้ครับ แต่ของร้านนี้ไม่มีอะไรครับ 349บาท ทานได้1.45ชั่วโมง ฟรีSoft drink และชาเขียวเย็น ถ้าจะทานน้ำเปล่าต้องจ่ายเพิ่มขวดละ20บาท ร้านเปิดตั้งแต่เวลา11:00-22:00 ของทุกวันครับ












เตาที่นี่ใช้เตาถ่าน แต่จะไม่ใช้ตระแกรงเหมือนร้านยากินิคุแบบญี่ปุ่นหรือเกาหลี แต่จะใช้เป็นกระทะแบนๆแทน ส่วนน้ำจิ้มทางร้านจะมีน้ำจิ้มแบบยากินิคุไว้ให้บริการบนโต๊ะอยู่แล้ว แต่ก็มีน้ำจิ้มแจ่วและน้ำจิ้มซีฟูดส์เสิร์ฟให้ด้วยพร้อมกันเลยครับ ซักพักก็มีมาการีนหรือเนยเทียมาให้อีก 1 ก้อนใหญ่ๆ
และบนโต๊ะก็จะมีใบออร์เดอร์ให้เลือกสั่งครับ เขียนชื่อโต๊ะแล้วก็ติ้กๆๆๆว่าจะทานอะไร












เมนูเนื้อที่นี่มีเนื้อมาหลากหลายแบบ หลายส่วนครับอย่างเนื้อสันนอก เนื้อเสือร้องไห้ เนื้อโหนก เนื้อน่องลาย เนื้อหมักมิโสะและที่สะดุดตาผมคือเนื้อตะเข้ ผมเลยถามทาเจ้าของครับ เพราะผมไม่เคยได้ยินมาก่อน เค้าบอกว่าเป็นเนื้อส่วนหล้งด้านท้าย จะมีไขมันอยู่ที่ขอบ










ส่วนหมูของที่นี่จะมีหมูสันคอ หมูสันนอก หูสามชั้นและสันนอกหมักมิโสะ เมนูที่เป็นหมูจะมีต้นหอมซอยโรยหน้าครับ เพื่อแยกความแตกต่างสำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อ







จริงๆเนื้อบางส่วนก็ไม่เหมาะมาทำBBQ เพราะมันจะเหนียวมาก เหมาะกับการตุ๋นมากกว่า แต่ที่นี่ก็ใช้วิธีสไลด์มาให้บางครับ บางดี ผมชอบนะ ลดปัญหาเนื้อที่เหนียวไปได้เยอะมากๆครับ อย่างเนื้อน่อง ผมทำใจไว้เลยว่าต้องเหนียวแน่ๆ แต่ทานไปก็โอเคครับ ไม่เหนียวอย่างที่คิด แต่อย่างบางส่วนที่ควรจะนุ่มมากๆอย่างสันคอเพราะมันจะแทรกเยอะ ก็ไม่ได้รู้สึกว่านุ่มมากไปกว่าส่วนอื่นซักเท่าไหร่ ผมว่าด้วยวิธีที่สไลด์มาบางๆ ก็ได้ระโยชน์ดีครับ ทำให้ความแตกต่างของเนื้อแต่ละส่วนไม่ต่างกันมาก ทำให้เราสามารถเลือกเนื้อมาบริการได้หลากหลายส่วน ตัวหมูเองก็จะปกติครับ ไม่ได้โดเด่นมาก ผมไม่ชอบทานหมูเท่าไหร่ เพราะเวลาปิ้งต้องให้สุกทั้งชิ้น แล้วมันเลยจะแข็งกว่าเนื้อครับ แต่ถ้าเนื้อเอาให้แค่สุกขอบๆก็ทานได้แล้ว นุ่มดีด้วย 555 ส่วนเมนูไก่ผมไม่ได้ลองครับ





ส่วนผัก หลักๆก็จะมีกระหล่ำฝอย, ฟักทอง, หอมใหญ่, เห็ดเข็มทอง, เห็ดออรินจิ และกิมจิครับ












ส่วนของSeafood จะมีให้เลือกแค่สามอย่างครับ คือจะมีปลาแซลมอน ปลาดอลรี่และปลาหมึกครับ แซลมอนออกมาชิ้นหนาดีครับ ด้วยความที่หั่นมาชิ้นหนากำลังดี ลงเตาแล้วปิ้งง่ายกว่าพวกที่เป็นตระแกรงอีก บางร้านมาซะบางเลย เอาลงเตาก็เละติดตระแกรงหมดแล้วครับ








และมีเมนูข้าวสวยญี่ปุ่น ข้าวผัดกระเทียม ซุป เฟรนฟรายด์ ไก่คาราเกะและนักเก็ตไก่ครับ














มาร้านนี้อย่ามัวแต่ทานปิ้งย่างจาก"เตาคาว"เพลินจนเวลาหมดนะครับ เพราะยังมีทีเด็ดตบท้ายอย่าง "เตาหวาน" คือแพนเค้กD.I.Y.ครับ ทางร้านจะเปลี่ยนกระทะใบใหม่ให้แล้วลดถ่านลงอีกเพื่อไม่ให้ร้อนจัดครับ เค้าจะมีแพนเค้กสำเร็จมาให้1ขวดครับ ทานได้จนหมดอะครับ แต่สำหรับtoppingแล้ว สามารถเลือกด้คนละ1อย่างเท่านั้น โดยToppingจะมีให้เลือกเป็นช็อคโกแลต, สตรอเบอร์รี่, ช็อคโกแลตชิพ, น้ำผึ้งและไอศครีมครับ ผมไปทานกันสองคนครับ แต่ระหว่งทางผมก็พูดคุยกับทางทีมเจ้าของถึงรายละเอียดเพื่อเก็บข้อมูลมาเขียนรีวิวบ่อยมากๆ ทางร้านเลยใจดีจัดToppingมาให้ลองครบทุกแบบเลยครับ จะว่าตลกรับประทานก็ไม่ใช่ เพราะผมไม่ได้ตลกอะไรนะครับ 555 แต่ถือเป็นความกันเองและการเอาใจ(ใส่)ลูกค้าอีกทางนึงครับ







จัดการบีบแพนเค้กลงเตาเลยครับ พอให้สุกดีก็ราดTopping เป็นอันเรียบร้อยครับ








ร้านทุกร้านไม่ได้มีดีไปทั้งหมดครับ ข้อด้อยของที่นี่ที่ผมพบเจอก็มี แต่ผมก็หาทางหลีกเลี่ยงมันไป มีอยู่ไม่กี่อย่างครับ และทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

-โต๊ะเล็กไปหน่อย แต่ก็เพื่อได้ปริมาณโต๊ะและลูกค้าที่เพิมขึ้นก็โอเคครับ ทางร้านใช้โต๊ะเสริมมาวางไว้ให้ครับ


-เนื้อส่วนสันนอกสไลด์มาแล้วมีติดกระดูกในชิ้นด้วย อาจจะเป็นCutส่วนมาไม่ดีมาก หรือติดกระดูกมาไม่ได้ตั้งใจ น่าจะเป็นข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆครับ แต่ผมเชื่อว่าคงไม่ได้เป็นทุกชิ้นหรอก แต่แค่บังเอิญมาแจ็กพอตชิ้นผมทุกชิ้นในจานเท่านั้นเองครับ

-หมูหรือเนื้อซอสมิโสะ ผมทานแบบไม่จิ้มน้ำจิ้มเลย เพื่อให้ได้รสมิโสะเต็มๆ กลิ่นมิโสะออกรสชาติดี แต่จะเค็มมากๆครับ คำต่อไปผมเลยต้องไปละลายในน้ำจิ้มหน่อยถึงกำลังดีครับ


-มาการีนหรือเนยเทียม ผมใช้แค่ลงกระทะแรกครั้งเดียวเพื่อจะถ่ายรูปเท่านั้นครับ เพราะผมรู้ว่ามันคือเนยเทียม มีดีแค่กลิ่นและกันติดกระทะ แต่ผมรู้กระบวกการผลิตและส่วนประกอบหลักของมัน ผมเลยเลี่ยงไม่ใส่ไปเลยครับ วิธีแก้ของร้านปิ้งย่างที่ใช้มาการีนของผมก็คือ "ไม่ใช้" มาการีนเลยครับ เอาลงปิ้งเลยให้มันออกมาเคลือบผิวกระทะแทน ไฟไม่ต้องแรงมากและอาศัยเปลี่ยนกระทะบ่อยหน่อย  10-15นาทีผมก็เปลี่ยนครั้งนึงครับ ทางร้านก็บริการเรื่องนี้ดีมากๆครับ


-ตัวท้อปปิ้งของแพนเค้ก อย่างช็อคโกแลตและสตรอเบอร์รี่ ผมลองชิมแล้วมันไม่เหมือนToppingครับ ผมรู้สึกถึงความเป็นแป้งผสมอยู่เยอะพอสมควร ความเห็นส่วนตัวผมเลยคิดว่าทางร้านน่าจะใช้ Filling มาแทนTopping ตัวFilling ที่ว่าก็คือไส้สำเร็จรูปที่เอาไว้ยัดใส่ขนมปังครับ มันจะมีมวลที่หนาแน่นกว่าTopping แต่รสชาติจะอ่อนและบางกว่า ตามท้องตลาดมีFillingให้เลือกหลากหลายไส้มากๆอย่างไส้คัสตาร์ท ไส้ใบเตย ฯลฯ คหสต.นะครับ ถ้าทางร้านใช้เป็นTopping อยู่ขออภัยด้วย 55555



สรุป............รวมๆผมค่อนข้างโอเคเลยกับร้านนี้ครับ ระบบดูดควันเห็นทางร้านเดินท่อเต็มร้านก็ช่วยได้ระดับนึงครับ ไม่ได้เลวร้ายเลย การบริการ การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าผมถือว่าดีเลยทีเดียวครับ ส่วนของอาหาร ของสดต่างๆก็ดีครับ ถือว่าใช้ได้ ส่วนข้อด้อยส่วนตัวเหล่านี้ผมก็เลี่ยงมันไปครับแล้วก็เอ็นจอยกับส่วนดีๆส่วนอื่นแทนได้

ฝากติดตามรีวิวร้านอื่นๆของเราได้เพิ่มเติมอีกสองช่องทางนะครับ
1. ทางเฟส http://www.facebook.com/letseatthailand และ
2. ทางBlog http://www.LetsEatThailand.com ด้วยนะคร้าบบบบ ขอบคุณครับ