สวัสดีครับน้องๆ ชาว pantip หลายคนคงเริ่มหาข้อมูลกับเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่สนใจจะเรียนต่อกันบ้างแล้ว วันนี้พี่นุ้ยหนุ่ย เลยช่วยน้องๆหาำข้อมูลมาเพื่อน้องคนไหนที่สนใจ "มหาวิทยาลัยนเรศวร" เลยนำข้อที่ควรรู้ที่สำหรับมหาวิทยาลัยนี้มาฝากกันครับ
เรื่องควรรู้ "มหาวิทยาลัยนเรศวร"
1. ชื่อเก่าม.นเรศวร เดิม.นเรศวร คือม.ศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลก ต่อมามีมติให้ยกฐานะวิทยาเขตพิษณุโลก ของม.ศรีนครินทรวิโรฒ ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยใหม่แห่งนี้ว่า "มหาวิทยาลัยนเรศวร"

2. นิสิต เราเรียกนักศึกษาที่นี้ว่านิสิต เพราะม.นเรศวร เดิมก็คือ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ พิษณุโลก ซึ่งมหาวิทยาลัยที่ได้ใช้คำว่านิสิตแทนนักศึกษามีอยู่สามแห่งคือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.เกษตร และม.ศรีนครินทรวิโรฒ
3. สิ่งศักดิ์สิทธิในมหาลัย ก็ต้องเป็นองค์พระนเรศวรอยู่แล้วครับ และจะมีนิสิตมากราบไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงสอบกลางภาคและสอบปลายภาค ตั้งแต่ตอนเย็นเป็นต้นไปควันธูปจะเต็มลานแบบว่ามองหากันไม่เห็นเลยครับ ลานสมเด็จพระนเรศวรจะตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าประตูรั้วหน้ามหาวิทยาลัย เป็นทางผ่านเข้าไปในมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร

4. ของแก้บน นิสิตส่วนมากที่มาแก้บนจะมาถูลาน วิ่งรอบลาน และนิยมแก้ 100 รอบขึ้นไปครับ ลานจะสะอาดตาเป็นพิเศษในช่วงสอบของนิสิตและช่วงที่น้องปีหนึ่งสอบเข้า ม.นเรศวรได้ค่ะ ในการแก้บนถูลานสามารถนำเพื่อนมาช่วยถูได้ หรือของที่สามารถนำมาแก้บนได้อาจจะเป็นถวายดอกไม้ ถวายตุ๊กตาไก่ชน ส่วนของที่ห้ามนำมาถวาย จำพวกผลไม้สีแดงทุกชนิดครับ

ขอบคุณภาพจาก
http://womanfromjupiter.exteen.com
5. บันไดต้องห้าม คือบันไดเล็กตรงกลางทางขึ้นไปห้องพระราชทานปริญญาบัตร ของอาคารอเนกประสงค์(โดม) ม.นเรศวร ใครที่ยังเรียนอยู่ ห้ามเดินขึ้น - ลง เพราะอาจจะเรียนไม่จบได้ เป็นเรื่องที่หลายรุ่นเล่ามาครับ
6. ฉายากินใจ ม.นเรศวร มีสีประจำมหาวิทยาลัยคือ คือ สีเทา และสีแสด สีเทาเป็นสีของสมอง สื่อถึงความรู้ สีแสดหรือส้ม มาจากสีแดงและสีเหลือง สีแดงหมายถึงความกล้าหาญ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สีเหลืองสื่อถึงพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก และด้วยความที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชื้นร้อน ยุงชุม ฉายานี้จึงได้ตกทอดมาสู่รุ่นสู่รุ่น “ม.น. เทา แสด แดดและยุง” และเป็นเรื่องจริงครับ 555+
7. ม.นเรศวร ที่เดียว ตอนนี้ ม.นเรศวร มีที่เดียวแล้วนะครับ คือที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งก่อนหน้านี้มีวิทยาเขตที่จังหวัดพะเยา แต่ปัจจุบัน ม.นเรศวร เขตพะเยา ได้แยกออกตั้งตัวเป็นมหาวิทยาลัยของตัวเองชื่อว่า มหาวิทยาลัยพะเยา
8. ม.น.นอก ม.น.ใน ม.น.ใน คือ ม.นเรศวรใน เป็นสถานที่ตั้งแรกเดิมของมหาวิทยาลัยนเรศวรอยู่ในส่วนของสนามบิน ปัจจุบันได้กลายเป็นโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วน ม.น.นอก คือ ม.นเรศวร เป็นที่ตั้งปัจจุบันของมหาวิทยาลัยอยู่ในส่วนของหนองอ้อครับ
9. สองฝั่งม.นเรศวร ม.นเรศวรมีประตูทั้งหมดที่นับได้ 6 ประตู ประตู 1,2 เป็นประตูหน้ามอ ติดถนนใหญ่สายเอเชีย ประตู 3 เป็นฝั่งที่เงียบและเป็นที่อาศัยของชาวบ้าน มีหอพักนิสิตบ้างประปลายเวลาไปแล้วจะรู้สึกดีเป็นพิเศษครับ เพราะสงบและเหมือนอยู่ได้อยู่บ้านมากกว่าหอพัก ต่างจากประตู 4,5 ที่ครึกครื้น ผู้คนแออัด เต็มไปด้วยแสงสี เด็กม.นเรศวรจะอาศัยอยู่ฝั่งนี้โดยส่วนมากครับ ส่วนประตู 6 ประตูทางเข้าจะค่อนข้างเล็ก รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ เป็นประตูทางไปชุมชนคนหน้ามอครับ อิ อิ สงบ น่าอยู่เหมือนกันครับ
10. ลานเทเลทับบี้ อยู่ใกล้หอสมุด เหตุผลที่เรียกลานเทเลทับบี้ ให้ทุกคนลองนึกภาพสนามหญ้า และเนินหญ้าจะเหมือนในการ์ตูนเทเลทับบี้เลยครับ และอีกเรื่องที่เด็ก ม.นเรศวร หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ คือมีการปลูกต้นไม้ประจำจังหวัดของทั้ง 76 จังหวัด ปลูกเรียงกันเป็นแผนที่ประเทศไทยด้วยครับ แต่ตอนนี้ประเทศไทยมี 77 จังหวัดเเล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะปลูกเพิ่มรึเปล่า ต้องรอดูต่อไปครับ
11. สถานที่ถ่ายรูปยอดฮิต ต้องยกให้อาคารทดแทนพลังงาน โดยเฉพาะงานรับปริญญา นิสิตจะต้องพากันไปถ่ายที่อาคารทดแทนพลังงาน ถึงมหาลัยไม่ได้จัดงานอะไร เเต่เด็กก็ยังไปนั่งถ่ายรูปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ
12. Beginning Camp จะเป็นค่ายรับน้องปีหนึ่งทั้งมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดทุกปีในวันสุดท้ายของค่าย จะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญอันศักดิ์สิทธิ์และผูกข้อมือให้กับนิสิตใหม่ โดยรุ่นพี่จะให้น้องๆ หลับตาก่อนแล้วพอลืมตาขึ้นมาก็เจอกับแสงเทียนพร้อมเสียงเพลงรับน้องจากรุ่นพี่ เป็นอะไรที่ประทับใจ และตื้นตันมากเลยครับ
13. SOTUS ม.นเรศวร มีการรับน้องระบบ SOTUS เด็กปีหนึ่งต้องผ่านการเข้าห้องเชียร์ และการว้าก!! เพื่อฝึกความอดทน ความเป็นระเบียบ และความสามัคคีให้กับน้องปีหนึ่ง ซึ่งอยู่ใน limit ไม่แรงมากไปจนน้องปีหนึ่งกลับไปเครียด คิดมากจนทนไม่ไหวครับ
14. รักป้ายยิ่งชีพ นักเรียนปีหนึ่งทุกคนจะได้รับป้ายชื่อของตัวเอง ที่รุ่นพี่แต่ละสาขาทำให้ ซึ่งป้ายจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับความนิยมของรุ่นพี่ และน้องจะต้องคล้องป้ายตลอดเวลาที่ออกจากห้องพัก เป็นกฎระเบียบบังคับจากรุ่นพี่ การคล้องป้ายชื่อจะเป็นสัญลักษณ์ในความภูมิใจของสาขา และทำให้พี่จำชื่อน้องได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นน้องปีหนึ่งก็จะให้ความสำคัญกับป้ายเป็นพิเศษครับ
15. Spirit Cheer การแข่งขันกีฬาภายในมหาวิทยาลัย Power Cheer NU 2555 จะมีการประกวด Spirit Cheer ซึ่งแต่ละคณะจะทุ่มเทกันใช้เวลากันเป็นเดือนๆในการซ้อม เมื่อถึงวันแข่งจริงทุกคณะจะเต็มที่ และการโชว์จะพร้อมเพรียงกันเหมือนเป็นลมหายใจเดียวกัน ดูแล้วก็แอบน้ำตาคลอ คุ้มค่าที่ทุ่มเทในการซ้อม และการเข้าห้องเชียร์จริงๆ ครับ
16. สันฯวิทยาการฯ ทุกคณะจะมีกองสันทนาการของตนเอง แต่สำหรับคณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์จะพิเศษกว่าคณะอื่นคือ จะต้องกราบกลองก่อนตีทุกครั้ง โดยเฉพาะมือกลอง เมื่อเริ่มเต้นสันฯ และเมื่อทำไม้กลองร่วงจะต้องรีบกราบขอโทษ ไม่งั้นอาจจะเจอดีก่อนนอน ! ได้ยินเสียงกลองดัง ทั้งที่ไม่มีใครตี O.o
17. คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดหลักสูตร 6 ปี คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชศาสตร์ที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในเอเชียอาคเนย์ และมีแบบแปลนแทบจะเหมือนกับคณะมนุษยศาสตร์
18. ม.นเรศวร รักษาฟันฟรี คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้บริการด้านทันตกรรมฟรีกับนิสิต ม.นเรศวร อาทิ ตรวจสุขภาพช่องปาก อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เป็นต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราช
19. วิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์(MIS) ได้เปลี่ยนชื่อแล้ว เป็นคณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร (BEC) เมื่อภาคเรียนที่1 ปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งนิสิตในคณะยังเรียกชื่อกันไม่ค่อยถูก และยังไม่เป็นที่รู้จักสำหรับคณะอื่นๆ
20. HOTกิจกรรมเข้าจังหวะ รายวิชากิจกรรมเข้าจังหวะ จะเป็นรายวิชาเลือกบังคับ ที่นิสิตปีหนึ่งให้ความสนใจมากที่สุด เพราะง่ายเหลือเกิน แค่เต้นให้เข้าจังหวะก็ได้ A ไปเลยครับ
21. MIS Festival เป็นงานวัดหรืองานประจำปีของมหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโดยเด็กคณะวิทยาการจัดการฯ รวบรวมศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ทั้งการแสดง และการละเล่น เกมต่างๆ ที่แต่ละสาขาในคณะเตรียมกันมา ทั้งยังมีงานร่วมทำบุญซุ้มพระงาม ชมหนังเด่นกลางแปลงแสนสุขสันต์ เพลิดเพลินกับวงดนตรีลูกทุ่งนเรศวร การละเล่นมวยตับจาก และจุดที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษในทุกๆ ปี ต้องยกให้เวทีรำวงย้อนยุคเลยค่ะ ที่มีสาวๆ ในคณะวิทยาการฯ มาเป็นสาวรำวงให้ ถือเป็นจุดเด่นของงานเลยค่ะ โดยงาน MIS Festival จะจัดขึ้นช่วงเดือน ธ.ค.- ม.ค.ภาคเรียนที่ 2 ส่วน ปีนี้ก็จะจัดเป็นครั้งที่ 9 แล้วครับ
22. กิจกรรมยามว่างของเด็ก ม.น. นั่นก็คือการออกกำลังกายยามเย็นที่ลานสมเด็จและที่อ่างเก็บน้ำ ถือเป็นสถานที่วิ่งของเด็ก ม.นเรศวร นอกจากออกกำลังกายแล้ว ก็ยังมีให้อาหารปลาที่หอพระเทพฯ และอ่างเก็บน้ำด้วยค่ะ ขอบอกว่าปลาที่นี่มีแต่ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ อิ อิ
23. ย้ายบ้าน นิสิตทุกคนที่มาจากจังหวัดอื่นไม่ได้อยู่จังหวัดพิษณุโลก แต่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จะต้องย้ายทะเบียนบ้านเป็นที่อยู่ในมหาวิทยาลัยทุกคนค่ะ หลังจากปีหนึ่งไปค่อยย้ายทะเบียนบ้านกลับได้ แต่บางคนจบมาหลายปีแล้วยังไม่ยอมย้ายกลับเลยครับ
24. ยาม ที่ ม.นเรศวรห้ามเรียก ยาม แต่ให้เรียกว่า "รปภ." นะจ๊ะ หรือไม่ก็เรียก "พี่" ไปเลยยิ่งดีค่ะ เพราะถ้าเราเรียกว่ายามจะถือว่าดูถูกเขา มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีน่ะครับ ซึ่ง รปภ. ย่อมา รักษาความปลอดภัย มีหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้เราในมหาวิทยาลัย ฉะนั้นเราต้องให้เกียรติพี่ รปภ. นะครับ
25. จับหมวกกันน๊อค วันดีคืนดีจะมีตำรวจมายืนอยู่หน้าประตูรั้วมหาวิทยาลัยคอยจับนิสิตที่ไม่สวมหมวกกันน๊อค พร้อมถูกปรับคนละ 200 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็น่าจะเข้าตำรวจ แต่ยังไงถ้าไม่เสียดายเงิน ก็คิดซะว่าเพื่อความปลอดภัยของชีวิตเราเองเถอะครับ
26. โรตีเลิศรส สมาน เป็นร้านขายโรตีที่เด็กม.นเรศวรต้องรู้จัก ใครได้กินแล้วจะต้องติดใจ ทั้งรสชาติ และคารมณ์ของพ่อค้าลุงหมาน ขี้เล่น ขี้แซว บางทีคนซื้อต้องลงมือทำเอง กับสโลแกน "อารมณ์ดี รอนาน บริการช้า ใช้ลูกค้าเป็นประจำ” 555+ โรตีลุงหมานตั้งอยู่ทางออกประตู 5 เลี้ยวซ้ายใกล้ Top mart ขายช่วงเย็นจนถึงตี 1 – 2 ครับ
เป็นไงบ้างครับสำหรับมหาวิทยาลัยนเรศวร หวังว่าข้อมูลที่พี่นุ้ยหนุ่ยนำมาวันนี้ คงจะเป็นประโยชน์กับน้องหลายๆ คนนะครับ จริงๆ ยังมีเรื่องน่าสนใจและสิ่งที่เรายังไม่รู้ยังมีอีกมากในมหาวิทยาลัย เชื่อว่าถ้าน้องๆ ได้เข้าไปเรียน คงเจออะไรสนุกๆ และมีอะไรให้เราได้เรียนรู้อีกมากมายแน่นอนครับ ^^
[SR] 26 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ม.นเรศวร
เรื่องควรรู้ "มหาวิทยาลัยนเรศวร"
1. ชื่อเก่าม.นเรศวร เดิม.นเรศวร คือม.ศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลก ต่อมามีมติให้ยกฐานะวิทยาเขตพิษณุโลก ของม.ศรีนครินทรวิโรฒ ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยใหม่แห่งนี้ว่า "มหาวิทยาลัยนเรศวร"
2. นิสิต เราเรียกนักศึกษาที่นี้ว่านิสิต เพราะม.นเรศวร เดิมก็คือ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ พิษณุโลก ซึ่งมหาวิทยาลัยที่ได้ใช้คำว่านิสิตแทนนักศึกษามีอยู่สามแห่งคือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.เกษตร และม.ศรีนครินทรวิโรฒ
3. สิ่งศักดิ์สิทธิในมหาลัย ก็ต้องเป็นองค์พระนเรศวรอยู่แล้วครับ และจะมีนิสิตมากราบไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงสอบกลางภาคและสอบปลายภาค ตั้งแต่ตอนเย็นเป็นต้นไปควันธูปจะเต็มลานแบบว่ามองหากันไม่เห็นเลยครับ ลานสมเด็จพระนเรศวรจะตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าประตูรั้วหน้ามหาวิทยาลัย เป็นทางผ่านเข้าไปในมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
4. ของแก้บน นิสิตส่วนมากที่มาแก้บนจะมาถูลาน วิ่งรอบลาน และนิยมแก้ 100 รอบขึ้นไปครับ ลานจะสะอาดตาเป็นพิเศษในช่วงสอบของนิสิตและช่วงที่น้องปีหนึ่งสอบเข้า ม.นเรศวรได้ค่ะ ในการแก้บนถูลานสามารถนำเพื่อนมาช่วยถูได้ หรือของที่สามารถนำมาแก้บนได้อาจจะเป็นถวายดอกไม้ ถวายตุ๊กตาไก่ชน ส่วนของที่ห้ามนำมาถวาย จำพวกผลไม้สีแดงทุกชนิดครับ
5. บันไดต้องห้าม คือบันไดเล็กตรงกลางทางขึ้นไปห้องพระราชทานปริญญาบัตร ของอาคารอเนกประสงค์(โดม) ม.นเรศวร ใครที่ยังเรียนอยู่ ห้ามเดินขึ้น - ลง เพราะอาจจะเรียนไม่จบได้ เป็นเรื่องที่หลายรุ่นเล่ามาครับ
6. ฉายากินใจ ม.นเรศวร มีสีประจำมหาวิทยาลัยคือ คือ สีเทา และสีแสด สีเทาเป็นสีของสมอง สื่อถึงความรู้ สีแสดหรือส้ม มาจากสีแดงและสีเหลือง สีแดงหมายถึงความกล้าหาญ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สีเหลืองสื่อถึงพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก และด้วยความที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชื้นร้อน ยุงชุม ฉายานี้จึงได้ตกทอดมาสู่รุ่นสู่รุ่น “ม.น. เทา แสด แดดและยุง” และเป็นเรื่องจริงครับ 555+
7. ม.นเรศวร ที่เดียว ตอนนี้ ม.นเรศวร มีที่เดียวแล้วนะครับ คือที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งก่อนหน้านี้มีวิทยาเขตที่จังหวัดพะเยา แต่ปัจจุบัน ม.นเรศวร เขตพะเยา ได้แยกออกตั้งตัวเป็นมหาวิทยาลัยของตัวเองชื่อว่า มหาวิทยาลัยพะเยา
8. ม.น.นอก ม.น.ใน ม.น.ใน คือ ม.นเรศวรใน เป็นสถานที่ตั้งแรกเดิมของมหาวิทยาลัยนเรศวรอยู่ในส่วนของสนามบิน ปัจจุบันได้กลายเป็นโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วน ม.น.นอก คือ ม.นเรศวร เป็นที่ตั้งปัจจุบันของมหาวิทยาลัยอยู่ในส่วนของหนองอ้อครับ
9. สองฝั่งม.นเรศวร ม.นเรศวรมีประตูทั้งหมดที่นับได้ 6 ประตู ประตู 1,2 เป็นประตูหน้ามอ ติดถนนใหญ่สายเอเชีย ประตู 3 เป็นฝั่งที่เงียบและเป็นที่อาศัยของชาวบ้าน มีหอพักนิสิตบ้างประปลายเวลาไปแล้วจะรู้สึกดีเป็นพิเศษครับ เพราะสงบและเหมือนอยู่ได้อยู่บ้านมากกว่าหอพัก ต่างจากประตู 4,5 ที่ครึกครื้น ผู้คนแออัด เต็มไปด้วยแสงสี เด็กม.นเรศวรจะอาศัยอยู่ฝั่งนี้โดยส่วนมากครับ ส่วนประตู 6 ประตูทางเข้าจะค่อนข้างเล็ก รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ เป็นประตูทางไปชุมชนคนหน้ามอครับ อิ อิ สงบ น่าอยู่เหมือนกันครับ
10. ลานเทเลทับบี้ อยู่ใกล้หอสมุด เหตุผลที่เรียกลานเทเลทับบี้ ให้ทุกคนลองนึกภาพสนามหญ้า และเนินหญ้าจะเหมือนในการ์ตูนเทเลทับบี้เลยครับ และอีกเรื่องที่เด็ก ม.นเรศวร หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ คือมีการปลูกต้นไม้ประจำจังหวัดของทั้ง 76 จังหวัด ปลูกเรียงกันเป็นแผนที่ประเทศไทยด้วยครับ แต่ตอนนี้ประเทศไทยมี 77 จังหวัดเเล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะปลูกเพิ่มรึเปล่า ต้องรอดูต่อไปครับ
11. สถานที่ถ่ายรูปยอดฮิต ต้องยกให้อาคารทดแทนพลังงาน โดยเฉพาะงานรับปริญญา นิสิตจะต้องพากันไปถ่ายที่อาคารทดแทนพลังงาน ถึงมหาลัยไม่ได้จัดงานอะไร เเต่เด็กก็ยังไปนั่งถ่ายรูปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ
12. Beginning Camp จะเป็นค่ายรับน้องปีหนึ่งทั้งมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดทุกปีในวันสุดท้ายของค่าย จะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญอันศักดิ์สิทธิ์และผูกข้อมือให้กับนิสิตใหม่ โดยรุ่นพี่จะให้น้องๆ หลับตาก่อนแล้วพอลืมตาขึ้นมาก็เจอกับแสงเทียนพร้อมเสียงเพลงรับน้องจากรุ่นพี่ เป็นอะไรที่ประทับใจ และตื้นตันมากเลยครับ
13. SOTUS ม.นเรศวร มีการรับน้องระบบ SOTUS เด็กปีหนึ่งต้องผ่านการเข้าห้องเชียร์ และการว้าก!! เพื่อฝึกความอดทน ความเป็นระเบียบ และความสามัคคีให้กับน้องปีหนึ่ง ซึ่งอยู่ใน limit ไม่แรงมากไปจนน้องปีหนึ่งกลับไปเครียด คิดมากจนทนไม่ไหวครับ
14. รักป้ายยิ่งชีพ นักเรียนปีหนึ่งทุกคนจะได้รับป้ายชื่อของตัวเอง ที่รุ่นพี่แต่ละสาขาทำให้ ซึ่งป้ายจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับความนิยมของรุ่นพี่ และน้องจะต้องคล้องป้ายตลอดเวลาที่ออกจากห้องพัก เป็นกฎระเบียบบังคับจากรุ่นพี่ การคล้องป้ายชื่อจะเป็นสัญลักษณ์ในความภูมิใจของสาขา และทำให้พี่จำชื่อน้องได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นน้องปีหนึ่งก็จะให้ความสำคัญกับป้ายเป็นพิเศษครับ
15. Spirit Cheer การแข่งขันกีฬาภายในมหาวิทยาลัย Power Cheer NU 2555 จะมีการประกวด Spirit Cheer ซึ่งแต่ละคณะจะทุ่มเทกันใช้เวลากันเป็นเดือนๆในการซ้อม เมื่อถึงวันแข่งจริงทุกคณะจะเต็มที่ และการโชว์จะพร้อมเพรียงกันเหมือนเป็นลมหายใจเดียวกัน ดูแล้วก็แอบน้ำตาคลอ คุ้มค่าที่ทุ่มเทในการซ้อม และการเข้าห้องเชียร์จริงๆ ครับ
16. สันฯวิทยาการฯ ทุกคณะจะมีกองสันทนาการของตนเอง แต่สำหรับคณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์จะพิเศษกว่าคณะอื่นคือ จะต้องกราบกลองก่อนตีทุกครั้ง โดยเฉพาะมือกลอง เมื่อเริ่มเต้นสันฯ และเมื่อทำไม้กลองร่วงจะต้องรีบกราบขอโทษ ไม่งั้นอาจจะเจอดีก่อนนอน ! ได้ยินเสียงกลองดัง ทั้งที่ไม่มีใครตี O.o
17. คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดหลักสูตร 6 ปี คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชศาสตร์ที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในเอเชียอาคเนย์ และมีแบบแปลนแทบจะเหมือนกับคณะมนุษยศาสตร์
18. ม.นเรศวร รักษาฟันฟรี คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้บริการด้านทันตกรรมฟรีกับนิสิต ม.นเรศวร อาทิ ตรวจสุขภาพช่องปาก อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เป็นต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราช
19. วิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์(MIS) ได้เปลี่ยนชื่อแล้ว เป็นคณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร (BEC) เมื่อภาคเรียนที่1 ปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งนิสิตในคณะยังเรียกชื่อกันไม่ค่อยถูก และยังไม่เป็นที่รู้จักสำหรับคณะอื่นๆ
20. HOTกิจกรรมเข้าจังหวะ รายวิชากิจกรรมเข้าจังหวะ จะเป็นรายวิชาเลือกบังคับ ที่นิสิตปีหนึ่งให้ความสนใจมากที่สุด เพราะง่ายเหลือเกิน แค่เต้นให้เข้าจังหวะก็ได้ A ไปเลยครับ
21. MIS Festival เป็นงานวัดหรืองานประจำปีของมหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโดยเด็กคณะวิทยาการจัดการฯ รวบรวมศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ทั้งการแสดง และการละเล่น เกมต่างๆ ที่แต่ละสาขาในคณะเตรียมกันมา ทั้งยังมีงานร่วมทำบุญซุ้มพระงาม ชมหนังเด่นกลางแปลงแสนสุขสันต์ เพลิดเพลินกับวงดนตรีลูกทุ่งนเรศวร การละเล่นมวยตับจาก และจุดที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษในทุกๆ ปี ต้องยกให้เวทีรำวงย้อนยุคเลยค่ะ ที่มีสาวๆ ในคณะวิทยาการฯ มาเป็นสาวรำวงให้ ถือเป็นจุดเด่นของงานเลยค่ะ โดยงาน MIS Festival จะจัดขึ้นช่วงเดือน ธ.ค.- ม.ค.ภาคเรียนที่ 2 ส่วน ปีนี้ก็จะจัดเป็นครั้งที่ 9 แล้วครับ
22. กิจกรรมยามว่างของเด็ก ม.น. นั่นก็คือการออกกำลังกายยามเย็นที่ลานสมเด็จและที่อ่างเก็บน้ำ ถือเป็นสถานที่วิ่งของเด็ก ม.นเรศวร นอกจากออกกำลังกายแล้ว ก็ยังมีให้อาหารปลาที่หอพระเทพฯ และอ่างเก็บน้ำด้วยค่ะ ขอบอกว่าปลาที่นี่มีแต่ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ อิ อิ
23. ย้ายบ้าน นิสิตทุกคนที่มาจากจังหวัดอื่นไม่ได้อยู่จังหวัดพิษณุโลก แต่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จะต้องย้ายทะเบียนบ้านเป็นที่อยู่ในมหาวิทยาลัยทุกคนค่ะ หลังจากปีหนึ่งไปค่อยย้ายทะเบียนบ้านกลับได้ แต่บางคนจบมาหลายปีแล้วยังไม่ยอมย้ายกลับเลยครับ
24. ยาม ที่ ม.นเรศวรห้ามเรียก ยาม แต่ให้เรียกว่า "รปภ." นะจ๊ะ หรือไม่ก็เรียก "พี่" ไปเลยยิ่งดีค่ะ เพราะถ้าเราเรียกว่ายามจะถือว่าดูถูกเขา มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีน่ะครับ ซึ่ง รปภ. ย่อมา รักษาความปลอดภัย มีหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้เราในมหาวิทยาลัย ฉะนั้นเราต้องให้เกียรติพี่ รปภ. นะครับ
25. จับหมวกกันน๊อค วันดีคืนดีจะมีตำรวจมายืนอยู่หน้าประตูรั้วมหาวิทยาลัยคอยจับนิสิตที่ไม่สวมหมวกกันน๊อค พร้อมถูกปรับคนละ 200 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็น่าจะเข้าตำรวจ แต่ยังไงถ้าไม่เสียดายเงิน ก็คิดซะว่าเพื่อความปลอดภัยของชีวิตเราเองเถอะครับ
26. โรตีเลิศรส สมาน เป็นร้านขายโรตีที่เด็กม.นเรศวรต้องรู้จัก ใครได้กินแล้วจะต้องติดใจ ทั้งรสชาติ และคารมณ์ของพ่อค้าลุงหมาน ขี้เล่น ขี้แซว บางทีคนซื้อต้องลงมือทำเอง กับสโลแกน "อารมณ์ดี รอนาน บริการช้า ใช้ลูกค้าเป็นประจำ” 555+ โรตีลุงหมานตั้งอยู่ทางออกประตู 5 เลี้ยวซ้ายใกล้ Top mart ขายช่วงเย็นจนถึงตี 1 – 2 ครับ
เป็นไงบ้างครับสำหรับมหาวิทยาลัยนเรศวร หวังว่าข้อมูลที่พี่นุ้ยหนุ่ยนำมาวันนี้ คงจะเป็นประโยชน์กับน้องหลายๆ คนนะครับ จริงๆ ยังมีเรื่องน่าสนใจและสิ่งที่เรายังไม่รู้ยังมีอีกมากในมหาวิทยาลัย เชื่อว่าถ้าน้องๆ ได้เข้าไปเรียน คงเจออะไรสนุกๆ และมีอะไรให้เราได้เรียนรู้อีกมากมายแน่นอนครับ ^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น