ที่จริง ทั้งหมดทั้งมวล ปัญหาเกิดจากคนสองกลุ่ม
ระหว่าง
กลุ่มที่ต้องการประชาธิปไตยแบบกินได้ กับ กลุ่มที่ต้องการประชาธิปไตยแบบอุดมคติ
กลุ่มคนที่ต้องการประชาธิปไตยแบบกินได้
ส่วนใหญ่ก็เป็นชนชั้นล่าง ที่เป็นฐานรากของสังคม หรือ คนลากหญ้า
ที่ยังต้องการพึ่งพานโยบายเฉพาะหน้าจากรัฐ
ส่วน กลุ่มที่ต้องการประชาธิปไตยแบบอุดมคติ
ส่วนใหญ่ก็เป็นคนระดับกลางบน จนถึง ระดับสุง ที่นโยบายของรัฐไม่ค่อยมีผลกับ
วิถีชีวิตของพวกเขา
( คนกลุ่มนี้จึงโหยหา แต่ประชาธิปไตยที่เป็นอุดมคติ )
---------------
เหมือนนกสองตัว
ตัวหนึ่งกําลังหิว
อีกตัวหนึ่งเมื่อท้องอิ่มแล้ว ก็โบยบินส่งเสียงร้องเพลง อย่างเบิกบานสําราญใจ
พร้อมส่งเสียงเบาะเย้ยถากถางนกที่กําลังหิว
" เจ้านี่ช่างโง่เขลานัก ทําไมไม่มาร้องเพลงแล้วโบยบิน ให้มีความสุข "
"เมื่อข้าท้องยังหิว จะให้โบยบินส่งเสียงร้อง อย่างมีความสุข เหมือนเจ้าที่ท้องอิ่มแล้วได้อย่างไร"
นี่เป็นเสียงโต้ตอบของนกตัวที่หนึ่ง
นี่คือภาพสะท้อนความจริง ของสังคมไทย
ที่มันไม่ได้เกี่ยวกับความรู้ แต่เป็นการสะท้อน จากภาพของความเป็นจริง
เมื่อคนในประเทศนี้ส่วนใหญ่ท้องยังหิว
ประชาธิปไตยในมุมมองของเขา จึงต้องเป็นประชาธิปไตยที่กินได้
ไม่ใช่มอง
ประชาธิปไตยเป็นเรื่องของอุดคติ คุณธรรม จริยธรรมสูงส่ง
แบบพวกมีอันจะกิน หรือ นักวิชาการบนหอคอยทั้งหลาย
หากเข้าใจความจริงตรงนี้ ........ และ อยู่อย่างเห็นอกเห็นใจกัน
ความขัดแย้งในประเทศนี้มันก็ไม่เกิดขึ้นแน่นอน

---------------------
💢💢💢...มันก็แค่ปัญหาระหว่าง ประชาธิปไตยที่กินได้ กับ ประชาธิปไตยในอุดมคติ
ระหว่าง
กลุ่มที่ต้องการประชาธิปไตยแบบกินได้ กับ กลุ่มที่ต้องการประชาธิปไตยแบบอุดมคติ
กลุ่มคนที่ต้องการประชาธิปไตยแบบกินได้
ส่วนใหญ่ก็เป็นชนชั้นล่าง ที่เป็นฐานรากของสังคม หรือ คนลากหญ้า
ที่ยังต้องการพึ่งพานโยบายเฉพาะหน้าจากรัฐ
ส่วน กลุ่มที่ต้องการประชาธิปไตยแบบอุดมคติ
ส่วนใหญ่ก็เป็นคนระดับกลางบน จนถึง ระดับสุง ที่นโยบายของรัฐไม่ค่อยมีผลกับ
วิถีชีวิตของพวกเขา ( คนกลุ่มนี้จึงโหยหา แต่ประชาธิปไตยที่เป็นอุดมคติ )
---------------
เหมือนนกสองตัว
ตัวหนึ่งกําลังหิว
อีกตัวหนึ่งเมื่อท้องอิ่มแล้ว ก็โบยบินส่งเสียงร้องเพลง อย่างเบิกบานสําราญใจ
พร้อมส่งเสียงเบาะเย้ยถากถางนกที่กําลังหิว
" เจ้านี่ช่างโง่เขลานัก ทําไมไม่มาร้องเพลงแล้วโบยบิน ให้มีความสุข "
"เมื่อข้าท้องยังหิว จะให้โบยบินส่งเสียงร้อง อย่างมีความสุข เหมือนเจ้าที่ท้องอิ่มแล้วได้อย่างไร"
นี่เป็นเสียงโต้ตอบของนกตัวที่หนึ่ง
นี่คือภาพสะท้อนความจริง ของสังคมไทย
ที่มันไม่ได้เกี่ยวกับความรู้ แต่เป็นการสะท้อน จากภาพของความเป็นจริง
เมื่อคนในประเทศนี้ส่วนใหญ่ท้องยังหิว
ประชาธิปไตยในมุมมองของเขา จึงต้องเป็นประชาธิปไตยที่กินได้
ไม่ใช่มองประชาธิปไตยเป็นเรื่องของอุดคติ คุณธรรม จริยธรรมสูงส่ง
แบบพวกมีอันจะกิน หรือ นักวิชาการบนหอคอยทั้งหลาย
หากเข้าใจความจริงตรงนี้ ........ และ อยู่อย่างเห็นอกเห็นใจกัน
ความขัดแย้งในประเทศนี้มันก็ไม่เกิดขึ้นแน่นอน
---------------------